ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 217 สาเหตุที่ไม่เสถียร
บทที่ 217 สาเหตุที่ไม่เสถียร
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก แต่หลังจากที่อาช่วยจัดการเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้ว แกต้องฝึกฝนอย่างหนัก อย่างนี้จะทำให้ลุงไม่ต้องรู้สึกเหนื่อยเปล่า” อู๋จิ่วโยโบกมือลา พร้อมทั้งเอ่ยขึ้นในความเป็นจริงเขายอมรับปากเติ้งซื่อชี ไม่ได้ทำเพื่อเติ้งซื่อชี ทั้งหมดหรอก แต่เพื่อตัวเขาเองด้วย
เขาติดอยู่ในขั้นอ้านจิ้งขั้นกลางมาเจ็ดปี แม้ว่าการฝึกฝนวิทยายุทรยู่นู จะทำให้เขาสามารถเหาะเหินได้หนึ่งวันพันลี้ก็ตาม แต่ระดับอ้านจิ้งขั้นกลางเขาก็ไม่สามารถบรรลุผ่านได้
จิตวิญญาณในตัวเด็กผู้หญิงธรรมดา ไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับเขาสักเท่าไหร่
สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือ ความมีชีวิตชีวาของหญิงสาวที่บริสุทธิ์มากขึ้น
เย่ไห่ถังเป็นตัวเลือกที่ดีมาก
ร่างกายบริสุทธิ์ แถมยังอยู่ในขั้นหมิงจิ้งขั้นสูงจิตวิญญาณในร่างกายได้รับการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพ
ถ้าเขาสามารถดูดซับพลังในร่างกายของเย่ไห่ถังได้ เขาก็น่าจะบรรลุไปถึงอ้านจิ้งขั้นสูง
ถึงตอนนั้น เขาก็สามารถไปได้ทุกที่บนโลกใบนี้
แต่ไม่เหมือนตอนนี้ ที่ต้องคอยอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ จากการหนีการตามล่าจากคนในสมาคม
“ลุงอู๋ ต่อไปหลานจะตั้งใจเรียนและจะไม่ทำให้ลุงอู๋ผิดหวัง” เติ้งซื่อชีกำหมัดด้วยความตื่นเต้น หลังจากจัดการเย่ไห่ถังได้ สิ่งแรกที่เขาจะทำคือขึ้นขี่บนสะโพกของเย่ไห่ถัง จัดการข่มเหง พร้อมทั้งระบายความอัปยศอดสูทั้งหมด ที่เขาได้รับมาตลอดหลายปีนี้
อู๋จิ่วโยพยักหน้าเล็กน้อย พรสวรรค์ของเติ้งซื่อชีถือว่าไม่เลว แม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้กับเย่ไห่ถังแต่มันก็มากกว่าชายหนุ่มธรรมดามี มีความหวังที่จะฝ่าไปยังอ้านจิ้ง ได้
“ลุงอู๋หลานต้องการจัดการตอนพวกมันนัดทานข้าวเย็นกัน ถึงเวลาคุณจัดการไอ้หญิงชั่วหลิ่วชิงผมจะจัดการกับไอ้เศษสวะนั่นเอง” เติ้งซื่อชี พูดว่า กลางคืนเป็นเวลาที่ดีที่สุด เขากำลังจะหักกระดูกของเฉินเฟิง ทีละท่อนๆ ต่อหน้าเย่ไห่ถัง! เพื่อให้เย่ไห่ถังรู้ว่า สิ่งที่เธอเลือกมันโง่แค่ไหน!
“โอเค” อู๋จิ่วโยพยักหน้า หนึ่งในสามคน ที่อยู่ในขั้นอ้านจิ้งขั้นต้นก็มีแค่หลิ่วชิง แต่วึ่งจะเป็นแค่ขั้น อ้านจิ้งขั้นต้นแต่การต่อสู้ของหลิ่วชิงเป็นเพราะการบาดเจ็บก่อนหน้านั้น ทำให้พลังหมิงจิ้งขั้นสูงไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไหร่
เขาสามารถจัดการได้ด้วยมือข้างเดียว
ไม่นาน เวลาก็มาถึงกลางคืน
คนจากตระกูลเย่พาเฉินเฟิงไปที่บ้านพักที่ตกแต่งสไตล์โบราณบนภูเขา
วิลล่าแห่งนี้ เป็นอุตสาหกรรมของครอบครัวเย่ ในอ่าวโป๋ไห่ซึ่งรวมการจัดเลี้ยงวันหยุดและความบันเทิงไว้ด้วยกัน ในวันธรรมดา จะไม่เปิดบริการให้คนภายนอก แต่จะเอาไว้ต้อนรับเฉพาะแขกคนสำคัญในตระกูลเย่เท่านั้น
หลังจากเดินเข้าประตูไปแล้ว กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกไม้ก็ลอยเข้าจมูก มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ
อาหารเย็นวันนี้ เป็นอาหารค่ำแบบส่วนตัว เย่ไห่ถังจึงไม่ได้มีพิธีรีตองมากมาย
แค่จัดทำในสนามในตัวร้าย ทำอาหารประจำบ้านง่ายๆ เท่านั้น
ในสนามหน้าบ้าน ไม่มีใครอื่นนอกจากเย่ไห่ถัง และหญิงชราหลังโก่งคนหนึ่ง
เฉินเฟิงไม่ได้สนใจเย่ไห่ถังมากนัก แต่หญิงชราที่อยู่เบื้องหลังเย่ไห่ถังทำให้เฉินเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย
หญิงชราตรงหน้า รูปร่างที่ง่อนแง่น ใบหน้าแก่ที่เหี่ยวแห้งเต็มไปด้วยรอยย่น เหมือนรอยพับ เห็นได้ชัดว่าริ้วรอยดังกล่าวไม่ได้เกิดจากกาลเวลา แต่ดูเหมือนว่าจะเกิดจากบาดแผล จากการถูกดูดวิญญาณไป
แน่นอนสิ่งที่ทำให้เฉินเฟิงประหลาดใจ ไม่ใช่รอยย่นของหญิงชรา แต่ในจิตใต้สำนึกของเขาดูเหมือนว่าเขาจะเคยเห็นหญิงชราตรงหน้าเขาครั้งหนึ่งเมื่อเขายังเป็นเด็ก
“คุณเฉิน? ” เมื่อเห็นเฉินเฟิงจ้องมองหญิงชรา เย่ไห่ถังก็อดจะเรียกเขาไม่ได้
เฉินเฟิงรู้สึกตัวหันกลับมานั่งและยิ้มขอโทษ
“คุณเฉินรู้จักป้าชิงเหรอ”
เย่ไห่ถังถามขึ้นอย่างอดไม่ สำหรับป้าชิงแล้ว เธอไม่รู้อะไรมากนัก แต่เท่าที่เธอจำได้ ป้าชิงอยู่กับเธอมาตลอดตั้งแต่เธอจำความได้ แต่ตอนนั้น ป้าชิงไม่ได้เป็นแบบนี้ ป้าชิงในตอนนั้น เป็นสาวงามที่มีชื่อเสียงของชางโจว แต่ตอนนี้เธอ ปล่อยตัวไปมาก
“ไม่รู้จักครับ”
เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อยและส่ายหัว บางทีเขาอาจเคยเห็นหญิงชราตรงหน้าตอนเขาเป็นเด็ก แต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นเคยเจอครั้งเดียว และเหมือนต้องการพูดอะไรบางอย่าง
แม้ว่าเขาจะเคยเจอ แต่เมื่อมองดูว่าหญิงชราหน้าตาเป็นอย่างไรเขาก็ไม่ต้องการที่จะรื้อฟื้นอดีตขึ้นมา เหมือนโรยเกลือลงบนบาดแผลของคนอื่น
“คุณเย่พวกเรามาเข้าประเด็นกันเถอะ” เฉินเฟิงยิ้มเห็นได้ชัดว่าเย่ไห่ถังรู้จักตัวตนของเขามานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องปกปิดเย่ไห่ถัง
“เข้าประเด็น” เย่ไห่ถังตกใจ เฉินเฟิงหมายถึงอะไร
“คุณเย่ ผมสามารถช่วยคุณต้านทานแรงกดดันจากตระกูลเติ้งได้” เฉินเฟิงยิ้ม เขารู้ตั้งแต่ตอนที่เติ้งซื่อชีตามจีบเย่ไห่ถังตอนอยู่บนภูเขา เขารู้ว่า เขาถูกเย่ไห่ถังหลอกใช้แล้ว แต่เขาไม่ได้โทษ เย่ไห่ถังเพราะเขาริเริ่มที่จะกระโดดลงไปในกับดักของเธอเอง
“คุณเฉิน ช่าง…ตรงไปตรงมาจริงๆ” เย่ไห่ถังยิ้มอย่างขมขื่น เธอคิดว่าเฉินเฟิงจะยังเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ คิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะเป็นคนตรงไปตรงมา แถมจัดการกับทุกอย่างได้โดยตรงประเด็นขนาดนี้
“นี่ไม่ได้เกี่ยวกับว่าตรงไปตรงมาไหม ประเด็นคือเย่ไห่ถังรู้แล้วว่าผมเป็นใคร คุณเย่ควรเข้าใจดีระหว่างผมกับตระกูลเฉินนั้น ว่าไม่ช้าก็เร็วจะมีการต่อสู้ขึ้น ผมต้องแก้ไขปัญหาที่เมืองชางโจวก่อน ส่วนคุณเย่นั้น ก็เป็นปัจจัยที่ไม่มั่นคงที่สุดในชางโจว” เฉินเฟิงมองไปที่เย่ไห่ถัง และคำพูดของเขาไม่ได้เกินจริงเย่ไห่ถังเป็นปัจจัยที่ไม่มั่นคงที่สุดในชางโจวจริงๆ
เนื่องจากเธอเป็นจอมยุทธ์นักรบที่มีพรสวรรค์สูงและเบื้องหลังของเธอคือตระกูลเย่ซึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง
สำหรับตระกูลที่เรียกว่าอันดับหนึ่ง ตอนนี้เฉินเฟิงไม่ได้อิจฉามากนัก แม้ว่าตระกูลอันดับหนึ่งจะมีอำนาจมาก แต่ก็อยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่ยิ่งใหญ่ในโลกเช่นกัน
เช่นเดียวกับตระกูลเสิ่นและตระกูลหลี่ ครอบครัวของพวกเขามีสมาชิกหลายร้อยคน ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร พวกเขาต้องคำนึงถึงสมาชิกหลายร้อยคนในครอบครัว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่น่าจะทำแบบนั้น ทำร้ายเสี้ยเมิ่งเหยาเพียงเพราะพวกเขาไม่สามารถทนความโกรธได้
ยิ่งไปกว่านั้นกู้ตงเชินและหานหลงกำลังปกป้องเสี้ยเมิ่งเหยาอยู่ แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะทำ แต่พวกเขาก็ต้องชั่งน้ำหนักว่าพวกเขามีคุณสมบัติไหม
แต่ เย่ไห่ถังนั้นแตกต่างออกไป เธอไม่มีความรักต่อตระกูลเย่อยู่แล้ว และเธอก็เป็นนักรบอยู่ ถ้าเธออยากจะบ้าคลั่งจริงๆ ก็ไม่มีใครหยุดเธอได้
ความคิดเดิมของเฉินเฟิงนั้นคือ ก่อนที่เขาจะจากไป ควรเตือนเย่ไห่ถังก่อนสักครั้งหนึ่ง หรือขับไล่เย่ไห่ถังออกจากชางโจว
แต่หลังจากขึ้นไปบนภูเขา แถมมีโอกาสได้พบเติ้งซื่อชีครั้งนี้ เขาก็เปลี่ยนความคิดไปทันที
เขาสามารถร่วมมือกับเย่ไห่ถังได้
เธอไม่ต้องการแต่งงานกับเติ้งซื่อชีและเขา มีความเข้มแข็งที่จะปกป้องไม่ให้เธอต้องแต่งงานกับเขา
เขาสามารถใช้โอกาสนี้ดึงเย่ไห่ถังมาอยู่ข้างๆ เขาและยังปล่อยให้เย่ไห่ถังปกป้องเสี้ยเมิ่งเหยาอย่างลับๆ แม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยมาก แต่เฉินเฟิงก็ยังอยากลองดู