ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 100 พี่ชาย รถพี่ล่ะ
บทที่ 100 พี่ชาย รถพี่ล่ะ
ทันทีที่สายตาของหลิ่วจื่อหอาง ตกลงไปยังเรือนร่างของเสี้ยเมิ่งเหยาอีกครั้ง เขารู้สึกว่าเสี้ยเมิ่งเหยาดูเหมือนจะเข้าถึงได้มากกว่าสวีเฟยหรงหน่อย ดังนั้นหลิ่วจื่อหอาง จึงหันหน้าไปหาเสี้ยเมิ่งเหยา “พี่สาวทั้งสองจะไปไหนเหรอครับ คนขับรถที่บ้านกำลังจะมาถึง ผมให้เขาไปส่งพวกพี่ๆได้นะ”
“ไม่ต้องหรอก สามีของฉันกำลังมา” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างเยาะเย้ย
นัยน์ตาของหลิ่วจื่อหอางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มีสามีแล้วยังจะแรดอะไรอยู่ตรงนี้
ในตอนนี้ เฉินเฟิงก็เดินเข้ามา
“เมิ่งเหยา” แม้ห่างกับเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ถึงวัน แต่เฉินเฟิงรู้สึกเหมือนห่างกันนานนับเดือน
“ที่รัก” เสี้ยเมิ่งเหยาหน้าแดง กระโดดเข้าไปกอดในอ้อมแขนของเฉินเฟิง กอดเฉินเฟิงไว้แน่น
เฉินเฟิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ทำไมวันนี้ถึงเรียกว่าที่รัก
ความอิจฉาริษยาพรั่งพรูออกมาจากสายตาของหลิ่วจื่อหอาง ดูชุดที่เฉินเฟิงสวมใส่ เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกจนๆ ไอ้คนจนแบบนี้มีสิทธิ์อะไรถึงได้แต่งงานกับสาวสวย เป็นภรรยา
“ทำไมเฟยหรงมาที่นี่ด้วยล่ะ?” เฉินเฟิงหันไปถามสวีเฟยหรง
“ฉัน….ฉันไม่วางใจพ่อกับแม่ ก็เลยแวะมาดู” สวีเฟยหรงหยุดครู่หนึ่งแล้วพูด
“เรื่องคุณลุงคุณป้า ผมให้คนที่ไว้ใจได้ไปถามแล้ว เร็วๆนี้คงจะมีความคืบหน้า” เฉินเฟิงพูดยิ้มๆ เขาไม่ได้คิดที่จะบอกความจริงกับสวีเฟยหรง เพราะถึงบอกไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี มีแต่จะทำให้สวีเฟยหรงเป็นห่วง
“รบกวนคุณแล้ว” สวีเฟยหรงพูดด้วยความจริงใจ
เฉินเฟิงพูดพร้อมส่ายหัวว่า “เราไปกันเถอะ คนขับรถรอเราอยู่ข้างนอก”
“คนขับรถเหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยาและสวีเฟยหรงยังไม่ทันได้พูดอะไร หลิ่วจื่อหอาง ที่อยู่ข้างๆเอ่ยปากออกมาอย่างตาลปัตร มองเฉินเฟิงและพูดจาดูถูก “คนขับรถคุณงั้นเหรอ?”
เฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ทำไม มีปัญหาเหรอ?”
หลิ่วจื่อหอาง หัวเราะเยาะและพูดว่า “พี่ชายครับ พี่มีปัญญาจ้างคนขับรถด้วยเหรอ?” เขามองไปที่เสื้อผ้าของเฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าเป็นพนักงานธรรมดาๆ คนแบบนี้ ถ้าบอกว่าเป็นคนขับรถก็เชื่อนะ ยังมีคนขับรถมารับ เขามีปัญญาจ้างคนขับรถด้วยเหรอ!
“ผมจะมีปัญญาจ้างหรือไม่ มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?” เฉินเฟิงพูดอย่างเนิบๆ
หลิ่วจื่อหอาง ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เกี่ยวอะไรกับผมแน่นอน แต่เกี่ยวกับพี่สาวคนสวยทั้งสองคนนั้นต่างหากล่ะ”
“หะ? เกี่ยวอะไรด้วย?” เฉินเฟิงพูดอย่างคล้ายจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม
“ถ้าผมเดาไม่ผิด คนขับรถทุกคนของคุณ เป็นหน้าม้าที่คุณจ้างมาหรือเปล่า อีกอย่าง รถที่คนขับขับมานั้น ก็ไม่ได้เป็นรถที่ดีอะไรแน่นอน คุณกำลังโกหกพวกพี่คนสวยทั้งสองอยู่!” หลิ่วจื่อหอางพูดด้วยความมั่นใจ เหมือนเฉินเฟิงเป็นคนที่อวดตัวเองเพื่อให้ดูดี เขาเห็นเยอะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ยอมทำเพื่อที่จะไม่เสียหน้าต่อหน้าผู้หญิง
“อืม คุณเดาถูก คุณฉลาดมาก” เฉินเฟิงสีหน้าสงบ หลังจากพูดจบ เขาก็หันไปมองเสี้ยเมิ่งเหยาและสวีเฟยหรง “เราไปกันเถอะ”
“อืม ไปกันเถอะ” เสี้ยเมิ่งเหยายิ้มอย่างอ่อนหวาน เดินตามหลังเฉินเฟิงไป
หลิ่วจื่อหอาง สีหน้าไม่สู้ดีนัก เพราะถูกมองข้ามไป
เขาไม่คิดว่าจะถูกเฉินเฟิงเมินใส่ คำสุดท้ายที่เฉินเฟิงพูด เห็นได้ชัดว่าขี้เกียจที่จะไปสนใจเขา
“หยุดอยู่ตรงนั้น!” หลิ่วจื่อหอางเริ่มขุ่นเคือง และเดินไปหาเฉินเฟิงอย่างโมโหและพูดว่า “คุณกล้าพนันกับผมไหม?”
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” เฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“กูไม่ได้บ้า!” หลิ่วจื่อหอาง พูดด้วยความโมโห “กูทนดูไม่ได้ที่มึงโกหกพี่สาวทั้งสอง”
สวีเฟยหรงมองบน เธอไม่เข้าใจความคิดของเจ้าเด็กหนุ่มเมื่อวานซืนแบบนี้ เสี้ยเมิ่งเหยามองเฉินเฟิงด้วยความสนใจ และอยากรู้ว่าเฉินเฟิงจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร
“แล้วมึงคิดว่าไง?” เฉินเฟิงถามแบบยิ้มๆ
“กูบอกแล้ว พนันกัน!” หลิ่วจื่อหอาง กัดฟันพูด
“พนันอะไร?”
“พนันว่าคนขับรถของมึงเป็นหน้าม้า แล้วรถก็ไม่ได้เป็นรถที่ดีแน่” หลิ่วจื่อหอาง กล่าว
“รถหรูยี่ห้อดีงั้นเหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มอย่างมีความสุข แล้วถามกลับว่า “แล้วรถที่ดีเป็นแบบไหนล่ะ?”
“อย่างน้อยก็ต้องเป็นรถหรูราคาหลายล้านอย่างรถเฟอร์รารี่ไง” หลิ่วจื่อหอาง พูดอย่างสมเหตุสมผล แม้ว่าเฉินเฟิงจะมีเงินจ้างคนขับก็ตาม เขาก็ไม่เชื่อว่ารถของเฉินเฟิงจะเป็นรถที่ดี เพราะฉะนั้นเขาจึงมั่นใจที่จะเดิมพันกับเฉินเฟิง
“งั้นฉันเกรงว่าจะทำให้มึงผิดหวังเสียแล้ว รถของกูไม่ใช่รถหรูราคาหลายล้าน” เฉินเฟิงส่ายหัวแล้วพูด เฉียวเสี่ยวโย่ว เลือกรถ Rolls Royce ให้กับเขา และเป็นรุ่นท๊อป ซึ่งมีแค่คันเดียวในจินหลิง แล้วยังรวมไปถึงป้ายทะเบียนรถที่มีมูลค่ามากกว่า 3ล้านหยวน รถของเขาไม่ใช่รถหรูราคาหลายล้าน แต่เป็นรถหรูราคาประมาณ 15 ล้านหยวน
“ไม่ใช่รถหรู แล้วมึงมาทำตอแหลอะไรที่นี่?” หลิ่วจื่อหอาง พูดอย่างเหยียดหยาม คิดอยู่แล้วไอ้คนโง่คนที่อวดตัวเองเพื่อดูดี อวดตัวเองจนตอนนี้ต้องฝืนจนต้องเผยไต๋ออกมา
เฉินเฟิงงงงวย นี่กูตอแหลมันตอนไหนวะ? เหมือนกูจะบอกตั้งแต่แรกแล้วนิ ว่าคนขับกำลังรออยู่
“ขับรถขยะอะไรไม่กี่ล้าน ยังกล้าเอามารับคนอื่น แถมยังจ้างคนขับรถอีก น่าตลกจริงๆ” หลิ่วจื่อหอาง กล่าววาจาอย่างถากถาง เฉินเฟิงหัวเราะแทบตาย รถมูลค่าไม่กี่แสนนั่นไม่ใช่รถหรือไง? รถมูลค่าไม่กี่แสนใช้รับคนไม่ได้เหรอ?
“ช่างเถอะ เฉินเฟิง ไม่ต้องสนใจเขา เราไปกันเถอะ” เสี้ยเมิ่งเหยาทนดูไม่ไหวแล้ว เธอรู้ว่าเฉินเฟิงขี้เกียจจะไปสนใจกับเด็กหนุ่มแบบนี้ แต่ตัวเด็กหนุ่มคนนี้กลับชอบเหยียดหยามและไม่ให้เกียรติผู้อื่น
เฉินเฟิงพูดอย่างยิ้มๆ “อืม ก็ตามใจคุณ”
อย่าไปสนใจเด็กเมื่อวานซืนแบบนี้เลย
เฉินเฟิงและเสี้ยเมิ่งเหยาทำเช่นนี้ กลับปล่อยให้หลิ่วจื่อหอาง รู้สึกไร้กำลังดั่งปุยฝ้าย
“โอ้ พี่ชาย อย่าไปเลย ฉันไม่เคยเห็นเลยว่ารถราคาไม่กี่แสนเป็นยังไง ให้ฉันดูหน่อยสิ” หลิ่วจื่อหอางตามมาข้างหลังอย่างไม่หยุดหย่อน
เฉินเฟิงหยุดย่างก้าว และหันไปยิ้ม หลิ่วจื่อหอาง แล้วถามว่า “มึงแน่ใจเหรอว่าอยากดูจริงๆ?”
“แน่สิ กูอยากดูว่าคนขับรถของมึงไปจ้างมาจากที่ไหน” หลิ่วจื่อหอางพูดอย่างเหนื่อยหน่าย
เฉินเฟิงยิ้ม แล้วพูดต่อ “ดูเสร็จแล้วอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน”
“เสียใจภายหลังงั้นเหรอ?” หลิ่วจื่อหอาง น้ำเสียงโอ้อวด “พี่ชาย จะล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย? ดูรถพังๆของมึง กูจะเสียใจได้ยังไงล่ะ?”
“ได้ งั้นก็ตามมา” เฉินเฟิงพูดแล้วยิ้ม ในเมื่อหลิ่วจื่อหอางอยากเห็น “รถพังๆ” ของเขา เขาก็ตามใจหลิ่วจื่อหอาง
“เฉินเฟิง….” เสี้ยเมิ่งเหยาดึงแขนของเฉินเฟิง มองดูเฉินเฟิงด้วยความไม่แน่ใจ และดูเหมือนจะถามว่าเขาเอารถมาจากที่ไหน?
สวีเฟยหรงก็รู้สึกสงสัยมาก อย่าพูดถึงรถราคาไม่กี่แสนเลย เฉินเฟิงเพิ่งมาที่จินหลิง รถยนต์ไฟฟ้าสักคันก็ไม่มี หรือเขาจะยืมเงินจากเพื่อมาเช่ารถจริงๆงั้นเหรอ?
เฉินเฟิงยิ้ม แล้วไม่ได้พูดอะไร ยังไงรถก็อยู่ข้างนอก พอพวกเขาออกมาก็เห็นรถเลย
ออกจากสนามบิน หลังจากมาถึงปากทาง เฉินเฟิงขมวดคิ้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำไมรถไม่อยู่แล้ว?
เมื่อสักครู่เขาให้คนขับจอดรออยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอ?
“พี่ชาย ไหนรถล่ะ?” พบว่าปากทางเข้าไม่ได้มีรถคันไหนจอดอยู่เลยสักคันเดียว หลิ่วจื่อหอาง อดไม่ได้ที่ยิ้มมุมปากเยาะเย้ย