ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 117 ดื่มเหล้าขาว
ตอนที่ 116 ฤทธิ์แอลกอฮอล์
“ในเมื่อคุณเฉินเป็นคนเลี้ยง งั้นทุกคนอยากกินอะไร ก็รีบสั่งเลย” ซุนเลี่ยงพูดอย่างมีเลศนัย ในเมื่อเฉินเฟิงอยากเสแสร้งดีนัก งั้นก็เตรียมตัวจ่ายเงินไว้ได้เลย เขาเกรงใจต่อสวีตงเหลียง แต่ไม่มีทางเกรงใจเฉินเฟิงแน่นอน
“น้อง ฉันขอสั่งปลาเก้ารสสามจาน” หวังเชาโบกมือเรียกพนักงานและสั่งอาหาร
“น้อง ที่นี่มีไวน์Domaine Romanée Contiรึเปล่า ถ้ามีเอามาสองขวด”
“น้อง…”
ภายใต้การนำของหวังเชาและซุนเลี่ยง ทุกคนต่างพากันสั่งอาหาร และเลือกเมนูที่ค่อนข้างแพง เดิมทีคิดจะสั่งแค่จานสองจาน แต่พอเฉินเฟิงเป็นคนจ่าย พวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสั่งเมนูละสามสี่จาน ในส่วนของไวน์ ไวน์ชนิดไหนแพง พวกเขาก็สั่งแบบนั้น เป้าหมายง่ายมาก เพื่อจะขูดเลือดเฉินเฟิง ให้เขาจ่ายให้สาสม
สวีตงเหลียงพยักหน้าด้วยความพอใจ สมแล้วที่ทุกคนเป็นเพื่อนของเขา อยู่เป็นกันจริงๆ
หวังเจียเมิงกลับหันมากระซิบข้างหูสวีตงเหลียง : “พี่เหลียง ถ้าไอ้หมอนั้นกำลังแสร้งทำเป็นมีเงินอยู่ แล้วไม่มีเงินจ่ายตอนเช็คบิล จะทำยังไงกันดี?”
ความหมายของหวังเจียเมิงชัดเจนมาก ถ้าเฉินเฟิงไม่มีเงินจ่าย งั้นที่พวกเขากินกันมากมายที่คฤหาสน์หัวฉี สุดท้าย คงต้องให้พวกเขาจ่ายเงินกันเอง หรือไม่สวีตงเหลียงออกเงินเพียงคนเดียว
สีหน้าของสวีตงเหลียงเปลี่ยนไปทันที เมื่อคิดว่ามีความเป็นไปได้เช่นนี้ ถ้าเฉินเฟิงไม่มีปัญญาจ่ายเงิน เขาคงแค่ขายหน้า แต่คนของตัวเองคงต้องเสียงเงินกันหมด
และมีความน่าจะเป็นมากว่า เขาต้องจ่ายเงินทั้งหมดเพียงคนเดียว เพราะหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น คงมีเพียงเขาที่สามารถช่วยได้
เมื่อคิดถึงตอนนี้ สวีตงเหลียงรีบกระแอมขึ้น พูดเตือน : “ทุกคนสั่งอาหารพอดีๆก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องสั่งเยอะ ถึงตอนจ่ายเงิน ถ้าใครบางคนแถวนี้จ่ายไม่ไหว บิลนี้ ฉันก็ต้องเป็นคนจ่ายอยู่ดี”
คำพูดของสวีตงเหลียงเห็นผลได้อย่างชัดเจน พวกคนที่กำลังคิดจะแกล้งเฉินเฟิง ต่างพากันหยุดสั่งอาหารทันที พวกเขาไม่ได้โง่ ถ้าเฉินเฟิงไม่มีเงินพอจ่ายจริงๆ หากเขาเป็นคนจนที่กำลังแสดงละคร งั้นอาหารที่พวกเขาสั่งไปสี่ห้าหมื่นต่อคน ก็คงกลับมาทำร้ายตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงสวีตงเหลียง แม้ว่าเขารวยมาก แต่คงไม่สามารถจ่ายเงินแทนพวกถึงสองสามล้านบาทได้
เมื่อเห็นพวกเขาเริ่มแผ่วลง เฉินเฟิงยิ้มอย่างมีเลศนัย สั่งอาหารกันล้านกว่า ก็ทำให้พวกนายกลัวขนาดนี้แล้ว? เดิมทีเขาคิดว่า คนพวกนี้จะสั่งอาหารกันสามสี่ล้าน แต่คิดไม่ถึงว่า จะสั่งแค่หนึ่งล้านกว่าบาท ก็กลัวกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว
เดิมทีคิดอยากจะให้พวกเขาได้กินอาหารดีๆ แต่พวกเขาไม่เจียมตัว ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน เฉินเฟิงคิดในใจ เขาอยากจะเลี้ยงข้าวพวกเขาจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่นกับหลี่เสว่แม้แต่น้อย
ไม่นานนัก บริกรก็นำอาหารมาเสิร์ฟ แต่สวีตงเหลียงกลับนั่งสังเกตสีหน้าของเฉินเฟิงอยู่ตลอด ถ้าเฉินเฟิงแสดงท่าทีขี้ขลาดออกมาเมื่อไหร่ เขาก็สามารถมั่นใจได้เลยว่า เฉินเฟิงกำลังแสดงละคร ที่น่าเสียดายก็คือ เฉินเฟิงนิ่งมาโดยตลอด ไม่แม้แต่กระพริบตาสักครั้ง
สวีตงเหลียงรู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที เป็นแค่พนักงานส่งของ จะมีเงินมากขนาดนั้นจริงเหรอ? แม้ว่าเขาจะเตือนให้ทุกคนสั่งอาหารให้น้อยลง แต่อาหารที่สั่งไปแล้ว ก็ประมาณหนึ่งล้านกว่าหยวนแล้ว แม้ว่าเขาเอง ยังรู้สึกเจ็บปวด แค่คนส่งของ เขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
ตอนนี้อารมณ์ของหลี่เสว่กับสวีตงเหลียงต่างกันไม่มากนัก หล่อนทั้งอยากจะให้เฉินเฟิงไม่มีเงิน และอยากให้เขามีเงิน รู้สึกสับสนมาก
เพิ่งจะทานอาหารได้เพียงครึ่งหนึ่ง หวังเจียเมิงทนนั่งต่อไปไม่ไหวแล้ว หล่อนสังเกตเห็นว่าสวีตงเหลียงคอยมองเสี้ยเมิ่งเหยาอยู่ตลอด ไม่สนใจตัวเองบ้างเลย
ความโกรธอันเดือดดาลของหวังเจียเมิงปะทุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถทนนั่งดูแบบนี้ต่อไปได้แล้ว!
ในที่สุดหวังเจียเมิงก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำ เพื่อจะได้จัดการเรื่องได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น หวังเจียเมิงถอดกางเกงในออก จากนั้นเดินกลับมานั่งข้างสวีตงเหลียง
“พี่เหลียง กินแค่ข้าวจะไปสนุกอะไร พวกเรามาดื่มกันหน่อยดีกว่า” หวังเจียเมิงพูดออดอ้อนสวีตงเหลียง ลมหายใจอันหอมหวานโบกโชยไปตรงหน้าของสวีตงเหลียงตลอดเวลา
สวีตงเหลียงรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลที่ไหล่มาหลายครั้ง จนเขารู้สึกเกิดอารมณ์ขึ้นมา เร่าร้อนไปทั่วท้อง เขาเป็นถึงคาสโนว่าตัวพ่อ ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าหวังเจียเมิงกำลังยั่วยวนตัวเองอยู่
ในเมื่อเขาครอบครองเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้ งั้นก็จัดการแม่สาวคนนี้ก่อนแล้วกัน สายตาของสวีตงเหลียงมองไปมา พูดขึ้น
“โอเคๆๆ! เรามาดื่มกันดีกว่า น้อง เอาเหล้าเหมาไถมาหน่อย” สวีตงเหลียงโบกมือสั่ง
ผ่านไปครู่เดียว พนักงานก็นำเหล้าเมาไถมาเสิร์ฟ ล้วนแล้วแต่เป็นเหล้าเหมาไถชั้นเลิศ
“เฉินเฟิง นายดื่มเหล้าเป็นไงบ้าง?” จู่ๆหวังเจียเมิงหันไปถามเฉินเฟิง
เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ : “พอใช้ได้”
“พอใช้ได้?” หวังเจียเมิงยิ้มอย่างมีเลศนัย พูดต่อ : “เทียบกับพี่เหลียงเป็นยังไง?”
“ไม่เคยดื่มด้วยกันมาก่อน จะไปรู้ได้ยังไง” เฉินเฟิงพูดด้วยความนิ่งขรึม แต่เขาพอคาดเดาได้ถึงความคิดของหวังเจียเมิง
“ตอนนี้ก็มีโอกาสแล้วไม่ใช่เหรอ” หวังเจียเมิงยิ้ม ในเมื่อตัดสินใจจะตีสนิทสวีตงเหลียงแล้วงั้นหล่อนต้องให้สวีตงเหลียงเห็นคุณค่าของตัวเองก่อน แต่ตอนนี้ การโจมตีเฉินเฟิง คือโอกาสเดียวที่จะทำให้สวีตงเหลียงเห็นคุณค่าในตัวของหล่อน
สวีตงเหลียงเห็นเฉินเฟิงแล้วขัดใจ ตัวเองแค่อยากช่วยให้เฉินเฟิงขายหน้า เพื่อที่จะทำให้สวีตงเหลียงมีความสุข
สวีตงเหลียงดื่มเก่งแค่ไหน หล่อนรู้ดี ตอนสมัยเรียนได้ชื่อว่าเทพแห่งการดื่ม ในวงเหล้า สวีตงเหลียงไม่เคยแพ้ให้ใคร
หวังเจียเมิงพูดเช่นนี้ สวีตงเหลียงเข้าใจความหมายของหล่อนขึ้นมาทันที ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชาย และยังอยู่ต่อหน้าผู้หญิงอีกด้วย แน่นอนว่าไม่มีทางยอมให้ตัวเองต้องด้อยกว่าคนอื่นแน่นอน
ตอนนี้แม้ว่าเฉินเฟิงจะดื่มไม่ได้ ก็ต้องฝืนบอกว่าตัวเองดื่มได้ ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่มีทางสู้หน้าเสี้ยเมิ่งเหยาได้แน่นอน
สวีตงเหลียงรู้สึกตื่นเต้นดีใจ หวังเจียเมิงแม่สาวน้อยคนนี้ชักจะมีประโยนชน์ขึ้นมาเสียแล้ว
“เป็นยังไง คุณเฉิน กล้าเทียบกันไหม ว่าใครคอแข็งกว่ากัน? แน่นอนว่า ถ้าคุณเฉินไม่กล้า ก็บอกกันมาตรงๆ ฉันไม่บังคับ” สวีตงเหลียงหัวเราะชอบใจ เล่ห์อุบายของเขา เฉินเฟิงมีเพียงสองตัวเลือกเท่านั้น หากไม่ยอมแพ้ไปเลย ก็ต้องแข่งดื่มเหล้ากับเขา ถ้าแข่งดื่ม สวีตงเหลียงไม่เคยเกรงกลัวใครมาก่อน ไม่ต้องพูดถึงเฉินเฟิง หากจะให้มีเฉินเฟิงรวมกันสิบคน ก็ไม่เทียบไม่ได้กับเขาดื่มคนเดียว
รอให้เฉินเฟิงดื่มจนเมา เขามีวิธีจะทำให้เฉินเฟิงต้องขายหน้า และเขาจะได้สนุกกับเสี้ยเมิ่งเหยาได้อย่างสบายใจ เป็นไปได้ว่า เขาอาจจะพาหวังเจียเมิงสาวเซ็กซี่ และเมิ่งเหยาไปเล่นสนุกพร้อมกันทีเดียว
“นายแน่ใจว่าจะแข่งดื่มกับฉัน?” สีหน้าของเฉินเฟิงแปลกไป
“ทำไม? นายไม่กล้า?” สวีตงเหลียงยักคิ้วขึ้น
เฉินเฟิงส่ายหน้า พูดต่อ : “ทำไมจะไม่กล้า ฉันแค่กลัวนายเสียใจภายหลัง”
“เสียใจ?” สวีตงเหลียงหัวเราะเยาะ “ในพจนานุกรมของฉันสวีตงเหลียง ไม่มีคำว่าเสียใจ!”