ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 795 ตอนนี้ผมมีคุณสมบัติพอหรือยัง / ตอนที่ 796 ทำตามสัญญา
ตอนที่ 795 ตอนนี้ผมมีคุณสมบัติพอหรือยัง
“ถ้าฉันแอดบอสไปฉันว่าบอสจะต้องไม่รับแอดฉันแน่นอน...” เว่ยสวีเฟิงคิ้วขมวดพลางพูด
พอได้ฟังหลินเยียนก็ยักไหล่ “งั้นฉันก็ช่วยไม่ได้แล้ว”
“หลินเยียน เธอบอกบอสให้รับแอดฉันหน่อยสิ ขอแค่บอสรับแอด เพิ่มเงินให้อีกเท่าหนึ่งก็ได้ ไม่สิ สามเท่าเลยเอ อ้า!” เว่ยสวีเฟิงพูด
หลินเยียนมองเว่ยสวีเฟิง “วางใจเถอะ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจัดการให้ ถ้าเยวาไม่รับแอดนาย ฉันคืนเงินให้นายสองเท ท่า!”
เวลานี้หลินเยียนตื่นเต้นมากจริงๆ มือไม้สั่น เงินนี่ตกมาจากสวรรค์เหรอ อย่างมากสุดเธอก็แค่ล็อกอินไอดีตัวเอ องแล้วรับแอดเว่ยสวีเฟิงแค่นี้ก็ได้แล้ว นี่ยังไม่ง่ายอีกเหรอ!
ถ้าเว่ยสวีเฟิงเพิ่มเงินอีก อย่าว่าแต่รับแอดเลย ต่อให้ต้องคุยแชทกับเว่ยสวีเฟิงทั้งคืนก็ไม่มีปัญหา! พาไต่อั นดับในเกมยังได้!
“หลินเยียน เธอพูดแล้วนะ” เว่ยสวีเฟิงพูด
“ฉันพูด อัญเชิญเง็กเซียนฮ่องเต้มาสถิต คำพูดนี้ฉันเป็นคนพูดเอง ถ้าเยวาไม่รับแอดนาย ฉันคืนเงินให้สองเท่า ไม ม่สิ สิบเท่าเลยเอ้า!” หลินเยียนพูดด้วยความมั่นใจ
“เว่ยสวีเฟิง พวกนายคุยกันจบหรือยัง!” ผู้กำกับมองเว่ยสวีเฟิง
เว่ยสวีเฟิงทำสีหน้าเชิงขอโทษ เขาพูดกับผู้กำกับ “ขอโทษครับ ผมพร้อมแล้ว เริ่มได้เลย”
“รอเดี๋ยว” ผู้กำกับส่ายหน้า “อันที่จริงฉันก็มีช่องทางติดต่อเยวา…”
พอได้ยินแบบนั้นหลินเยียนก็ถลึงตามองค้อนใส่ผู้กำกับ เป็นถึงผู้กำกับใหญ่ระดับโลก ยังจะมาแย่งลูกค้าเธออีก!
หลินเยียนรีบพูดขึ้น “ผู้กำกับคะ งานค่ะ เอางานไว้ก่อน กว่าเว่ยสวีเฟิงจะทำอารมณ์ได้ไม่ใช่ง่ายๆ รีบเริ่มเถอะ ค่ะ!”
ผู้กำกับพยักหน้า “ใช่ๆ ทำงานก่อน”
หลังจากที่เว่ยสวีเฟิงทำอารมณ์อยู่สักพักก็เริ่มถ่ายทำ
เวลานี้เว่ยสวีเฟิงค่อยๆ ก้าวลงจากรถแข่ง นักแข่งอาชีพจากหลายประเทศจำนวนสิบกว่าคนได้เข้าไปรุมล้อมเว่ยสวีเฟ ฟิงด้วยความตื่นเต้นดีใจพลางตะโกนโห่ร้อง
เว่ยสวีเฟิงอยู่ตรงกลางดุจดาวล้อมเดือน ใบหน้ามีรอยยิ้ม แต่ในดวงตากลับฉายแววสับสนอย่างที่ยากจะบรรยาย
ในขณะที่ทุกคนกำลังโห่ร้องอย่างสนุกสนานอยู่นั้น ทันใดนั้นดวงตาอันลุ่มลึกของเว่ยสวีเฟิงกลับมองไปไกลๆ
“ตอนนี้ผม มีคุณสมบัติพอหรือยัง…”
พอเว่ยสวีเฟิงพูดจบ ทันใดนั้นผู้กำกับก็อึ้ง ในบทไม่มีคำพูดนี้ซักหน่อย!
เดิมทีผู้กำกับอยากสั่งคัท แต่ไม่รู้ทำไม กลับรู้สึกว่าดูเหมือนการแสดงของเว่ยสวีเฟิงจะไม่ได้มีปัญหา จึงไม่พูดอะ ะไรมาก
สายตาของเว่ยสวีเฟิงมองไปที่ขอบฟ้า
“ผมมาถึงแล้ว…ผมเห็น…ผมเอาชนะได้…จากนี้ คุณอยู่ที่ไหน” เว่ยสวีเฟิงพูดพึมพำ
“ใช้ได้!”
ผู้กำกับแอบพยักหน้า ถึงแม้เว่ยสวีเฟิงจะ ‘ก็อบปี้’ คำพูดของหลินเยียนมา แต่ก็รู้สึกว่าทำได้ดีมาก ไม่ได้ดูเหมือน จงใจ ราวกับแสดงมาจากความรู้สึก สมจริงมาก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ฟ้าเริ่มมืด
ในสนามแข่งกลางแจ้งที่เปล่าเปลี่ยวเหลือเพียงเว่ยสวีเฟิงอยู่คนเดียว
เวลาล่วงเลยไปนาน เว่ยสวีเฟิงพิงรถแข่งของตัวเองราวกับกำลังคุยกับรถ
“ฉันยังรออยู่”
“ฉันกำลังรออะไร…”
“ใครจะรู้ล่ะ”
“ฉันก็กำลังรอคำสัญญา ก็อาจจะนะ”
ทันใดนั้นบนเนินเขาที่อยู่ไกลออกไปก็มีเสียงเครื่องยนต์ของรถแข่งที่กำลังทำงานดังขึ้น
ชั่วขณะนั้นดวงตาของเว่ยสวีเฟิงเป็นประกาย อดหันไปมองทางเนินเขาอย่างมีความหวังไม่ได้
บรื้น!
รถแข่งสีเงินคันหนึ่งขับมาอย่างเร็วราวกับนกบิน ชั่วขณะที่เหาะข้ามเนินเขา รถโค้งลงอย่างสะกดตา
ภาพนี้ทำให้ผู้กำกับอึ้งไปชั่วขณะ
ในบทไม่ได้เขียนไว้แบบนี้เสียหน่อย!
นี่มันจะดูปลอมเกินไปหรือเปล่า…
ตอนที่ 796 ทำตามสัญญา
บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้นักแข่งอาชีพมาขับฉากที่อันตรายแบบนี้!
หลินเยียนจะกล้าบ้าบิ่นเกินไปหรือเปล่า!
ทักษะการขับรถดีขนาดนี้เลยเหรอ!
…
รถแข่งสีเงินหยุดลง เยวาเดินลงมาจากรถ สองมือกอดอกยืนพิงประตูรถ มองเว่ยสวีเฟิงอย่างสบายๆ
เวลานี้ดวงตาของเว่ยสวีเฟิงฉายแววตื่นเต้นอย่างที่ยากจะบรรยายได้ แต่ไม่นานความตื่นเต้นนี้ก็ถูกเก็บไป
“มาแล้วเหรอ ผมรู้ว่าคุณต้องมา”
“นายกับเพื่อนนายทำได้ไม่เลว” หลินเยียนกวาดตามองเว่ยสวีเฟิงกับรถแข่งที่อยู่ด้านหลัง
เว่ยสวีเฟิงอยากพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นหลินเยียนกลับถอดหมวกกันน็อก
พอเห็นแบบนั้นเว่ยสวีเฟิงก็อึ้งไปทันที ตามบทเยวาไม่ควรถอดหมวกกันน็อกถึงจะถูก
แต่ผู้กำกับไม่พูดอะไร ด้วยสปิริตของนักแสดงก็ต้องแสดงต่อไป
เวลานี้ผู้กำกับรู้สึกงง หลินเยียนกับเว่ยสวีเฟิงเป็นอะไรกันไปหมด ทำไมไม่เล่นตามบทส่วนใหญ่ นี่มันใช่เรื่องที่ นักแสดงควรทำเหรอ!
แต่ว่า…รู้สึกว่าทำได้ไม่เลวเลยแฮะ!
…
“อาจา…”
หลังจากเยวาถอดหมวกกันน็อกเสร็จ เว่ยสวีเฟิงอยากพูดให้จบ ทันใดนั้นเยวากลับทำท่าบอกให้เขาเงียบๆ
บทพูดของเว่ยสวีเฟิงมาอยู่ที่ปากแล้ว แต่ท่าทางของหลินเยียนที่บอกให้เขาเงียบกลับทำให้เขานึกไม่ถึง ทำได้เพี ยงหุบปาก
“ยินดีด้วยนะ” หลินเยียนมองเว่ยสวีเฟิงแล้วยิ้มพลางพูด
เวลานี้ในใจของเว่ยสวีเฟิงกำลังสับสน คำพูดพวกนี้ของหลินเยียนไม่ได้อยู่ในบท เล่นนอกบทนี่หว่า!
ถึงแม้เว่ยสวีเฟิงอยากจะหยุด แต่ทางผู้กำกับกลับไม่ได้สั่งคัท ดังนั้นเขาจึงต้องบากหน้าเล่นต่อไป
เพียงแต่…เว่ยสวีเฟิงเองก็ไม่รู้ว่าควรต่อบทกับหลินเยียนอย่างไร
“ผมผ่านหรือยัง” เว่ยสวีเฟิงจำต้องฝืนต่อบทไป
หลินเยียนยิ้มให้ “นายทำสำเร็จแล้ว ฉันมาทำตามสัญญาของฉัน”
หลินเยียนพูดจบก็ใส่หมวกกันน็อกแล้วเดินไปขึ้นรถแข่งสีเงินของตัวเอง
พอเห็นแบบนั้นเว่ยสวีเฟิงเองก็เปิดประตูเดินขึ้นรถ
หลินเยียนลดกระจกลง “พร้อมหรือยัง”
เว่ยสวีเฟิงไม่พูด เขายกนิ้วโป้ง
บรื้น!
รถทั้งสองคันแทบจะพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน
ต้องบอกเลยว่าฝีมือการแข่งรถของเว่ยสวีเฟิงใช้ได้ดีทีเดียว แม้จะสู้นักแข่งรถมืออาชีพไม่ได้ แต่ในสภาพแวดล้อมและ การถ่ายทำแบบนี้กลับเพียงพอแล้ว
จากนั้นรถทั้งสองคันได้เข้าเส้นชัยพร้อมกัน ผู้กำกับยืนขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น ตะโกนบอกว่าฉากนี้เสร็จสิ้นอย่าง งสมบูรณ์แล้ว
ฉากจบของภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์ก็คือใช้การแข่งของเยวากับลั่งหมั่งมาเป็นฉากจบ ไม่มีใครรู้ว่าใครแพ้ใครชนะ ทิ้งไว้ให้ผู้ชมจินตนาการกันเอาเอง ถือเป็นตอนจบแบบปลายเปิด
ถึงแม้ลั่งหมั่งจะเป็นตัวละครหลักของเรื่องนี้ แต่คนที่เข้าใจต่างรู้ว่าลั่งหมั่งแข่งกับเยวาโอกาสชนะมีน้อย มาก ถ้าให้ลั่งหมั่งชนะคงเต็มไปด้วยเสียงก่นด่า แต่ถ้าให้ลั่งหมั่งแพ้ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยดี ดังนั้นใช้ฉากจบแ แบบนี้ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดแล้ว
“หลินเยียน ระวังหน่อย นั่นรถของฉันนะ!”
หลังถ่ายเสร็จเว่ยสวีเฟิงก็รีบลงจากรถ เดินเข้าไปตรวจดูด้วยความกังวล
หลินเยียน “…”
“ดีมาก แสดงได้เยี่ยมไปเลย เกินความคาดหมายของผมอีก!” ผู้กำกับเดินเข้าไปหาหลินเยียนกับเว่ยสวีเฟิงด้วยใบหน้าย ยิ้มแย้ม
โดยเฉพาะหลินเยียนที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้เขาได้มาก
ถึงแม้หลินเยียนจะไม่เล่นตามบท คำพูดกระชับลงไปมาก แต่ความรู้สึกแบบนี้กลับดียิ่งกว่า ตัวละครจะยิ่งดูมีมิติ โดย ยเฉพาะตอนถอดหมวกกันน็อก ราวกับกำลังบอกกล่าวว่ายุคสมัยนี้ได้สิ้นสุดลง เข้าสู่อีกยุคสมัยแล้ว