ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 22 ถือซะว่าซื้อบทเรียน
บทที่ 22 ถือซะว่าซื้อบทเรียน
กู้ตงเชินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แค่เปิดปากพูดก็จะเอามือเขาข้างหนึ่งเลยเหรอ? ริมฝีปากของกู้ตงเชินขยับน้อย เขายังอยากจะต่อรองเงื่อนไข แต่อาเหาที่อยู่ข้าง ๆ กลับเงื้อมีดสั้นขึ้น ตายังไม่กะพริบก็ฟันลงไปที่มือซ้ายของกู้ตงเชินทันที
“อ้า~”
หลังเสียงกรีดร้องโหยหวนแล้ว มือซ้ายที่เลือดสด ๆ ไหลออกมาของกู้ตงเชินก็ตกลงไปบนพื้น
“น้องชาย พอใจหรือยัง?” อาเหาถามอย่างสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
เฉินเฟิงค่อย ๆ พยักหน้า เขายิ่งอยู่ก็ยิ่งชื่นชมอาเหาคนนี้แล้ว ทำงานเด็ดขาดและสายตาก็ยังแหลมคมอีกด้วย
ถ้าหากเมื่อกี้กู้ตงเชินยังต่อรองเงื่อนไขกับเขาต่ออีกละก็ เฉินเฟิงก็จะไม่ให้โอกาสเขาเลือกอะไรอีก เขาจะตัดมือทั้งสองข้างของกู้ตงเชินทิ้งแน่!
แต่อาเหามองออก เขาช่วยมือของกู้ตงเชินกลับมาได้ข้างหนึ่ง!
“นายเป็นคนไม่เลว ถ้าวันไหนไม่อยากอยู่วงการนี้แล้ว สามารถมาหาฉันได้” เฉินเฟิงมองอาเหาอย่างชื่นชมทีหนึ่งแล้วพูดขึ้น
อยากจะต่อกรกับผู้ใหญ่ยักษ์แบบตระกูลเฉิน งั้นก็ขาดคนดุดันแบบอาเหาไปไม่ได้ และที่สำคัญดูจากการกระทำที่เขามีต่อกู้ตงเชินแล้ว เขาเป็นคนที่มีความภักดี คนแบบนี้บนโลกนี้มีไม่เยอะแล้วจริง ๆ
อาเหาเม้มริมฝีปากไว้แน่น และไม่พูดอะไร
เฉินเฟิงก็ไม่ได้ถือสา เขาเข้าใจคนยอดฝีมือแบบอาเหานั้น มักจะมีความทะนงตนในแบบของตัวเองอยู่ พวกเขาจะไม่อ่อนข้อให้ใครง่าย ๆ แต่พออ่อนข้อให้ใครแล้ว ก็จะฝากชีวิตไว้กับคนคนนั้นเลย แบบนี้ถึงเรียกว่าเพื่อนตายของจริง!
“อีกอย่าง เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่วันนี้ ถ้ามีใครกล้าพูดออกไปแล้วละก็……” เฉินเฟิงค่อย ๆ ยิ้มขึ้น แล้วตบโต๊ะยาวในห้องส่วนตัวเบา ๆ “ผลัว” โต๊ะหินอ่อนยาวที่หนาสามนิ้วก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ!
“มันก็จะมีจุดจบเหมือนกับโต๊ะ” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ พอพูดจบ เขาก็อุ้มเสี้ยเมิ่งเหยาลุกขึ้น แล้วออกจากห้องส่วนตัวไป
สวบ!
ชายฉกรรจ์สิบกว่าคนสีหน้าเหมือนสีดิน รีบหลีกทางให้เขาอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่มีใครกล้าขวางทางสักคน!
“สืบ! ไปสืบมาให้ฉันซิ! ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใคร!” หลังจากเฉินเฟิงจากไปแล้ว กู้ตงเชินที่จับข้อมือที่เลือดไหลไม่หยุด แล้วเปิดปากพูดขึ้นอย่างยากลำบาก
“ท่านเชิน มันชื่อเฉินเฟิงครับ” ลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเมื่อกี้ค่อย ๆ พูดขึ้นเสียงอ่อน
“เฉินเฟิง? !”
กู้ตงเชินจ้องจนตาจะถลนแล้ว ข่าวนี้เกือบจะทำให้เขาตะลึงจนสลบแล้ว
นี่ก็คือสามีที่ไร้ค่าคนนั้นของเสี้ยเมิ่งเหยาเหรอ? ! เจ้าคนไร้ค่าที่เสี้ยห้าวพูดมาว่าโดนสวมเขาแล้วได้แค่โกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไรคนนั้นเหรอ!
“ฮา ฮา!”กู้ตงเชินเริ่มหัวเราะอย่างขมขื่น เขาหัวเราะจนน้ำตาไหลออกมาแล้ว ถ้าหากผู้ชายอย่างนี้ยังเป็นคนไร้ค่าแล้วล่ะก็ ในใต้หล้านี้ ก็คงไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ไร้ค่าแล้ว
ไอ้เสี้ยห้าวนะเสี้ยห้าว!
กูจะยำแม่มึงแน่!
“พี่ใหญ่ ฟังผมสักคำนะ ก็ถือซะว่าเอามือข้างนี้ซื้อบทเรียนสักครั้งก็แล้วกัน อย่าไปหาเรื่องกับคนคนนั้นอีกเลย!” อาเหามองมือขาดที่ตกอยู่บนพื้นของกู้ตงเชินทีหนึ่ง สีหน้าดูหนักใจสุด ๆ
“อาเหา เฉินเฟิงคนนั้น เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ? ถ้าหากนายใช่ปืนสู้กับเขา จะสามารถฆ่าเขาได้ไหม?” กู้ตงเชินยังถามอย่างไม่ตายใจ เขาอยู่ในชางโจวมายี่สิบกว่าปี ยังไม่เคยเสียเปรียบให้ใครขนาดนี้มาก่อน ถ้าหากคนในวงการนี้รู้เข้าว่า เขาโดนคนคนหนึ่งที่เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคนอื่นมาตัดมือไปข้างหนึ่งแล้วละก็ งั้นเขาก็ไม่ต้องอยู่ในวงการนี้ต่อแล้ว
อาเหาส่ายหน้าแล้วพูด “พี่ใหญ่ อย่าคิดเลย อยู่ต่อหน้าเขา ผมไม่มีโอกาสลั่นไกปืนด้วยซ้ำ”
“ซี่”
กู้ตงเชินสูดอากาศเย็น ๆ เข้าลึก ๆ แม้แต่โอกาสลั่นไกปืนยังไม่มีเลยเหรอ?
“ผมไม่รู้ว่าเฉินเฟิงคนนั้นทำไมถึงยอมเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้าน แต่คนแบบเขา ถ้าหากอยากจะอยู่ในวงการนี้แล้วละก็ อย่างน้อยก็ต้องได้เป็นถึงระดับหัวมังกรอยู่ในชางโจวนี้แน่นอน” อาเหายังคงพูดต่อ
กู้ตงเชินไม่พูดอะไรแล้ว เขารู้ว่าตัวเองไม่มีโอกาสแก้แค้นแล้วสักนิด เขาอยู่ในวงการนี้มายี่สิบกว่าปี แน่นอนต้องรู้อยู่แล้วว่า ถ้าอยากจะเป็นระดับหัวหน้าหัวมังกรของตลาดมืดที่ใหญ่ที่สุดนั้นมันยากแต่ไหน พูดได้ว่า ตลอดชีวิตของเขากู้ตงเชินก็ยังไม่สามารถไปถึงตำแหน่งนั้นได้เลย
แต่เฉินเฟิง อาเหากลับแค่รู้จักเขาแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสิบนาที ก็ให้คำตีค่ากับเฉินเฟิงได้ขนาดนี้แล้ว
นี่ก็เห็นได้ชัดว่า พละกำลังที่แท้จริงที่หลบซ่อนไว้ของเฉินเฟิง จะต้องไม่มีเพียงแค่หัวหน้าหัวมังกรของชางโจวเท่านั้น!
เฉินเฟิงอุ้มเสี้ยเมิ่งเหยามาถึงคลินิกเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ดูจากอาการของเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว เธอไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร เพียงแค่เป็นลมสลบไปเท่านั้น
แต่เฉินเฟิงไม่กล้าเสี่ยง ไม่กลัวว่าเป็นอะไร กลัวแค่ถ้าประมาทไป
ถ้าหากประมาทไปแล้ว เกิดมีผลข้างเคียงอะไรตามมาจะทำยังไง?
เพราะฉะนั้นเฉินเฟิงก็เลยมาถึงคลินิกเล็ก ๆ แห่งนี้
นี่คือหนึ่งในรากฐานอำนาจที่เขาวางไว้ในชางโจว เมื่อก่อนเขากลัวว่าเฉินเจิ้นหนานจะมาพบเข้า ฉะนั้นเขาก็เลยมาที่นี่น้อยมาก
แต่ตอนนี้ เฉินเฟิงก็สนใจอะไรเยอะขนาดนั้นไม่ได้แล้ว
ความปลอดภัยของเสี้ยเมิ่งเหยานั้นสำคัญกว่า
เจ้าของคลินิก เป็นผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง บุคลิกภายนอกของเธอดูแล้ว ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงวัยกลางคนทั่วไป แต่เฉินเฟิงกลับรู้ว่า ถ้าพูดถึงฝีมือการรักษาของผู้หญิงวัยกลางคนตรงหน้านี้ ถึงจะเป็นทั้งมณฑลเฉียนหนานก็ยังสามารถติดอันดับหนึ่งในสามได้!
หญิงวัยกลางคนคนนี้ เป็นลูกศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของแพทย์แผนจีนซุนซีฉือ
“นายน้อย!”
พอเห็นเฉินเฟิง ท่าทางของหลิวหวั่นเหมยก็เปลี่ยนเป็นนอบน้อมขึ้นมาทันที
“น้าเหมย” เฉินเฟิงยิ้มอ่อน ๆ แล้วพูด “ช่วยผมตรวจร่างกายให้เมิ่งเหยาหน่อย เมื่อกี้มีคนให้เธอดื่ม…น้ำยาประเภทนั้นเข้าไป”
“ได้ค่ะ นายน้อย!”
หลิวหวั่นเหมยพยักหน้า แล้วอุ้มเสี้ยเมิ่งเหยาไปที่ห้องข้าง ๆ
ผ่านไปสักพัก หลิวหวั่นเหมยก็เดินออกมา
“นายน้อย เมิ่งเหยาไม่เป็นอะไรมากค่ะ เธอแค่ตกใจมากเกินไปก็เลยสลบไปเท่านั้น”
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” เฉินเฟิงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง “เอ่อใช่แล้ว น้าเหมย หลังจากผมจากไปแล้ว คนของตระกูลเฉินอาจจะสืบประวัติคุณ คุณต้องระวังหน่อยนะครับ” เฉินเฟิงรู้ดี ทาสผีที่คอยตามเขาอยู่ข้างหลัง จากลักษณะและความรอบคอบในการทำงานของพวกเขา จะต้องสืบมาถึงหลิวหวั่นเหมยแน่นอน
“นายน้อยท่านวางใจได้ ฉันเตรียมประวัติส่วนตัวอีกชุดหนึ่งไว้นานแล้วค่ะ” หลิวหวั่นเหมยพูดขึ้น
“อืม” เฉินเฟิงค่อย ๆ พยักหน้า คิดจะต่อกรกับเจ้าจิ้งจอกแก่อย่างเฉินเจิ้นหนานนี้ เขาจำเป็นจะต้องระมัดระวังอย่างมาก ถ้าก้าวพลาดไปก้าวหนึ่ง ก็อาจจะต้องแพ้ไปทั้งกระดานได้!
เสี้ยเมิ่งเหยานอนจนถึงช่วงบ่ายถึงตื่น พอตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเฉินเฟิง เธอก็ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ได้อีก เธอกอดเฉินเฟิงแล้วร้องไห้อย่างหนักขึ้นมา
“หือ หือ เฉินเฟิง ฉันกลัวมากเลย……”
“ไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่ด้วยแล้ว” เฉินเฟิงพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน ถึงแม้เสี้ยเมิ่งเหยาดูแล้วจะเข้มแข็งมากแค่ไหน แต่ก็เปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ได้ พอเจอคนชั่วแบบกู้ตงเชิน ถ้าจัดการได้ไม่ดี ก็อาจจะเหลือผลกระทบต่อจิตใจไว้ได้ เพราะฉะนั้นเฉินเฟิงถึงไม่ได้เล่าเรื่องราวตอนหลังให้เธอรู้ บอกเธอเพียงแค่ว่า ตำรวจมาถึงทันเวลาและช่วยเธอเอาไว้
“เฉินเฟิง ทำไมเสี้ยห้าวต้องใจร้ายขนาดนี้ ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขานะ เขาใจดำอำมหิตขนาดนี้ได้ยังไง……” ที่จริงสิ่งที่ทำให้เสี้ยเมิ่งเหยารับไม่ได้ที่สุดก็คือ โดนลูกพี่ลูกน้องตัวเองทำร้ายแบบนี้ เพื่อผลกำไรแล้วญาติของเธอถึงกับทำลายชีวิตทั้งชีวิตของเธอได้
“เสี้ยห้าว!”
นัยน์ตาของเฉินเฟิงมีแสงเย็นกะพริบผ่าน ในตอนที่ผู้ชายสักลายเสือมาหาเรื่องเขานั้น เขาก็รู้แล้วว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องเป็นเสี้ยห้าว นอกจากเสี้ยห้าวแล้วก็ไม่มีใครที่จะทำกับเขาแบบนี้แล้ว
ถ้าเป็นตระกูลเฉินแล้วละก็ ไม่มีทางส่งคนกิ๊กก๊อกแบบนี้มาแน่
เสี้ยห้าวรังแกเสี้ยเมิ่งเหยาครั้งแล้วครั้งเล่ายังไม่พอ ครั้งนี้ยังเกือบจะทำลาย…ของเสี้ยเมิ่งเหยาอีก มันถึงขีดสุดของเขาแลัว!
ครั้งนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้เสี้ยห้าวอยู่เป็นสุขแน่!
เมื่อก่อน เป็นเพราะความสัมพันธ์กับเสี้ยเมิ่งเหยา เฉินเฟิงถึงไม่อยากจะทำให้เรื่องมันเลวร้ายเกินไป ในเมื่อพวกเสี้ยห้าวและเสี้ยหยุนเสิ้งนั้นยังเป็นญาติของเสี้ยเมิ่งเหยา
แต่ตอนนี้ เสี้ยเมิ่งเหยานับพวกเขาเป็นญาติ แต่พวกเขากลับไม่คิดว่าเสี้ยเมิ่งเหยาเป็นญาติสักนิด