ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 103 เลือกให้บริการ
บทที่ 103 เลือกให้บริการ
พอมาถึงตอนนี้ เป็นเธอในตอนนั้นที่ตาบอด ผู้ชายคนนี้ อยู่ในรูปมังกรมาโดยตลอด!
แค่สามปีมานี้ ปิดหูปิดตาที่จะมองดูโลกภายนอกตลอดมา!
วันนี้มังกรตัวจริงได้เปิดเผย โลกใบนี้ ก็ได้สั่นสะท้านแล้ว!
หลังจากเอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรม ก็พาเสี้ยเมิ่งเหยาและสวีเฟยหรงไปกินอาหารกลางวันในโรงแรม
พอกินข้าวเสร็จทันใดนั้นเสี้ยเมิ่งเหยาก็ได้เอ่ยถามว่า: “สวีเฟยหรง เฉินเฟิง พวกเราไปเดินช้อปปิ้งกันเถอะ?”
“ได้ซิ” เฉินเฟิงยิ้มพร้อมตอบ ตัวเขาเองไม่มีปัญหาอะไร แต่งงานกับเสี้ยเมิ่งเหยาสามปี ทั้งสองไปช้อปปิ้งด้วยกันนับครั้งได้ อีกอย่างปกติเสี้ยเมิ่งเหยาก็มาที่จินหลิงน้อยครั้งมาก การช้อปปิ้งเป็นธรรมชาติของผู้หญิง เฉินเฟิงต้องตามใจเธออย่างแน่นอน
“ฉันไม่ไปเป็นก้างขวางคอหรอก พวกเธอสองคนไปเถอะ ฉันไม่ไปแล้ว ฉันจะนอนพักผ่อนเพิ่มความสวยหน่อย นั่งเครื่องมาฉันเหนื่อยมาก” สวีเฟยหรงพูดพร้อมกับหาวไปด้วย เสี้ยเมิ่งเหยาไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสอยู่กับเฉินเฟิงสองต่อสอง ตัวเธอเองไม่อาจจะพลาดโอกาสนี้ได้
“งั้นก็ได้ สวีเฟยหรง แกก็พักผ่อนเถอะ ฉันไปกับเฉินเฟิง” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดพร้อมกับยิ้ม
“อืม ไปเถอะๆ”สวีเฟยหรงพูดพร้อมสะบัดมือ
“ไปกันเถอะ”เสี้ยเมิ่งเหยาควงแขนเฉินเฟิงอย่างเป็นธรรมชาติ
เฉินเฟิงไม่ค่อยคุ้นเคยกับจินหลิง แต่เมื่อก่อนเสี้ยเมิ่งเหยากลับเคยเรียนมหาวิทยาลัยที่จินหลิง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนจินหลิงครึ่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
วกไปวนมา ทั้งสองคนมาถึงซื่อเม่าเทียนตู นี่คือแวดวงธุรกิจที่รุ่งเรืองที่สุดในจินหลิง ข้างในมีจำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทุกประเภท
“เฉินเฟิง ฉันอยากกินชานม” เสี้ยเมิ่งเหยามุ่ยหน้าอย่างน่ารัก
“โอเค ผมไปซื้อ” เฉินเฟิงพูดพร้อมยิ้ม เธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ เสี้ยเมิ่งเหยา เป็นประเภทที่ว่ากินเยอะแค่ไหนก็ไม่อ้วน ประเภทชานมอะไรนี่ เธอแทบจะกินทุกวัน แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเห็นเธออ้วน
หลังจากเข้าแถวผ่านไปสิบนาที ในที่สุดเฉินเฟิงก็ซื้อชานมมาได้แก้วหนึ่ง
หลังจากได้ชานมมาแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาดีใจเหมือนเด็กสามขวบ
“เฉินเฟิง พวกเราเข้าไปข้างในเลือกเสื้อผ้าให้คุณสักชุดกัน”เสี้ยเมิ่งเหยาชี้ไปที่ร้านเสื้อผ้าผู้ชาย Armani ที่อยู่ด้านข้าง
เฉินเฟิงส่ายหน้า ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด: “ไม่ต้องหรอก ผมไม่ชอบเสื้อผ้าแบบนี้”
แม้ว่าจะเกิดในตระกูลเฉิน แต่เฉินเฟิงชอบความมัธยัสถ์มาโดยตลอด เสื้อผ้าอะไรนี่ ขอแค่ใส่ได้ก็พอ เสื้อผ้ากี่สิบหยวน กับเสื้อผ้าราคาหมื่น ในสายตาเขา ไม่แตกต่างกัน
แม่อบรมเขาตั้งแต่เด็ก เกิดเป็นคน ไม่อาจดูแค่ภายนอกผิวเผิน จะต้องดูจากภายใน
มีบางคน ภายนอกดูหรูหรา แต่ภายในกลับยากจน
และบางคน ถึงจะใส่เสื้อผ้าหยาบๆ แต่ภายในจริงใจ กลับมีค่ามากมาย!
“งั้นก็ได้” เสี้ยเมิ่งเหยาแลบลิ้นออกมา เธอพบว่าเฉินเฟิงไม่เหมือนกับผู้ชายทั่วไปจริงๆ ไม่มีความคิดเรื่องการแต่งตัว แต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะมองยังไง เขาใฝ่หาแค่สิ่งที่ต้องการในใจของตัวเองเท่านั้น
“ไปเดินทางนั้นกัน” เฉินเฟิงชี้ไปที่ถนนร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมด้านข้าง เขาเป็นผู้ชายไม่สนใจรูปร่างหน้าตา แต่เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นผู้หญิง ยังต้องใส่ใจหน่อย ถึงยังไงผู้หญิงก็เกิดมาเพื่อรักสวยรักงาม
“ได้ซิ” เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
จากนั้นทั้งสองก็มาที่ร้านPRADA
ทั้งสองเพิ่งเข้าไป พนักงานหญิงคนหนึ่งทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับ”
“สวัสดีค่ะ”เสี้ยเมิ่งเหยาตอบกลับอย่างมีมารยาท
“ไม่ทราบว่าคุณต้องการอะไรคะ?”พนักงานหญิงที่แต่งหน้าเข้มๆเผยรอยยิ้มบนใบหน้า
“ฉันดูไปเรื่อยๆ”เสี้ยเมิ่งเหยาพูดพร้อมกับยิ้ม
ได้ยินคำนี้ สายตาของโจวลี่ผิดหวังอย่างมาก
เธอเป็นพนักงานขายมืออาชีพ การสังเกตเป็นความสามารถพื้นฐานของเธอ
โดยทั่วไปชายหญิงเข้ามาในร้าน ต้องการดูว่ามีกำลังซื้อหรือไม่ ไม่ได้มองที่ผู้หญิง แต่ดูผู้ชายที่มากับผู้หญิง มีลักษณะอย่างไร
ถ้าผู้ชายเป็นเศรษฐี นั้นแสดงว่ามีโอกาสขายได้90%!
ถ้าผู้ชายเป็นคนจนๆ. งั้นก็ไม่ต้องหวังแล้ว คนประเภทนี้ก็แค่พาแฟนเข้ามาดูโลกสักหน่อย อยากให้พวกเขาซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ทำยอดขายเหรอ? ฝันไปเถอะ!
แน่นอนว่าเฉินเฟิงในสายตาของโจวลี่ถูกจัดไว้ในกลุ่มคนจนๆ.. ทั้งตัวเต็มไปด้วยสินค้าข้างทาง รองเท้ายังเป็นรองเท้าสำหรับเดินทางที่ธรรมดามาก ในฐานะผู้ชาย ในมือแม้แต่นาฬิกาก็ไม่มี เห็นได้ชัดว่าเป็นคนจนๆ.จะให้…ไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
แต่ว่าเสี้ยเมิ่งเหยา รูปร่างดี ใบหน้ารูปไข่ แวบแรกก็รู้ว่าเธอเป็นดาวประจำโรงเรียนแน่
เหมือนกับดอกไม้งามปักลงบนกองขี้ควาย ผักกาดขาวงามให้หมูกิน โจวลี่คิดแล้วส่ายหน้า
เสี้ยเมิ่งเหยาดูกระเป๋าข้างใน และเห็นได้ชัดว่าโจวลี่ไม่ได้คิดที่จะตามไปบริการแต่อย่างใด กระเป๋าที่นี่คือPRADA ถูกที่สุดก็ต้องสองสามหมื่น แพงขึ้นมาก็ เป็นแสนๆก็มี
เสี้ยเมิ่งเหยายังไงก็ซื้อไม่ไหว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปพูดเสียน้ำลายเปล่า
เฉินเฟิงยืนอยู่ข้างๆก็หัวเราะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ความคิดเหล่านั้นของโจวลี่ในสายตาเธอแล้วดูตลกมาก เป็นการเลือกให้บริการ
เวลานี้ โทรศัพท์ของเฉินเฟิงดังขึ้น เห็นเบอร์โทรเข้าเป็นเฉียวเสี่ยวโย่ว เฉินเฟิงขมวดคิ้ว ก็เดินออกไป
“เหอะๆ”บนใบหน้าของโจวลี่แสดงถึงความดูถูก เป็นคนจนๆ.จริงๆด้วย กลัวว่าแฟนตัวเองจะซื้อเสื้อผ้า ไม่อยากควักกระเป๋า คิดไม่ถึงว่าจะแอบออกไปก่อน
เมื่อก่อนโจวลี่เห็นผู้ชายแบบเฉินเฟิงมาเยอะ เมื่อเห็นแฟนตัวเองมีท่าทีจะซื้อกระเป๋า ก็จะหาข้ออ้างต่างๆออกไปก่อน แล้วก็มองดูอยู่ไกลๆ รอจนผู้หญิงของตัวเองช้อปในร้านเสร็จแล้วออกจากร้าน ค่อยกลับมาแล้วบอกว่าตัวเองเมื่อกี้มีธุระ
เวลานี้ คนหนึ่งสวมแว่นกันแดด สาวมั่นที่ทั้งตัวสวมใส่แบรนด์เนมเดินเข้ามา
สาวมั่นสวยน่าจะอายุประมาณสามสิบปี อาจจะเพราะลักษณะของผิวพรรณ สาวมั่นแต่งหน้าเข้มทั้งหน้า แต่ยังไม่สามารถปกปิดผิวที่หย่อนคล้อยได้.
สาวสวยเข้ามาในร้านปุ๊บ สายตาของโจวลี่ก็พราวขึ้น สายตาของเขาจับจ้องสร้อยคอที่สวมอยู่บนคอของสาวมั่นทันที Swarovski รุ่นลิมิเต็ด! ในเว็บไซต์ราคา 390,000!
ลักษณะของเศรษฐีสาว!
ดูเหมือนโจวลี่จะเห็นก้อนเงินตัวเองเดินเข้ามา
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” โจวลี่รีบเข้าหา พูดพร้อมกับยิ้ม เทียบกับเสี้ยเมิ่งเหยาแล้วไม่เหมือนกัน สาวสวยคนนี้ ดูปุ๊บก็รู้ว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ เข้ามาไม่ใช่แค่ดูเฉยๆแน่
“กระเป๋าใหม่หลายรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวในฝรั่งเศส ในร้านคุณมีหรือเปล่า?” สาวมั่นชำเลืองมองโจวลี่ สายตามีความหยิ่งเล็กน้อย
พอได้ยินคำนี้ โจวลี่ก็ยิ่งดีใจ เห็นได้ชัดว่าสาวมั่นคนนี้มักจะซื้อของประเภทหรูหรานี้ รู้จักแฟชั่นเป็นอย่างดี
“คนสวย มีค่ะมีค่ะ ร้านของพวกเราเมื่อวานซืนเพิ่งนำสินค้าPRADAรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจากฝรั่งเศสมา เชิญทางนี้ค่ะ” โจวลี่พาสาวมั่นไปยังพื้นที่ลิมิเต็ดอิดิชั่นด้วยความอ่อนน้อม กลับพบว่าเสี้ยเมิ่งเหยาก็อยู่ตรงนี้ด้วย
เวลานี้ เสี้ยเมิ่งเหยากำลังดูกระเป๋าสีแดงสดใบหนึ่งพอดี
พอเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา เห็นได้ชัดว่าในสายตาของสาวมั่นมีความอิจฉา ไม่ใช่เรื่องอะไร คือเสี้ยเมิ่งเหยาสวยเกินไป แม้ว่าเธอต้องการหาจุดบกพร่อง บนตัวของเสี้ยเมิ่งเหยาสักนิด ก็ยาก
ผิวอิ่มน้ำราวกับเด็กสาวอายุ 16 17 ปี ร่างสูงเซ็กซี่อย่างปีศาจ ยังมีสีหน้ายังดูอ่อนเยาว์
ผู้หญิงสวยคนนี้ถือว่าตัวเองเป็นคนที่สวยมากแล้ว แต่อยู่ต่อหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา ทันใดนั้นเธอกลับกลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่