ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 108 สามีแกตีมาเหรอ
บทที่ 108 สามีแกตีมาเหรอ
ส่วนอีกฝั่ง ฉินหู่ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว เสื้อที่แผ่นหลัง ชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อที่ไหลพราก
เมียของตัวเอง กล้าที่จะฉีกหน้าผู้หญิงของเฉินเฟิงเช่นนี้ แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ ก็มาช่วยเขาไว้ไม่ได้!
“ทำอะไรไม่ยั้งคิด!” เฉียวเสี่ยวโย่วพูดด่าออกมาด้วยความโกรธ คิดไม่ถึงว่าหยานชุนเหมยจะชั่วช้าขนาดนี้
“ฉินหู่ มานี่!” เฉิงหลงตวาดใส่อย่างเยือกเย็น หยานชุนเหมยยิ่งผยองพองขนาดอย่างนี้ ฉินหู่ก็พลอยติดร่างแหโดนไปด้วย
“พี่หลง……”ฉินหู่ทุกข์ระทมขมขื่น กลับไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลย เดินเข้ามาเสียงดังตุ๊บ เขาคุกเข่าลงต่อหน้าเฉินเฟิง
“ฉันไม่อยากเห็นพวกเธอสองคนอีก”เฉินเฟิงมองไปที่โจวลี่และหยานชุนเหมยพูดด้วยสายตาที่เยือกเย็น
“เข้าใจแล้ว คุณชายเฉิน!”รังสีความเย็นชาสาดส่องออกมาจากดวงตาของเฉิงหลง ผู้หญิงสมองบื้อทั้งสอง ก็อาจจะสะกิดความโมโหของเฉินเฟิงเข้าแล้ว ความผิดไม่ถึงกับตาย แต่กล้าทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาเกิดความอับอาย ก็เหมือนกับสะกิดต่อมโมโหของเฉินเฟิงแล้ว
“ไว้ชีวิตเถอะ!” โจวลี่แทบคลานเข้าไปอยากจะจับที่เท้าของเฉินเฟิง แต่กลับถูกเฉิงหลงใช้เท้าเตะออกไป
หยานชุนเหมยก็มองไปที่ฉินหู่ด้วยอาการที่สั่นไม่หยุด พูดขอร้อง: “ที่รัก ช่วยฉันด้วย”
ฉินหู่ไม่หันไปมองที่หยานชุนเหมยแม้แต่น้อย ในเวลานั้น แม้แต่ตัวเขาเองยังปกป้องไม่ได้ จะช่วยหยานชุนเหมยได้อย่างไร
เฉิงหลงหยิบมีดเหน็บขึ้นมา เหวี่ยงไปตรงหน้าของฉินหู่ พูดอย่างเยือกเย็น : “พวกเธอทั้งสอง ให้นายจัดการก็แล้วกัน!”
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว แต่ไม่พูดจาอะไร เฉิงหลงใช่ว่าตัวเขาเองจะจัดการเองไม่ได้ เขายื่นโอกาสให้กับฉินหู่ เพื่อคิดอยากจะช่วยชีวิตของฉินหู่เอาไว้
ฉินหู่อดไม่ได้ที่จะข่วนเข้าไปที่หน้า ให้เขาลงมือกับเมียของเขาเอง เขาจะลงมือจัดการได้อย่างไร แต่ว่าเขาเองก็เข้าใจ นี้เป็นเพียงโอกาสเดียวของเขา มิเช่นนั้นแม้ว่าเฉินเฟิงจะไม่ฆ่าเขา แต่เฉิงหลงก็คงไม่ปล่อยเขาไปแน่
ทันใดนั้นฉินหู่ก็กัดฟัน หยิบมีดเหน็บขึ้นมา เดินไปตรงหน้าของโจวลี่ ภายใต้แววตาที่หวาดกลัวของโจวลี่ ง้างมีดแทงลงไป หลังจากแทงเข้าไปแล้วกี่แผล โจวลี่ก็ไม่มีเสียงลมหายใจแล้ว
“ที่รัก……”หยานชุนเหมยตกใจจนสีหน้าขาวซีด ปัสสาวะไหลออกมาไม่หยุด
“ขอโทษนะชุนเหมย……”ฉินหู่สีหน้าที่สับสน ดึงมีดเหน็บขึ้นมา……
หลังจากที่ออกมาจากซื่อเม่าเทียนตู เฉินเฟิงก็ตรงไปที่โรงพยาบาลเลย
ในเวลานั้น ห้องคนไข้ หมอผู้หญิงกำลังทำความสะอาดแผลให้กับเสี้ยเมิ่งเหยา
หมอผู้หญิงรูปร่างดีมาก มองจากด้านหลัง ก้นทั้งสองข้างที่อวบอั๋นนู้นออกมา แม้ว่าจะสวมใส่เสื้อขาวหลวมๆ แต่ก็ยังคงเห็นรูปร่างที่บางเฉียบ
“โธ่ เสี้ยเมิ่งเหยา ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ได้มาเจอแกอีกครั้ง ในโอกาสแบบนี้”หมอผู้หญิงถอนหายใจ น้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ
“เจียเมิง ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ แกไม่ต้องกังวล”เสี้ยเมิ่งเหยายิ้มอย่างขมขื่น แพทย์หญิงหวังเจียเมิงเป็นรูมเมทที่เรียนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกับเธอ เสี้ยเมิ่งเหยาก็คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้ นานๆครั้งกว่าจะเข้ามาโรงพยาบาล กลับคิดไม่ถึงว่าหมอที่รักษาให้ตัวเองจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยมหาวิทยาลัยของตัวเอง
หวังเจียเมิงคิ้วเรียวสวยประดุจใบของต้นหลิว ชี้ไปที่บาดแผลที่ท้ายทอยของเสี้ยเมิ่งเหยา พูดอย่างปวดใจ : “นี้เรียกว่าไม่เป็นอะไรเหรอ?!ฉันจะบอกแกให้น่ะ บาดแผลนี้หากลึกกว่านี้อีกหน่อย ชีวิตน้อยๆของแกในวันนี้จะรักษาไว้ได้หรือไม่นั้นยังไม่รู้เลย”
“แล้วอีกอย่าง ผิวของผู้หญิงอย่างเราๆ ก็คือหน้าตาของผู้หญิง แกว่า แผลของแกนี้ หากจัดการได้ไม่ดี ทิ้งแผลเป็นเอาไว้ จะน่าเกลียดมากขนาดไหน”
“แล้วอีกอย่างเสี้ยเมิ่งเหยา ตอนที่แกอยู่มหาวิทยาลัย ก็เป็นดาวมหาลัยของเรา ผู้ชายที่ตามจีบแกในตอนนั้น เข้าแถวกันตั้งแต่เขตทางทิศเหนือยันเขตทางทิศใต้ของมหาวิทยาลัย แม้ว่าตอนนี้ แกจะแต่งงานแล้ว ก็ยังมีคนอีกมากมายที่ไล่ตามจีบแกอย่างไม่ยอมแพ้ มาหาฉันเพื่อถามถึงแก ถึงขั้นกับมีพวกที่ลุ่มหลงอย่างมาก บอกว่าขอเพียงแค่แกหย่า พวกเขาก็จะนำคณะหามเกี๊ยวทั้งแปดไปขอแกแต่งงานทันที แกว่าถ้าหากพวกเขาเห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้าของแก พวกเขายังกล้าที่จะพูดจาแบบนี้ไหม?”
พูดมาถึงตรงนี้ ในแววตาของหวังเจียเมิงมีร่องรอยของความอิจฉา แต่สิ่งที่เธอพูดไม่ได้โกหกแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเรียนจบมาแล้ว 3 ปี ในมหาวิทยาลัยยังคงมีผู้ชายจำนวนที่นับไม่ถ้วนที่นึกถึงเสี้ยเมิ่งเหยา พวกเขาเหล่านั้นมีทั้งลูกคนรวยและลูกข้าราชการที่หลงใหลในตัวเสี้ยเมิ่งเหยา ถึงขั้นป่วยกันเลยทีเดียว
เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัวและกล่าวอย่างฝืนยิ้ม “เจียเมิง ฉันแต่งงานมา 3 ปีแล้ว แล้วอีกอย่างสามีดีกับฉันมาก ตอนนี้ฉันก็มีความสุขดี แกไปบอกพวกเขานะ ไม่ต้องให้พวกเขารอแล้ว ยังไงซะชาตินี้ฉันก็จะไม่มีวันหย่าร้างกับเขาหรอก”
“เสี้ยเมิ่งเหยาเราสองคนก็เพื่อนกันนะ แกโกหกแล้วจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ?”หวังเจียเมิงพูดและถอนหายใจ “เสี้ยเมิ่งเหยาถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ รอยฝ่ามือบนหน้าของแก สามีแกเป็นคนทำใช่ไหม แล้วก็บาดแผลที่ท้ายทอยของแก แกอย่าบอกนะ ว่าเป็นเพราะแกไม่ระวัง แกทำมันเอง ”
รอยฝ่ามือบนใบหน้าของเสี้ยเมิ่งเหยานั้น หวังเจียเมิงเห็นตั้งแต่แรกแล้ว เห็นได้ชัดเจนมากว่าโดนตบมา บวกกับเสี้ยเมิ่งเหยามาคนเดียว เป็นธรรมชาติที่หวังเจียเมิงคิดไปถึงความรุนแรงภายในครอบครัว
“เจียเมิง ทำไมแกถึงคิดอย่างนี้ได้ล่ะ?” เสี้ยเมิ่งเหยาอึ้ง “ฉันแต่งงานกับสามีมา 3 ปี เขายังไม่เคยด่าฉันสักคำ แล้วเขาจะตบฉันได้ยังไงล่ะ?”
“จริงเหรอ?” หวังเจียเมิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แล้วกล่าวอีกว่า “แล้วทำไมสามีไม่ไปมาโรงพยาบาลกับเธอล่ะ?”
“ก็สามีฉันไปจัดการยัยผู้หญิงคนนั้นที่ตบหน้าฉันไง” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดตามความจริง เขาไม่รู้ว่าเฉินเฟิงจัดการหยานชุนเหมยและโจวลี่ ยังไง แต่เห็นเฉินเฟิงโกรธแบบนั้น เห็นได้ชัดว่าจะไม่ปล่อย หยานชุนเหมยและโจวลี่ไม่ง่ายๆ
“สามีของแกเป็นแค่คนส่งอาหารไม่ใช่เหรอ?” หวังเจียเมิงยิ่งสงสัย แค่คนส่งอาหารคนหนึ่ง จะจัดการเรื่องอะไรได้
“เขา….” เสี้ยเมิ่งเหยาอยากจะบอกว่าตอนนี้เขาไม่ได้เป็นคนส่งอาหารอีกต่อไปแล้ว แต่พอมาคิดว่าตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าเฉินเฟิงทำอะไรอยู่ จึงหยุดพูดไว้แค่นั้น
ดูเหมือนว่าเสี้ยเมิ่งเหยารู้สึกลำบากใจนิดหน่อย หวังเจียเมิงรีบพูดออกไป “เมิ่งเหยา ฉันก็พูดไปอย่างนั้น อย่าเอาไปใส่ใจเลย ฉันไม่ได้หมายความว่าจะดูถูกสามีของแกนะ”
เสี้ยเมิ่งเหยาฝืนยิ้ม อธิบายก็เท่ากับการปกปิด หวังเจียเมิงพูดเช่นนี้ ความหมายที่ดูถูกเฉินเฟิงก็ยิ่งเห็นได้ชัด แต่เสี้ยเมิ่งเหยาก็พูดอะไรไม่ได้ เธออยากจะบอกว่าเฉินเฟิงไม่ธรรมดา แม้แต่หวังเจียเมิงก็อาจจะไม่เชื่อ จริงๆแล้วเธอรู้ดี บรรดาเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงทั้งหลาย เพื่อนๆ ล้วนแล้วก็เต็มใจเชื่อมั่นว่าเฉินเฟิงเป็นเด็กส่งอาหาร
“ไม่เป็นไร ฉันคิดว่าสามีของฉันเป็นเด็กส่งอาหาร ก็ดีนะ” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างยิ้มๆ นี่เป็นความคิดที่แท้จริงของเธอ บางครั้ง ที่จริงเธอก็ยิ่งหวังว่าเฉินเฟิงจะเป็นคนส่งอาหารจริงๆ แม้ว่าในหนึ่งเดือนจะได้ค่าแรงเพียงแค่ 5-6 พันหยวน อย่างนั้นเธอก็ชอบ เพราะเฉินเฟิงที่เป็นแบบนั้น จะได้ใช้ชีวิตกับเธออย่างราบรื่นและสงบสุขไปชั่วชีวิต
แตกต่างจากตอนนี้ แม้ว่าตัวตนของเฉินเฟิงไม่ธรรมดา แต่วิกฤตต่างๆมากมายก็มาพร้อมกัน เสี้ยเมิ่งเหยากลัวว่าสักวัน ตัวเธอเองจะไม่สามารถรับมือกับวิกฤตเหล่านี้ได้ หรือจะกลายเป็นจุดอ่อนของเฉินเฟิง ตอนนั้นที่คบกับเฉินเฟิง กลัวว่าทั้งหมดนี้จะเป็นแค่ความเพ้อฝัน