ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 131 สิ่งที่ฝังไปพร้อมคนตาย
บทที่ 131 สิ่งที่ฝังไปพร้อมคนตาย
“เรื่องเร่งด่วน? เรื่องอะไรถึงได้เร่งรีบกว่าการได้เจอเพื่อนสนิทของเรา!” เยาวชนที่มีชื่อของตู้จื่อถึงพึมพำด้วยเสียงเย็นชา
เฉินเฟิงเหลือบตามองตู้จื่อถึง แล้วถามด้วยเสียงเรียบเฉย “นายสำคัญตัวเองเกินไปหรือเปล่า?”
ตู้จื่อถึงทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป สายตาของเฉินเฟิง กลับทำให้เขารู้สึกกดดันสูงมาก ทว่าต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เขาก็ไม่สามารถอ่อนข้อได้
“ไม่ใช่ว่าผมสำคัญ แต่ว่าเพื่อนสนิทของเรานั้นสำคัญ ถึงแม้ตอนนี้คุณชายเฉินจะครอบครองหุ้น 39%ของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง ทว่าพอเอาหุ้นทั้งหมดของที่แต่ละคนได้ครอบครองมารวมกันก็ไม่ได้น้อยไปกว่าคุณชายเฉิน ตอนนี้คุณชายเฉินไม่ได้เห็นเราทุกคนอยู่ในสายตา ก็คงไม่มีเหตุผลเกินไปหรือเปล่า” ตู้จื่อถึงพูดด้วยเสียงเรียบเฉย ตัวเองคนเดียวก็ไม่สามารถต่อต้านเฉินเฟิงไว้อยู่ มีเพียงลากคนอื่นขึ้นไปบนเรือรบลำหนึ่ง แล้วจึงจะสามารถแข่งขันกับเฉินเฟิงได้
นอกจากหยางไท่แล้ว คนอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์ส่งเสียงใดๆ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขายอมรับในคำพูดของตู้จื่อถึง
ไม่ผิดที่เฉินเฟิงเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุด ทว่าต่อให้เอาคนอื่นไปรวมตัวกัน ก็ไม่ใช่คนที่เคยยุ่งเกี่ยวด้วยอย่างง่ายๆ เลย!
“ตู้จื่อถึง นายอย่ามาพูดจาเหลวไหลแถวนี้ คุณชายเฉินไม่เพียงแต่ไม่เห็นพวกคุณในสายตา คุณชายเฉินเขายัง……” หยางไท่เลยอยากจะอธิบายขึ้นอย่างเร่งรีบ ถ้าตู้จื่อถึงและคนพวกนี้ไปต่อต้านเฉินเฟิง งั้นคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงคงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกออกหน้า ตัวเองก็จะได้คำตอบจากวงในเอง
เวลานี้ เฉินเฟิงผายมือขึ้น จากนั้นก็ได้ขัดขวางหยางไท่ทันที
“หยางไท่ นายไม่ต้องอธิบายหรอก ฉันกำลังดูถูกพวกเขาจริงๆ” เฉินเฟิงยิ้มบางๆ แล้วพูดขึ้น คนพวกนี้ก็คือเศรษฐีเบอร์สองที่มาจากตระกูลชั้นสูงชั้นที่สอง แล้วยังเห็นว่าตัวเองสำคัญอีก ถ้านึกว่าในมือของพวกเขาถือหุ้นคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงสักหน่อย แล้วนึกว่าจะมีฐานะระดับเดียวกันกับเขาหรือไง พวกเขาจะดูถูกเขาเฉินเฟิงเกินไปหรือเปล่า
ได้ยินแบบนี้ สีหน้าของแต่ละคนดูเย็นชามากๆ เฉินเฟิงก็บอกแบบนี้แล้ว งั้นเรื่องนี้ก็คงไม่สามารถหวนกลับมาได้
หยางไท่เองก็รู้สึกเบื่อหน่ายอยู่เหมือนกัน และไม่เข้าใจว่าวันนี้เฉินเฟิงเป็นอะไรไป เขาดูโมโหง่าย ต่อให้เขาจะไม่เห็นตู้จื่อถึงอยู่ในสายตาจริงๆ ก็ไม่เหมือนพูดแบบนี้
“ไหนๆ คุณชายเฉินก็ดูถูกพวกเรา งั้นวันนี้การประชุมผู้ถือหุ้นก็คงไม่จำเป็นต้องดำเนินต่อไป พี่ไท่เราไปกันเถอะ” ตู้จื่อถึงพึมพำด้วยเสียงเย็นชา จากนั้นก็ทำสีหน้าที่หม่นหมองแล้วกำลังเดินจากไป เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรเฉินเฟิงที่นี่ ยังไงหยางไท่ก็อยู่ที่นี่แล้ว ถ้าเขาต้องการลงไม้ลงมือกับเฉินเฟิง งั้นคงจะทำให้หยางไท่รู้สึกลำบากใจแน่นอน
“ตู้จื่อถึง นายจะไม่ให้หน้าฉันจริงหรอ?” หยางไท่พูดขึ้นด้วยเสียงเรียบเฉย จนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่มีทางเป็นนกสองหัวอีกต่อไป ยังไงก็คงต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะเลือกพวกตู้จื่อถึงหรือว่าเฉินเฟิงดี คำตอบก็คงจะเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
“พี่ไท่ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้หน้าพี่หรอกนะ แต่การทำการตกลงในทุกๆ อย่าง ความเท่าเทียมและยุติธรรมต้องมาก่อนเสมอ ทว่าคุณชายเฉินไม่ได้เห็นพวกเราในสายตา แล้วจะให้พวกเราไปร่วมงานกับเขาได้ยังไงกัน?” ตู้จื่อถึงพูดขึ้นด้วยเสียงที่กำลังอดกลั้นความโมโห
ความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้ตู้จื่อถึงก็รู้สึกแปลกใจมากๆ หยางไท่กลับเลือกยืนอยู่ฝั่งของเฉินเฟิง ต้องเข้าใจว่า ผู้ถือหุ้นของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงที่เหมือนเขา ก็คงมีแค่หกคนเท่านั้น และเบื้องหลังของพวกเขาทั้งหกคน มีตระกูลชั้นสูงขั้นที่สองอยู่หกตระกูล ถ้ารวมๆ กันแล้ว ก็คงไม่ค่อยแตกต่างอะไรจากตระกูลขั้นที่หนึ่งสักเท่าไหร่ หยางไท่ทำธุรกิจสายโลจิสติกส์ในจินหลิงมาเป็นเวลาสิบปี จึงจะสามารถดึงตระกูลใหญ่ทั้งหกของพวกเขามาอยู่รวมกันได้ วันนี้ ไหนๆ หยางไท่ก็ยอมที่จะเป็นลูกน้องให้กับคุณชายตระกูลเฉินแห่งยันเจียงแล้ว แล้วยังทอดทิ้งเขาที่พยายามรวบรวมอำนาจในการทำธุรกิจโลจิสติกส์ให้ยิ่งใหญ่ด้วยความยากลำบากมาเป็นเวลาสิบปี แล้วยังเลือกที่จะยืนอยู่ฝ่ายเฉินเฟิงหยางไท่ทำแบบนี้ ก็คงจะฉลาดน้อยเกินไปหรือเปล่า
หยางไท่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ คำพูดของตู้จื่อถึงสมเหตุผลจริงๆ ทว่านั่นคือเฉินเฟิงเป็นทายาทผู้สืบทอดตระกูลเฉินแห่งยันเจียง พวกเขาไม่เข้าใจเลย ฐานะของคนที่เป็นผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน สำหรับพวกเขาแล้ว มันมีความหมายโดยนัยอะไรแอบแฝงกันแน่
ตอนนี้ หยางไท่รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ไม่ควรไปเอาใจและติดตามคนพวกเดียวกันกับตู้จื่อถึงเลย แล้วยังปิดบังเฉินเฟิงเรื่องที่ทำลายมือหนึ่งข้างของไป๋กว่างยี่และหยางชิงที่คฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง
“ตู้จื่อถึง อย่ามาหาว่าฉันไม่ให้โอกาสนาย ตอนนี้นายอยู่ที่นี่แล้วขอโทษคุณชายเฉินซะ คุณชายเฉินเป็นมีคนที่มีจิตใจกว้างขวาง ไม่มีทางถือสาคนอย่างพวกนายแน่นอน” หยางไท่แล้วยังมีแผนการที่จะดึงรั้งตู้จื่อถึงไว้
ทว่าตู้จื่อถึงกลับพึมพำด้วยเสียงเย็นชา แล้วพูดขึ้น “พี่ไท่ ความหวังดีของพี่ฉันรับไว้แล้ว สำหรับเรื่องขอโทษ……..รอให้เฉินเฟิงวางนิสัยที่หยิ่งผยองลงเมื่อไหร่ ผมจะมาขอโทษเขาอีกครั้งก็คงไม่สาย”
“ตู้จื่อถึง ทางที่ดีที่สุดนายอย่ามาเสียใจ!” หยางไท่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดขึ้น
ตู้จื่อถึงเบะปากอย่างไม่แคร์ เสียใจ? ในดิกชันนารีของตู้จื่อถึงไม่มีคำว่าเสียใจ!
อีกอย่างที่นี่คือจินหลิง ไม่ใช่ยันเจียง เฉินเฟิงของนายจะเก่งมากแค่ไหน แล้วจะทำอะไรได้เมื่อมันมาอยู่ในถิ่นของฉัน?
และในเวลานี้ บอร์ดี้การ์ดที่ใส่ชุดดำคนหนึ่งรีบเดินเข้ามา
“ท่านไท่ เขตล่าสัตว์เกิดปัญหาแล้วครับ!”
“เกิดเรื่องอะไรถึงต้องทำให้แกตื่นตระหนกขนาดนี้? ยังรู้จักปฏิบัติตามกฎไหม?!” หยางไท่ว่ากล่าวตำหนิด้วยเสียงโมโห
จากนั้นบอร์ดี้การ์ดที่ใส่ชุดดำก็กลืนน้ำลาย แล้วรีบเอ่ยคำขอโทษ “ท่านไท่ ขอโทษนะครับ เรื่องนี้มันเร่งด่วนจริงๆ”
“บอกมา!”
“ในเขตล่าสัตว์มีผู้หญิงคนหนึ่งไปมีเรื่องกับคุณตู้ครับ แล้วตอนนี้คุณตู้กำลังจะโยนผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในเขตเลี้ยงหมาป่าครับ!”
“เขตล่าสัตว์ป่า?!” เฉินเฟิงทำสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปทันที และเขาก็รีบพุ่งเข้าไปในห้องประชุมเหมือนคนบ้า
ทุกคนต่างก็มองหน้ากัน แล้วไม่รู้ว่าเฉินเฟิงเป็นอะไรไป
“ตู้จื่อถึง น้องสาวนายมีความเคืองแค้นอะไรกับคุณผู้หญิงของคุณชายเฉินเฟิง?” หยางไท่ถามขึ้นอย่างร้อนใจ ถ้าผู้หญิงคนนั้นที่ถูกตู้จื่อเยว่โยนเข้าไปในถ้ำหมาป่าสีดำ เป็นภรรยาของเฉินเฟิง งั้นวันนี้เกรงว่าทั้งคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงคงจะจบกัน!
“คุณผู้หญิงคุณชายเฉิน?” ใบหน้าของตู้จื่อถึงเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ทว่าเรื่องส่วนตัวของตู้จื่อเยว่เขาไม่เคยไปถามให้เรื่องมาก ดังนั้นตู้จื่อเยว่ไปเรื่องคับแค้นใจอะไรกับใครที่ไหน เขาไม่รู้จริงๆ
หยางไท่ขย่ำเท้าจริงๆ แล้วพูดขึ้น “ตู้จื่อถึง ตอนนี้แกภาวนาให้ดีเถอะ ถ้าน้องสาวอันโง่เขลาของแกคนนั้นโยนผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยาของคุณชายเฉินเข้าไปในเขตเลี้ยงหมาป่าก็ดีไป แต่ถ้าใช่ ตระกูลตู้ของพวกนาย ต้องกลายเป็นสิ่งที่ฝังพร้อมกับคนตายแน่นอน!”
ให้ตระกูลตู้กลายเป็นสิ่งที่ฝังไปพร้อมคนตายงั้นหรอ? ตู้จื่อถึงเบะปากอย่าไม่พอใจ แล้วพูดขึ้น “พี่ไท่ พี่ก็สำคัญตัวเฉินเฟิงเกินไปหรือเปล่า ฉันยอมรับ ตระกูลเฉินแห่งยันเจียงถือว่าเก่งจริงๆ แต่ว่าเฉินเฟิงคนนั้น ยังไม่รู้ว่าเป็นทายาทคนที่เท่าไหร่ที่จะได้สืบทอดตระกูลเฉินด้วยซ้ำ อีกอย่างที่นี่คือจินหลิงพี่ว่าเขาจะสามารถให้ทั้งตระกูลของฉันไปเป็นสิ่งฝังศพกับคนตายได้ไง ต่อให้ตีฉันให้ตายยังไงฉันก็ไม่เชื่อ”
“นายมันโง่! รอตระกูลตู้ของนายต้องพังพินาศเมื่อไหร่ นายถึงจะรู้ว่าเรื่องที่กูพูดใช่เรื่องจริงไหม!” หยางไท่ก่นด่าด้วยความโกรธ จนถึงตอนนี้ ตู้จื่อถึงยังไม่รู้ ตระกูลเฉินนี่มันความหมายว่าอะไรกันแน่
ตระกูลพังพินาศ? ตู้จื่อถึงจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ ทำไมแม้กระทั่งคำว่าตระกูลพังพินาศยังจะพูดถึงด้วย?
“พี่ไท่ พี่อย่ามาขู่ฉันหน่อยเลย ถ้าภรรยาคนนั้นของเขาตายไปจริงๆ ตระกูลตู้ก็แค่ออกแรงช่วยเขาตามผู้หญิงใหม่ที่สวยกว่า เขาจะทำลายตระกูลฉันให้พังพินาศเพื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยังไง?”
หาผู้หญิงคนใหม่ให้? หยางไท่แสยะยิ้ม สีหน้าดูเขียวคล้ำขึ้นมาทันที จากนั้นก็ตู้จื่อถึงและคนพวกนั้นของเขาจึงสบตากัน แล้วตามหยางไท่ไป