ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 102 จะมีเงินเท่าไหร่กันเชียว
บทที่ 102 จะมีเงินเท่าไหร่กันเชียว
ว่ากันว่ารถคือแฟนคนที่สองของผู้ชาย มีผู้ชายหลายคน เห็นรถสำคัญกว่าแฟนอีก ปกติแม้แต่ยืมก็ไม่ยอมให้ยืมด้วยซ้ำ อย่าว่าปล่อยเช่าเลย
“ฉันก็ขาดแคลนจริงๆ ถึงยังไงเสื้อผ้าทั้งตัวฉันรวมกันแล้ว ก็ไม่เกินสองร้อยหยวน”เฉินเฟิงพูดเบาๆ
“พี่ชาย เมื่อกี้ผมแค่ล้อเล่นน่ะ คุณอย่าเอามาใส่ใจเลย” หลิ่วจื่อหอางยิ้มด้วยความโกรธ เห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงกำลังประชดเขา ว่าพวกตาสุนัขที่ชอบดูถูกคน แต่เขาไม่กล้าโต้ตอบ
“อ่อ” เฉินเฟิงตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นสายตาก็มองไปที่เสี้ยเมิ่งเหยาและสวีเฟยหรง ยิ้มแล้วพูดว่า : “ไปกันเถอะ”
“อืม”เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าเบาๆ คนขับรถวัยกลางคนเดินมาเอากระเป๋า ใส่สัมภาระท้ายรถ
เหยียบคันเร่ง โรลส์รอยซ์สีดำคำรามออกไป เหลือเพียงสองพี่น้องที่อึ้งอยู่อย่างว่างเปล่า
“หลิ่วจื่อหอาง นายมันโง่จริงๆ!” หลิ่วอีอีมองหลิ่วจื่อหอางแวบหนึ่ง กัดฟันด่า ความสัมพันธ์ของเธอกับเฉินเฟิงยังไม่ได้ดีขึ้นเลย สุดท้ายไอ้โง่หลิ่วจื่อหอางคนนี้กลับไปประชดประชันเฉินเฟิง
“พี่ พี่ด่าผมทำไมเนี่ย ไอ้หมอนั่นมีเงินเท่าไหร่กันเชียว? รถหรูอย่างโรลส์รอยซ์ บ้านเราก็ไม่ใช่ว่าจะซื้อไม่ไหว” หลิ่วจื่อหอางตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้ออกมา จริงอยู่ที่ตระกูลหลิ่วสามารถซื้อโรลส์รอยซ์สองกว่าล้านได้ แต่หลิ่วจื้อโจวไม่มีทางซื้อแน่ เพราะว่าสูงส่งเกินไป ความสามารถของตระกูลหลิ่วไม่ได้สูงส่งขนาดนั้น
“มีเงินเท่าไหร่กันเชียว?” หลิ่วอีอีถูกยั่วโมโหจนหัวเราะออกมา “หลิ่วจื่อหอาง นายรู้ไหมคนนั้นที่นายพูดว่ามีเงินเท่าไหร่กันเชียวสองสามวันนี้มาที่จินหลิงทำอะไร?”
“ทำอะไรล่ะ?” หลิ่วจื่อหอางถามอย่างไม่จริงจัง
“เขาหักแขนไป๋กว่างยี่และหยางชิงคนละข้างที่คฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง
ตูม!
ในสมองของหลิ่วจื่อหอางระเบิดตูม หักแขนไป๋กว่างยี่และหยางชิงคนละข้าง?!!
คนที่อยู่ในระดับชนชั้นสูงของจินหลิง หลิ่วจื่อหอางเข้าใจโดยปริยาย ไป๋กว่างยี่และหยางชิงหมายถึงอะไร ไป๋กว่างยี่นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย หยางชิงคนนั้นเป็นน้องชายแท้ๆของเจ้าชายแห่งจินหลิง มีฉายาว่าเจ้าชายน้อย คิดไม่ถึงว่าถูกไอ้คนนั้นหักแขนไปข้างหนึ่ง!
“อีกทั้งตระกูลไป๋และตระกูลหยาง ถึงตอนนี้ยังไม่กล้าแก้แค้น!” หลิ่วอีอีพูดอย่างเย็นชาออกมาอีกประโยค
สีหน้าของหลิ่วจื่อหอางซีดลง ตระกูลไป๋และตระกูลหยาง ยังไม่กล้าแก้แค้น?!
จะต้องมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่น่ากลัว!
สุนัขหลิ่วจื่อหอางกลัวเข้าแล้ว ถ้าเมื่อกี้เขาลงมือกับเฉินเฟิง กลัวว่าวันนี้เขาจะตายที่นี่แน่ๆ!
อีกอย่างแม้ว่าจะตายแล้ว พวกเขาตระกูลหลิ่ว ก็แม้แต่เหี้ยตัวไหนก็ไม่ปล่อยไว้แน่!
“พี่ พี่….พี่รู้จักเขาเหรอ?” หลิ่วจื่อหอางถามด้วยเสียงสั่น
หลิ่วอีอีส่ายหน้า พูดว่า : “ฉันอยากรู้จักคนนั้น แต่คนนั้นเขาไม่อยากจะรู้จักฉัน”
“พี่ ผมจะทำยังไงดี เขาจะไม่ฆ่าผมใช่ไหม?” หลิ่วจื่อหอางกลัวขึ้นมาเล็กน้อย น้ำเสียงมีเสียงร้องไห้ออกมา
“ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วเหรอ?” หลิ่วอีอีมองหลิ่วจื่อหอางอย่างโหดเหี้ยม
“พี่ ผมตาไม่มีแวว ผมตาสุนัขชอบดูถูกคน พี่ต้องช่วยผมนะ” หลิ่วจื่อหอางใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว ถ้ารู้ว่าเฉินเฟิงมีภูมิหลังที่ค้ำฟ้าเร็วกว่านี้ ตีเขาตายเขาก็ไม่กล้าเยาะเย้ยเฉินเฟิง
“นายคิดว่าคนอื่นเขาจะใจแคบเหมือนนายเหรอ?” หลิ่วอีอียิ้มอย่างเหยียดหยาม พูดว่า: “ไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างนาย คนอื่นเขาขี้เกียจจะมาสนใจ!”
หลิ่วจื่อหอางเลือดขึ้นหน้า คำพูดนี้ของหลิ่วอีอีความหมายชัดเจนมาก เฉินเฟิงขี้เกียจที่จะคิดเล็กคิดน้อยกับเขา เมื่อคิดถึงตัวเองก่อนหน้านี้เหมือนกับตัวตลก กระโดดขึ้นๆลงๆต่อหน้าคนอื่นเขา หลิ่วจื่อหอางก็อดไม่ได้ที่จะตบตัวเองสักสองสามฉาด
“กลับบ้านเถอะ กลับบ้านไปแล้วจะดูว่าต่อไปพ่อจะจัดการนายยังไง!” หลิ่วอีอีจ้องมองหลิ่วจื่อหอางและพูดด้วยความโกรธ เรื่องที่หลิ่วจื่อหอางล่วงเกินเฉินเฟิง จะต้องบอกกับหลิ่วจื้อโจว แม้ว่าเมื่อกี้จะเห็นเฉินเฟิงท่าทางแบบนั้น ที่ขี้เกียจคิดเล็กคิดน้อยกับหลิ่วจื่อหอาง แต่เธอต้องเตรียมรับมือในกรณีที่ไม่คาดคิด”
หลิ่วจื่อหอางพยักหน้าแต่โดยดี ในใจกลับอยากรู้อยากเห็นเรื่องภูมิหลังของเฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับทายาทเศรษฐีในจินหลิง
“เฉินเฟิง รถนี่เอามาจากไหน?
เสี้ยเมิ่งเหยาที่นั่งอยู่เบาะหลังอดไม่ได้จึงถาม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องรถ แต่จากสายตาของหลิ่วจื่อหอางเมื่อกี้ ก็ดูออกว่า ราคารถคันนี้จะต้องแพงทะลุฟ้าแน่นอน ยังมีก่อนหน้านี้ไม่นาน เฉินเฟิงก็ขับรถหรูแบบนี้มารับเธอตอนเลิกงาน ตอนนั้นเธอยังบอกว่าเฉินเฟิงเช่ามา ตอนนี้ดูแล้ว เกรงว่าจะไม่ใช่
“รถคันนี้คือ…” เฉินเฟิงอยากพูดว่าเป็นของเพื่อนสมัยเรียน
สรุปเสี้ยเมิ่งเหยาขัดจังหวะว่า: “คุณอย่าบอกนะว่ารถนี้เป็นรถของเพื่อน? ฉันไม่เชื่อว่าเพื่อนคุณจะมีเงินขนาดนี้?”
เฉินเฟิงสำลัก ที่จริง เอาเพื่อนมาอ้าง ครั้งสองครั้งก็พอได้ แต่เอามาอ้างทุกครั้ง เสี้ยเมิ่งเหยาจะต้องไม่เชื่อแน่
สวีเฟยหรงที่อยู่ข้างๆก็สงสัยเช่นกัน ครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นคนโง่ ก็คงรู้ว่า เฉินเฟิงต้องไม่ใช่ลูกเขยธรรมดาแน่นอน ยังมีฐานะอื่นอีก!
กู้ตงเชิน เสิ่นจุนเหวิน จากเมืองชางโจว ไปจนถึงตระกูลไป๋ในจินหลิง คู่ต่อสู้เหล่านี้ คนไหนก็ไม่สามารถยั่วโมโหได้ แต่มาถึงมือของเฉินเฟิง กลับกลายเป็นเศษเล็กๆ
ไม่ใช่พวกเขาอ่อนแอเกินไป แต่เป็นเฉินเฟิงแข็งแกร่งเกินไป!
และทักษะที่น่าทึ่ง เฉินเฟิงมีความลับมากเกินไป!
เป็นครั้งแรกที่เฉินเฟิงค่อนข้างลำบากใจ เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเสี้ยเมิ่งเหยายังไง ถึงยังไงตระกูลเฉิน ยังมีลูกนอกสมรส ยังมีโลกแห่งจอมยุทธ์ เรื่องเหล่านี้สำหรับเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว ห่างเหินมาก เฉินเฟิงไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า หลังจากที่เขาพูดเรื่องนี้จบ เสี้ยเมิ่งเหยาจะอยู่กับเขาต่อไปหรือไม่?
หลังจากนั้น ฐานะความแตกต่างระหว่างทั้งสองคนนั้น คนหนึ่งอยู่บนฟ้า อีกคนอยู่บนดิน
“ช่างเถอะ” เห็นความลำบากใจของเฉินเฟิง ทันใดนั้นเสี้ยเมิ่งเหยาก็พูดออกมา
“รอจนกว่าคุณพร้อมที่จะบอกฉัน ค่อยบอกก็ได้”เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างสงบ ในความเป็นจริงเธอก็กลัวที่จะรู้คำตอบ หากเธอยอมรับความลับของเฉินเฟิงไม่ได้ ก็หมายถึง ความเป็นสามีภรรยาระหว่างเธอกับเฉินเฟิงก็คงต้องถึงจุดจบ
เธอยอมที่จะถูกปิดบังแบบนี้ดีกว่า จะว่าไป เธอตกหลุมรักเฉินเฟิงอย่างหมดหัวใจ เธอชอบทุกวันที่เธออยู่กับเฉินเฟิง เธอ….ไปจากเฉินเฟิงไม่ได้แล้ว
และเห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงมีภูมิหลังที่น่ากลัว เดิมทีเขาควรมีความสุขกับชีวิตที่ร่ำรวย แต่เขาเต็มใจที่จะอยู่ในตระกูลเฉินเป็นเวลาสามปี ถูกเยาะเย้ย ถูกเรียกว่าเป็นสุนัขในตระกูลเสี้ยเป็นเวลาสามปี ไม่เคยบ่นเลยสักคำ
เฉินเฟิงต้องการอะไร? สมบัติของตระกูลเสี้ยเหรอ?
ไม่ใช่!ตระกูลเสี้ยไม่มีสมบัติอะไรเลย ไม่ได้อยู่ในสายตาเฉินเฟิงเลยสักนิด!
เสี้ยเมิ่งเหยารู้ดี เฉินเฟิงอยู่ในตระกูลเสี้ยสามปีนี้ ทั้งหมดก็เพื่อเธอ!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะถามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เสี้ยเมิ่งเหยารู้ดีที่สุดก็คือ เฉินเฟิงรักเธอ!
แค่นี้ก็พอแล้ว
“เสี้ยเมิ่งเหยา สักวันหนึ่งผมจะอธิบายทุกอย่างกับคุณ เชื่อผม วันนั้นจะไม่ไกลเกินไป!”เฉินเฟิงพูดด้วยสีหน้าที่ดูสับสน
“อืม ฉันเชื่อคุณ” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดออกมาเบาๆ รอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏบนใบหน้า
สวีเฟยหรงที่อยู่ข้างๆถอนหายใจอย่างไม่ได้ตั้งใจ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่อิจฉา สามปีก่อน เธอคิดว่า คนที่แต่งงานกับเสี้ยเมิ่งเหยา เป็นแค่เศษสวะคนหนึ่ง จะทำลายเสี้ยเมิ่งเหยาทั้งชีวิต