ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 793 พูดบท / ตอนที่ 794 เธอมีช่องทางติดต่อของบอสเหรอ
ตอนที่ 793 พูดบท
ณ กองถ่าย
รถที่เว่ยสวีเฟิงขับวิ่งเข้าเส้นชัย
ผ่านไปสักพักประตูรถก็เปิดออก เว่ยสวีเฟิงที่อยู่ในชุดแข่งเต็มยศเดินลงมา
ไม่นานนักแข่งรถอาชีพจากแต่ละประเทศจำนวนสิบกว่าคนก็กรูเข้าไปหา ใบหน้าของแต่ละคนต่างยินดีแบบที่ยากจะบรรยาย ย
เวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจเว่ยสวีเฟิงก็ถูกยกตัวขึ้นมา ทุกคนพากันโห่ร้องอย่างสนุกสนาน
ริมฝีปากของเว่ยสวีเฟิงปรากฏรอยยิ้มอย่างชัดเจน
“เดี๋ยวก่อน!”
ผู้กำกับตะโกนขัดจังหวะการแสดงของเว่ยสวีเฟิง
“ผู้กำกับ มีปัญหาอะไรเหรอครับ”
เว่ยสวีเฟิงมองผู้กำกับด้วยสีหน้าที่สงสัย
เว่ยสวีเฟิงคิดว่าตัวเองแสดงบทลั่งหมั่งได้อย่างเต็มที่แล้ว เดิมทีมั่นใจว่าเทคเดียวผ่าน แต่ผู้กำกับกลับตะโก กนออกมา
“เว่ยสวีเฟิง ปัญหาน่ะมีแน่นอน!” ผู้กำกับกวักมือเรียกหลินเยียนที่กำลังนั่งอยู่ในรถบนเนินเขาลงมา
หลินเยียนเห็นการแสดงของเว่ยสวีเฟิงแล้ว เธอมองเห็นปัญหาตั้งแต่ผู้กำกับยังไม่ตะโกนสั่งหยุด
ลั่งหมั่งที่เว่ยสวีเฟิงแสดงดูปกติเกินไป ถึงแม้จะเป็นอารมณ์ที่ควรมีตอนแข่ง แต่มันขัดกับแกนหลักของเรื่อง
หลักๆ คืออารมณ์ของเว่ยสวีเฟิงที่เป็นปัญหาใหญ่
“เว่ยสวีเฟิง นายดู นายดูเธอ!” ผู้กำกับชี้หลินเยียน
“ดูหลินเยียนเหรอ” เว่ยสวีเฟิงทำหน้างง ไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของผู้กำกับ อยู่ดีๆ จะให้เขาดูหลินเยียนทำไม
“ไม่ใช่ๆ !” ผู้กำกับส่ายหน้าติดๆ กัน “ผิดๆ ผิดไปกันใหญ่แล้ว นายเป็นใคร!”
“ผมเหรอ” เว่ยสวีเฟิงคิ้วขมวดเล็กน้อย
“ผมเป็น…ลั่งหมั่ง…” ไม่นานเว่ยสวีเฟิงก็ได้สติ
พอได้ยินดังนั้นผู้กำกับก็พูดต่อ “ดังนั้นเธอเป็นใคร เยวาเธอเป็นอาจารย์ของนาย นายเอาชนะคู่แข่งมหาโหดไปเพื่อ ออะไร หรือจะพูดอีกอย่างว่าทำไมนายต้องเอาชนะคู่แข่งมหาโหดแบบนี้ด้วย แค่เพื่อคว้าที่หนึ่งของการแข่งขันงั้นเหร รอ ฉันคิดว่าไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน!”
หลินเยียนเหลือบมองผู้กำกับ
ถึงแม้คำพูดของผู้กำกับจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็กระชับเกินไป ไม่ได้ถ่ายทอดประเด็นสำคัญให้เว่ยสวีเฟิงอย่างละเอียด ก ก็ไม่แปลกที่เว่ยสวีเฟิงจะงงๆ อยู่บ้าง
“อันที่จริงความต้องการของผู้กำกับเข้าใจได้ง่ายมาก” เห็นเว่ยสวีเฟิงยังคงไม่เข้าใจ หลินเยียนจึงถอดหมวกกันน็อกแล้ วหันไปพูดกับเว่ยสวีเฟิง
“ผู้กำกับคะ ขอฉันอธิบายให้เว่ยสวีเฟิงฟังได้ไหมคะ” หลินเยียนมองผู้กำกับ
พอหลินเยียนพูดจบผู้กำกับก็มองเธอ ดวงตาฉายแววที่ไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไร
ขนาดเว่ยสวีเฟิงที่เป็นคนแสดงยังไม่ค่อยเข้าใจ แสดงอารมณ์ไม่ได้อย่างที่เขาต้องการ หลินเยียนจะรู้ดีกว่าได้ยั งไง
อีกอย่างเทคนิคการแสดงและความสามารถในการเข้าใจของเว่ยสวีเฟิงน่าจะเป็นพวกที่ค่อนข้างเก่งแล้ว
ตอนนี้ความปรารถนาใหญ่สุดของผู้กำกับคือหลินเยียนแสดงบทเยวาให้ดีเป็นพอ ไม่ขอให้เธอแสดงได้ถึงอารมณ์อย่างที่ เขาต้องการ แต่อย่างน้อยก็ขอให้ทำออกมาดี…
“หลินเยียน พูดมาสิ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ” ยังไม่ทันที่ผู้กำกับจะเอ่ยปาก เว่ยสวีเฟิงก็พูดออกมาก่อน
หลินเยียนพยักหน้าแล้วอธิบาย “อันที่จริงฉากนี้ลั่งหมั่งเจอคู่ปรับเก่า ซึ่งคู่ปรับคนนี้อยู่มาตั้งแต่อาจารย์เย วาของเขายังไม่จากไป ถึงขั้นที่ว่าหลังจากเยวาสอนเขาไปตั้งมากมาย ลั่งหมั่งก็ยังคงเอาชนะคู่แข่งมหาโหดคนนี้ไ ไม่ได้
ลั่งหมั่งเคยยื่นคำท้าต่ออาจารย์เยวา แต่กลับถูกเยวาปฏิเสธโดยไม่ไว้หน้าลั่งหมั่งเลยสักนิด
หลังจากที่ถูกอาจารย์เยวาปฏิเสธ ลั่งหมั่งก็ถามออกไปตรงๆ ว่าเมื่อไรเขาถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะแข่งกับอาจารย์ได้ ”
ตอนที่ 794 เธอมีช่องทางติดต่อของบอสเหรอ
“สำหรับคำถามข้อนี้ตอนนั้นเยวาตอบว่า รอเขาเอาชนะคู่แข่งมหาโหดคนนั้นให้ได้ก่อน
ซึ่งบทสนทนาระหว่างลั่งหมั่งกับเยวาก็คือหัวใจสำคัญของหนังเรื่องนี้
ลั่งหมั่งเอาชนะคู่แข่งมหาโหดได้คือแกนหลัก หลังจากที่เอาชนะคู่แข่งมหาโหดได้ เยวาปรากฏตัวแข่งกับลั่งหมั่ง นั นคือหัวใจสำคัญ”
พอหลินเยียนพูดจบเว่ยสวีเฟิงก็ครุ่นคิด “จากนั้นล่ะ”
หลินเยียนพูดต่อ “ดังนั้นเอาชนะคู่แข่งมหาโหดได้ พิชิตสนามนี้ ไม่ใช่ความตั้งใจแรกของลั่งหมั่งแน่นอน ลั่งหมั่ง งไม่ได้ลงแข่งเพื่อชนะการแข่งขัน แต่เพื่อเติมเต็มความฝัน เป้าหมายสุดท้ายของเขาคืออยากให้เยวารักษาสัญญา ลงประ ะลองกับเขาในสนามแข่ง ซึ่งหลังจากที่นายได้ชัยชนะแล้วไม่ควรตื่นเต้นดีใจ แต่ควรเป็น…”
“แต่ควรเป็น?” เว่ยสวีเฟิงมองหลินเยียน
สีหน้าของหลินเยียนเรียบเฉย “ผมมาถึงแล้ว ผมเห็น ผมเอาชนะได้…คุณอยู่ไหน”
พอหลินเยียนพูดจบเว่ยสวีเฟิงก็อึ้งเล็กน้อย
ไม่ใช่แค่เว่ยสวีเฟิง ผู้กำกับที่อยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้าตกใจ
บทที่เขาให้ไม่ได้เขียนละเอียดขนาดนั้น และในช่วงตอนท้ายของเรื่องก็ค่อนข้างคลุมเครือ หลักๆ คืออยู่ที่ฝีมือ ของนักแสดง ด้วยเหตุนี้เว่ยสวีเฟิงถึงแสดงไม่ได้อารมณ์อย่างที่เขาต้องการสักที
ถึงขนาดที่แม้แต่ตัวผู้กำกับเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยากได้แบบไหน
แต่เมื่อครู่คำพูดของหลินเยียน...
โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย
“ผมมาถึง ผมเห็น ผมเอาชนะได้…ส่วนคุณอยู่ที่ไหน”
ใช่ ไม่ผิดแน่!
เขาต้องการอารมณ์แบบนี้นี่แหละ!
เมื่อเป็นแบบนี้ เนื้อหาและการแสดงทั้งหมดก็จะสอดรับกันทั้งเรื่องพอดี และเยวาในฐานะที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื องนี้ก็จะยิ่งมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น!
เซอร์ไพรส์ที่มาอย่างกะทันหันถึงกับทำให้ผู้กำกับลืมคิด ลืมถามหลินเยียนว่าเธอรู้เรื่องในอดีตของลั่งหมั่งกับเ เยวาได้อย่างไร
“เดี๋ยวนะหลินเยียน เธอรู้เรื่องพวกนี้ของบอสกับลั่งหมั่งได้ยังไง ในบทวิเคราะห์กับบทหนังที่ผู้กำกับให้ไม่ไ ได้ลงละเอียดขนาดนั้น…เธออาศัยจินตนาการคิดออกมาเองใช่ไหม!” เว่ยสวีเฟิงมองหลินเยียน
“ไม่เป็นไร! ไม่ต้องสนว่าเธอคิดออกมาได้ไง ฉันต้องการความรู้สึกแบบนี้แหละ เว่ยสวีเฟิง นายเล่นตามอารมณ์นี้นะ แ แสดงตามที่หลินเยียนพูดมา ฉันต้องการแบบนี้!” ผู้กำกับรีบพูดขึ้น
พอได้ยินแบบนั้นเว่ยสวีเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองหลินเยียนด้วยความไม่เข้าใจยิ่งกว่าเดิม
หลินเยียนหัวเราะเล็กน้อย “เยวาบอกกับฉันเอง นายลืมแล้วเหรอว่าบทนี้เยวาเป็นคนให้ฉันแสดง”
“เธอมีช่องทางติดต่อบอสเหรอ!”
อยู่ๆ เว่ยสวีเฟิงก็ตื่นเต้นขึ้นมา
หลินเยียน “ต้องมีอยู่แล้ว…ฉันก็เพิ่งจะบอกไปว่าเยวาเป็นคนบอกฉันเองไม่ใช่เหรอ”
“หลินเยียน ฉัน…ฉันขอช่องทางติดต่อบอสได้ไหม” เว่ยสวีเฟิงรีบถาม
“ไม่ได้” หลินเยียนส่ายหน้า “นั่นเป็นช่องทางติดต่อส่วนตัวของเยวา ถ้าเธอไม่อนุญาตฉันจะบอกคนอื่นได้ยังไง”
“หลินเยียน...ช่วยฉันหน่อยเถอะนะ เอาแบบนี้ ขอแค่เธอบอกฉัน ฉันจะให้เธอเท่านี้…” เว่ยสวีเฟิงพูด
หลินเยียนทำหน้าจริงจัง “เดี๋ยวจัดให้!”
ผู้กำกับ “…”
เว่ยสวีเฟิง “…”
ทีมงานทุกคน “…”
“ไม่ได้ๆ…” ทันใดนั้นเว่ยสวีเฟิงก็ส่ายหน้า
หลินเยียนทำหน้างง คำพูดหมอนี่คงไม่ได้ขาดความน่าเชื่อถือนะ เมื่อกี้ก็พูดอยู่ว่าจะจ่ายเงินซื้อช่องทางติดต่อ ของเยวาให้อย่างงาม แล้วนี่ทำไมไม่ได้แล้วล่ะ
นี่ไม่ใช่แฟนคลับตัวยงแน่นอน!