ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 799 ปากเสีย / ตอนที่ 800 ขายหุ้นไปในราคาสูง
ตอนที่ 799 ปากเสีย
ถึงแม้ปกติเฮ่อมู่อวิ๋นจะมีนิสัยที่ค่อนข้างอ่อนโยน คุยง่าย แต่ถ้าเจอเรื่องที่เกี่ยวกับคุณตาไม่มีทางเลิกราแน่นอน
หลินเยียนไม่อยากเห็นแม่อาละวาด และตอนนี้ก็ไม่อยากให้แม่เธอกังวลมากเกินไป ดังนั้นรอดูเหตุการณ์ไปก่อนค่อยว่ากัน
รออยู่ประมาณสองชั่วโมง ไฟของห้องผ่าตัดยังคงสว่างอยู่ การผ่าตัดยังคงดำเนินต่อไป
สถานการณ์แบบนี้กลับยิ่งทำให้หลินเยียนกับพวกเฮ่อเล่อเฟิงยิ่งเป็นกังวล ยิ่งใช้เวลาผ่าตัดนานมากเท่าไร ความเสี่ยงก็อาจจะยิ่งมีมากขึ้น
“ทำไมยังผ่าตัดไม่เสร็จอีก คงไม่ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับปู่หรอกนะ!” เฮ่อเล่อเฟิงมีสีหน้าร้อนใจ
พอได้ฟังเฮ่อเล่อเฟิงพูดแบบนั้น มั่วซูอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ ก็เหลือบมองเฮ่อเล่อเฟิง “นายนี่เป็นหลานกตัญญูจริงๆ เลยนะ”
ไม่รอให้เฮ่อเล่อเฟิงตอบ หลินเยียนก็พูดขึ้น “หุบปากเสียๆ ของนายไปเลย”
เฮ่อเล่อเฟิง “…” เขาไม่ได้หมายความแบบนั้น
“นึกไม่ถึงว่าเฮ่อหมิงไข่จะเป็นคนแบบนั้น ก่อนไปยังด่าปู่ว่าเลอะเลือน รอปู่หายก่อนเถอะ ฉันจะกลับไปเอาเรื่องแน่!” เฮ่อเล่อเฟิงกัดฟันกรอด
“ช่างเถอะ” มั่วซูอวิ๋นส่ายหน้า
“ช่างเหรอ จะปล่อยไปแบบนี้ได้ไง” เฮ่อเล่อเฟิงพูดด้วยเสียงเย็นชา
“ฉันหมายความว่า ที่นายจะกลับไปเอาเรื่องเขาน่ะ ช่างเถอะ นายตัวเล็กแบบนี้ เฮ่อหมิงไข่ต่อยนายมากสุดสามหมัด หลังจากสามหมัดนายอาจจะต้องเข้าห้องผ่าตัด” มั่วซูอวิ๋นพูด
ยังไม่ทันที่เฮ่อเล่อเฟิงจะได้พูดอะไรต่อ ทันใดนั้นไฟของห้องผ่าตัดก็ดับลง
ผ่านไปไม่นานประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก มีแพทย์หลายคนเดินออกมา
“ใครเป็นญาติของคุณเฮ่อติ้งคุนครับ”
หมอผู้ชายวัยกลางคนที่เดินนำมาถามขึ้น
“ฉันเป็นหลานสาวของคุณเฮ่อติ้งคุนค่ะ” หลินเยียนลุกขึ้นไปหาทันที
“ผมเป็นหลานชายครับ!” เฮ่อเล่อเฟิงพูดด้วยความร้อนใจ
หมอคนนั้นมองเฮ่อเล่อเฟิงด้วยสีหน้าพิลึก จากนั้นได้หันไปพูดกับหลินเยียน “มากับผมหน่อยครับ”
หมอพูดจบก็พาพวกหลินเยียนไปที่ห้องทำงานตัวเอง
ภายในห้องทำงาน หมอมองหลินเยียนแล้วพูดขึ้น “นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าคนไข้ฉุกเฉินจะเป็นคุณตาของคุณหลินเยียน คุณหลินเยียนครับ ผมเป็นแฟนคลับของคุณ”
“สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่รักและสนับสนุนฉันนะคะ คือว่าคุณหมอคะ ตอนนี้คุณตาของฉันเป็นยังไงบ้างคะ” หลินเยียนมีอารมณ์สนใจแฟนคลับที่ไหนกัน
“คุณหลินเยียน เนื่องจากคุณตาของคุณเครียดมากเกินไปทำให้เลือดออกในสมองครับ” คุณหมอเงียบไปสักพักแล้วถึงพูดขึ้น
“เลือดออกในสมองเหรอ รุนแรงไหมครับ!” เฮ่อเล่อเฟิงรีบถามหมอ
“หลอดเลือดในสมองแตก คุณว่ารุนแรงไหมล่ะครับ” หมอคิ้วขมวดพลางตอบ
“คุณหมอไม่ต้องไปสนใจเขาค่ะ สมองเขาพัฒนาช้าตั้งแต่เด็กแล้ว…ตอนนี้อาการของคุณตาฉันเป็นยังไงบ้างคะ การผ่าตัดสำเร็จไหม” หลินเยียนถาม
หมอพยักหน้าพลางพูด “คุณหลินเยียน การผ่าตัดถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ แต่ยังต้องสังเกตอาการอีกระยะหนึ่ง ตอนนี้ผู้ป่วยยังสลบอยู่ รอดูว่าจะฟื้นได้เมื่อไรครับ”
“แล้วคุณตาฉันจะเป็นอันตรายถึงชีวิตไหมคะ” หลินเยียนถามต่อ
“ยังถือว่ามาส่งได้ทันเวลา การผ่าตัดก็ค่อนข้างสำเร็จ ยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตครับ ดูอาการไปก่อน รอผู้ป่วยฟื้นนะครับ” หมออธิบาย
พอได้ฟังที่หมอพูด หัวใจที่ลอยเคว้งอยู่ของหลินเยียนถึงจะวางใจลงได้
การผ่าตัดค่อนข้างสำเร็จ ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต นี่ก็ถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย
“คุณหมอครับ เมื่อไรคุณปู่ผมจะฟื้นเหรอครับ” เฮ่อเล่อเฟิงถามหมอ
“ยังไม่แน่ใจครับ จะว่าเร็วก็เร็ว จะว่าช้าก็ช้า ต้องรอดูสถานการณ์ ใครก็รับรองไม่ได้ครับ” หมอพูด
“หา…แบบนี้ปู่ผมไม่นอนเป็นผักเลยเหรอ ถ้าชีวิตนี้ไม่ฟื้นขึ้นมาจะทำยังไง” เฮ่อเล่อเฟิงตกใจ
“นายหุบปากเหม็นๆ ของนายไว้จะได้ไหม!” มั่วซูอวิ๋นมองเฮ่อเล่อเฟิง
ตอนที่ 800 ขายหุ้นไปในราคาสูง
ดูเหมือนเฮ่อเล่อเฟิงเองก็รู้สึกว่าตัวเองพูดมากเกินไปหน่อย โดยเฉพาะท่ามกลางสายตาไม่เป็นมิตรของหลินเยียนกับมั่วซูอวิ๋น ในที่สุดเขาก็หุบปากลงอย่างรู้ตัว
แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เฮ่อเล่อเฟิงรู้สึกว่าถ้าตัวเองยังขืนพูดต่อไปแบบนี้ วันนี้เขาอาจจะได้ไปนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยเดียวกับปู่ แน่ล่ะว่าเขาไม่อยากนอนโรงพยาบาล
“คุณหมอคะ รบกวนพวกคุณด้วยนะคะ ฉันหวังว่าคุณหมอจะช่วยดูแลคุณตาด้วยนะคะ” หลินเยียนหันไปพูดกับหมอวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ
สิ้นเสียงพูดของหลินเยียน หมอก็พยักหน้า “คุณหลินเยียนวางใจได้เลยครับ นี่เป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว อีกทั้งอาการก็ไม่ได้แย่มากมาย ถ้าเป็นไปในทางที่ดีขึ้น คนไข้อาจจะ ะฟื้นในสองสามวันนี้ จากนั้นพักฟื้นสักระยะก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วครับ”
ยังไม่ทันที่หลินเยียนจะเอ่ยปากพูด เฮ่อเล่อเฟิงที่เดิมทีหุบปากไปแล้วเวลานี้กลับทนไม่ไหว “แล้วถ้าเป็นไปในทางที่ไม่ดีล่ะครับ”
พอได้ฟัง หมอวัยกลางคนก็หันมามองเฮ่อเล่อเฟิง มุมปากกระตุกเล็กน้อยราวกับอยากพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด
“ถ้าเป็นไปในทางที่ไม่ดี นายก็เตรียมมานอนร่วมห้องกับคุณตาได้เลย จะได้ช่วยดูแลกันและกัน เป็นไง พอใจยัง” หลินเยียนมองเฮ่อเล่อเฟิง
เห็นหลินเยียนส่งสายตาไม่เป็นมิตรมา เฮ่อเล่อเฟิงก็ออกอาการตัวสั่นเล็กน้อย “พะ…พอใจครับ…”
“คุณหมอครับ ตอนนี้พวกเราไปเยี่ยมคุณท่านได้ไหมครับ” มั่วซูอวิ๋นถาม
“ตอนนี้ยังไม่ได้ครับ เอาแบบนี้แล้วกันครับ พวกคุณไปทำเรื่องนอนโรงพยาบาลก่อน แล้วผมจะโทรแจ้งพวกคุณอีกที” หมอพูด
“รบกวนด้วยนะคะ” หลินเยียนพยักหน้า จากนั้นได้ออกจากห้องพร้อมเฮ่อเล่อเฟิงกับมั่วซูอวิ๋นไปทำเรื่องนอนโรงพยาบาล
“เทพธิดา ผมมีเรื่องอยากบอกคุณ”
ที่ด้านนอกโรงพยาบาล มั่วซูอวิ๋นมองหลินเยียนแล้วพูดขึ้น “เมื่อกี้ผมได้รับข้อความ คืนนี้เฮ่อสยงกับลูกชายเขาเฮ่อหมิงไข่จะจัดงานเลี้ยงฉลองที่ทีมรถแข่งของพวกเราได้เลื่อนข ขั้นเป็นทีมรถแข่งระดับสูง…”
พอได้ฟังมั่วซูอวิ๋นพูด หลินเยียนก็อ่านข้อความในโทรศัพท์มือถือของมั่วซูอวิ๋น
ทันใดนั้นเธอก็แสยะยิ้ม “พ่อลูกคู่นี้น่าสนใจจริงๆ ทำคุณตาโมโหจนเป็นแบบนี้ ไม่เพียงแต่จะไม่มาโรงพยาบาล ยังเตรียมจัดงานเลี้ยงเสียด้วย”
“ผมว่า มันออกจะพิลึกไปหน่อย” มั่วซูอวิ๋นครุ่นคิดอยู่สักพัก “เฮ่อเล่อเฟิงบอกว่าคุณท่านโมโหจนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะปัญหาเรื่องหุ้น ตอนนี้สองพ่อลูกจะมาจัดงานเลี้ยง ไม่คิ ดว่ามันแปลกๆ เหรอ”
“ใช่ เพราะปัญหาเรื่องหุ้น ผมได้ยินมาชัดเจน ดูเหมือนจะเป็นเพราะลุงใหญ่ขายหุ้นของตัวเองออกไปในราคาสูง…” เฮ่อเล่อเฟิงพูด
“อย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้ งานเลี้ยงฉลองตอนเย็นเอาไงดี ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้เชิญคุณ” มั่วซูอวิ๋นมองหลินเยียน
หากเป็นเมื่อก่อน ต่อให้สองพ่อลูกเฮ่อสยงกับเฮ่อหมิงไข่เชิญเธอ หลินเยียนก็ไม่มีทางไปร่วม แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับไม่เหมือนกัน
ทีมออโรร่าไม่เกี่ยวกับสองพ่อลูกคู่นี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาจัดงานเลี้ยง ต่อให้จะจัด ก็ควรเป็นคุณตาจัดหรือไม่ก็เธอเป็นคนจัดเอง
ยังไม่พอ สองพ่อลูกทำคุณตาโมโหจนต้องเข้าโรงพยาบาลเกือบเป็นอันตรายถึงชีวิต พวกเขากลับจะมาจัดงานเลี้ยงฉลองเสียใหญ่โต
“ฉันจะไป” หลินเยียนมองมั่วซูอวิ๋น “ไม่เชิญฉันก็ไม่เป็นไร งานเลี้ยงเริ่มเมื่อไรนายก็บอกเวลากับสถานที่ฉันมา ฉันจะไปดูสักหน่อยว่าพวกเขาคิดจะเล่นปาหี่อะไรกันแน่”