ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 171 โครงการขาย
ตอนที่ 171 โครงการขาย
“รู้สึกว่ามันน้อยเกินไป?งั้นคุณก็ไม่ต้องการขายมัน” เย่หมิงเหวินจิบไวน์แดงในแก้วและหัวเราะเยาะ เขาเดาได้ว่า เสี้ยห้าวมาที่นี่อย่างเร่งรีบแบบนี้ ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านแน่นอน มันอาจจะเป็นเพราะผู้ดูแลยู่ฉวนซาน เสี้ยเมิ่งเหยาได้กลับมาแล้ว ดังนั้น เสี้ยห้าวจึงรีบโยนโครงการออกไป ถ้าตอนนี้ไม่กดราคา แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่ละ?
อย่าบอกว่าเงิน 20 ล้าน เย่หมิงเหวินสงสัยว่า ถ้าเขาจ่ายแค่เงิน 15 ล้าน สุดท้ายเสี้ยห้าวก็จะขายมัน
“ผู้จัดการเย่ คุณสามารถเพิ่มอีกหน่อยได้ไหม อย่างที่เคยพูดไว้3.5 ล้านต่อหนึ่งโครงการสำหรับคุณแล้ว ก็แค่จ่ายเพิ่ม 4.5 ล้าน” เสี้ยห้าวยิ้มและพูด 3.5 ล้านหยวนต่อหนึ่งโครงการ เขายังสามารถสร้างรายได้พิเศษเพิ่มอีก 4.5 ล้านหยวน
เงินสี่ล้านครึ่งนี้ทุบใส่บนตัวของโยว่หลิงซึ่งสามารถทุบจนโยว่หลิงยอมกางขาออกได้อย่างแน่นอน ยอมให้เขาทำทุกอย่าง
กับโยว่หลิงตอนนี้หัวใจของเสี้ยห้าวรู้สึกคันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดถึงรูปร่างที่น่าหลงใหลของโยว่หลิง ท้องน้อยของโยว่หลิงก็มีความรู้สึกเร่าร้อนมากขึ้น
“นั่นคือการจ่ายเงินเพิ่มอีกสี่ล้านห้า?” เย่หมิงเหวินขมวดคิ้วขึ้น ทันใดนั้นก็ลุกขึ้น ชี้ไปที่จมูกของเสี้ยห้าวและตะโกนด่าว่า “มึงคิดว่าเงินของกูลมพัดมาให้ฟรีเหรอ! ทำไมต้องออกเงินเพิ่มให้มึงสี่ล้านห้าละ! ”
“ผู้จัดการเย่ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น … ” เสี้ยห้าวตกใจ รีบโบกมือเพื่ออธิบาย ภูมิหลังของเย่หมิงเหวินเป็นถึงตระกูลเย่ถ้าเขาทำให้เย่หมิงเหวินโมโห ไม่รู้ว่าเขาจะตายท่าไหน
“กูไม่สนว่ามึงหมายถึงอะไร สัญญาของวันนี้ มึงจะเซ็นก็ต้องเซ็น ไม่อยากเซ็นก็ต้องเซ็น!” เย่หมิงเหวินก็ขี้เกียจเสแสร้งต่อเสี้ยห้าวอีกต่อไป เขาฉีกหน้าโดยตรงและเริ่มขู่เสี้ยห้าวด้วยใบหน้าที่ดุร้าย
“ผู้จัดการเย่ คุณอย่าโมโหเลย ผมเซ็น ผมจะเซ็นเดี๋ยวนี้” เสี้ยห้าวพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
เขาเข้าใจละ เย่หมิงเหวินเป็นโจรชัดๆ ถ้าวันนี้เขาไม่เซ็น เขาจะสามารถออกจากห้องประชุมในวันนี้ได้หรือไม่ยังไม่รู้เลย
“หึ ไอ้ไร้ประโยชน์” เมื่อเห็นว่าเสี้ยห้าวแม้แต่จะขัดขืนเขายังไม่กล้า ก็ยอมเซ็นสัญญา เย่หมิงเหวินจึงด่าด้วยความรังเกียจ เขารับประกัน ถ้าส่งมอบตระกูลเสี้ยให้ไอ้ขยะอย่างเสี้ยห้าวดูแล ใช้เวลาไม่ถึงสามปี มันจะเจ๊งแน่นอน
แม้ว่าจะถูกเย่หมิงเหวินดุว่าเป็นขยะต่อหน้า แต่เสี้ยห้าวก็ไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้สักคำ รอยยิ้มที่ประจบกลับปรากฏบนใบหน้าของเขา “เอิ่ม ผู้จัดการเย่ จากนี้ไปโครงการเหล่านี้ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมละนะ”
เมื่อเห็นเสี้ยห้าวรีบขจัดส่วนเกี่ยวข้องทิ้ง เย่หมิงเหวินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะและพูดว่า “ทำไม คุณยังกลัวว่าลูกพี่ลูกน้องของคุณคนนั้นจะเอาโครงการเหล่านี้คืนจากผมเหรอ?”
เสี้ยห้าวยิ้มอย่างฝืนๆ เขาก็คิดอย่างนั้นจริงด้วย ถ้าเสี้ยเมิ่งเหยารู้ ว่าเขาขายโครงการสำคัญหลายโครงการในยู่ฉวนซานในราคาไม่กี่ล้าน เธอจะมาหาเรื่องเขาแน่นอน หรือหาผู้ซื้อด้วยตัวเองแล้วของโครงการเหล่านั้นกลับมา
เมื่อโครงการถูกขอกลับมา เช่นนั้นเย่หมิงเหวินก็จะมาคิดบัญชีกับเขา เงิน 20 ล้านที่เขาได้มา ก็จะถูกคายออกไป
“ไม่ต้องห่วง ลูกพี่ลูกน้องของคุณคนนั้น ถ้าเธอกล้ามาหากูเพื่อขอโครงการ กูจะทำให้เธอมาแล้วไม่ได้กลับ!” เย่หมิงเหวินพูดอย่างเย็นชา พูดว่า แม้ว่าจะไม่นับฝั่งของ เย่ไห่ถังแต่ ในปัจจุบันตระกูลเย่ ก็เป็นตระกูลอันดับต้นๆในเมืองชางโจว ในตระกูลที่ชื่อดังเหล่านั้นตระกูลเย่ถือว่าเป็นอันดับต้นๆ
หากนับฝั่งของเย่ไห่ถัง สามารถพูดได้ว่าตระกูลเย่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในชางโจวที่ร่ำรวยที่สุด
ตระกูลเสิ่นตระกูลหลี่อะไรนั่น ก็ไม่มีทางสู้!
หากเสี้ยเมิ่งเหยากล้าที่จะมีปัญหากับตระกูลเย่ มันก็ไม่ต่างจากการท้าทายอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ ถึงตอนนั้นเขาจะให้เสี้ยเมิ่งเหยารู้ว่า อะไรคือการเสียใจทีหลัง!
“ผู้จัดการเย่ผมไม่ได้กังวลว่าลูกพี่ลูกน้องของผมจะมาขอโครงการจากคุณ” เสี้ยห้าวลังเลสักครู่ พูด
“หือ? คุณหมายถึงอะไร?” เย่หมิงเหวินขมวดคิ้ว เสี้ยเมิ่งเหยาไม่มาขอโครงการ ใครจะเอา หรือว่าเสี้ยหยุนเสิ้งจะมาด้วยตนเอง?
“ผู้จัดการเย่ ลูกเขยที่แต่งเข้ามาในบ้านของตระกูลเรา คุณรู้จักไหม” เสี้ยห้าวไม่ได้พูดตรงๆ แต่เป็นการถามอ้อมๆ
“ลูกเขย?” เย่หมิงเหวินยกคิ้วและพูดว่า “สามีของลูกพี่ลูกน้องของคุณ?”
เสี้ยห้าวพยักหน้าและพูดว่า”เป็นเขาเอง ผู้จัดการเย่ไม่น่าเป็นไปได้ที่ลูกพี่ลูกน้องของผมจะมาขอโครงการนี้กับคุณ แต่สามีของเธอ ถ้าเขารู้เรื่องนี้ เขาจะมาหาเรื่องคุณแน่นอน”
“เสี้ยห้าว มึงคิดว่า กูไม่สามารถจัดการกับคนที่เกาะผู้หญิงกินได้หรือ?” ใบหน้าของเย่หมิงเหวินมืดลง พูดตั้งนาน ตอนแรกเขาก็คิดว่าคนที่จะมาหาเรื่องเขาจะเป็นคนใหญ่คนโตสุดท้ายกลับเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าไปในบ้าน
เขา เย่หมิงเหวินอย่างน้อยก็เป็นพ่อบ้านของตระกูลเย่ เสี้ยห้าวกลับรู้สึกว่าเขาไม่สามารถจัดการกับไอ้ขยะที่เกาะผู้หญิงกินได้
เมื่อเห็นเย่หมิงเหวินโกรธ เหงื่อเย็นบาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเสี้ยห้าว เขาก็รีบเอ่ยปากอธิบาย”ผู้จัดการเย่
ผมไม่ได้ดูถูกคุณ แต่สามีของลูกพี่ลูกน้องของผมนั่น เขาก็มีความสามารถจริงๆ เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับหลินจงเหว่ย ผู้รับผิดชอบอสังหาริมทรัพย์ติ่งเฟิงถึงตอนนั้นถ้าเขาใช้หลินจงเหว่ยมากดดันคุณ … ”
ก่อนที่เสี้ยห้าวจะพูดจบ เย่หมิงเหวินโบกมือเพื่อขัดจังหวะ “หลินจงเหว่ยมันเป็นแค่สุนัขของตระกูลเฉิน มีอะไรน่ากลัวละ”
“ถ้าตระกูลเฉินกดดันผมเป็นการส่วนตัว ผมอาจจะยังให้หน้าลูกพี่ลูกน้องของคุณ แต่หลินจงเหว่ย หึ เขาไม่มีค่าพอที่จะอยู่ในสายตาของผม” เย่หมิงเหวินพูดอย่างเย็นชาและกล่าวเสริม ตระกูลเฉิน นั่นคือมหาเศรษฐีที่แท้จริง เมื่อมองไปทั่วประเทศจีน มีไม่กี่ตระกูลที่สามารถเทียบเคียงกับตระกูลเฉินได้
ถ้าจะพูดแบบเว่อ์ไปหน่อย ทุกตระกูลในชางโจวและพวกมาเฟียรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก็ไม่เพียงพอที่จะให้ตระกูลเฉินใช้แค่นิ้วเดียวกดทับ
ไม่ว่าเย่หมิงเหวินจะห้าวหาญแค่ไหน เย่หมิงเหวินก็ไม่กล้าเพิกเฉยต่อตระกูลเฉิน
แต่ตระกูลฉินคือตระกูลเฉิน หลินจงเหว่ยคือหลินจงเหว่ย
หลินจงเหว่ย อย่างมากก็เป็นแค่พนักงานที่ระดับสูงก็เท่านั้น เย่หมิงเหวินคิดว่า หลินจงเหว่ยคงไม่มามีปัญหากับตระกูลเย่ที่อยู่เบื้องหลังของเขาเพื่อลูกเขยที่แต่งเข้าไปในบ้านฝ่ายหญิงหรอก อย่างไรก็ตาม ตระกูลเย่ ไม่ได้สามารถรังแกได้ง่ายๆ
ในเมื่อ เย่หมิงเหวินพูดอย่างนั้นแล้ว เสี้ยห้าวก็ไม่ดีที่จะพูดอะไรอีก อันที่จริงความตั้งใจเดิมของเขาคือต้องการให้ เย่หมิงเหวินระวังเฉินเฟิง ทางที่ดี สั่งสอนเฉินเฟิงสักครั้ง ถ้าเฉินเฟิงแน่ก็มาสั่งสอนเย่หมิงเหวินแทนก็ไม่เลว ยังไงเมื่อกี้เย่หมิงเหวินก็ได้ดุว่าเขา
แต่ว่า เสี้ยห้าวก็ไม่ได้คาดหวังกับเฉินฟิงมากนัก อำนาจของตระกูลเย่ เขาก็พอจะรู้บ้าง แม้ว่าปกติเย่ไห่ถังจะเรียบง่ายและไม่ค่อยปรากฏตัว
แต่พี่ชายสองคนของเธอ เย่ไห่ตงและเย่ไห่เฉิงกลับชอบโชว์
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ทั้งสองก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเมืองชางโจวมีทีมวิศวกรมากกว่าที่มีคนงาน 1,000กว่าคน มีมากกว่า7ทีม
อำนาจแบบนี้ ตระกูลเสี้ยเทียบไม่ได้เลย เฉินเฟิงอาจจะพึ่งหลินจงเหว่ย สามารถรังแกตระกูลเสี้ยได้ แต่ถ้าเขากล้าที่จะมาหาเรื่องตระกูลเย่ นั่นมันหาที่ตายชัดๆ