ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 150 สุดยอดฝีมือในรุ่นเดียวกัน
บทที่ 150 สุดยอดฝีมือในรุ่นเดียวกัน
จินลิ่วอานครุ่นคิดครู่หนึ่ง เหมือนในจินหลิงจะไม่มีสำนักยุทธหรือจอมยุทธ์ที่มีแซ่เฉินนี่นา
ตามหลักแล้ว จอมยุทธ์หมิงจิ้งอนาคตไกลอย่างเฉินเฟิงนี่ ถ้าเป็นจอมยุทธ์จินหลิงจริง ต้องโดนสำรวจติดอันดับจอมยุทธ์ดาวรุ่งแล้วโด่งดังไปในหมู่สำนักต่างๆแล้วสิ
แต่ก่อนนี้จนถึงวันนี้จินลิ่วอานกลับไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย
แต่ถึงจะสงสัย จินลิ่วอานกลับไม่คิดอะไร ถ้าเฉินเฟิงท้าประลองแค่คนเดียว จินลิ่วอานคงกังวลใจแทนพวกต้วนหงกับฉางชิงไม่น้อยเลย
แต่นี่เฉินเฟิงกลับเหิมเกริม ท้าประลองหนึ่งต่อสี่ งั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้วล่ะ
พวกต้วนหงกับฉางชิงสี่คนนั้นจะพูดยังไงก็ตาม ก็เป็นจอมยุทธ์ระดับต้น-กลางหมิงจิ้ง สี่คนร่วมมือกัน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นระดับปลายหมิงจิ้งก็สู้ไหว
ดังนั้นการประลองยุทธนี้ นับตั้งแต่วินาทีที่เฉินเฟิงเสนอให้สู้หนึ่งต่อสี่ ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว
บนเวทีประลอง ต้วนหงออกหมัดก่อน ฉางชิงกับอีกสองคนตามมาติดๆ
กะบวนท่าการต่อสู้ที่จินลิ่วอานสอนพวกเขาสามารถทำให้พวกเขาแสดงพลังได้เป็นสองเท่า ดังนั้นทั้งสี่คนมั่นใจมาก และล้อมเฉินเฟิงไว้ตรงกลางตั้งแต่เริ่มแรก
“ย่า”
หมัดเหล็กของต้วนหงพุ่งแหวกอากาศเข้าไป พริบตาเดียวอีกแค่สามนิ้วก็จะชกจมูกเฉินเฟิง ฉางชิงกับอีกสองคนก็เตรียมพุ่งชกจุดสำคัญอื่นๆของเฉินเฟิง
เผชิญศัตรูสี่ด้าน!
ต้วนหงยิ้มเย็น เหมือนเห็นภาพจมูกของเฉินเฟิงโดนหมัดตัวเองชกเลือดสาด
ตอนนี้เองเฉินเฟิงกระพริบตา ส่อแววยิ้มบางออกมา
ทันใดนั้นเฉินเฟิงขยับแล้ว
หมัดเดียว!
หมัดเดียวไวปานสายฟ้า!
ต้วนหงรู้สึกมืดไปชั่วขณะ หมัดนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นต่อหน้าเขา
“ปึ้ก”
หมัดของเฉินเฟิงชกเข้าที่จมูกของต้วนหงอย่างจัง
“พลั่ก”!
เสียงกระดูกหักดังสนั่นทั่วสนาม!
ตัวต้วนหงลอยออกไปชนเสาขอบเวที
แรงกระแทกดังสั่น ทำเสาขอบเวทีแตกเป็นเสี่ยงๆ
จากนั้นต้วนหงล้มลงสลบไม่ได้สติที่พื้นน้ำนองนอกเวทีประลอง
เงียบ!
เงียบกริบราวคนตาย!
ไม่มีใครคิดเลยว่า ต้วนหง ที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่คนจะโดนเฉินเฟิงชกหมัดเดียวลอยละลิ่วอีก!
ผลออกมาเหมือนกับจางซานเย่าไม่มีผิดเพี้ยน!
บนเวที พวกฉางชิงสามคนตกใจจนเหงื่อแตกซิก
พอสบตานิ่งสงบของเฉินเฟิงแล้ว ฉางชิงมีแค่ความคิดเดียวในหัว
ยอมแพ้!
มีแต่ยอมแพ้! เขาถึงจะรอด!
ผู้ชายคนนี้เขาสู้ไม่ไหว!
ฉางชิงเอ่ยปากแทบจะวินาทีเดียวที่คิดได้ว่า: “ผมยอม…”
ฉางชิงอยากพูดว่าผมยอมแพ้ แต่คำว่าแพ้ยังไม่ทันหลุดจากปาก ร่างของเฉินเฟิงก็เข้ามาประชิดเขาอย่างรวดเร็วเงียบสนิทดุจนางแอ่นแตะผืนน้ำ เท้าเดียวเตะเข้าที่ท้องน้อยฉางชิง
ร่างฉางชิงแอ่นโค้งเหมือนกุ้งและลอยกระเด็นออกไปทับต้วนหงที่นอนสลบนอกเวที
สองคนที่เหลือ หลิวตงเห้ากับจางเช่ หน้าถอดสี เตรียมหมุนตัวหนี น่ากลัวเกินไปแล้ว เฉินเฟิงเป็นปีศาจมาจากขุมไหนกัน ต่อกรกับต้วนหงและฉางชิง ใช้แค่สองกระบวนท่า แล้วพวกเขาสองคนยังยืนรอบนเวที รอความตายหรือไง
ทั้งคู่ได้สติไวมาก แต่เฉินเฟิงไวกว่า!
ขยับแค่ก้าวเดียว เฉินเฟิงก็มายืนข้างหลังพวกเขา ชกคนหนึ่งพลางหันไปเตะอีกคน
ไม่ต้องเดาเลย ทั้งคู่ลอยละลิ่วออกไปทับร่างต้วนหงกับฉางชิงต่อเลย!
ต้วนหงที่อยู่ล่างสุดแค่นเสียงอึกและสลบเหมือด
ศิษย์สถานที่ฝึกวิทยายุทธเห้าหรันต่างตะลึงมอง สู้กันมาหลายปี
ยังไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน ศิษย์สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังโดนชกจนเตรียมหนีจากการประลอง
คราวนี้สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังขายหน้าไม่เหลือดี!
ด้านล่างเวที จินลิ่วอานหน้าเขียวสลับแดง
เจ้าพวกไม่ได้เรื่องสามคนนี่!
ต่อให้โดนเฉินเฟิงเตะตกเวทีก็ไม่เป็นไร สู้เขาไม่ได้ ไม่มีใครกล้าว่าอะไรสถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังของเขา
แต่เจ้าสามคนนี้ขนาดความกล้าจะสู้กับเฉินเฟิงยังไม่มี ฉางชิงพูดยอมแพ้เลย จางเช่กับหลิวตงเห้ายิ่งหนัก หมุนตัวเตรียมหนีการประลองเอาดื้อๆ
แล้วจะให้สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังของเขาเอาหน้าไปไว้ไหน!
สีหน้าซูเห้าหรัน ทั้งตะลึงและกังวล ตะลึงเพราะตะลึงฝีมืออันน่ากลัวของเฉินเฟิง กังวลเพราะที่จริงแล้วเขาไม่ได้หวังให้ฝ่ายเขาชนะเลย ตอนเฉินเฟิงขึ้นเวที เขาก็ไม่เคยคิดว่าเฉินเฟิงจะชนะ
แต่เฉินเฟิงดันชนะ แถมยังชนะขาดลอยอีกด้วย เหมือนกับกำลังเล่นสนุก ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ
หมัดเดียวชกจางซานเย่ากระเด็น ตามมาด้วยหนึ่งคนต่อกรกับพวกต้วนหงฉางชิงสี่คน แถมยังทำฉางชิงสามคนตกใจขวัญหนีดีฝ่อจนคิดหนีการประลอง
เรียกได้ว่าไม่ไว้หน้าสถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังเลย แถมยังเหยียบมันจมดินอีกด้วย
เห็นจินลิ่วอานโกรธเลือดพล่าน ซูเห้าหรันก็รู้แล้วว่าต่อไปสถานที่ฝึกวิทยายุทธของเขาต้องลำบากแน่
เฉินเฟิงเดินลงเวที ศิษย์สถานที่ฝึกวิทยายุทธเห้าหรันโดยมีจ้าวตงเป็นแกนนำต่างแหวกช่องให้เฉินเฟิงเดิน สายตาที่มองมาที่เขาทั้งเคารพและฮึกเหิม!
โดยเฉพาะพวกจ้าวตง ยิ่งเลื่อมใสเฉินเฟิงหมดหัวใจ
จางซานเย่าคนเดียวเอาชนะพวกเขาไปหลายคน ต่อมาเฉินเฟิงช่วยแก้แค้นให้พวกเขา ชกจางซานเย่ากระเด็นไม่พอ ยังสู้แบบหนึ่งต่อสี่ เอาชนะพวกสถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังราบคาบเลย
แกร่งมาก!
แกร่งมากจริงๆ!
“คุณอา อาเก่งมากเลย” ซูหลิงยู่ตื่นเต้นมากวิ่งโผเข้ามา เขย่งเท้าหอมแก้มเฉินเฟิงดังฟ้อด พริบตาเดียวแก้มเฉินเฟิงปรากฏรอยลิปสติกสีแดงขึ้น
เฉินเฟิงตะลึงตัวแข็ง แม่สาวน้อยนี่ใจกล้าไปไหม?
พอเห็นทุกคนมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ซูหลิงยู่แก้มแดงเรื่อฉับพลัน รู้สึกตัวเองรุกมากไป ยังไงก็เป็นผู้หญิง ไปหอมคุณอาต่อหน้าคนเยอะแยะอย่างนี้ได้ยังไง
จะหอมก็ต้องหาที่ลับตาคนหอมสิ
ต้องโทษคุณอาน่ะแหละ เก่งเกินไปแล้ว ถ้าเขาไม่เก่งขนาดนั้น เธอคงไม่ลืมตัวแบบนี้หรอก ใช่ โทษคุณอาน่ะแหละ ไม่เกี่ยวกับเธอ! ซูหลิงยู่คิดอย่างมั่นใจ
แต่พอสบตาเหนื่อยใจของเฉินเฟิงเข้า ซูหลิงยู่ก็กัดฟันกรอด ทำไมดูคุณอาเหมือนไม่ค่อยพอใจเลยล่ะ นี่มันจูบแรกของเธอนะ คุณอาบ้า คุณอาโง่ ยังมีหน้ามาไม่พอใจอีก!
ซูหลิงยู่เบ้ปาก รู้สึกอยากชกเฉินเฟิงสักหมัด
ตอนนี้ซูเห้าหรันกับจินลิ่วอานเดินเข้ามา สีหน้าจินลิ่วอานไม่ดีเลย แต่ซูเห้าหรันกลับยิ้มแย้ม ยื่นมือไปจับมือเฉินเฟิงพลางว่า: “ความสามารถของพ่อหนุ่มเป็นสุดยอดในรุ่นเดียวกันจริงๆ นับหาได้ยากยิ่ง”
ซูเห้าหรันพูดเหมือนยกยอเฉินเฟิง แต่ก็เป็นความจริงที่ว่า ดูจากความสามารถเฉินเฟิงในตอนนี้ ในโลกจอมยุทธ์จินหลิงรุ่นเดียวกัน มีไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับเฉินเฟิงได้