ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 179 ชดใช้เงิน
ตอนที่ 179 ชดใช้เงิน
ในตอนนี้ เธอไม่ได้ห่วงเฉินเฟิง แต่ในทางกลับกัน เธอรู้สึกเป็นห่วง อาเปียวเล็กน้อย
ใช่ เธอเป็นห่วงอาเปียว
เธอกังวลว่า อาเปียวจะถูก เฉินเฟิงชกจนตาย
เธอเคยได้เห็นพลังของเฉินเฟิง เกือบจะถึงจุดที่ไม่ใช่มนุษย์ทั่วไปจะทำได้
เทียบกับคนทั่วไป อาเปียวอาจถือว่าโดดเด่นกว่าพวกเขา แต่ไม่ว่าเขาจะโดดเด่นแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นคนธรรมดาเช่นกัน
คนธรรมดาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ใช่มนุษย์ได้อย่างไร?
เหมือนที่เสี้ยเมิ่งเหยาได้คาดการณ์ไว้ไม่ผิด อาเปียวที่คุกคามมาอย่างดุเดือด แทบจะแตะไม่ถูกตัวของเฉินเฟิง กลับถูกกำปั้นของเฉินเฟิงชกจนบินออกไปเจ็ดแปดเมตร เหมือนว่าวที่เชื่อกถูกตัดขาด พุ่งออกไปอยู่กลางถนน
เงียบกริบ!
เงียบกริบไปทั่วทุกพื้นที่!
รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณนายหลิน แข็งทันที ชายหัวโล้นที่นิ่งมาตลอดก็อ้าปากค้าง ราวกับว่าสามารถยัดไข่สองฟองเข้าไปในปาก
หลินหลันขยี้ตาของตนเองอย่างรุนแรง เหมือนตนเองดูผิดไป
ไอ้ขยะนี้ ทำไมเก่งขนาดนี้! เป็นไปไม่ได้แน่นอน!
ไม่อยากพูดจริงๆ คนบางคนก็ต่ำทรามแบบนี้แหละ
ตัวอย่างเช่นหลินหลัน แม้ว่าเฉินเฟิงจะแก้แค้นแทนเธอ แต่เธอก็ยอมรับมันไม่ได้
เธอยอมรับความสุดยอดของคุณนายหลินได้แต่เธอไม่สามารถยอมรับความสุดยอดของเฉินเฟิงได้!
เพราะในช่วงสามปีที่ผ่านมา เฉินเฟิงก็เหมือนสัตว์เลี้ยงที่ยกน้ำล้างเท้าให้เธอ!
แต่ตอนนี้ เฉินเฟิงกลับสามารถเหยียบคนที่ทำให้เธออับอายจมพื้นได้!
ในใจเธอรู้สึกมันไม่สมดุล!
“ตอนนี้คุณคิดว่าผมสามารถรับมันได้หรือไม่?” เฉินเฟิงเดินไปตรงหน้าคุณนายหลิน ถามจางๆ
สีหน้าของคุณนายหลิน เปลี่ยนไปชั่วขณะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เธอประเมินเฉินเฟิงต่ำไป
สามารถทำให้อาเปียวบินไปไกลเจ็ดแปดเมตรด้วยหมัดเดียว เฉินเฟิงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!
แต่หลินหลันอย่างเธอ ก็ไม่ใช่คนธรรมดา!
ข้างหลังเธอมีตระกูลหลินคอยสนับสนุนอยู่!
คุณนายหลิน หายใจเข้าลึกๆ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แล้วยังไงล่ะ”
“ฉันยอมรับ ว่าคุณเก่งในเรื่องต่อสู้ แต่ในสังคมปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าหมัดใครใหญ่คนนั้นก็ใหญ่สุด!แต่เป็นคนที่มีอำนาจจึงจะใหญ่สุด! คนอย่างคุณ แค่ฉันโทรก็สามารถจัดการคุณได้เลย!”
คุณนายหลิน มีความมั่นใจที่จะพูดเช่นนี้ เพราะมีผู้กำใหญ่ๆในชางโจว ถูกควบคุมโดยตระกูลหลิน ในเวลาจำเป็น เธอสามารถเรียกใช้กองกำลังตำรวจได้โดยส่วนตัว!
ต่อหน้ากองกำลังของตำรวจ
“แค่โทรก็สามารถจัดการได้?” เฉินเฟิงหัวเราะอย่างเหยียดหยาม ในเมืองชางโจว คนที่สามารถจัดการเขาได้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว มันยังไม่เกิด!
“ คุณไม่เชื่อเหรอ?” สายตาของคุณนายหลิน เย็นชาเล็กน้อย
“ ผมไม่เชื่อ” เฉินเฟิงส่ายหัว
“ดี!ดีมาก!” คุณนายหลิน กัดฟันแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพร้อมโทรหาน้องเขย
ในตอนนี้ ชายหัวโล้นที่ไม่ได้พูดอะไรได้ก้าวออกมา มองเฉินเฟิงด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “น้องชาย ผมชื่อหลินจ้าวจงเป็นคนตระกูลหลิน”
“ อืม แล้ว?” น้ำเสียงของเฉินเฟิงสงบ ตระกูลหลิน เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ในเมืองชางโจว มีไม่กี่ตระกูลที่อยู่ในสายตาเขา แต่ตระกูลหลิน ไม่ได้อยู่ในตระกูลต้นๆ
เปลือกตาของ หลินจ้าวจงกระตุก เขาฝืนยิ้ม“ ถ้าอย่างนั้น หากคุณเห็นแก่หน้าผม เรื่องนี้ก็ให้มันจบแค่นี้พอ”
ให้มันจบแค่นี้? คุณนายหลิน ตกตะลึง จ้าวจงพูดอะไรของเขาเนี่ย
“เห็นแก่หน้าคุณ?” เฉินเฟิงยักคิ้วและพูดว่า “คุณมีหน้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”
สีหน้าของหลินจ้าวจงเดี๋ยวดำเดี๋ยวแดง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเฉินเฟิงไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา
แต่สิ่งนี้ก็ได้ยืนยันในสิ่งที่เขาคาดเดาได้ว่า รถKoenigseggคันนั้น เป็นของ เฉินเฟิง!
เฉินเฟิงไม่เพียงเก่งในทักษะการต่อสู้ แต่ภูมิหลังของเขาก็ไม่ง่ายเช่นกัน!
หลินจ้าวจงมองเห็นสิ่งนี้ แต่คุณนายหลินกลับไม่รู้ ในทางกลับกัน เธอยิ่งรู้สึกโกรธเฉินเฟิงที่ทำให้หลินจ้าวจงอับอาย “จ้าวจง คุณกลัวอะไร โทรเรียกเจ้าสามให้เขามานี่ … ”
“หุบปาก!” คุณนายหลิน ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็ถูกขัดจังหวะด้วยใบหน้าที่เย็นชาของหลินจ้าวจง
“น้องชาย ผู้หญิงของผมไม่รู้กาลเทศะ ผมขอโทษแทนเธอด้วยนะ” หลินจ้าวจงหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่เฉินเฟิง
เฉินเฟิงหรี่ตาของเขา หลินจ้าวจงคนนี้ มีสายตาที่เฉียบแหลม ดูออกความไม่ธรรมดาของเขา
“จ้าวจง! คุณบ้าไปแล้วเหรอ! ทำไมต้องให้ฉันขอโทษไอ้โง่นี่ด้วย!” เฉินเฟิงยังไม่ทันพูดอะไร คุณนายหลิน ก็ด่าออกมา ขอโทษลูกเขยของคนบ้านนอกแทนเธอ นี่มันเหยียบหน้าเธอชัดๆ
“ผัวะ”
หลินจ้าวจงยกมือขึ้น ตบลงไปบนใบหน้าของคุณนายหลิน
คุณนายหลิน ตะลึงทันทีหลินจ้าวจงกล้าตบเธอ?
“ ถ้าคุณกล้าพูดอีก เชื่อไหมว่าผมจะไล่คุณออกไปจากตระกูลหลิน!” สีหน้าของหลินจ้าวจงมืดลงหลินฟางหญิงโง่คนนี้ ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังคุยกับใครอยู่
เมื่อเห็นใบหน้าที่เข้มขรึมของหลินจ้าวจงที่เหมือนจะมีน้ำหยดออกมา หลินฟาง ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกต่อไป เห็นได้ว่า หลินจ้าวจงเอาจริงในครั้งนี้ ถ้าเธอกล้าที่จะตอบโต้ เธอคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหลินจริงๆ
“น้องชาย คุณคิดว่า … ” หลินจ้าวจงมองไปที่เฉินเฟิงอีกครั้ง ด้วยสายตาที่มีท่าทีซักถามความเห็นเล็กน้อย เขาเห็นได้ว่าเฉินเฟิงและหลินหลันไม่ถูกกัน มิฉะนั้นเขาจะไม่นิ่งดูดายที่หลินหลันถูก หลินฟางตบหรอก
แต่หลินหลันกลับบอกว่าเฉินเฟิงเป็นลูกเขยของเขา ดังนั้น ณ ตอนนี้เขายังไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเฟิงและหลินหลัน
“อย่ามองผม มองเธอ” เฉินเฟิงเหลือบมองหลินหลันและพูดอย่างเฉื่อยชา
ในความเป็นจริงเขาขี้เกียจไปถือสาหลินฟางและหลินจ้าวจงแต่หลินหลันคงไม่คิดเช่นนั้นหากวันนี้เธอยังรู้สึกไม่สบายใจ ไม่สาสมใจ กลับบ้านเธอก็จะร้องไห้ฟูมฟายแน่นอน สุดท้ายคนที่น่าสงสารก็คือเสี้ยเมิ่งเหยา
“ป้าคนนี้ … ” หลินจ้าวจงยิ้มและมองไปที่หลินหลัน ซึ่งแตกต่างจากเฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าหลินหลันเรื่องมาก แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมท่าทีของ หลินจ้าวจงจึงดูอ่อนน้อมถ่อมตนนัก
แต่หลินหลันก็รู้สึกกล้าขึ้นมาทันที
“อีนี่ตบฉันเยอะขนาดนั้น ตอนนี้แค่คำขอโทษก็จบเหรอ?!” หลินหลันเอามือคาดเอว ความมั่นใจเต็มร้อย
“คุณป้า งั้นความหมายของคุณคือ … ” หลินจ้าวจงกัดฟันและพูด ถ้าไม่มีเฉินเฟิง ถ้าหลินหลันกล้าพูดแบบนี้กับเขา เขาคงจะตบหลินหลันให้ตายแน่นอน
“ ชดใช้ค่าเสียหาย!ต้องชดใช้ค่าเสียหาย! ชดใช้ค่ารักษาพยาบาล!ชดใช้ค่าเสียหายทางจิตใจ! ” หลินหลันพูดอย่างมั่นใจ ให้เธอไปตบหลินฟางเธอไม่มีความกล้าพอ แต่ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆเลย นั่นไม่ใช่สไตล์ของเธอ
หลินจ้าวจงรู้สึกโล่งใจ เมื่อได้ยินว่าให้ชดใช้ค่าเสียหาย ขอแค่หลินหลันไม่สร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล เขาก็รับได้ทุกอย่าง
“คุณป้า คุณต้องการเท่าไหร่?” หลินจ้าวจงถาม
“ หนึ่ง … ไม่ ห้าแสน! ฉันอยากได้ห้าแสน!” ความจริงหลินหลันจะพูดหนึ่งแสน แต่เมื่อคำพูดนั้นมาถึงริมฝีปากของเธอ เธอก็เปลี่ยนคำพูดของเธออีกครั้ง เธอรู้สึกว่าหนึ่งแสนนั้นน้อยเกินไป หากเรียกห้าสน ถ้าอีกฝ่ายไม่สามารถจ่ายได้ ก็ยังสามารถค่อยๆต่อรองกันได้
แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เธอพูดจบ หลินจ้าวจงก็ตอบตกลงโดยไม่ได้ลังเลเลยสักนิด
“ตกลงคุณป้า ห้าแสนก็ห้าแสน คุณต้องการเงินสดหรือบัตรธนาคาร” ใบหน้าของหลินจ้าวจงยิ้ม แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก ไอ้หน้าโง่ที่มุมมองแคบจริงๆ โอกาสที่ดีเช่นนี้ กลับเรียกเขาแค่ห้าแสนแต่ไม่ใช่ 5 ล้าน