ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 154 คนร้ายกาจตระกูลเฉิน
บทที่ 154 คนร้ายกาจตระกูลเฉิน
เห็นได้ชัดว่า ซูหลิงยู่เองก็รู้ดี
ดังนั้นถึงได้น้ำตาไหลไม่รู้ตัวตอนเห็นเฉินเฟิงจากไป
ช่วงเวลาสั้นๆแค่ครึ่งชม. เธอหลงรักเฉินเฟิง จากนั้นเฉินเฟิงใช้ความสามารถของเขาบอกเธอว่า ระหว่างพวกเขามันเป็นไปไม่ได้ บางทีวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้เห็นหน้าเขาก็ได้
ซูหลิงยู่จะไม่เสียใจได้ยังไง?
“พ่อคะ คุณอาเขา…จะยังกลับมาไหม?” ซูหลิงยู่ปาดน้ำตา ถามด้วยเสียงสะอื้น
ซูเห้าหรันปากกระตุก เขาอยากบอกว่าเฉินเฟิงคงไม่กลับมาแน่น แต่เขากล้ำกลืนคำนั้นลงไป เขาไม่อยากทำลายความหวังน้อยนิดของลูกสาว
ถึงซูเห้าหรันไม่พูด ซูหลิงยู่ก็เข้าใจ จากนั้นซูหลิงยู่เหมือนตัดสินใจเรื่องสำคัญสักอย่างได้ เธอพูดอย่างจริงจังว่า: “พ่อ หนูจะไปหาคุณอา”
“ไม่ได้!” ซูเห้าหรันตกใจมาก รีบส่ายหน้า: “ลูกพ่อ อย่าทำอะไรโง่ๆนะ ผู้ชายแบบนั้นไม่ใช่ใครที่บ้านเราจะคู่ควรได้ ลูกไปหาเขาแล้วจะได้อะไรขึ้นมา?”
“พ่อคะ หนูไม่เคยคิดว่าจะแต่งกับคุณอาหรอก” ซูหลิงยู่ส่ายหัวช้าๆพลางว่า: “พ่อคะ หนูแค่อยากรู้ว่าคุณอาเป็นคนยังไงกันแน่”
เธอไม่เคยคิดจะแต่งงานกับเฉินเฟิงจริงๆ แต่เฉินเฟิงเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอชอบตั้งแต่โตเป็นสาวมานี่ เธอไม่อยากให้บุพเพระหว่างเธอกับเขามีแค่ครึ่งชม.สั้นๆนี่
เธอไม่อยากรู้แค่ชื่อเขา
เธอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาให้มากขึ้น เธออยากรู้ว่าคนที่เธอชอบเป็นคนยังไงกันแน่
“พ่อคะ ขอบคุณพ่อมากนะคะที่ดูแลหนูมาตลอดสิบแปดปี พ่อทำให้หนูอยู่อย่างมีความสุขมาตลอด สิบแปดปีมานี้หนูมีความสุขทุกวันเลย ไม่รู้จักเลยว่า อะไรคือความทุกข์ยากลำบาก อะไรคือความโหดร้ายของโลก”
“แต่วันนี้พอได้เห็นคุณอาแล้ว หนูรู้สึกอยากออกไปเผชิญโลกกว้างดูสักครั้ง อยากไปลองสักตั้งกับความทุกข์ยากและความโหดร้ายของโลก…” ซูหลิงยู่พูดอย่างสงบนิ่ง เฉินเฟิงทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจจริงๆ
ความสามารถของเฉินเฟิงก็เป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือการที่เฉินเฟิงฆ่าจินลิ่วอาน เธอเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเฉินเฟิงมีประสบการณ์ที่เลวร้ายกว่าคนปกติมาก อดีตของเฉินเฟิงคงต้องผ่านความยากลำบากมามากมายแน่ ความลำบากพวกนั้นอาจจะนำความทรมาณมาให้เขา แต่ก็ทำให้เขาเติบโตขึ้นด้วย
เดิมซูหลิงยู่ยังไม่รู้แน่ชัดว่า ทำไมครั้งแรกที่เจอเฉินเฟิงก็โดนเขาดึงดูดความสนใจไป แต่กลับไม่เคยรู้สึกอะไรต่อพวกศิษย์พี่น้องที่อยู่ข้างกายเรียนวิชามาด้วยกันสิบกว่าปีเลย
คำตอบนี้ เดิมซูหลิงยู่คิดไม่ตก
แต่วินาทีที่เฉินเฟิงเปล่งรังสีฆ่าออกมานั้น ซูหลิงยู่ก็เข้าใจแล้ว
ออร่านี่เอง!
มีออร่าพิเศษชนิดหนึ่งบนร่างเฉินเฟิง!
ออร่าแบบนี้เป็นสิ่งที่เขาใช้ความยากลำบากแลกสั่งสมมาในอดีต
ออร่าแบบนี้คนธรรมดาไม่มีทางมีได้แน่!
เธอไม่เคยเห็นออร่าแบบนี้ของเฉินเฟิงบนตัวพวกจ้าวตง มาก่อนเลย
เพราะพวกจ้าวตงกับลูยวนเหมือนกับเธอ ที่ใช้ชีวิตเหมือนดอกไม้งามในห้องอุณหภูมิอุ่นมาเกือบครึ่งชีวิต
ชีวิตนี้เรื่องร้ายแรงที่สุดที่เคยทำ ก็แค่ทะเลาะวิวาทเท่านั้น
ฆ่าคน? พวกเขาไม่เคยคิด และไม่กล้าคิดเลยด้วยซ้ำ
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเขาคงใช้ชีวิตเรียบง่ายสงบแบบนี้
เธอก็ด้วย ฝึกยุทธ แต่งงานมีลูก ใช้ชีวิตสงบสุขไปตลอดชีวิต
จวบจนวันสุดท้ายของชีวิต เธออาจจะนึกขึ้นมาได้ว่า ความฝันตอนอายุสิบแปดของเธอคือเป็นจอมยุทธ์สาวท่องไปทั่วยุทธภพนักฆ่านี้
แต่นึกขึ้นมาได้ตอนนั้นแล้วยังไงล่ะ?
ซูหลิงยู่รู้สึกโชคดีมากที่เธอได้เจอเฉินเฟิงตอนอายุสิบแปดปี
ไม่มีเฉินเฟิง เธออาจจะไม่มีความกล้าที่จะพูดคำพูดพวกนี้กับพ่อเลยก็ได้ และอาจจะไม่คิดใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการจริงๆ
“ในเมื่อเป็นแบบนี้…งั้นลูกก็ไปเถอะ” ซูเห้าหรันถอนหายใจ ลูกสาวโตต้องปล่อยไปแล้วสิ ท่าทีลูกสาวแน่วแน่แบบนี้ เขาเตือนไปก็ไร้ประโยชน์
“ขอบคุณมากค่ะ พ่อ” ซูเห้าหรันดีใจมาก ขอบคุณจากใจจริง ในเมื่อพ่อสนับสนุน เธอก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว
ต่อให้หาเฉินเฟิงไม่เจอ เธอก็จะไม่เสียใจ
ซูเห้าหรันส่ายหัว ไม่พูดอะไรอีก ที่จริงเขาไม่อยากให้ซูหลิงยู่หาเฉินเฟิงเจอเลย
เพราะเขารู้ดีว่า ระหว่างซูหลิงยู่กับเฉินเฟิง มันไม่มีทางเป็นไปได้
หาเจอแล้ว ก็แค่ผิดหวังมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง
เฉินเฟิงไม่รู้เลยว่า หลังจากเขาจากไปไม่นาน ซูหลิงยู่ก็เก็บสัมภาระและไปจากสถานที่ฝึกวิทยายุทธเห้าหรัน เริ่มตามหาเขาในหมู่คนมากมาย
เฉินเฟิงในตอนนี้กำลังคุยเรื่องของพ่อแม่สวีเฟยหรงกับเฉียวเสี่ยวโย่ว
“ความหมายของเธอคือ ตระกูลจ้าวยอมปล่อยคนเอง?” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว พ่อแม่ของสวีเฟยหรงโดนจับขังไว้ที่จินหลิงมาระยะหนึ่งแล้ว ถึงพวกเขาจะโดนสาขาย่อยทำร้าย แต่คนที่โดนยาพิษตายเป็นญาติดองกับตระกูลจ้าว ดังนั้นตระกูลจ้าวกัดฟันแน่นและเคยประกาศจะให้พ่อแม่สวีเฟยหรงชดใช้ชีวิต
ต่อให้เฉียวเสี่ยวโย่วไปเจรจากับตระกูลจ้าว ท่าทีของตระกูลจ้าวก็ยังแข็งกร้าวอยู่
เดิมเฉินเฟิงคิดว่า รอเรื่องในมือสะสางเสร็จแล้ว จะไปคุยกับตระกูลจ้าวด้วยตัวเอง ดูว่าทางนั้นจะยอมเห็นแก่หน้าเขาแล้วปล่อยพ่อแม่สวีเฟยหรงไปไหม
แต่ไม่คิดว่า วันนี้เฉียวเสี่ยวโย่วจะบอกเขาว่า ตระกูลจ้าวยอมปล่อยคนแล้ว
ข่าวมันมากะทันหันมาก
“ค่ะ นายน้อยเฉิน” เฉียวเสี่ยวโย่วพยักหน้า คล้ายดูออกว่าเฉินเฟิงกำลังสงสัย เฉียวเสี่ยวโย่วพูดอีกว่า: “นายน้อยเฉินคะ ที่จริงแล้วการที่พวกเขายอมปล่อยคนมันไม่แปลกเลย”
“หือ? ไม่แปลกยังไง?” เฉินเฟิงเลิกคิ้ว
เฉียวเสี่ยวโย่วยิ้มแหยบอกว่า: “นายน้อยเฉิน เรื่องที่นายน้อยเฉินทำที่จินหลิงหลายวันนี้ ตอนนี้ไม่ใช่ความลับอะไรในวงสังคมของจินหลิงแล้วค่ะ”
ที่จริงเฉียวเสี่ยวโย่วยังพูดไม่จบ เรื่องที่หลายวันนี้เฉินเฟิงทำในจินหลิง ไม่ใช่แค่ไม่เป็นความลับ แต่ยังดังกระฉ่อนไปทั่วเมืองอีกด้วย
หลายคนต่างรู้กันว่า หลายวันนี้ที่จินหลิงมีคนร้ายกาจแซ่เฉินคนหนึ่งมา
มาจินหลิงวันแรก ไป๋กว่างยี่ซึ่งเป็นคุณชายใหญ่เจ้าสำราญกับหยางชิงซึ่งมีฉายาเจ้าชายน้อยอันมีชื่อเสียงของจินหลิงโดนคนร้ายกาจแซ่เฉินคนนี้ตัดมือคนละข้าง
หลังจากนั้น ตระกูลไป๋ไม่เพียงไม่แก้แค้น แต่กลับย้ายไปอยู่อเมริกา
ทางหยางชิงซึ่งมีฉายาเจ้าชายน้อยยิ่งแล้วใหญ่ รีบส่งหุ้นคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงมาให้เป็นของคารวะ
มันทำให้คนจำนวนไม่น้อยตะลึงกันมาก คนร้ายกาจแซ่เฉินคนนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่? ทำไมหยางไท่กลัวเขาขนาดนี้
ในตอนที่ทุกคนกำลังคาดเดาฐานะของคนร้ายกาจแซ่เฉินคนนี้ เขาก็ทำเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีก
แถมคราวนี้ไม่ใช่ตัดมือ หรือตัดขา แต่เป็นฆ่าคนในคฤหาสน์คฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงด้วย!
คนร้ายกาจแซ่เฉินคนนี้ลงมือฆ่าตู้จื่อถึงกับตู้จื่อเยว่สองพี่น้องเลย ทำให้ตู้คังหลิงไร้ทายาทสืบทอด!
ตามหลักแล้ว แค้นที่ฆ่าลูก ตระกูลตู้มีหรือจะยอมปล่อยไปง่ายๆ