ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 136 ตู้จื่อถึงบ้าแล้ว
บทที่ 136 ตู้จื่อถึงบ้าแล้ว
หยางไท่รู้ดี ตั้งแต่สมัยก่อน การเป็นนกสองหัวก็คงไม่มีทางมีชุดจบที่ดี เขาไม่สามารถทำดีกับทั้งสองฝ่ายได้ ตระกูลตู้และเฉินเฟิง เขาต้องเลือกหนึ่งฝ่าย!
เรื่องที่จะเลือกตระกูลตู้หรือว่าเฉินเฟิง เขาในเวลานี้ ยังต้องเลือกอีกหรอ?
หยางไท่กัดฟันแล้วเดินไปตรงหน้า “จื่อถึง……”
“พี่ไท่!” จากนั้นก็มีเสียงคุกเข่าของตู้จื่อถึง คุกเข่าอยู่ตรงหน้าหยางไท่ แล้วร้องไห้น้ำตาคลอ “พี่ไท่ ยกโทษให้ด้วย”
หยางไท่ส่ายหน้า แล้วพูดขึ้น “จื่อถึง นายไม่ควรไม่ฟังคำพูดฉัน”
ตู้จื่อถึงยิ้มอย่างขมขื่น แน่นอนว่าเขารู้ ความหมายของคำพูดนี้ของหยางไท่ จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้หยางไท่เคยตักเตือนเขาหนึ่งครั้ง เฉินเฟิงไม่ได้บุคคลธรรมดา ทว่าเขากลับไม่ได้ฟังเข้าหู
“พี่ไท่ พี่บอกตัวตนที่แท้จริงของเขาให้ฉันหน่อยได้ไหม? ” ตู้จื่อถึงถามอย่างน่ารันทด
หยางไท่จึงมองเฉินเฟิงอย่างอดไม่ได้ แล้วอยากมองสีหน้าของเฉินเฟิง เพราะว่าก่อนหน้านี้เฉินเฟิงเคยบอก ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาต้องเก็บเป็นความลับ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงบอกตู้จื่อถึงและคนของเขาอย่างอ้อมๆ เฉินเฟิงกับตระกูลเฉินแห่งยันเจียงเกี่ยวข้องกัน เขากลับไม่กล้าพูด นี่ก็คือเหตุผลที่ทำไมตู้จื่อถึงถึงต้องมีเรื่องกับเฉินเฟิงที่ห้องประชุม
เฉินเฟิงไม่ได้ทำสีหน้าใดๆ และไม่ได้ไปมองหยางไท่
หยางไท่กัดฟัน แล้วเอาปากไปแนบกับหูของตู้จื่อถึง จากนั้นก็ใช้เสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน “คุณชายเฉินเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลเฉินแห่งยันเจียง มือของไป๋กว่างยี่และหยางชิง ก็คือคุณชายเฉินเป็นคนตีให้หัก ตัวของคุณชายเฉินเอง ก็คือจอมยุทธ์ อีกอย่างยังมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นจอมยุทธ์หั้วจิ้ง!
ม่านตาของตู้จื่อถึงจึงหดเล็กลง!
เป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเฉิน!
ยังเป็นจอมยุทธ์หั้วจิ้ง!
“ฮ่าๆๆ! ”
จู่ๆ ตู้จื่อถึงก็หัวเราะ เหมือนคนที่เป็นบ้าไปแล้ว หยางไท่จับจ้องตู้จื่อถึงไว้ แค่เห็นตู้จื่อถึงกล้าหลุดเรื่องที่เกี่ยวกับเฉินเฟิงออกมาเพียงนิดเดียว เขาก็คงจะลงไม้ลงมือ ตู้จื่อถึงก็คงจะตายคามัดเดียว
ทว่าตู้จื่อถึงกลับไม่ได้โดนแบบนั้น ตู้จื่อถึงแค่มองหยางไท่ด้วยนัยน์ตาที่นิ่งเฉย แล้วเอ่ยพูดขึ้น “พี่ไท่ ช่วยปลอบโยนพ่อแม่ของฉันที”
สีหน้าของหยางไท่ดูสับสนพลางพยักหน้า ปลอบโยนอะไร ตู้จื่อถึงไม่ได้พูด ทว่าหยางไท่กลับรู้
วินาทีต่อไป ตู้จื่อถึงจึงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นก็แย่งปืนลูกซองของบอร์ดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็เล็งไปตรงขมับของตัวเอง “ปัง” เพียงเสียงเดียว เสียงปืนดังสนั่นขึ้น ตู้จื่อถึงจึงล้มลงบนพื้นทันที หัวสมองเหมือนดั่งแตงโมที่ระเบิด จากนั้นบนพื้นก็เต็มไปด้วยของเหลวแดงๆ และขาวๆ
“โอ๊ย! ฆ่าคนแล้ว! ”
กลุ่มคนที่อยู่ในสถานการณ์ต่างก็ร้องออกมาด้วยเสียงแหลม จากนั้นก็เหมือนดั่งสัตว์ที่วิ่งกระจัดกระจายไป
เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้น สีหน้าจึงเผยความรู้สึกคาดคิดไม่ถึงออกมา คนอย่างตู้จื่อถึงที่โลภมากแล้วกลัวตาย กลับฆ่าตัวตาย นี่เป็นสิ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆ
และข้างๆ ที่มีเรือนร่างของโจวเซ่าฟึงที่สั่นเหมือนตะแกรง เขาถูกทำให้ตกใจมากๆ ตู้จื่อถึง……กลับตายแบบนี้เลยหรอ?!
เสี้ยเมิ่งเหยาถูกปลุกให้สะดุ้งตื่นเพราะเสียงปืนที่ดังลั่นขึ้น และทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาได้สติขึ้นมา
“เฉิงเฟิง…….” ตอนนี้สภาพของเสี้ยเมิ่งเหยากำลังอ่อนแอ ถึงแม้จะไม่รู้อะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทว่าสถานการณ์ ณ ตอนนั้นกลับทำให้เธอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
“เมิ่งเหยา เป็นอะไรไป? ” ใบหน้าของเฉินเฟิงกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หมาป่าดำกัดแผลที่ไม่ค่อยลึก เมื่อกู้เขาได้ใช้พลังของตัวเองไปช่วยเสี้ยเมิ่งเหยาห้ามเลือดแล้ว ดังนั้นเสี้ยเมิ่งเหยาตอนนี้ก็คงไม่เป็นอะไรมาก
“ฉันดีขึ้นเยอะแล้ว” เสี้ยเมิ่งเหยายังคงมีใบหน้าที่ขาวซีดเล็กน้อย ทว่ามุมปากกลับกระตุกยิ้มขึ้น และเมื่อกี้ เธอนึกว่าตัวเองจะไม่ได้เจอเฉินเฟิงอีกแล้ว กลับนึกไม่ถึง วินาทีสุดท้าย เฉินเฟิงกลับเหมือนสิ่งที่ฟ้าประทานมาช่วยเธอไว้
“เฉินเฟิง ปล่อยพวกเธอไปเถอะ” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดขึ้นอีก ตู้จื่อถึงก็ได้ตายเพื่อเธอแล้ว เธอไม่อยากจะเห็นว่าเฉินเฟิงจะฆ่าใครเพื่อเธออีก จะให้ตู้จื่อเยว่และโจวเซ่าฟึงเดินตามรอยของตู้จื่อถึงหรือไง
เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้น เขารู้ดี พวกเธอที่เสี้ยเมิ่งเหยาหมายถึงคือใคร
แค่ว่า……
เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เสี้ยเมิ่งเหยาจิตใจงดงามเกินไปแล้ว นี่เป็นจุดที่เขาชอบเสี้ยเมิ่งเหยามากที่สุด ทว่าก็เป็นจุดอ่อนที่คอยทำให้เธอต้องเสี่ยงชีวิต
“ฮ่าๆๆ! เสี้ยเมิ่งเหยา! อย่ามาเสแสร้งหน่อยเลย! กูไม่ต้องการให้การช่วยขอร้องจากมึง มึงกับกูต้องตายไปพร้อมๆ กัน! ” ตู้จื่อเยว่เหมือนจิตวิปลาสที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นเธอก็ได้เอาปืนยาวที่อยู่ข้างศพของพี่ชายขึ้น แล้วเล็งไปที่เสี้ยเมิ่งเหยา
ทว่ายังไม่ทันได้ขยับไกปืน ตู้จื่อเยว่กลับเหมือนดั่งว่าวที่ขาดจากสาย จากนั้นก็ล่องลอยไปที่ไกลๆ คนยังไม่ทันได้ล้มลงบนพื้น กลับมีเปิดพุ่งกระฉูดออกมาจากปาก
หยางไท่จึงออกเป็นคนลงมืออย่างเลือดเย็น เขาก็เป็นจอมยุทธ์ที่มีฝีมือคนหนึ่ง การที่ต้องจัดการกับคนธรรมดาๆ อย่างตู้จื่อเยว่ ยังไงก็ไม่ต้องใจจดใจจ่ออยู่แล้ว ถ้าเขาใช้แรงทั้งหมดตรงฝ่ายมือ พับไตไส้พุงของตู้จื่อเยว่เกรงว่าคงจะเลอะ และคิดว่าคงไม่สามารถมีชีวิตรอดอีกต่อไป
เฉินเฟิงเม้มปาก แล้วไม่ได้เอ่ยพูด ทว่าในใจกลับรู้ว่า หยางไท่กำลังจะซื้อใจเขา เพราะว่าเสี้ยเมิ่งเหยาพูดออกมา เขาก็ไม่สามารถลงไม้ลงมือกับตู้จื่อเยว่ ทว่าหยางไท่กลับสามารถทำได้
เสี้ยเมิ่งเหยาจึงมองตู้จื่อเยว่ที่ล้มลงบนพื้น แล้วไม่ได้พูดอะไรออกใดๆ ออกมา ต่อให้ตาย ใบหน้าของตู้จื่อเยว่ยังคงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทำไมเธอต้องเกลียดตัวเองขนาดนี้ด้วย?
“ผมส่งคุณไปโรงพยาบาลนะ” เฉินเฟิงถอนหายใจแล้วพูดขึ้น เรื่องนี้ต้องกลายเป็นเรื่องที่ฝังใจของเสี้ยเมิ่งเหยาแน่นอน กลับไปก็คงต้องเผชิญหมอมาดูอาการทางจิตของเสี้ยเมิ่งเหยา เพื่อให้คำแนะนำเธอหน่อยดีกว่า
“อืม” เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าเบาๆ
“เมิ่งเหยา ฉันไปกับเธอด้วย” เวลานี้ จู่ๆ หวังเจียเมิงก็หัวเราะออกมาเสียงอย่างสดใจ
เฉินเฟิงมองหน้าหวังเจียเมิงเพียงพริบตาเดียว หวังเจียเมิงก็ยิ้มอย่างขมขื่นขึ้น “คุณชายเฉิน ฉันกับเฟิ่งเหยา อาจจะเกิดเรื่องเข้าใจผิด……”
“ไสหัวไป! ”
เฉินเฟิงจึงว่ากล่าวตำหนิด้วยเสียงเย็นชา เข้าใจผิด? เห็นว่าตัวเองเป็นคนโง่หรือไง!
ถึงแม้ว่าจะถูกเฉินเฟิงด่าต่อหน้าคนอื่น ทว่าตอนนี้หวังเจียเมิงกลับไม่กล้าโกรธเคืองเลยสักนิด ไหนๆ ฐานะของเฉิงเฟิงคงอยู่ แม้กระทั่งหยางไท่ยังต้องทำท่าทางเคารพเฉินเฟิงเลย เธอจะกล้าไปพูดอะไรเฉินเฟิงได้ยังไงกัน
ทว่าตอนนี้หวังเจียเมิงกลับรู้สึกเสียใจมากๆ เธอเป็นคนที่ได้พบเจอกับเฉินเฟิงเร็วที่สุด ถ้าตอนนั้น เธอไม่ประเมินคนต่ำเกินไป แล้วเคารพเฉินเฟิงให้มากพอ แม้กระทั่งกลายเป็นเพื่อนกับเฉินเฟิง งั้นชีวิตวันข้างหน้าของเธอ……หวังเจียเมิงไม่กล้าคิด ยังไงก็ไม่ใช่ว่ากลายเป็นที่สวีตงเหลียงเองสามารถคู่ควร
ทว่าเสียดาย เธอสายตาสั้น แล้วได้ทิ้งทุกอย่างไปเอง
เฉินเฟิงที่อยู๋ตรงหน้าเธอกลับไม่ได้มีกระจิตกระใจไปยั่วยวน กลับไปยั่วสวีตงเหลียง ไอ้สารเลวนี้
ใช่ ไอ้สารเลว พอเธอเห็นคนที่แม้กระทั่งหยางไท่ยังเลือกเขาว่าองค์รัชทายาท ที่ซึ่งเป็นเฉินเฟิง คุณชายเฉิน ในใจของหวังเจียเมิง สวีตงเหลียงที่มีทรัพย์สมบัติมากกว่าพันล้านยังกลายเป็นไอ้สารเลวในสายตาเธอ
จากนั้นก็ใช้สายตาส่งเฉินเฟิงที่อุ้มเสี้ยเมิ่งเหยาออกจากที่นั่น แล้วหลี่เสว่ที่หลบอยู่ตรงมุมถึงจะกล้าออกมา เมื่อกี้เธอเห็นกับตาว่าตู้จื่อถึงฆ่าตัวตาย และทำให้หลี่เสว่ตกใจจนต้องไปหลบอยู่มุมของกลางเขตล่าสัตว์ แล้วกลัวว่าเฉินเฟิงจะสังเกตเห็น และจะโยนเธอเข้าไปในเขตหมาป่าดำ
จนถึงเวลาที่เฉินเฟิงจากไป เธอจึงจะกล้าหายใจแรง