ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 113 รถแลนด์โรลเวอร์
ตอนที่ 113 รถแลนด์โรลเวอร์
สายตาของสวีตงเหลียงแฝงไปด้วยความโกรธแค้น หญิงสาวที่เขาตามจีบมาตลอดสี่ปี แต่งงานกับพนักงานส่งของ ที่น่าเจ็บใจก็คือ ผู้ชายคนนี้กลับไม่ปกป้องดูแลหญิงสาวที่เขารักให้ดี ซ้ำต้องทำให้หล่อนต้องกลายเป็นเมียน้อย
เรื่องนี้ เขารับไม่ได้!
“นี่ พี่เหลียง พี่ใจดีเกินไปแล้ว”
“นั่นสิ ผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเสี้ยเมิ่งเหยา ตอนนั้นตาบอดหรืออะไร ปล่อยให้เทพบุตรอย่างพี่เหลียงต้องรอคอย ตัวเองกลับไปแต่งงานกลับคนส่งของ สมองมีปัญหาหรือยังไง”
“หล่อนคงต้องเสียใจมากแน่นอน”
เมื่อทุกคนเพิ่งพูดจบ รถแท็กซี่คันหนึ่งก็จอดลงตรงหน้า
เฉินเฟิงกับเสี้ยเมิ่งเหยาเดินลงมาจากรถ
ทุกคนต่างพากันประหลาดใจ พวกเขานั่งรถแท็กซี่มา? สามีของเสี้ยเมิ่งเหยาเป็นคนเหลวไหลสมชื่อเสียง ขนาดรถสักคันยังไม่มีปัญญาซื้อ
เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา สายตาของสวีตงเหลียงเต็มไปด้วยความเร่าร้อนทันที ไม่เจอกันสามปี เสี้ยเมิ่งเหยายังคงดูดีเช่นเดิม กลับสวยกว่าแต่ก่อนอีกด้วย ดูมีเสน่ห์และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อีกทั้งรูปร่างอวบอิ่มกว่าเดิม
แต่เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยาเดินจูงมือมากับเฉินเฟิง สีหน้าของสวีตงเหลียงซึมลงไปทันที
“เมิ่งเหยา ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” แม้ว่าเฉินเฟิงจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ก็ยังยิ้มทักทายให้สวีตงเหลียง
“ไม่เจอกันนานเลยนะ” เสี้ยเมิ่งเหยาก็พูดทักทายกลับตามมารยาท
“นี่คงเป็นสามีของเธอใช่ไหม?” สายตาของ”สวีตงเหลียงเหลือบมองไปยังเฉินเฟิงด้วยสายตาอันเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด
“อื้ม เขาชื่อเฉินเฟิง” เสี้ยเมิ่งเหยายิ้มและพูดตอบ
“สวัสดีครับ” เฉินเฟิงยิ้มและยื่นมือออกไป แต่สวีตงเหลียงเพียงแค่ชายตามองเฉินเฟิงเท่านั้น ไม่ได้มีท่าทีจะจับมือทักทายกับเขา
จะอวดดีกับฉัน? เฉินเฟิงยิ้มเยาะ จากนั้นรีบเก็บมือกลับทันที
เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดอะไร จากนั้นหันไปมองพวกหวังเจียเมิงและหลี่เสว่ แต่กลับสังเกตเห็นว่า นอกจากหวังเจียเมิง คนอื่นกลับยืนกอดอก มองตัวเองด้วยสายตาเย็นชาและรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
เสี้ยเมิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“ในเมื่อทุกคนมาครบแล้ว งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ” สวีตงเหลียงหัวเราะและพูดขึ้น
“ไปกันเถอะ”
“ประธานเหลียง วันนี้คุณเตรียมกระอักเลือดได้เลย เพราะต้องเลี้ยงข้าวผองเพื่อนพวกเราไม่พอ ยังต้องเลี้ยงคนหน้าด้านบางคนด้วย”
“ประธานเหลียง ไม่ถือสาเรื่องแบบนี้หรอก แต่ก็นะ คนหน้าไม่อายบางคน หน้ายังหนากว่ากำแพงเมืองอีก พอได้ยินว่าจะไปกินข้าวที่คฤหาสน์หัวฉี ก็รีบมาเลยนะ”
พวกผู้หญิงต่างพากันพูดดูถูกเยาะเย้ย ไม่ต้องพูดอะไร เสี้ยเมิ่งเหยาก็เดาได้ว่า พวกหล่อนกำลังเยาะเย้ยตัวเองกับเฉินเฟิง ทำไมวันนี้พวกหล่อนตั้งใจพูดเสียดีสีตัวเองมากขนาดนั้นนะ?
สวีตงเหลียงโบกมือพูดขึ้น : “ไม่เป็นไร กว่าเราจะมารวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตาได้ พูดเรื่องอะไรกระอักเลือด ข้าวมื้อหนึ่งแค่สามสี่หมื่นเอง ฉันจ่ายได้อยู่แล้ว”
คำพูดของสวีตงเหลียงแฝงไปด้วยความโอ้อวด ราวกับว่าเงินสามสี่หมื่นเปรียบเหมือนเงินสามสี่หยวน
หลังจากพูดจบ เขายังเหลือบมองเฉินเฟิงอีกครั้ง เพื่ออยากเห็นท่าทีตกใจของเขา
แต่เฉินเฟิงกลับมีสีหน้านิ่งเรียบ เงินสามสี่หมื่น สำหรับสวีตงเหลียงแล้ว อาจจะมีค่าพอๆกับสามสี่หยวน แต่สำหรับตัวเขา กลับเหมือนสามสี่สตางค์มากกว่า เพราะในบัตรเดบิตของเขา มีเงินเก็บอยู่พันล้าน
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดมากกันแล้ว ทุกคนรีบไปกันเถอะ ฉันเห็นหลายคนขับรถมา พวกเราก็ไปพร้อมกันเลย คันนึงสี่ห้าคน ขับไปพร้อมกัน ไม่ต้องโบกรถแท็กซี่แล้ว” สวีตงเหลียงยิ้มและพูดขึ้น
“เมิ่งเหยา เธอมานั่งรถฉันเถอะ” หลังจากพูดจบ สวีตงเหลียงยิ้มและมองไปที่เสี้ยเมิ่งเหยา
เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหน้า พูดขึ้น : “ไม่เป็นไร ฉันกับสามีนั่งแท็กซี่ไป”
สวีตงเหลียงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ตัวเองพูดถึงขนาดนี้แล้ว เสี้ยเมิ่งเหยายังไม่ไว้หน้าเขาอีก
เมื่อหลี่เสว่เห็นว่าสีหน้าของสวีตงเหลียงผิดปกติไป จึงรีบลุกขึ้นพูดอบรม : “เมิ่งเหยา ตอนกลางคืนนั่งแท็กซี่รถติดมากนะ อีกอย่าง ถ้าเธอไม่ไปพร้อมพวกเรา ถ้าพวกเราถึงก่อน พวกเธอยังไม่ถึง จะให้พวกเรารอเธองั้นเหรอ?”
“นั่นสิ เมิ่งเหยา เธอนั่งรถพี่เหลียงไปเถอะ รถของพี่เหลียงเป็นถึงรถแลนด์โรเวอร์เชียวนะ เธอคงไม่เคยนั่งรถแบบนี้มาก่อนแน่นอน วันนี้จะได้สัมผัสลองนั่งดูไงล่ะ”
พวกผู้หญิงที่สนิทกับสวีตงเหลียงต่างพากันลุกขึ้นเดินออกมา พวกหล่อนมองออกว่าสวีตงเหลียงยังรู้สึกดีต่อเสี้ยเมิ่งเหยา จึงออกตัวพูดแทนเขา เมื่อถึงตอนนั้นสวีตงเหลียงจะได้ดูแลพวกหล่อนดีๆ
เสี้ยเมิ่งเหยาเผยอปากขึ้น แต่ไม่รู้จะพูดอะไร ช่วงนี้คนขับรถเฉียวเสี่ยวโย่วคอยขับรถโรลส์รอยซ์รับส่งหล่อนตลอด รถแลนด์โลเวอร์จะไปเทียบอะไรได้?
“งั้นก็ได้ ฉันกับสามีนั่งรถของสวีตงเหลียงไป” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดด้วยท่าทีจนปัญญา
“ให้สามีของเธอไปนั่งรถคันอื่นเถอะ รถคันนี้ไม่มีที่นั่งแล้ว ฉันกับเจียเมิง และเสี่ยวเชี่ยน สามคน รวมเธอ สี่คนพอดี มีอีกคนหนึ่งก็น้ำหนักเกิน” หลี่เสว่พูดพลางหัวเราะ สวีตงเหลียงคิดอะไรอยู่ พวกหล่อนเข้าใจดี ถ้าเฉินเฟิงนั่งรถของเขาด้วย เขาจะใกล้ชิดเสี้ยเมิ่งเหยาได้อย่างไร
“หลี่เสว่พูดถูก ให้สามีของเธอไปนั่งรถคันอื่นเถอะ วันนี้มีเพื่อนขับรถมาเยอะแยะ นั่งคันไหนก็ได้” พูดพลาง สวีตงเหลียงมองไปที่ชายหนุ่มสวมชุดลายดอก ถามขึ้น “ซุนเลี่ยง รถของนายยังมีที่นั่งอีกไหม?”
“มีๆๆ! พี่เหลียง ให้พี่ชายคนนี้มานั่งรถผมได้เลย” ซุนเลี่ยงพูดอย่างสบายใจ สมัยเรียนเขาเป็นผู้ติดตามของสวีตงเหลียง ตอนนี้กลายเป็นคนสนิทรู้ใจของสวีตงเหลียง ขอแค่เขาสบตามอง ก็สามารถรับรู้ได้ว่าสวีตงเหลียงกำลังคิดอะไรอยู่
“เป็นยังไง เมิ่งเหยา?” สวีตงเหลียงยิ้มและหรี่ตาลงถามหล่อน
เสี้ยเมิ่งเหยารู้สึกลำบากใจพลางเหลือบมองเฉินเฟิง หล่อนกลัวว่าเฉินเฟิงจะคิดมาก
เฉินเฟิงกลับยิ้ม พูดขึ้น “อื้ม เธอไปนั่งรถเขาเถอะ ฉันนั่งคันไหนก็ได้”
“งั้นก็ได้ค่ะ”
“เมิ่งเหยารีบขึ้นรถเถอะ พวกเราไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว ฉันมีเรื่องมากมายอยากคุยกับเธอน่ะ” หลี่เสว่พูดด้วยความกระตือรือร้น
จากนั้นรีบดึงเสี้ยเมิ่งเหยาเข้ามานั่งในรถแลนด์โรลเวอร์
“เป็นไงบ้างเมิ่งเหยา” สวีตงเหลียงยิ้มและถามขึ้น
สวีตงเหลียงขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย ก่อนเข้าไปในรถ สวีตงเหลียงยังส่งสายตาขู่เฉินเฟิง จากนั้นขยิบตาให้ซุนเลี่ยง เขาพยักหน้าลง บ่งบอกว่าเข้าใจ
“ทุกคนขึ้นรถเถอะ ตามพี่เหลียงไป” ซุนเลี่ยงยิ้มและกวาดมองทุกคน
เฉินเฟิงไม่ได้คิดอะไรมาก เดินตามซุนเลี่ยงขึ้นรถไป
แต่ใครจะไปคาดคิดว่า ซุนเลี่ยงกลับยื่นมือออกมากันเฉินเฟิงไว้ ยิ้มและพูดกับเขา : “นายจะทำอะไร?”
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว พูดขึ้น : “ขึ้นรถไง”
“ขึ้นรถ?” ซุนเลี่ยงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ : “ขอโทษครับ รถคันนี้เต็มแล้ว นายโบกรถไปเองแล้วกัน”
เฉินเฟิงยิ้มกลับ กล้าเล่นแง่กับเขางั้นเหรอ?
“นายไม่ใช่คนส่งของรึไง? รถมอเตอร์ไซค์ส่งของล่ะ? ทำไมไม่ขี่มาด้วย?” ชายหนุ่มคนสนิทของซุนเลี่ยงหัวเราะพูดขึ้น
“เสียแล้ว” เฉินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ