ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 16 ซ่อมหลอดไฟ
บทที่ 16 ซ่อมหลอดไฟ
พอดึงประตูเปิดออก ถึงพบว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกคือเสี้ยเมิ่งเหยา เธอใส่ชุดนอนบางเบาสีดำทั้งตัว ข้างหน้านูนออกมาข้างหลังกระดกขึ้นรูปร่างปีศาจแบบนี้โดนความสมบูรณ์แบบร่างออกมาชัด ๆ โดยเฉพาะความอิ่มเอิบคู่นั้นตรงหน้าอก ยิ่งคล้ายกับว่าจะมีแนวโน้มทำให้ชุดนอนปริแตกออกมา
หรืออาจจะเพราะว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เสี้ยเมิ่งเหยาในเวลานี้ ใบหน้าเรียวเล็กที่ไร้เครื่องสำอางใด ๆ เลยดูมีสีแดงระเรื่อขึ้น มองไปแล้วก็คล้ายกับลูกท้อที่สุกงอม ทำให้คนอดใจไม่ไหวอยากจะกัดสักคำ
“มีอะไรเหรอ?” เฉินเฟิงถามขึ้นอย่างแปลกใจ ปกติกลางคืนถ้าเสี้ยเมิ่งเหยาไม่มีเรื่องอะไรแล้วละก็ ก็จะไม่มาหาเขา วันนี้ทำไมมันแปลกอย่างนี้
“ฉัน……หลอดไฟในห้องนอนฉันมันเสียแล้ว” เสี้ยเมิ่งเหยาพยายามอยากจะทำให้ท่าทางของตัวเองดูเป็นธรรมชาติขึ้นหน่อย แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เธอกลับทำได้ยากจัง
“หลอดไฟเสียเหรอ?” เฉินเฟิงยักคิ้วถาม
“อืม” เสี้ยเมิ่งเหยาแก้มแดงน้อย ๆ น้ำเสียงอ่อนเบาเหมือนกับขายุง นิ้วมือเกี่ยวเข้าหากันไว้อย่างไม่เป็นธรรมชาติ
“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ รอเดี๋ยว ผมไปซ่อมให้คุณเอง” เฉินเฟิงพูดอย่างใจกว้าง เขายังคิดว่าที่เสี้ยเมิ่งเหยามาหาเขาดึกดื่นป่านนี้ เพราะว่าจะมีเรื่องอะไร แต่ปรากฏว่าแค่หลอดไฟเสีย
พอเห็นเฉินเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็จะไปห้องนอนตัวเองแล้ว หน้าเรียวของเสี้ยเมิ่งเหยาก็เริ่มมีแววยุ่งยากใจขึ้นมา
“ซ่อมหลอดไฟมันยุ่งยากเกินไปแล้ว หรือว่าคืนนี้ฉันนอนห้องนายดีกว่า” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดออกไปรวดเดียว พอพูดจบแล้ว เธอถึงรู้สึกว่าตัวเองดูเสนอตัวมากเกินไป ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความอายและแดงขึ้นมา
เฉินเฟิงมึนงง รีบส่ายหน้าไปมาแล้วพูดว่า “ไม่ยุ่งยาก ไม่ยุ่งยากเลยสักนิด ผมซ่อมหลอดไฟเก่งมากเลยนะ เมื่อก่อนตอนอยู่มหาลัย ผมซ่อมหลอดไฟให้คนอื่นเป็นประจำเลย คุณรอก่อน อย่างมากสามนาที ผมก็ซ่อมให้คุณเสร็จแล้ว”
“ไม่ต้องแล้ว อยู่ ๆ ฉันก็ไม่อยากจะซ่อมแล้ว!” เสี้ยเมิ่งเหยากัดฟันแน่น แล้วพูดประโยคเย็น ๆ ไปประโยคหนึ่ง หลังจากพูดจบก็ปิดประตูดังเสียงปัง!
“แอ๊ะ ๆ…..” เฉินเฟิงท่าทางมึนงง ผู้หญิงคนนี้นี่ยังไงกัน ไม่ใช่พูดว่าจะซ่อมหลอดไฟเหรอ ทำไมซ่อมไปซ่อมมาก็ไปเฉยเลย?
คืนนั้น เฉินเฟิงหลับสนิทตลอดคืน
แต่เสี้ยเมิ่งเหยากลับนอนไม่หลับทั้งคืน พอเช้าวันรุ่งขึ้น ก็ออกมาจากห้องนอนด้วยขอบตาดำดวงใหญ่ทั้งสองข้าง พอเห็นเฉินเฟิง แล้ว ก็เลยไม่ให้สีหน้าดี ๆ อะไรกับเฉินเฟิงดู
นี่ทำให้เฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ?
หลังจากที่เฉินเฟิงทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็ไปเยี่ยมเสี้ยเว่ยกั๋วที่โรงพยาบาลรอบหนึ่ง ในเมื่อที่เสี้ยเว่ยกั๋วเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็เพราะเขา เพราะฉะนั้นเฉินเฟิงก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
หลังจากผ่านการผ่าตัดแล้ว เสี้ยเว่ยกั๋วก็ฟื้นขึ้นมาจากการสลบแล้ว แต่ว่าสติก็ยังเลอะเลือนอยู่มาก เฉินเฟิงก็เลยไม่กล้าพูดคุยกับเสี้ยเว่ยกั๋วเยอะนัก
หลังออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ในมือของเฉินเฟิงก็มีกระดาษโน้ตเพิ่มขึ้นมาแผ่นหนึ่ง
“นายน้อย ช่วงนี้มีคนสองพวกคอยจับตามองคุณอยู่”
“หนึ่งในนั้นเป็นพวกคนของเสิ่นหงชัง พวกเขากำลังตรวจสอบเบื้องหลังของคุณอยู่”
“ส่วนอีกพวกหนึ่งเป็นคนของเฉินเจิ้นหนาน สงสัยจะเป็นทาสรับใช้กุ่ยซื่อ มาเพื่อเฝ้าติดตามคุณชายโดยเฉพาะ พวกเขามีพลังแกร่งกล้ามาก บ่าวเลยไม่กล้าสอดแนมอย่างละเอียดมากนัก”
“หวังว่าคุณชายจะระวังตัวมากยิ่งขึ้น!”
หลังจากดูจบแล้ว เฉินเฟิงก็ฉีกทำลายกระดาษโน้ตไปอย่างเงียบ ๆ
คนของเสิ่นหงชังนั้นเฉินเฟิงคาดการณ์ไว้แล้ว วันนั้นหลังจากที่เขาได้ใกล้ชิดเสิ่นหงชังแล้ว เฉินเฟิงก็พบว่า เขาเป็นคนที่มีความละเอียดอ่อนท่ามกลางความหยาบกระด้าง และระมัดระวังเพื่อให้เห็นผลประโยชน์ แน่นอนเสิ่นหงชังจะต้องตรวจสอบเขาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เสิ่นหงชังไม่รู้ก็คือ เฉินเฟิงจะไม่มีทางให้เขาตรวจสอบเจออะไรแน่นอน
แต่คนที่เฉินเจิ้นหนานส่งมา ที่สงสัยว่าจะเป็นพวกทาสรับใช้กุ่ยซื่อ กลับทำให้เฉินเฟิงมีความรู้สึกหนักอึ้ง ทาสรับใช้กุ่ยซื่อชื่อเสียงโด่งดัง เขาเคยได้ยินมาก่อนแล้ว และนี่ก็คือหนึ่งในพละกำลังที่เฉินเจิ้นหนานควบคุมอยู่ที่ทำให้เขาเกรงกลัวมากที่สุด
ดูแล้วที่ตัวเองอดทนอยู่ตระกูลเสี้ยมาสามปี กลับไม่ได้ทำให้ความสงสัยของเฉินเจิ้นหนานลดน้อยลงเลย เจ้าจิ้งจอกแก่เฉินเจิ้นหนานนี่ก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือได้ง่าย ๆ เลยจริง ๆ ! เฉินเฟิงก่นด่าอยู่ในใจ
ถึงแม้ในมือเขาก็มีต้นกล้าไพ่ตายอยู่มากมาย แต่เขารู้ดีว่า อยู่ต่อหน้าเฉินเจิ้นหนานนั้น ไพ่ตายพวกนี้ของเขาไม่ถือว่าเป็นอะไรทั้งนั้น
รถถึงหน้าเขามักมีทาง ตอนนี้เขาได้แค่เดินหนึ่งก้าวดูกันไปหนึ่งก้าวเท่านั้น เฉินเฟิงถอนหายใจแล้วคิด
พอกลับมาบ้านแล้ว เฉินเฟิงก็ส่งเสี้ยเมิ่งเหยาไปบริษัทเหมือนเช่นปกติ เขาให้เฉินจงเอารถเคอนิกเส็กก์คันนั้นไปเก็บที่คฤหาสน์ในยู่ฉวนซาน แล้วซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใหม่อีกคัน
“เป็นยังไง ยังโกรธผมอยู่อีกเหรอ?” พอเห็นใบหน้าเล็กของเสี้ยเมิ่งเหยายังตึงอยู่ เฉินเฟิงยิ้มแล้วก็ถามขึ้น
เสี้ยเมิ่งเหยามองเฉินเฟิงตาขาวทีหนึ่ง แล้วพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “ใครไปโกรธนาย คิดไปเองหรือเปล่า”
“โอเค โอเค โอเคผมคิดไปเอง” เฉินเฟิงยิ้มฝืด ๆ เขาคิดแล้วคิดอีก ก็คิดไม่ออกว่าตกลงตัวเองไปขัดใจเสี้ยเมิ่งเหยาตรงไหน ได้แต่เข้าใจไปเองว่า น่าจะอันนั้นของเสี้ยเมิ่งเหยามาแล้ว ก็เลยมองใครก็ขัดตาไปหมด
หลังจากที่ส่งเสี้ยเมิ่งเหยามาถึงบริษัทแล้ว และเฉินเฟิงกำลังจะจากไป ก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยเสียงหนึ่งลอยมา
“อ๋ายโยว่ เฉินเฟิง วันนี้ทำไมไม่ใช้รถสปอร์ตของนายมาส่งเมิ่งเหยาทำงานล่ะ? หรือว่าจ่ายค่าเช่าไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” เสี้ยจื่อหลันปิดเอวที่เหมือนงูน้ำของเธอเดินออกมา เมื่อวานจ้าวซื่อหัวยังพูดว่า รถของเฉินเฟิงนั้นไม่ใช่รถเช่า แต่วันนี้ปรากฏว่า เฉินเฟิงกลับขี่รถไฟฟ้าของเขามาอีกแล้ว
เฉินเฟิงมองบนไปทีหนึ่ง เขาขี้เกียจสนใจผู้หญิงที่โง่เขลาและคิดไปเองฝ่ายเดียวแบบเสี้ยจื่อหลันแล้ว
“หน้าไม่เจ็บแล้วเหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยามองเสี้ยจื่อหลันอย่างหน้าไร้ปฏิกิริยาใด ๆ ทีหนึ่ง
แค่ประโยคเดียวก็ทำให้สีหน้าเสี้ยจื่อหลันเปลี่ยนสีไปแล้ว ไม่มีความสงสัยใด ๆ แสดงคำพูดของเสี้ยเมิ่งเหยาจี้จุดใจดำของเธอแล้ว ทำให้เธอนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่โดนเสี้ยเมิ่งเหยาและเฉินเฟิงตบหน้าต่อหน้าผู้คนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าอย่างรวดเร็ว เสี้ยจื่อหลันก็ปรับอารมณ์กลับมาได้ กลับกัดฟันแล้วพูดว่า “เสี้ยเมิ่งเหยา เธอมาจะแสดงอำนาจอะไรตรงนี้ เธอยังไม่รู้เรื่องที่ตัวเองโดนเตะออกจากโครงการยู่ฉวนซานแล้วละซิ”
เตะออกจากโครงการยู่ฉวนซานเหรอ?
เสี้ยเมิ่งเหยาหน้านิ่วคิ้วขมวด คำพูดของเสี้ยจื่อหลันนี้หมายความว่ายังไงกัน โครงการยู่ฉวนซานตัวเองเพิ่งจะไปเจรจาสำเร็จมาเมื่อวานไม่ใช่เหรอ?
เฉินเฟิงหรี่ตาลง ปรากฏว่า เรื่องที่ตัวเองคาดคิดเอาไว้ ได้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ
เสี้ยหยุนเสิ้งนี่มัน เหมือนสุนัขแก้นิสัยกินขี้ไม่ได้จริง ๆ !
“หือ ยัยคนโง่เขลาที่คิดไปเอง!” เสี้ยจื่อหลันหือเสียงเย็น แล้วพูดขึ้น
“เธอหมายความว่ายังไง? คุณปู่ล่ะ?” ใบหน้าเรียวของเสี้ยเมิ่งเหยาเย็นลง ในใจมีความรู้สึกไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้น เธอจะต้องไปหาเสี้ยหยุนเสิ้งถามให้รู้เรื่อง
“คุณปู่ไปร่วมอวยพรวันเกิดคนอื่นที่จินโจวแล้ว” เวลานี้ เสียงเรียบของเสี้ยห้าวดังขึ้นมาจากข้างหลัง
“นอกเหนือจากนั้น ก่อนคุณปู่จะไป ท่านก็ได้มอบโครงการยู่ฉวนซานให้ฉันเป็นคนรับผิดชอบแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาเธอกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว” มุมปากของเสี้ยห้าวยกขึ้นเป็นมุมอย่างได้ใจ ไม่เกินความคาดหมายของเสี้ยฉี่ชาว เมื่อวานเขาแค่ไปยอมรับผิดอย่างจริงใจกับเสี้ยหยุนเสิ้ง เสี้ยหยุนเสิ้งก็ไหลไปตามน้ำ แล้วก็มอบโครงการยู่ฉวนซานให้แก่เขาแล้ว
“มีสิทธิ์อะไร? โครงการยู่ฉวนซานฉันเป็นคนไปเจรจามา คุณปู่เขามีสิทธิ์อะไรมามอบให้นาย!”
พอได้ยินแบบนี้ เสี้ยเมิ่งเหยาก็โมโหจนจะระเบิดแล้ว โครงการที่เธอเพิ่งจะไปคุยมาเมื่อวาน แต่ปรากฏว่าแค่เวลาในพริบตา ตัวเองโดนเตะออกจากกลุ่มโครงการไม่ว่า แต่กลับยังให้ศัตรูของเธอมารับช่วงดูแลกลุ่มโครงการต่อ
“มีสิทธิ์อะไร?” เสี้ยห้าวยิ้มอย่างดูถูก แล้วพูดขึ้น “ก็สิทธิ์ที่ฉันเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของคุณปู่ไง อนาคตผู้นำของตระกูลเสี้ย! เสี้ยเมิ่งเหยา เหตุผลนี้ เธอพอจะพอใจได้ไหม!”
ในน้ำเสียงของเสี้ยห้าวแฝงได้ด้วยความได้ใจอย่างเต็มเปี่ยม
“นาย……” เสี้ยเมิ่งเหยากัดฟันขาวแน่น โกรธจนพูดอะไรไม่ออก เธอเข้าใจแล้วว่า ไม่ว่าเธอจะแสดงออกได้ดีแค่ไหน ก็ไม่มีทางได้ความชื่นชมจากเสี้ยหยุนเสิ้ง เพราะในสายตาของเสี้ยหยุนเสิ้งมีแต่เสี้ยห้าวเท่านั้น