ลูกซื้อพ่อให้แม่ - บทที่ 10 ห้ามจีบนะ!
บทที่ 10 ห้ามจีบนะ!
ฝูเจิ้งเจิ้งตกใจอีกครั้ง คนคนนี้รู้ความลับของเธอแล้วงั้นเหรอ!?
ในหัวของเธอตอนนี้กำลังระดมเซลล์สมองเพื่อคิดหาคำแก้ตัวที่เหมาะสมกับสถานการณ์นี้ แต่หานซือฉีกลับเป็นฝ่ายตอบด้วยมุขตลกแทนเสียก่อน “เป็นเลขาที่ไม่ยอมฟังคำสั่งเจ้านาย อ้อ จริงสิ แต่ฉันไม่ได้สั่งให้เธอเลี้ยงลูกนี่เนอะ เพราะงั้นลืม ๆ ไปก็ได้”
“อะ…ห๊ะ…” ด้วยคำพูดนั้นมันทำเอาเธอถึงกับอึ้ง จะอธิบายก็คิดหาข้ออ้างไม่ถูก แต่ถึงอยากจะอธิบายหานซือฉีก็ไม่อยู่ฟังแล้ว เขาอุ้มฝูซิงขึ้นมาแล้วเดินแยกจากเธอไป
ฝูซิงเองก็ดูเหมือนจะคิดแบบเดียวกัน เพราะเจ้าตัวเล็กเองก็เกาะไหล่หานซือฉีนิ่ง ไม่พูดอะไรกับฝูเจิ้งเจิ้งเช่นกัน นี่มันถอดแบบกันมาชัด ๆ
ชิ ตามไปเงียบ ๆ ก็ได้
“หม่ามี๊ ฝูซิงกับป๊ะป๋าอยากกินเนื้อตุ๋นหม้อไฟ” หลังจากที่ขึ้นรถมาแล้ว เด็กน้อยจึงได้เอ่ยปากขอขึ้นมา
“มันทำยากนะ หม่ามี๊เองก็เจ็บมือไปหมดแล้วด้วย” เจ้าลูกตัวแสบ หม่ามี๊คนนี้ต้องเอาคืนบ้างแล้ว!
“หม่ามี๊ แต่ป๊ะป๋าเลี้ยงสเต็กเราไปเมื่อวานแล้วนะ หม่ามี๊ไม่เคยได้ยินเหรอว่าคนเราต้องเอื้อเฟื้อเชือแชกันน่ะ?”
“เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นะลูก” เธอเอ่ยขึ้น อดเอ็นดูเจ้าตัวแสบไม่ได้
แม้ฝูซิงจะไม่รู้ว่าฝูเจิ้งเจิ้งกำลังเอาคืนเรื่องก่อนหน้านี้ แต่ที่ลูกชายเธอพูดก็ถูกต้องอยู่เหมือนกัน
ชวนหานซือฉีมาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยกันงั้นเหรอ…
“ถ้างั้นก็ได้”
“เย้! หม่ามี๊ใจดีที่สุดในโลกเลย!” เด็กน้อยส่งเสียงร้องดีใจก่อนจะโผเข้ากอดใบหน้าของฝูเจิ้งเจิ้งไว้แน่นพลางจุ๊บไปทั่วหน้า ฝูซิงทำให้เธอมีความสุขได้มากจริงๆ
..กริ๊ง..กริ๊ง ..
ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของฝูเจิ้งเจิ้งก็ดังขึ้นมา เมื่อเธอเหลือบมองไปยังเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอ สีหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาที่ดูหนักใจนั้นเหลือบมองหานซือฉีที่อยู่ข้างหน้านิดหน่อยก่อนจะตัดสินใจรับสายคุยให้เสร็จและรีบวางไปในทันที “พวกขายบ้านโทรมาน่ะ สงสัยจะรู้มั้งว่าเรายังไม่ได้ซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ฮ่า ๆๆ”
แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่หานซือฉีก็แอบมองท่าทีของฝูเจิ้งเจิ้งผ่านกระจกมองหลังอยู่เช่นกัน
เมื่อรถของทั้งสามเริ่มเข้าใกล้ย่านที่พักอาศัย ฝูเจิ้งเจิ้งก็หยิบกุญแจส่งให้และฝากลูกของเธอเอาไว้ โดยเธอให้เหตุผลว่าจะปลีกตัวไปซื้อวัตถุดิบก่อนแล้วจะตามกลับไปทีหลัง
ฝูซิงจึงทำหน้าที่เป็นไกด์นำทางให้หานซือฉี เมื่อถึงบ้านแล้วทั้งสองก็ตรงดิ่งเข้าไปเพื่อหาที่นั่งพัก ทว่าคนที่ต้องการพักจริง ๆ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะเด็กน้อยอย่างฝูซิงยังคงมีพลังงานเหลือล้น เขาค่อย ๆ ป่ายปีนขึ้นไปบนตักของหานซือฉีและเอ่ยถามขึ้น “ป๊ะป๋า ป๊ะป๋าชอบหม่ามี๊ไหม?”
คำถามนั้นทำเอาหานซือฉีต้องหันมามองเด็กน้อยและยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู ชายหนุ่มนิ่งคิดสักพักแล้วบอกไปว่า “ถ้าชอบ ซิงซิงจะทำอะไรกับป๊ะป๋า? แล้วถ้าในกรณีที่ไม่ชอบด้วย”
“ถ้าป๊ะป๋าชอบหม่ามี๊ ฝูซิงก็จะช่วยป๊ะป๋าตามจีบหม่ามี๊ให้ได้ แต่ถ้าไม่ชอบ เดี๋ยวป๊ะป๋าก็จะเริ่มชอบหม่ามี๊เองแหละ!” เด็กน้อยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจสุด ๆ
ตอนแรกฝูซิงคิดว่าหม่ามี๊ของเขาจะต้องชอบป๊ะป๋าคนนี้แน่ ๆ ดังนั้นเขาจึงพยายามช่วยให้ทั้งสองคนได้เจอกันบ่อย ๆ ทว่าในวันนี้ หลังจากที่เขาได้เห็นว่าผู้เป็นแม่ไล่ตามชายอื่นไป เด็กชายก็รู้สึกว่าแม่ของตนนั้นเริ่มพึ่งพาไม่ได้เสียแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะมาช่วยทางฝั่งป๊ะป๋าแทน
ด้วยคำตอบที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อยตรงหน้า หานซือฉีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“อย่าหัวเราะฝูซิงนะ! ผู้ชายต้องไม่หัวเราะผู้อื่นเวลาพูดเรื่องจริงจังสิ!” เจ้าตัวเล็กโกรธขึ้นมาแล้ว “บอกฝูซิงมาเดี๋ยวนี้นะว่าป๊ะป๋าจะเลือกใครระหว่างหม่ามี๊กับอาจารย์หลี่!” หนุ่มน้อยยื่นคำขาด เสนอทางเลือกให้กับเขา
“แล้วถ้าป๊ะป๋าชอบอาจารย์หลี่ล่ะ?” ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นโลเล
เจ้าตัวเล็กกอดอกทำแก้มป่องด้วยท่าทางไม่พอใจแล้วตอบไปว่า “ป๊ะป๋า อาจารย์หลี่มีแฟนแล้ว ป๊ะป๋าจะจีบอาจารย์หลี่ไม่ได้นะ นอกจากนั้น ฝูซิงซื้อป๊ะป๋าแล้ว เพราะงั้นหม่ามี๊ก็เป็นของป๊ะป๋าด้วย ป๊ะป๋าจะนอกใจไม่ได้นะ!” เสียงเล็กนั้นทำราวกับว่ากำลังขู่หานซือฉีอยู่ในที
“หือ แล้วซิงซิงรู้ได้ยังไงว่าอาจารย์หลี่มีแฟนแล้ว?” หานซือฉีสงสัย
เด็กน้อยเผยยิ้มร้ายที่เหมือนกับเขา แล้วตอบว่า “ฝูซิงต้องรู้อยู่แล้วสิ เพราะฝูซิงเห็นพวกเขาจูบกันด้วยนี่นา! จูบบบ จุ๊บ ๆๆๆ แบบนี้เลย!” ไม่เพียงพูดเปล่า ฝูซิงเขยิบเข้าไปใกล้ ๆ หน้าของหานซือฉีก่อนจะจุ๊บลงไปที่ปากของอีกฝ่ายด้วยริมฝีปากเล็กของตน
“ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆ ให้มันได้อย่างงี้สิ” คราวนี้หานซือฉีหัวเราะออกมาดังกว่าเดิม แต่นั่นก็เพราะความเอ็นดู เขาบีบแก้มนุ่มของเด็กน้อยเบา ๆ ก่อนจะโอบกอดไว้ไม่ให้อีกฝ่ายตกลงไป
แต่ฝูซิงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เขากระโดดลงไปยืนบนโซฟาแล้วเข้าไปนวดหลังให้หานซือฉีเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า “เพราะงั้นแล้ว ป๊ะป๋าหันมาชอบหม่ามี๊จะดีกว่า เพราะหม่ามี๊น่ะ ทั้งฉลาด ทั้งเก่ง อ่อนโยน มีคุณธรรม แล้วก็สวยมากด้วย! อ๊ะ แล้วก็เนื้อตุ๋นหม้อไฟของหม่ามี๊น่ะ อร่อยที่สุดเลย! แต่ป๊ะป๋าห้ามเข้าใจผิดนะ ถึงหม่ามี๊จะเพิ่งวิ่งตามผู้ชายคนอื่นไป แต่หม่ามี๊ยังไม่มีแฟนหรอก” คนตัวเล็กพยายามอธิบายให้ชายหนุ่มฟัง ทั้งหมดนี้ก็เพราะเขากลัวว่าชายหนุ่มจะไม่พอใจหม่ามี๊ของเขา
“แล้วถ้า…หม่ามี๊ไม่ชอบป๊ะป๋าล่ะ?” เขาอุ้มเด็กน้อยชูขึ้นสูง พร้อมกับทำจังหวะเหมือนเขากำลังบินอยู่
“ถ้างั้นป๊ะป๋าก็ต้องทำให้หม่ามี๊ชอบป๊ะป๋า! ไม่ใช่ว่าป๊ะป๋ามีพลังที่ทำให้สาว ๆ รักสาว ๆ หลงอยู่แล้วเหรอ?” เขามองลงมาแล้วยิ้มมุมปากให้กับชายหนุ่ม ยิ่งเจ้าตัวเล็กทำหน้าแบบนี้ยิ่งเพิ่มความน่ารักขึ้นไปอีกเท่าตัว
“ไม่มี” เขาตอบแบบยิ้ม ๆ
“งั้นฝูซิงสอน” เด็กชายยิ้มแป้น
“ว่ามาเลย” หานซือฉีบอกอย่างเอ็นดูเด็กน้อยเสียเต็มประดา
จากนั้นฝูซิงก็เข้าไปกระซิบหูหานซือฉี ซึ่งสิ่งนี้ทำเอาเขาอดหัวเราะไม่ได้อีกครั้ง
ทางฝั่งของฝูเจิ้งเจิ้ง หลังจากที่ลงมาจากรถแล้ว เธอก็รีบมุ่งหน้าไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าย่านที่อยู่อาศัยของตนโดยทันที
ใบหน้าสวยนั้นหันมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครมองมา ร่างเล็กนั้นก็ค่อย ๆ แทรกตัวผ่านประตูห้องพักพนักงานของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนั้นไปอย่างแนบเนียน
————————————————————————————————————-
คุยกับผู้แปล
ฝั่งหนึ่งก็ดูจะวางแผนแปลก ๆ ส่วนอีกฝั่งก็กลายเป็นฝ่ายที่ทำตัวน่าสงสัยแทน
-ทีมงานผู้แปล Enjoybook-