ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 168 เย่ตงเสี้ยว
บทที่ 168 เย่ตงเสี้ยว
“ท่านหานท่าก็พูดเกินไป ตงเฉินเป็นเพียงผู้น้อย จะกล้าถือตนว่ามีชื่อเสียง ต่อหน้าท่านหานได้อย่างไร”จางตงเฉิน การยกสองมือขึ้นมาประสานกันแล้วโค้งคำนับเล็กน้อยกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนน้อมถ่อมตน
แม้ว่าเขาจะเป็นทายาทของตระกูลตระกูล ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่สูงกว่า กู้ตงเชินกับหานหลง แต่เขาก็ไม่วางอำนาจต่อหน้าหานหลงอีกอย่างคือการให้เกียรติกับตัวเอง
เขารู้ดีว่า ถ้าให้เขาอยู่ในตำแหน่งของกู้ตงเชิน เขาก็อาจทำได้ไม่ดีเท่าสองคนนี้
พวกเขาทั้งสองมาจากนักเลงเล็กๆ เขาทั้งสอง สามารถทำงานนักเลงเล็กๆจนไปงานใหญ่ระดับราชใต้ดิน คงไม่มีใครสู้เขาทั้งสองได้แล้ว
เช่นเดียวกับเฉินเฟิงที่แข็งแกร่ง และเอาทั้งสองคนอยู่
เป็นคนอื่น อยากจะจัดการกับราชาใต้ดินอย่างเขาทั้งสอง ฝันไปเถอะ!
เฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย เนื่องจากทั้งสามคน รู้จักกันแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไรมากมายแล้ว
“ตอนนี้ที่เมืองชางโจว ตอนนี้ยังมีบุคคลมีอำนาจ อีกกี่กลุ่มที่เป็นคู่แข่งของพวกนาย ?”เฉินเฟิงถามอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าชาวโจวจะเมืองจังหวัดเล็กๆ แต่ก็ยังเป็นน้ำนิ่งที่ไหลลึก กู้ตงเชินกับหานหลง ยังคุมเมืองชางโจวของเขตตอนตะวันออกกับตะวันตก เขตตอนเหนือ และยังมีเขตตอนใต้ แล้วยังมีบุคคลมีอำนาจๆอื่นๆ นอกจากบุคคลมีอำนาจใต้ดินเหล่านี้แล้ว ยังมีกลุ่มใหญ่อีกมากมายในระดับเดียวกับตระกูลเสี่น
ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ รอบนี้เขาต้องใช้เวลารวบรวมพลเข้าด้วยกัน
หนึ่งเพื่อต่อต้านกับตระกูลเฉิน
สองเพื่อ……
สิ่งที่เขากังวลว่า ถ้าวันหนึ่ง เขาต้องออกจากเมืองชางโจว เสี้ยเมิ่งเหยาก็จะมีที่ยึดเหนี่ยวอยู่
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเสี้ยเมิ่งเหยากับตระกูลเสี้ยก็ไม่ค่อยดีนัก หาก็วันหนึ่งเขาไม่อยู่ที่ชางโจว ตระกูลเสี่ยอาจถูกปราบปราม เสี้ยเมิ่งเหยาก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญ
แต่อย่างน้อยก็ยังมีหานหลงกับกู้ตงเชินอยู่เบื้องหลังค่อยช่วยเหลือ แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าใครกันแน่น ที่โดนปราบ
เมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินเฟิงพูด ดวงตาของทั้งสามก็ขยับเล็กน้อย ขนาดคนที่สะเพร่าอย่างกู้ตงเชินยังเดาจุดประสงค์ของเฉินเฟิงได้เลย
“คุณชายเฉิน แม้ชางโจวจะมีขอบเขตเล็ก ๆ แต่ผู้มีอำนาจของมันก็สลับซับซ้อน”
“ปัจจุบัน บุคคลที่มีอำนาจใต้ดิน สามารถต่อกรกับเราได้ ก็มีพื้นที่ทางเหนือหลัวตงเหล่ยคุม พื้นที่ทางใต้เย่ไห่ถังคุมยกเว้นสองคนนี้ส่วนอื่น ๆ คือกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยไม่มีอะไรต้องห่วง”
“สำหรับผู้มีอิทธิพลโดยทั่วไป จะรู้จักตระกูลเสิ่น เป็นตระกูลแรกในเมืองชางโจว ที่มีอำนาจ แต่ตระกูลหลี่ ก็ไม่แพ้ไปกว่าตระกูลเสิ่น แม้แต่น้อยเพราะเลขานุการหลี่ ผู้นำคนเมืองปัจจุบันของตระกูลหลี่ การแสดงพลังของตระกูลหลี่นั้น แข็งแกร่งกว่าตระกูลเสิ่นเล็กน้อย”หานหลงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
เมื่อใดก็ตาม ที่มีอำนาจมักจะพูดได้มากกว่าผู้ที่ร่ำรวย
เฉินเฟิงพยักหน้าและกำลังจะพูด ในขณะที่ จางตงเฉินยิ้มและพูดว่า “คุณชายเฉิน หลัวตงเหล่ยที่คุมเขตเหนือ คือคนของตระกูลจาง”
หลัวตงเหล่ยคือคนของตระกูลจาง?!
เฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หลัวตงเหล่ยเป็นจักรพรรดิใต้ดินที่นั่งอยู่ในระดับเดียวกับกู้ตงเชินและหานหลง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนของตระกูลจาง
กู้ตงเชินและหานหลงก็ตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าอิทธิพลของตระกูลจาง นั้นยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาคิด แม้แต่ยักษ์อย่าง หลัวตงเหล่ย ก็เป็นคนของตระกูลจาง
เป็นของตระกูลจาง ก็เป็นกับเป็นของเฉินเฟิง
หลัวตงเหล่ยเป็นคนของตระกูลจาง ก็ไม่ต่างจะเป็นคนของเขา
เฉินเฟิงเข้าใจความหมายของจางตงเฉินทันที กลุ่มกำลังผู้มีอำนาจอิทธิพลใต้ดินในชางโจว ชัดเจนอยู่แล้วแบ่งออกเป็นสี่เขตมี เขตตอนเหนือ เขตตอนใต้ เขตตะวันออก ตะวันตก มีสามเขตอยู่ ภายใต้อำนาจในการควบคุมของเขา
มีเพียงเย่ไห่ถัง ในพื้นที่ทางตอนใต้เท่านั้น ที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
“แล้วฝั่งเย่ไห่ถัง นั่นเป็นยังไงบ้าง?”เฉินเฟิงถาม
“คุณชายเฉิน ดูเหมือนจะจัดการ เย่ไห่ถังได้ไม่ใช่เรื่องง่าย” น้ำเสียงของหานหลงดูเคร่งขรึม
“หือ?แล้วมันไม่ง่ายยังไงเหรอ?”เฉินเฟิงเลิกคิ้ว เขาก็สงสัยเล็กน้อย ความสามารถของเย่ไห่ถัง ถึงขนาดทำให้คนอย่างหานหลงกลัว
“คุณชายเฉิน ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของ เย่ตงเสี้ยวเหรอครับ?”หานหลงไม่ได้พูดออกมาตรงๆๆ แต่พูดถามอ้อมๆ
เฉินเฟิงส่ายหัว เขาอยู่ที่เมืองชางโจวมาแค่สามปีเท่านั้น ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเมืองชางโจว แต่เมื่อดูท่าทางของหานหลงแล้ว เย่ตงเสี้ยวคงจัดการได้ไม่ง่าย
“คุณชายเฉิน ไม่เคยได้ยินก็เป็นเรื่องปกติ” หานหลงพยักหน้า แล้วพูด: “แต่เย่ตงเสี้ยว เมื่อยี่สิบปีก่อน อยู่ที่เมืองชางโจวก็เป็นเขาเป็นคนจริงที่สามารถหยุดเด็กร้องไห้ตอนกลางคืนได้”
“จะพูดว่า เย่ตงเสี้ยว ทำไมถึงสามารถหยุดเด็กร้องไห้ตอนกลางคืนได้ ต้องเริ่มพูดจากประวัติศาสตร์ของเมืองชางโจว” เนื่องจาก โลกมืดใต้ดินของเมืองชางโจวไม่ค่อยดี เฉลี่ยทุกปี มีคนเสียชีวิต จากการต่อสู้ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ เมืองชางโจวนั่นขึ้นชื่อเรื่องความรุนแรง ในเมืองที่ใกล้เคียง
ดังนั้นตั้งแต่สร้างเมืองชางโจวมา โลกมืดใต้ดินไม่มีเคยมี การรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง บางคนถึงกลับพูดว่าที่เมืองชางโจวนั่น เป็นที่ฝังศพของฮีโร่เมื่อ คุณมาถึงเมืองชางโจว ถ้าคุณเป็นมังกรคุณต้องนอนหงาย และถ้าเป็นเสือ คุณต้องนอนราบ ไม่ว่า คุณจะเป็นเก่งแค่ไหน ไม่มีทางที่จะครองเมืองชางโจวได้
“ซึ่งเมื่อยี่สิบปีก่อน เย่ตงเสี้ยวทำได้สำเร็จ เขาสามารถฝ่ากฎนี้ไปได้”
“หนึ่งปี”
“เย่ตงเสี้ยวใช้เวลาแค่หนึ่งปี ในการต่อสู้จากเขตโซนตะวันตกไปยันเขตโซนเหนือ จากนั้นจากเขตโซนใต้ไปยังเขตโซนตะวันออกด้วยความแข็งแกร่งของเขาเอง เขาก็เอาชนะสามารถครองเมืองชางโจวได้ทั้งหมดทันที!”
“ตอนนั้น เขาได้รับการเคารพ จากผู้มีอิทธิพลใต้ดินจำนวนมากในเมืองชางโจว!”
“จักรพรรมืดใต้ดินที่แท้จริง!”
หานหลงกล่าวอย่างเคร่งขรึง เย่ตงเสี้ยวสมเป็นชื่อของจักรพรรดิมืดใต้ดินเมื่อยี่สิบปีก่อนมีที่สุด ไม่เหมือนกับ เขากันกู้ตงเชินหลัวตงเหล่ยในวันนี้ที่รับการเคารพว่าเป็นจักรพรรดิใต้ดินแค่เพียงบางเขต แต่เย่ตงเสี้ยว ผู้ซึ่งครองเมืองอยู่บนดินแดนทั้งหมด ของชางโจวได้อย่างแท้จริง แม้แต่คนร่ำรวยและมีผู้อิทธิพล ก็ให้ความเคารพกับเย่ตงเสี้ยว
“ เย่ตงเสี้ยว เป็นจอมยุทธ์เหรอ?”เฉินเฟิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว มีเพียงจอมยุทธ์เท่านั้น ที่จะรู้ว่าทำไม เย่ตงเสี้ยว ต่อต้านฟ้าดิน ยี่สิบปีก่อนที่เมืองชางโจวไม่สงบสุขเท่านี้ ตอนนั้น หวาเซี่ย ไม่ได้ควบคุมการใช้มีดและปืนอย่างเคร่งครัดเป็นเรื่องปกติที่ปืนจะปรากฏในขณะการต่อสู้ เป็นไปไม่ได้คนธรรมจะโค่นเมืองชางโจว ได้ท่ามกลางกระสุน
ดังนั้นเย่ตงเสี้ยว ก็ต้องเป็นจอมยุทธ์ อย่างน้อยที่สุด เขาก็เป็นจอมยุทธ์ขั้นปลาย!
“ใช่ คุณชายเฉิน ตามข่าวลือ เย่ตงเสี้ยว เป็นจอมยุทธ์จริงๆ ” หานหลงพูดด้วยเสียงลึกที่เขารู้ เขารู้ดี เฉินเฟิงก็เป็นจอมยุทธ์ แต่เขากลับคิดว่าเฉินเฟิงสู้เย่ตงเสี้ยวเมื่อยี่สิบปีก่อนไม่ได้
“คุณชายเฉิน เรื่องของ เย่ตงเสี้ยว ผมก็เคยได้ยินพ่อพูดมาบ้าง” น้ำเสียงของจางตงเฉินดูเคร่งขรึมเช่นกัน “พ่อบอกว่าเมืองชางโจวเคยเป็นเมืองที่โดดเด่น และเป็นสถานที่ที่ร่ำรวยที่สุด ก่อนที่เย่ตงเสี้ยวจะมา การต่อสู้ของเมืองชางโจวนั่น มันกำลังโด่งดังในบรรดารัฐใกล้เคียงความแข็งแกร่งของโลกศิลปะการต่อสู้ของ เมืองชาวโจวนั้นอยู่ในระดับ แนวหน้าอย่างแน่นอน”