ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 769 รับไม่ได้ / ตอนที่ 770 ทำไมถึงเป็นรักแรกพบ
ตอนที่ 769 รับไม่ได้
ในมุมหนึ่งบนเวที หลินซูหย่ามองทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองถูกหลินเยียนพังทลายไปทั้งแบบนี้ เธอยืนตัวแข็ง สีหน้าบึ้งตึงเสียจนยากจะแสร้งปั้นหน้า ยังดีที่เวลานี้สายตาของทุกคนล้วนอยู่ที่ตัวหลินเยียน จึงไม่สังเกตเห็นเธอ
เธอแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสุดท้ายแล้วงานจบลงอย่างไร รู้เพียงว่าสายตาทุกคู่ที่เดิมทีเป็นของเธอต่างไปห้อมล้อมอยู่ที่รอบตัวของหลินเยียนหมด
ภายในห้องหลังเวทีของงานเลี้ยงการกุศล
อุปกรณ์ทั้งหมดที่หันอี้เซวียนขนมาเพื่อใช้ขอแต่งงานได้หมดประโยชน์ ถูกทีมงานรื้อไปโยนทิ้ง สภาพเละเทะดูไม่ได้
ตอนที่หลินซูหย่าหนีไปถึงหลังเวทีอย่างทุลักทุเล เธอก็ได้เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนี้
ส่วนหันอี้เซวียนยืนอยู่ริมหน้าต่างที่มืดสนิทเพียงลำพังโดยหันหลังให้เธอ
ภายในใจของหลินซูหย่าเกิดความกระวนกระวายอย่างไม่มีสาเหตุ เธอเดินเข้าไปหาหันอี้เซวียนด้วยความระมัดระวัง “พี่อี้เซวียน…”
หันอี้เซวียนไม่มีการตอบสนองใดๆ
หลินซูหย่าจึงเดินเข้าไปใกล้อีกหน่อย “พี่อี้เซวียน พี่อย่าไม่พูดสิ ฉันกลัวนะ…”
หันอี้เซวียนทิ้งก้นบุหรี่ในมือ หันตัวกลับมา มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา “สิ่งที่พวกเขาพูดทั้งหมดเป็นความจริง”
หลินซูหย่าส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย “พี่ฟังฉันอธิบายก่อน เรื่องไม่ได้เป็นแบบที่พี่คิด…”
ใบหน้าของหันอี้เซวียนเต็มไปด้วยความผิดหวัง “เธอไม่ได้เป็นคนก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ ทำไมเธอต้องโกหก แม้แต่พี่เธอก็โกหกด้วยงั้นเหรอ”
ตอนนั้นเขารับปากหลินเยียนไว้ว่าจะช่วยดูแลหลินซูหย่า หลินซูหย่าขอให้เขาช่วยพาไปกินข้าวเดินเล่นด้วยบ่อยๆ
พอเห็นเด็กสาวตัวเล็กที่แสนโดดเดี่ยว เขาก็ปฏิเสธไม่ลง ต่อให้งานยุ่งก็จะหาเวลามาให้
ตอนนั้นหลินซูหย่ายังเคยพาเขาไปที่เดอะ แองเจิล เฮ้าส์เพื่อดูแลหมาแมวพวกนั้น
ทุกครั้งที่อยู่กับเธอจะรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขมาก
ตอนนั้นหลินซูหย่าบอกว่าเธอเป็นคนดูแลศูนย์ช่วยเหลือแห่งนี้ ยังบอกอีกว่าเธอทำงานพิเศษช่วงเรียน อีกทั้งยังเอาเงินค่าแรงส่วนใหญ่มาช่วยสัตว์พวกนี้
ตอนนั้นเนื่องจากเขายังไม่ได้กลับบ้านตระกูลหัน ชีวิตอัตคัดเป็นอย่างมาก แต่หลินซูหย่ากลับไม่เคยรังเกียจเขา
เขาชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนจิตใจดี มีหัวใจที่อบอุ่น และรักสัตว์มาตลอด
แต่หลังจากเป็นแฟนกับหลินเยียนกลับพบว่าหลินเยียนเป็นคนที่แข็งกระด้างและเย็นชาไม่สนใจใคร ไม่อ่อนโยน ไม่เอาใจใส่ ความอ่อนโยนใจดีของหลินซูหย่าทำให้เขาหวั่นไหวทีละนิด
หลินซูหย่าเป็นเหมือนนางฟ้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์ภายในใจของเขา
แต่ตอนนี้ความจริงกลับเป็นว่า เงินพวกนั้นไม่ใช่ของหลินซูหย่าตั้งแต่แรก ถึงขนาดที่ว่าแม้แต่ภาพลักษณ์ที่รักสัตว์ก็อาจเป็นสิ่งที่แสร้งทำออกมา
หันอี้เซวียนยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้…
หลินซูหย่ามองสีหน้าของหันอี้เซวียน เธอตื่นกลัว ร้องไห้พลางดึงแขนของหันอี้เซวียน “พี่อี้เซวียน พี่อย่าพูดแบบนี้สิ ฉันจะโกหกพี่ได้ยังไง ที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมดนะ ฉันไม่เคยบอกพี่ว่าฉันเป็นคนก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ฉันพูดแค่ว่าฉันช่วยดูแลที่นั่น
ถึงแม้คนก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์คือพี่สาวของฉัน แต่พี่อี้เซวียนพี่ก็รู้ พี่ฉันไปอยู่เมืองนอกนาน ก็เลยยกเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ให้ฉันช่วยดูแลจริงๆ อีกทั้งนอกจากเงินของพี่ฉัน ฉันเองก็บริจาคไปไม่น้อย บันทึกการบริจาคพวกนั้นบริษัทบอกจะเอาไปทำโปรโมต ไม่ได้เป็นความต้องการของฉัน…
พวกเขา…พวกเขาไม่ฟังคำอธิบายของฉันเลย…”
หลินซูหย่าร้องไห้สะอึกสะอื้น พูดอธิบายด้วยความน้อยใจ “พี่อี้เซวียน ขอร้องล่ะเชื่อฉันได้ไหม ฉันพูดความจริงทุกคำ…”
มองหญิงสาวตรงหน้าที่ร้องไห้เสียใจแทบขาดใจ แววตาของหันอี้เซวียนก็ค่อยๆ อ่อนลง “เลิกร้องเถอะ…”
ตอนที่ 770 ทำไมถึงเป็นรักแรกพบ
ถึงแม้หันอี้เซวียนจะอยากเชื่อเธอมาก แต่ว่าเมื่อเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยได้ถูกหว่านออกไปก็ยากที่จะหยุดมันแล้ว…
หลินซูหย่าอาจจะดูแลสัตว์เลี้ยงจรจัดพวกนั้นจริง และก็ได้บริจาคเงินจริง
แต่ก็ล้วนเป็นตอนที่เขาอยู่ด้วย แล้วตอนที่เขาไม่อยู่ล่ะ เธอไปดูแลสัตว์พวกนั้นจริงหรือเปล่า
เมื่อครู่ตอนที่สัตว์ตัวน้อยพวกนั้นตื่นตกใจบนเวที ท่าทีที่เธอแสดงออกตอนไปปลอบ ไม่เหมือนกับคนที่คุ้นเคยกับสัตว์พวกนั้นเลยสักนิด
กลับกลายเป็นหลินเยียน...
หันอี้เซวียนสูดลมหายใจเข้าลึก “ซูหย่า ตอนนี้พี่ไม่รู้แล้วว่าคำพูดไหนจริง คำพูดไหนเท็จ เธอปล่อยให้พี่ใจเย็นลงก่อนได้ไหม”
เป็นครั้งแรกที่หันอี้เซวียนไม่ได้ใจอ่อนเพราะน้ำตาของหลินซูหย่า เขาดันตัวเธอออก
“พี่อี้เซวียน! พี่อี้เซวียน...”
นึกไม่ถึงว่าหันอี้เซวียนจะดันตัวเธอออก สีหน้าของหลินซูหย่าที่ไม่เคยพลาดต่อหน้าหันอี้เซวียนเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ จ้องแผ่นหลังของหันอี้เซวียนที่เดินจากไปด้วยแววตาโกรธแค้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากได้พังทลายลงทั้งหมดแล้ว
“หลินเยียน! เพราะเธอคนเดียว! เป็นเพราะเธอทั้งนั้น! ฉันจะไม่มีทางปล่อยเธอไว้เด็ดขาด!”
…
หันอี้เซวียนปวดหัวจนแทบระเบิด คิดเพียงว่าอยากหาที่ที่ไม่มีคนเพื่อสงบสติอารมณ์
ที่เขาโมโห ไม่ใช่แค่การโกหกของหลินซูหย่า ยังมีเกียรติของเขาอีก
เดิมทีวันนี้เขาเตรียมมาขอแต่งงาน ปรากฏกลับเกิดเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้น ตอนนี้เขากลายเป็นตัวตลกของทุกคนไปแล้ว
หันอี้เซวียนดึงเนคไทออกอย่างแรงแล้วทิ้งลง ปรากฏว่าพอเดินไปถึงหัวมุมก็ได้เจอกับหลินเยียนที่กำลังเดินไปทางห้องแต่งตัวจากฝั่งตรงข้าม
หันอี้เซวียนมองหญิงสาวที่อยู่ตรงข้าม ทันใดนั้นเขาก็ตกใจยืนตัวแข็ง “เสี่ยวเยียน...”
พอเห็นหันอี้เซวียนที่อยู่ในสภาพดูไม่ได้ หลินเยียนก็เลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจ เธอเดินเลยเขามุ่งไปข้างหน้าต่อ
หันอี้เซวียนได้สติกลับมา รีบสาวเท้าวิ่งไปขวางหน้าเธอไว้ “เสี่ยวเยียน เดี๋ยวก่อน!”
หลินเยียนจำต้องหยุดเดิน “คุณชายหันมีธุระเหรอ”
“ฉัน…” หันอี้เซวียนขวางหลินเยียนไว้ ชั่วขณะนั้นกลับไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
หลินเยียนเห็นแบบนั้นก็เริ่มมองเวลาด้วยความรำคาญ “ขอโทษนะ ฉันรีบ”
หันอี้เซวียนถึงได้รีบพูดขึ้น “เสี่ยวเยียน ขอเวลาแค่ไม่กี่นาที ให้ฉันได้คุยกับเธอสักหน่อย”
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มันเหนือความคาดหมายของเขามาก
เขาพบว่าถึงแม้เขาจะเคยคบกับหลินเยียนมานาน แต่ราวกับไม่เคยรู้จักตัวตนของเธอมาก่อน
หันอี้เซวียนกดขมับ แววตาวิงวอนราวกับกำลังนึกย้อน จ้องหญิงสาวที่ทั้งแปลกหน้าและคุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้า “เสี่ยวเยียน เธอรู้ไหมว่า…ตอนนั้นทำไมฉันถึงรักเธอตั้งแต่แรกพบ”
เห็นได้ชัดว่าหลินเยียนไม่อยากคุยเรื่องนี้กับแฟนเก่า “ขอโทษด้วย ฉันไม่สนใจ”
หันอี้เซวียนเดาได้ว่าหลินเยียนจะตอบแบบนี้ สีหน้าจนปัญญา เขาพูดต่อ “เสี่ยวเยียน ตอนนั้นที่ฉันมีใจให้เธอเป็นเพราะมีครั้งหนึ่งหลังเลิกเรียน ฉันบังเอิญเห็นเธอช่วยลูกแมวตัวหนึ่งที่บาดเจ็บอยู่ข้างถนน
ตอนนั้น จนกระทั่งถึงวันเรียนจบฉันก็ไม่กล้าสารภาพรักกับเธอ ฉันเสียใจเรื่องนี้มาตลอด
จนได้เจอกันที่เมืองนอก ฉันไม่นึกว่าจะมีโอกาสได้เจอเธออีก ดังนั้นฉันจึงอดเผยความรู้สึกกับเธอไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าเธอจะตอบรับ ตอนนั้นฉันดีใจมากจริงๆ มันเป็นความรู้สึกเหมือนฝันเป็นจริง”
สีหน้าของหันอี้เซวียนดูเศร้าลง “เพียงแต่หลังจากที่ได้คบกัน ฉันกลับพบว่า เธอไม่เหมือนในความทรงจำของฉันเลยสักนิด เธอแข็งแกร่งเกินไป แล้วก็…เห็นแก่ผลประโยชน์…และอำนาจเกินไป…”