ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 110 สวีตงเหลียง
บทที่ 110 สวีตงเหลียง
หลังจากที่หวังเจียเมิงจากไป เสี้ยเมิ่งเหยาหันไปมองเฉินเฟิง
“คุณจัดการพวกเขายังไงเหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะถาม เป็นครั้งแรกที่เธอมองเฉินเฟิงด้วยความโกรธขนาดนี้ และก็ไม่รู้ว่าเฉินเฟิงจัดการกับโจวลี่และหยานชุนเหมยอย่างไร
“ก็ไม่ยังไง ก็แค่ให้บทเรียนที่ไม่มีวันลืมแก่พวกเขาทั้งสองเท่านั้นเอง” เฉินเฟิงกล่าวแล้วยิ้มเบาๆ
เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าเบาๆ และไม่สงสัยอะไร
“งั้นคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณใช่ไหม? ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนว่าจะมีคนหนุนหลังนะ” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างกังวล หลังจากที่ฉินหู่ สามีของหยานชุนเหมยมาที่นี่ คิดไม่ถึงว่าเขากล้าตัดแขนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในที่สาธารณะ กระทำโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากไม่อาศัยอิทธิพลคนอื่นเรื่องนั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้หรอก เธอกลัวว่าเฉินเฟิงจะเกิดปัญหา
เฉินเฟิงส่ายหัว แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว”
“สองสามวันนี้ก็พักอยู่ที่โรงพยาบาลให้เต็มที่เถอะ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นแล้ว” เฉินเฟิงพูดและยิ้มให้
“อืม” เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้า แต่ในใจลึกๆยังคงกังวลอยู่ เธอค้นพบว่าเธอดูเหมือนจะยิ่งไม่เข้าใจเฉินเฟิงเข้าไปทุกที
แค่พริบตาเดียว ก็ผ่านไปสองวันแล้ว
หน้าประตูมหาวิทยาลัยจินหลิงหญิงสาวน่ารักๆรวมตัวและพูดคุยกันจนกลายเป็นบรรยากาศน่ารักๆ
หวังเจียเมิงยืนอย่างโดดเด่นอยู่ตรงกลาง
เนื่องจากทุกคนต่างก็จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจินหลิงดังนั้นจุดนัดพบของชั้นเรียนทุกชั้นปี ก็จะอยู่ตรงหน้าประตูมหาวิทยาลัยจินหลิง
“เจียเมิง ทำไมครั้งนี้ไม่พาสามีมาด้วยล่ะ?” ตรงข้ามหวังเจียเมิงมีหญิงสาวร่างอวบในชุดเซ็กซี่
ถามด้วยรอยยิ้ม ตอนนั้นที่มหาวิทยาลัยหวังเจียเมิงก็เป็นสาวสวยดาวคณะเช่นเดียวกับเสี้ยเมิ่งเหยา หลังจากที่จบการศึกษาหวังเจียเมิงก็แต่งงานกับเถ้าแก่ถ่านหินในจิ้นซี ที่รายได้สุทธิกว่า 100 ล้าน
ได้ยินคำว่าสามี ในดวงตาของหวังเจียเมิงก็สัมผัสได้โศกเศร้าขึ้นมาทันที แต่เธอกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “โธ่ อย่าพูดถึงเลย เหมืองถ่านหินผีๆนั่นของฉัน เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งเกิดอุบัติเหตุ คนงานที่นั่นก็ยุ่งวุ่นวาย เขาก็เลยไปดูแลคนงานที่จิ้นซีเลย”
สาวอวบพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “งั้นเธอต้องให้สามีจัดการให้ดีๆ ต้นปีนี้ อุบัติเหตุแบบนี้ถ้าหากจัดการไม่ดี เดี๋ยวมีคนเห็นทางอินเทอร์เน็ตเข้า ถึงตอนนั้นปัญหาใหญ่เกิดขึ้นแน่”
หวังเจียเมิงพยักหน้า แต่ยิ้มอย่างไม่ฝืนใจ
จริงๆไม่มีใครรู้เลยว่าปีที่เธอจบการศึกษา แท้จริงแล้วไม่ได้แต่งงานกับเถ้าแก่ถ่านหินอะไรนั่นเลย แต่เป็นการโกหก ตอนนั้นไอ้คนขี้โกหกนั่นไม่ใช่เถ้าแก่ถ่านหินของจิ้นซีเลย ภายใต้ความโลภมากจนขาดสติ เธอดันเชื่อซะงั้น
หลังจากที่แต่งงานไป เธอเพิ่งรู้ความจริง แต่ตอนนั้นดันมีลูกอยู่ในท้องแล้ว เธอทำได้เพียงอดทนอดกลั้นความโกรธ ให้ผ่านพ้นวันๆ
“ได้ข่าวว่ากลุ่มผู้ชายห้องเรา หลายคนตอนนี้ก็ไปได้ดี” หญิงสาวอวบพูดเปิดประเด็นให้คนอื่นฟัง จริงๆเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนกังวลที่สุด แม้ว่าทุกคนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่สังคมแตกต่างกัน บางคนแค่เวลาสั้นๆ 2-3 ปี ก็กลายมาเป็น ผู้บริหารบริษัทต่างชาติ เงินเดือนต่อปี 5-6 แสนหยวน แต่มีบางคน ตอนนี้ยังคงดิ้นรนอยู่ในสังคมระดับล่าง ยิ่งไปกว่านั้นยังหางานไม่ได้ด้วย
“ใช่ พวกเธอยังจำจ้าวโยวปิงได้หรือเปล่า?”
“เด็กผู้ชายคนที่ทั้งน่าเกลียดทั้งต่ำช้าเหรอ?ฉันจำได้ตอนนั้นเหมือนจะยังเคยตามจีบเจียเมิง ด้วย”
“ใช่ เขานั่นแหละ แต่ตอนนั้นเจียเมิง ก็ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา แถมเธอยังทิ้งจดหมายรักที่เขาเขียนให้ ลงถังขยะต่อหน้าสาธารณชนเลยล่ะ
ทุกคนต่างก็ซุบซิบกัน จนในที่สุดหวังเจียเมิงก็นึกออกแล้วที่พวกเขาพูดถึงจ้าวโยวปิงนั้นคือใคร
“ตอนนี้เขาไปได้ดีหรือเปล่า?”หวังเจียเมิงอดไม่ได้ที่จะถาม
“ไม่ใช่แค่ดี ได้ข่าวว่าหลังจากที่เขาเรียนจบ ก็ได้ทำงานที่บริษัทข้ามชาติ ระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ก็ได้ดำรงตำแหน่งรองประธาน ตอนนี้เงินเดือนต่อปีก็ 1 ล้านกว่า อีกไม่นานเงินเดือนก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย” สาวอวบพูดอย่างอิจฉา
1 ล้านกว่าหยวนเหรอ? หลังจากนี้ยังเพิ่มขึ้นอีกเหรอ?หวังเจียเมิงอ้าปากค้าง ในใจเกิดสำนึกผิด ถ้าตอนนั้นตอบรับรักเขาก็คงจะดี ตอนนี้จะได้ไม่ต้องลำบาก
“แต่เจียเมิง เธอถูกแล้วที่ปฏิเสธเขาในตอนนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาไปได้ดี แต่ถ้าเทียบกับสามีของเธอ ยังห่างกันอีกไกล” สาวอวบพูดยิ้มๆ ถึงแม้จ้าวโยวปิง จะมีชีวิตที่ดี แต่ก็ยังเทียบกับเถ้าแก่ถ่านหินไม่ได้หรอก
หวังเจียเมิงสีหน้าแข็งทื่อ ถ้าเขามีสามีเป็นเถ้าแก่ถ่านหินจริงๆก็คงจะดี
“แต่ในบรรดาเพื่อนห้องเราประมาณ 60 คน คนที่มีชีวิตที่ดีที่สุดก็คือ หนุ่มป๊อปสวีตงเหลียง” สาวอวบดูเหมือนจะรู้ไปทุกเรื่อง รู้ความเป็นอยู่ของเพื่อนในห้องทุกคนเลย
“สวีตงเหลียง เหรอ?” พอได้ยินชื่อนี้ สายตาของสาวๆทั้งหลาย สัมผัสได้ถึงสายตาที่เป็นประกาย
ถ้าหากว่าเสี้ยเมิ่งเหยาเป็นผู้หญิงในฝันของเด็กผู้ชายทุกคนในมหาวิทยาลัย งั้นสวีตงเหลียง ก็คงจะเป็นเทพบุตรที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน สาวๆในสนามไม่มากก็น้อย ต่างก็ติดใจสวีตงเหลียง น่าเสียดาย ที่ในสายตาของสวีตงเหลียง มีแค่เสี้ยเมิ่งเหยาผู้เดียว
“ตอนนี้สวีตงเหลียงทำงานที่ไหนเหรอ?”หวังเจียเมิงถาม ในตอนนั้นเธอก็เป็นหนึ่งในบรรดาสาวๆที่ชอบสวีตงเหลียง แต่สวีตงเหลียงประกาศศักดาว่า ชีวิตนี้ต้องแต่งงานกับเสี้ยเมิ่งเหยา ก็เพราะเรื่องนี้ เธอจึงเคยเกลียดเสี้ยเมิ่งเหยา
“ทำงานเหรอ? ตอนนี้เขาไม่ได้ทำงาน” สาวอ้วนพูดพร้อมส่ายหัว “ตอนนี้เขาเปิดโรงงานเย็บผ้าเป็นของตัวเอง เป็นหัวหน้า ได้ข่าวว่าลูกน้อง 300-400 คนเลย”
“300-400 คนเลยเหรอ ! “ ทุกคนตกใจ
“อืม ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับเราแล้วนะ โรงงานเย็บผ้าของเขา กำไรสุทธิปีละ 30 ล้านกว่าหยวน ช่วงนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังได้สร้างความสัมพันธ์กับตระกูลหลิ่ว
หวังเจียเมิงเสียใจมาก…. ถ้าตอนนั้นไม่มีเสี้ยเมิ่งเหยา เธออาจจะคบกับสวีตงเหลียงแล้วก็ได้ หลังจากที่เรียนจบ ก็คงจะไม่โดนหลอก และยิ่งไม่ต้องมาทนลำบากอยู่หรอก
“หลี่เสว่ งั้นครั้งนี้สวีตงเหลียงจะมาไหม?”หวังเจียเมิงถามอย่างอดไม่ได้ เมื่อสองครั้งก่อนการนัดรวมตัวเพื่อนร่วมห้อง คนที่มาเข้าร่วมบางคนที่ไม่สนิท ไม่ได้สำคัญอะไร บุคคลที่ทุกคนให้ความสำคัญอย่างสวีตงเหลียง ปกติก็ไม่ปรากฏตัวอยู่แล้ว ถ้าครั้งนี้สวีตงเหลียง มาด้วยละก็ เธอจะพูดยังไงดี และต้องติดต่อกับสวีตงเหลียงอีกครั้ง ให้สวีตงเหลียงช่วยเหลือตัวเอง
สาวอวบหลี่เสว่ ยิ้มและพูดว่า “มาแน่นอน ครั้งนี้สวีตงเหลียงไม่ใช่แค่มา ยิ่งไปกว่านั้นการนัดสถานที่รวมตัวกันครั้งนี้ของพวกเรา ก็เขานั่นแหละเป็นคนจอง
“ที่ไหน?”
“คฤหาสน์หัวฉี” หลี่เสว่บอก
“คฤหาสน์หัวฉี เหรอ” ดวงตาสาวๆเบิกกว้าง ที่ที่นั่นเป็นร้านอาหารสุดหรูที่แพงที่สุดในจินหลิงเลย พ่อครัวในนั้น เคยเป็นเชฟมิชลินระดับ 3 ดาว ค่าอาหารต่อหัวอย่างต่ำก็ 3-4 พันหยวน
สวีตงเหลียง จะเลี้ยงได้จริงดิ?
ถ้ารู้ว่า ทั้งห้องมีทั้งหมด 60 กว่าคน เกิดพวกเขามากันหมด งั้นก็คงต้องจ่ายหลายแสนเลย ไม่ว่าสวีตงเหลียงจะรวยแค่ไหน ก็คงถลุงเงินขนาดนั้นไม่ไหวมั้ง ถ้าหากว่าทานมื้อนั้นเสร็จ แล้วสวีตงเหลียงบอกว่าไม่เลี้ยงล่ะ ให้ต่างคนต่างจ่ายจะทำยังไง?