ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 158 ถูกล็อตเตอร์รี่ได้มา
บทที่ 158 ถูกล็อตเตอร์รี่ได้มา
“โง่จริง คุณคิดว่าผมจะแคร์เงินหนึ่งล้านห้าแสนนี่?” เฉินเฟิงยิ้มหยัน ถ้าหลินหลันทำตัวดีสักนิด ให้เสี้ยเมิ่งเหยาดีใจ อย่าว่าแต่หนึ่งล้านห้าแสนเลย ต่อให้สิบห้าล้าน เขาก็ให้เธอได้!
แต่ยัยหน้าโง่หลินหลันกลับเลือกทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาเสียใจเพราะเงินแค่หนึ่งล้านห้าแสน
หมดหนทางเยียวยาแล้ว!
“ตัวซวยอย่างแกไม่แคร์เงินหนึ่งล้านห้าแสนนี่?” หลินหลันแค่นเสียงเยาะ “นี่เฉินเฟิง ไม่ต้องมาทำอวดรวยต่อหน้าฉันหรอกรู้ไหม? ยังไงเราก็อยู่ด้วยกันมาตั้งสามปี แกเป็นยังไง ฉันยังไม่รู้อีก? อย่าว่าหนึ่งล้านห้าแสนเลย ต่อให้หนึ่งแสนห้าหมื่น แกก็ไม่มีปัญญาหามาได้หรอก”
“ตอนนี้แกกลับบอกว่าไม่สนเงินหนึ่งล้านห้าแสนนี่ เหอะๆ กล้าพูดจาโอ้อวดไม่กลัวสำลักน้ำลายตัวเอง” หลินหลันสีหน้าดูถูก ถึงครั้งที่แล้วซุนกุ้ยฟางจะบอกว่าเฉินเฟิงไม่ธรรมดาเลย แต่หลินหลันยังคงไม่เชื่ออยู่ดี
ถ้าเฉินเฟิงไม่ธรรมดาจริง จะยอมทนเธอมานานขนาดนี้? จะยอมเป็นพนักงานเดลิเวอร์รี่อยู่สามปี? จะยอมทนภายใต้คำว่าคนไร้ประโยชน์อยู่สามปี?
ล้อเล่นหรือไง!
ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ แล้วมีเบื้องหลัง เธอไม่ยอมทนให้ใครดูถูกเหยียดหยามใช้ชีวิตเหมือนหมาตัวหนึ่งมาสามปีหรอก
เห็นท่าทีคิดเองเออเองของหลินหลันแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้ว
ขนาดเฉียวเสี่ยวโย่วซึ่งเป็นประธานกรรมการใหญ่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลงที่มีมูลค่ากว่าหกหมื่นกว่าล้านยังเคารพนอบน้อมเฉินเฟิง เฉินเฟิงมีหรือจะไม่มีเงินแค่หนึ่งแสนห้าหมื่น?
อย่าว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นเลย ต่อให้หนึ่งพันห้าร้อยล้าน เขาก็มี!
แม่ของเธอทำไมสายตาสั้นแบบนี้ ถ้าแม่ไม่สายตาสั้น นิสัยอย่างเฉินเฟิงรับรองต้องให้แม่เธออยู่ดีกินดีแน่ แต่หลินหลันโง่จนทิ้งทุกอย่างไปเอง เสี้ยเมิ่งเหยาถอนหายใจ อดเห็นใจหลินหลันไม่ได้
“ไปเอาเงินมาสิ จะยืนบื้อทำไม?”
เห็นเฉินเฟิงไม่พูดอะไร หลินหลันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ร้องกรี๊ดขึ้นมาว่า: “แกอย่าบอกฉันนะว่า แม้แต่เงินหนึ่งล้านที่เหลือ แกใช้หมดแล้ว?!”
“แม่ เงินหนึ่งล้านที่เหลือเฉินเฟิงเขาไม่ได้ใช้เลยสักนิด!” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดเสียงเย็น ที่จริงแล้วเงินหนึ่งล้านห้าแสนนั่นก็ของเฉินเฟิง ถ้าไม่เห็นแก่หน้าเฉินเฟิง กู้ตงเซินมีหรือจะยอมชดใช้เงินให้เธอ
“ในเมื่อไม่ได้ใช้ งั้นก็ไปเอามาให้ฉันสิ!” พอได้ยินว่าเงินยังอยู่ หลินหลันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ได้ หนูจะไปเอามาให้” เสี้ยเมิ่งเหยากัดฟันกรอด เตรียมหยิบบัตรออกมาจากกระเป๋าเงิน เงินหนึ่งล้านห้านี่ให้หลินหลันแล้ว ก็เท่ากับว่า เธอตัดขาดความเป็นแม่ลูกกับหลินหลันแล้ว
เสี้ยเมิ่งเหยายังไม่ทันหาบัตรเจอ เฉินเฟิงก็หยิบบัตรเครดิตออกมาก่อนเธอหนึ่งใบ
เขายื่นให้หลินหลัน เฉินเฟิงจ้องหน้าหลินหลันพูดอย่างใจเย็นว่า: “ในนี้มีหนึ่งล้านแปดแสน”
“แกเอามาจากไหนน่ะหนึ่งล้านแปดแสน?” หลินหลันตะลึง เจ้าคนไร้ประโยชน์นี่ทำไมมีเงินมากขนาดนี้
เฉินเฟิงส่ายหน้าพลางว่า: “คุณไม่ต้องสนว่าผมเอาเงินมาจากไหน ตอนนี้เงินนี่เป็นของคุณแล้ว”
“จริงหรอ?” หลินหลันดีใจ ทำท่าจะแย่งบัตรจากมือเฉินเฟิง
แต่เฉินเฟิงยกบัตรหนีมือหลินหลัน
หลินหลันทำหน้าโกรธจัด “แกหมายความว่าไง? แกบอกจะให้เงินฉันไม่ใช่หรอไง?”
“ผมบอกจะให้เงินคุณ แต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ
“เงื่อนไขอะไร?” หลินหลันถามทันที
“เอาเงินนี่ไป ต่อไปอย่ามายุ่งกับเมิ่งเหยาอีก” เฉินเฟิงพูดเสียงเย็นชา ป้องกันศัตรูภายนอกน่ะง่าย ป้องกันเครือญาติสิยากกว่า คนประเภทมีเงินนับเป็นน้องมีทองนับเป็นพี่อย่างหลินหลัน ถ้าหมดเงินแล้ว อะไรก็ทำได้ทั้งนั้น เฉินเฟิงเองก็ไม่สามารถมานั่งระวังเธอทุกวินาที เกิดวันไหนเขาไม่อยู่ หลินหลันอาจจะทำเรื่องอะไรอย่างครั้งก่อนที่ประมูลขายคืนแรกของเสี้ยเมิ่งเหยาอีกก็ได้
“แค่นี้?” หลินหลันดีใจมาก เธอคิดว่าเฉินเฟิงจะขออะไรโอเวอร์ซะอีก ถ้าแค่นี้ เธอมีเหตุผลอะไรไม่รับปากล่ะ
“แค่นี้แหละ”
“ฉันรับปาก!” หลินหลันพูดพลางแย่งบัตรไปจากมือเฉินเฟิง สีหน้ายิ้มร่า เจ้าโง่นี่สมองดีหรือเปล่า? เธอขอเขาแค่หนึ่งล้าน เขากลับให้มาหนึ่งล้านแปดแสน
“เงินคุณรับไปแล้ว ถ้าผมรู้ว่าคุณกล้ามาหาเมิ่งเหยาอีก อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ” ท่าทีไม่ยี่หระอะไรของหลินหลัน เฉินเฟิงเห็นมันทั้งหมด แต่เขาไม่แคร์ เงินของเขาไม่ใช่อะไรที่จะรับไปง่ายๆอยู่แล้ว
“วางใจได้ ยังไงเมิ่งเหยาก็ลูกสาวฉัน ขอแค่แกทำให้เธอมีความสุข ฉันไม่ส่งเธอไปให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้หรอก” น้ำเสียงหลินหลันเริ่มอ่อนโยนขึ้นมา
“หวังว่าคุณจะรักษาคำพูด”
เฉินเฟิงไม่แปลกใจกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของหลินหลัน เพราะหลินหลันเป็นนิสัยแบบฉบับของพวกมีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่ ขอแค่คุณให้เงินเธอ คุณจะให้เธอคุกเข่าเรียกคุณว่าพ่อก็ยังได้
“จริงสิ แกยังไม่ได้บอกฉันเลยนะว่าได้เงินมาจากไหน? ไม่ใช่ไปขโมยหรือปล้นใครเขามานะ?” เฉินเฟิงให้เงินง่ายขนาดนี้ หลินหลันอดระแวงขึ้นมาไม่ได้ เกิดเงินนี่มีปัญหา เธอก็ต้องคืนเขาไปหรือไง
“ซื้อล็อตเตอร์รี่ถูกมาน่ะ” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ เงินหนึ่งล้านแปดแสนนี้เป็นเงินค่าอาหารที่กินข้าวที่คฤหาสน์หัวฉีเมื่อวานซืน คืนนั้นหยางไท่ก็คืนให้เขาเลย
“ล็อตเตอร์รี่?” หลินหลันยังสงสัย เจ้านี่มีโชคหรือไง
เฉินเฟิงไม่คิดอธิบายอีก เขาจูงมือเสี้ยเมิ่งเหยาเดินออกไปเลย
“เฉินเฟิง ขอบคุณนะ” อารมณ์ของเสี้ยเมิ่งเหยายังหดหู่อยู่ ไม่ว่ายังไงหลินหลันก็เป็นแม่แท้ๆของเธอ แต่กลับเปลี่ยนเป็นคนละคนเมื่ออยู่ต่อหน้าเงินทอง เธอรู้ดีว่า เฉินเฟิงเอาเงินหนึ่งล้านแปดแสนนั่น ส่วนหนึ่งเพื่อซื้อหลักประกันให้เธอ อีกส่วนก็เพื่อดูแลหลินหลันด้วย
หลินหลันมีเงินหนึ่งล้านแปดแสนนี่แล้ว อย่างน้อยต่อไปก็ไม่ต้องอดอยากอะไร
“ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่หรอว่า ไม่ต้องขอบคุณผมตลอดชีวิตเลย?” เฉินเฟิงยิ้มๆ รั้งเสี้ยเมิ่งเหยาเข้าอ้อมกอด
“อืม” เสี้ยเมิ่งเหยาหน้าแดง พูดเสียงเบาหย่างกะยุงบิน
“ไป ผมพาคุณไปดูบ้านใหม่เรา” เฉินเฟิงบอก
“บ้านใหม่?” เสี้ยเมิ่งเหยาอึ้ง เธอคิดว่าคืนนี้เธอกับเฉินเฟิงต้องไปขอนอนค้างบ้านเพื่อนหรือไม่ก็พักโรงแรมซะอีก ใครจะคิดว่าเฉินเฟิงจะพูดเรื่องบ้านใหม่ออกมา
“ใช่ บ้านใหม่” เฉินเฟิงยิ้มมีเลศนัย ที่จริงตอนหลินหลันบอกให้เขากับเสี้นเมิ่งเหยาย้ายออกไป เขาดีใจแทบตีปีก เพราะเขาอยากย้ายออกมานานแล้ว แต่หาเหตุผลดีไม่ได้เลย วันนี้หลินหลันให้สิทธิ์เขาทันที
“บ้านใหม่ของพวกเราอยู่ที่ไหน?” เสี้ยเมิ่งเหยาชะงักเล็กน้อยก่อนถามต่อ ข่าวนี้มันกะทันหันนัก เธอตั้งตัวไม่ติดสักนิด
“ไปถึงแล้วก็รู้เอง” เฉินเฟิงทำตัวมีลับลมคมใน เขาอยากเซอร์ไพร์สเสี้ยเมิ่งเหยา