ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 280 งูดำอันน่ากลัว
บทที่ 280 งูดำอันน่ากลัว
ต่อให้โห้ชิงซงที่เป็นจอมยุทธ์อ้านจิ้ง ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเหน็บชาตรงหนังหัว เขาเดินอยู่ในทั่วแผ่นดินนี้มาสี่สิบกว่าปี เคยฆ่าเสือดาว ล่าหมาป่า ต่อให้จะเป็นหมีในป่าลึกก็ตาม เขาก็เคยเห็นมาหลายตัว ทว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขากลับไม่เคยได้เห็นได้ยินมาก่อน
ลำตัวที่ยาวยี่สิบสามสิบเมตร นี่มันอะไรกันแน่ ต่อให้เป็นรถถังหนึ่งคัน ถ้าอยู่ตรงหน้ามัน ก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กน้อย แค่ถูกหางมันฟาดหนึ่งทีก็ปลิวไปไกลๆ แล้ว!
“คุณชายเฉิน นี่……นี่มันตัวอะไรกันแน่? ”
ทั้งสี่พี่น้องตระกูลเฉินถูกทำให้ตกใจจนเอ๋อ พวกเขาเดินจากใต้มาเหนือมาหลายปีขนาดนี้ ต่อให้เจอคนมามากมายขนาดนั้น ทว่างูดำที่ใหญ่ขนาดนี้ พวกเขากลับไม่เคยได้ยินมาก่อน
เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าที่สงสัย สิ่งที่อยู่ตรงหน้า กลัวว่าคงไม่ใช่งู…….
“เจียหมิง นายกับฉันต้องสู้กับมัน! ”
เวลานี้โห้ชิงซงออกคำสั่งด้วยเสียงเรียบเฉย เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองไปด้านหลัง
“คนอื่นๆ พาคุณหนูไปหลบก่อน! ”
ความว่องไวของงูดำตัวนี้ มีเร็วกว่าลมพัดอีก อีกอย่างยังสามารถป้องกันกระสุนด้วย ถ้าให้ทหารรับจ้างพวกนี้จู่โจม นอกจากจะถูกกลืนกินเข้าไปในท้อง ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
มีเพียงเขากับคนที่เป็นอ้านจิ้งขั้นกลางของตระกูลโห้จู่โจมพร้อมกัน จึงอาจจะสามารถทำให้งูดำตัวนี้ได้รับบาดเจ็บได้
และโห้ชิงซงเพิ่งจะพูดจบ งูดำขนาดใหญ่แลบลิ้นออกมา เหมือนลูกธนูที่ออกจากสายธนู แล้วกำลังจะกัดโห้ชิงซง
โห้ชิงซงทำม่านตาหด แล้วหมุนตัวเพื่อหลบงูดำขนาดใหญ่ที่กำลังจะกัดเขา
ทว่าด้านหลังของเขาคือทหารรับจ้างก็คงจะซวย จึงถูกงูดำขนาดใหญ่กัดตรงเอวจนลำตัวกลายเป็นสองท่อน ลำตัวครึ่งหนึ่งเข้าไปในท้องของงูดำ และอีกครึ่งยังอยู่บนพื้น จนไส้ไหลทะลักออกมากองบนพื้น และเต็มไปด้วยเลือดแดงสด
“โอ๊ย!! ”
โห้หงเย้นจึงตะโกนร้องทุกข์ออกมาอย่างตกใจมากๆ
พอคนพวกนี้โดนแบบนี้ สุดท้ายก็ทำให้เธอที่กำลังตะลึงตื่นสักที
ทว่าตอนนี้ เสียงตะโกนร้องทุกข์ของเธอทำให้ดึงดูดความสนใจของงูดำ นัยน์ตาที่สีนิลเขียวมรกตกำลังจับจ้องไปยังโห้หงเย้น
และงูดำตรงหน้ากำลังมุ่งหน้าไปกัดหงเย้น โห้ชิงซงจึงเห็นแล้วตะโกนด้วยความโมโห จากนั้นก็กระโดดฝ่าอากาศไป
“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน เจอดีแน่!”
จากนั้นเขาก็เอาดาบยาวที่แหลมคมฝ่าอากาศไปทันที
งูดำเหมือนสัมผัสได้ว่าตัวเองกำลังถูกโจมตี เขาไม่ได้ปล่อยโห้หงเย้นไป ทว่ากลับเลื้อยไปหาโห้ชิงซง
ตอนนี้ใบมีดที่พุ่งไปถึง!
“ฉึ่ก! ”
ดาบยาวของโห้ชิงซงแทงลงบนเกล็ดของงูดำ ทำให้สะท้อนให้เห็นแสงสว่างที่อาบด้วยเลือด
งูดำรู้สึกเจ็บปวด ดวงตาสีนิลเขียวมรกตเคล้าด้วยความโมโหเหมือนคน
จากนั้นก็ใช้หางสะบัดไปยังโห้ชิงซงอย่างเต็มแรง
โห้ชิงซงที่ลอยอยู่กลางอากาศจึงไม่สามารถพึ่งแรงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาดาบยาวมาวางอยู่ตรงหน้าอก จากนั้นก็มองดูหางยักษ์เหมือนรถไฟที่สะบัดมาอย่างรวดเร็ว
หางยักษ์ตบบนดาบยาว
ติ้ง……
เสียงดังขึ้นอย่างชัดเจน
จากนั้นมีดยาวจึงหักตรงกลาง และกลายเป็นสองท่อนทันที!
แรงที่เหลืออยู่ของงูหูยังไม่จบ จากนั้นก็ตบลงบนหน้าอกของโห้ชิงซง
หลังจากที่ได้ยินเสียงแตกหัก ก็มีเสียงกระดูกตรงหน้าอกหัก!
เขาเหมือนว้าวที่ขาดจากสาย แล้วตัวก็ปลิวออกไปไกลๆ จนถึงเจ็ดแปดเมตร คนยังไม่ทันได้หล่นลงบนพื้น ปากของเขาก็มีเลือดสดพุ่งกระฉูดออกมา
แค่ท่าไม้ตายท่าเดียว ก็ทำให้อ้านจิ้งขั้นกลางอย่างโห้ชิงซงเสียแร้งต้านทาน!
“คุณ……คุณชายเฉิน เราถอยเถอะ” เฉินจื๋อหลี่ที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดินยังต้องพูดด้วยเสียงสั่น
เขาไม่เคยเห็นอะไรที่โหดเหี้ยมแบบนี้มาก่อน แม้กระทั่งแรงของคนยังเล็กลงไปทันที
กระสุนไม่ยังไม่สามารถทิ้งบาดเจ็บอะไรใดๆ บนตัวมันเลย ดาบยาวของจอมยุทธ์อ้านจิ้งยังฟันได้รอยบางๆ เท่านั้น
ถ้าไม่ใช้จรวดรถถังที่เป็นอาวุธสงครามร้ายแรง ก็ไม่มีทางทำอะไรมันได้!
“ถอย? ทำไมต้องถอย?” เฉินเฟิงคลายยิ้มบางๆ “พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อมาเอาบัวหิมะซินเจียง ถ้าเราถอย แล้วจะทำยังไงกับบัวหิมะซินเจียง?”
“แต่ว่า……” เฉินจื๋อหลี่ตกตะลึง เขาอยากจะบอกว่างูดำตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่กำลังของมนุษย์สามารถสู้ได้ แต่เมื่อมองแววตาที่ต้องการต่อสู้ของเฉินเฟิง เขาจึงไม่ได้พูดประโยคข้างหลังออกมา
“คุณชายเฉิน ถึงแม้ว่าบัวหิมะซินเจียงจะสำคัญ แต่ความปลอดภัยของคุณ สำคัญกว่า” เฉินจื๋อเหวินพูดเสียงเรียบ เขาเองก็มองออกว่าเฉินเฟิงต้องการที่จะสู้ แต่เฉินเฟิงเป็นคู่ต่อสู้ของงูดำตรงหน้าจริงๆหรอ?
ไม่เห็นว่าจะเป็นแบบนั้น
เฉินเฟิงส่ายหน้า เขาไม่ได้พูดอะไร ถึงแม้งูดำตรงหน้าจะน่ากลัว แต่ไม่ได้น่ากลัวจนถึงขั้นไม่สามารถสู้ได้
ขณะที่สี่พี่น้องตระกูลเฉินและเฉินเฟิงกำลังพูดคุยกันนั้น การต่อสู้ระหว่างตระกูลโห้กับงูดำได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
โห้ชิงซงล้มลงกับพื้น ทำให้คนตระกูลโห้รู้สึกหดหู่ทันที
งูดำพุ่งตัวเข้ามาหาคนของตระกูลโห้แล้วหมุนเอาทหารรับจ้างทุกคนไปเหมือนพายุทอร์นาโด โห้เจียหมิงที่เป็นหนึ่งในจอมยุทธ์อ้านจิ้งขั้นกลางของตระกูลโห้เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงจับตัวโห้หงเย้นเอาไว้เพื่อที่จะหนี
ไม่เวลามาสนใจทหารรับจ้างของตระกูลโห้ได้
เพียงแต่วินาทีนี้
ทหารรับจ้างส่วนมากก็ถูกทำร้ายมากกว่าเดิม
งูดำพุ่งตัวเข้ามาในกลุ่มคน จากนั้นอ้าปากกว้าง แล้วกลืนคนเข้าไปในห้องทีละคนๆ หรือไม่ก็กัดเป็นสองท่อน
ส่วนคนที่ไม่ทันระวังแล้วสัมผัสโดนตัวงู ก็บินไปอีกทาง อวัยวะในร่างกายแตกเป็นเลือดตั้งแต่ลอยอยู่กลางอากาศ
ถูกงูดำกระแทกโดน ไม่เบาไปกว่าการถูกรถบรรทุกที่ขับด้วยความเร็วหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงพุ่งเข้าใส่
โห้หงเย้นอ้าปากกว้าง น้ำตาของเธอนองหน้า เวลานี้เธออยากจะร้องไห้แต่กลับร้องไม่มีเสียง
มองดูภาพของคนที่คุ้นเคยตรงหน้าร้องด้วยความทรมานต่อหน้าเธอ ความรู้สึกที่เหมือนหัวใจถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ยากที่จะใช้คำพูดมาอธิบาย
โห้หงเย้นรู้สึกเสียใจ ถ้าสามารถย้อนทุกอย่างกลับไปได้อีกครั้ง เธอไม่มีวันมาที่ยู่ฉวนซานอย่างแน่นอน
ถ้าหากเริ่มใหม่อีกครั้ง เธอจะถอยหลังหนีตั้งแต่ตอนที่เฉินเฟิงบอกว่าใต้น้ำมีอันตราย
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีถ้าหาก
มีเพียงแค่ การทำทำโดยพลการของเธอ
มีเพียงแค่ คนตายและได้รับบาดเจ็บมากมาย
หลังจากที่กินทหารรับจ้างของตระกูลโห้ไปประมาณหนึ่งแล้วนั้น ดวงตาเย็นยะเยือกของงูดำจ้องมองยังโห้ชิงซงซึ่งหมดแรงสู้ที่นอนอยู่บนพื้น
โห้ชิงซงเคยทำร้ายมัน!
ถึงแม้จะเป็นแผลเล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นการทำร้าย!
ดังนั้นมันจะแก้แค้น มันจะกัดกินโห้ชิงซงให้เละ เพื่อระบายความโกรธ
งูดำแลบลิ้น มันเลื้อยไปทางโห้ชิงซงอย่างไม่รีบร้อน
“อาโห้!”
โห้หงเย้นที่เห็นภาพนี้ร้องเสียงหลง เธอพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มี เพื่อที่จะหลุดออกมาจากพันธนาการของโห้เจียหมิง
เธอจะไปช่วยโห้ชิงซง
พ่อของเธอเสียไปตั้งแต่เธอยังเล็ก โห้ชิงซงเป็นคนเลี้ยงดูเธอ ความสัมพันธ์ของเธอกับโห้ชิงซง เหมือนพ่อกับลูกมานานแล้ว! เธอไม่สามารถยอมทนเห็นโห้ชิงซงถูกงูกินเข้าไปต่อหน้าต่อตาได้
“คุณหนู อย่าเข้ามา!”
ทั้งตัวของโห้ชิงซงเต็มไปด้วยเลือด ขาเบิกตากว้างและร้องอย่างสุดเสียง
โห้เจียหมิงเองก็สิ้นหวัง เขาจับตัวโห้หงเย้นเอาไว้แน่น “คุณหนู อย่าไป ถ้าคุณหนูไป ชิงซงก็ตายเปล่า!”
ความเป็นจริงนับตั้งแต่งูดำปรากฏตัวออกมา โห้ชิงซงก็รู้ดีกว่า วันนี้เขาคงต้องตายแน่ๆ
เขาที่เป็นคนรับผิดชอบภารกิจในครั้งนี้ของตระกูลโห้ เขาจำเป็นต้องเหลือทางหนีที่รอดเอาไว้ให้
“คุณหนู รีบไปเร็วเข้าครับ!”โห้ชิงซงร้องตะโกน จากนั้นยืนขึ้นอย่างสั่นเทา แล้ววิ่งไปทางงูดำ
“อาโห้!”
โห้หงเย้นกรีดร้อง น้ำตาของเธอไหลลงมาเหมือนน้ำพุ เธอรู้สึกเจ็บปวดเหมือนหัวใจสลาย