ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 29 เสี้ยหยุนเสิ้งมาเอง
บทที่ 29 เสี้ยหยุนเสิ้งมาเอง
“ไม่มีทาง! เฉินเฟิงแกคิดก็ไม่ต้องคิดเลย!” เสี้ยฉี่ชาวยังไม่ทันได้พูดอะไร เสี้ยห้าวกลับร้อนใจขึ้นมาก่อน โครงการยู่ฉวนซานนั้นเป็นต้นเงินต้นทองของเขาคนเดียว เขาจะไปมอบให้คนอื่นได้ยังไง
“นี่คือท่าทีที่นายมาขอโทษคนอื่นเหรอ?” เฉินเฟิงพูดขึ้นเสียงเรียบ เขาเข้าใจอยู่แล้ว ว่าตระกูลเสี้ยไม่มีทางมอบโครงการยู่ฉวนซานออกมาแน่ ๆ ที่เขาพูดไปแบบนั้น ก็แค่ต้องการแหย่เสี้ยห้าวเล่นเท่านั้น
“เฉินเฟิง ขอโทษก็ส่วนขอโทษ แต่นายต้องเข้าใจว่า โครงการยู่ฉวนซานต้องมอบให้เสี้ยห้าวเท่านั้น เราสามารถชดเชยอย่างอื่นให้เมิ่งเหยาได้” เสี้ยฉี่ชาวพูดเสียงเข้ม
“อย่างอื่น? อย่างเช่นอะไรล่ะ? ให้เมิ่งเหยากลับไปบริษัทอีกครั้งเหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มแล้วถาม
สีหน้าของเสี้ยฉี่ชาวเริ่มดูไม่ได้ แน่นอนเขาต้องฟังออกน้ำเสียงเยาะเย้ยในคำพูดของเฉินเฟิง แต่เวลานี้เขาได้แต่พยายามสะกดกลั้นความโกรธที่อยู่ในใจแล้วพูดขึ้น “ไม่ใช่เพียงแค่นี้ พวกเราไม่เพียงให้เมิ่งเหยากลับเข้ามาบริษัทใหม่ ยังจะคืนตึกอสังหาริมทรัพย์ที่ทิศตะวันออกของเมืองให้เมิ่งเหยาอีกครั้ง และที่สำคัญยังจะแบ่งผลกำไรจากโครงการยู่ฉวนซานให้เมิ่งเหยาอีก5%ด้วย”
หลังจากพูดจบแล้ว เสี้ยฉี่ชาวก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางเฉินเฟิง นี่ถือเป็นการถอยก้าวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว เขาเชื่อว่าข้อตกลงนี้ มากพอที่จะทำให้เฉินเฟิงและเสี้ยเมิ่งเหยาจิตใจหวั่นไหวได้แล้ว
แต่ใครจะรู้ เฉินเฟิงกลับสีหน้ายังเปลี่ยนสีสักนิด
“5%ของผลกำไรเหรอ? คุณลุงใหญ่ คุณนี่ช่างใจกว้างจริง ๆนะ” เฉินเฟิงยิ้มอย่างดูถูก
“เฉินเฟิง นายอย่าไม่รู้จักพอแบบนี้นะ ! 5%ของผลกำไร ก็มากพอให้นายอยู่ได้อย่างสบายทั้งชีวิตแล้ว !” เสี้ยฉี่ชาวคิ้วขมวดกันเป็นปมพูดขึ้น เขารู้สถานการณ์ปัจจุบันของเฉินเฟิงดี ต้องวิ่งไปมาส่งของท่ามกลางสามลมสายฝน ทำแทบตายเดือนหนึ่งก็ได้อยู่แค่หกเจ็ดพัน แต่ผลกำไรของโครงการยู่ฉวนซานถึงแม้จะแค่5% แต่ทุกปีก็มีสูงถึงสิบล้าน พูดอย่างอลังการหน่อยก็คือ ต่อให้เฉินเฟิงทำงานส่งอาหารสิบชาติก็หาเงินเยอะขนาดนี้ไม่ได้
“เอาล่ะ คุณลุงใหญ่ พวกคุณกลับไปได้แล้ว และก็ฝากไปบอกเสี้ยหยุนเสิ้งด้วยว่า เรื่องบริษัทนั้น เมิ่งเหยาไม่มีทางกลับไปอีกแล้ว นอกซะจากว่าเขาเสี้ยหยุนเสิ้งจะมาขอโทษเมิ่งเหยาที่นี่ด้วยตัวเอง และยกโครงการยู่ฉวนซานให้เมิ่งเหยาดูแลจัดการ เรื่องนี้เราถึงจะคุยกันได้” น้ำเสียงของเฉินเฟิงราบเรียบ แต่คำพูดที่พูดออกมานั้น กลับทำให้สองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวตกใจจนตาแทบจะถลนออกมาแล้ว
จะให้เสี้ยหยุนเสิ้งมาขอโทษถึงที่งั้นเหรอ? และยังต้องยกโครงการยู่ฉวนซานให้เสี้ยเมิ่งเหยาดูแลอีกเหรอ?
เฉินเฟิงนี่มันขี้ขึ้นสมองแล้วเหรอ?
แม้แต่เสี้ยเมิ่งเหยาและหลินหลัน ถึงแม้จะคาดคิดเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ก็โดนทำให้ตกใจไม่น้อย พูดได้แค่ว่า เฉินเฟิงช่างมีความคิดแปลกประหลาดมากจริง ๆ
“ดูเหมือนนายไม่ได้กะว่าจะพูดคุยต่อแล้ว? นายรู้ไหม ถ้าจะให้ปู่ของเมิ่งเหยามาขอโทษเมิ่งเหยาเองนั้น จะมีผลอะไรตามมาทีหลัง?” เสี้ยฉี่ชาวพูดขึ้นเสียงเรียบ มีความข่มขู่ในน้ำเสียงอย่างเห็นได้ชัด
“ผลที่จะตามมาทีหลัง? ผมก็อยากจะลองดูเหมือนกัน ว่าจะเกิดผลอะไรตามมา” เฉินเฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ แค่เสี้ยหยุนเสิ้งตัวเล็ก ๆ คนเดียว ถ้าหากว่าเขาอยากละก็แค่หยิบมือก็จัดการได้แล้ว เขาก็ไม่ได้กังวลเลยจริง ๆ ว่าจะมีผมอะไรตามมา
“ดี! ดี! ดี! หวังว่าตอนที่ปัญหามาถึงแล้ว ปากนายก็ยังจะหนักแบบนี้นะ!” เสี้ยฉี่ชาวโกรธจนพูดคำว่า ‘ดี’ ทีเดียวสามครั้งเลย เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า คนน่าสมเพชที่ปกติเทียบกับหมาตัวหนึ่งยังไม่ได้อย่างเฉินเฟิง ตอนนี้จะมาโอหังได้ขนาดนี้
นี่มันโอหังจนถึงสวรรค์แล้ว
หลังจากพูดจบ เสี้ยฉี่ชาวก็พาเสี้ยห้าวกระชากประตูออกไปเลย เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องพูดคุยกันอีก
หลังจากที่ทั้งสองคนจากไปแล้ว หลินหลันก็มองเฉินเฟิงด้วยสายตาเย็น ๆ ทีหนึ่ง แล้วถามขึ้น “เฉินเฟิง ตกลงนายมีอะไรเป็นที่พึ่ง? เมื่อกี้ข้อเสนอที่พวกเสี้ยฉี่ชาวให้มาก็มากมายแล้วนะ ทำไมนายยังไม่ตอบตกลงอีก?”
“คุณแม่ ผมไม่มีที่พึ่งอะไรจริง ๆ ผมแค่อยากจะเอาคืนแทนเมิ่งเหยาหน่อยเท่านั้นเอง ต้องให้พวกเขารู้ว่า เมิ่งเหยาไม่ใช่คนที่ใครอยากรังแกก็รังแกได้” เฉินเฟิงพูดขึ้นอย่างเบื่อหน่าย
“อะไรนะ? ! นายไม่มีที่พึ่งอะไรเลย แล้วยังกล้าโอหังขนาดนี้อีก!”
หลินหลันโกรธขึ้นมาทันที ผลกำไร5%ของโครงการยู่ฉวนซาน เมื่อกี้ก็ทำเธอใจสั่นไหวแล้ว ถ้าไม่ใช่ท่าทีที่แกร่งกล้าขนาดนั้นของเฉินเฟิง ทำให้เธอเข้าใจผิดว่าเฉินเฟิงยังมีคนหนุนหลัง เธอต้องช่วยเสี้ยเมิ่งเหยาตอบตกลงไปแล้วแน่ ๆ จากที่เธอดูแล้ว หน้าตาหรือจะไปสำคัญกว่าปากท้อง พวกเขาทั้งครอบครัวถ้ายังไม่มีช่องทางการมาของเงินอีก ก็ต้องไปกินลมชมวิวแล้ว
“แม่ค่ะ คนที่รับผิดชอบโครงการยู่ฉวนซานนั้นเขาเป็นเพื่อนนักเรียนของเฉินเฟิง” เวลานี้เสี้ยเมิ่งเหยาเปิดปากพูดขึ้นด้วยความเบื่อหน่าย ที่จริงเหตุผลที่ทำให้สองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวมาในวันนี้ เธอพอเดาได้บ้างแล้ว ว่าเป็นเพราะเฉินเฟิงให้หลินจงเหว่ยกดดันพวกตระกูลเสี้ย ทำให้ตระกูลเสี้ยต้องเจอความลำบากในโครงการยู่ฉวนซานแน่
“เพื่อนนักเรียน?” หลินหลันมองเฉินเฟิงด้วยแววตาสงสัยทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “เพื่อนนักเรียนอะไร ทำไมเขาถึงช่วยนายผิดใจกับตระกูลเสี้ย?”
“เพื่อนสมัยมหาลัยครับ เพื่อนร่วมเตียงชั้นบนชั้นล่าง ความสัมพันธ์ของพวกเราสนิทกันมาก แบบว่าเกือบจะใส่กางเกงตัวเดียวกันแล้ว” เฉินเฟิงพูดโกหกได้อย่างหน้าไม่แดงใจไม่สั่นเลยสักนิด
“มันก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี” หลินหลันเบ้ปาก แล้วพูดขึ้น “ทางที่ดีนายต้องรับประกันว่าเพื่อนคนนั้นของนายมีประสิทธิภาพมากพอ ถ้าครั้งนี้เมิ่งเหยากลับไปบริษัทไม่ได้ นายก็ไสหัวไปและยอมหย่ากับเมิ่งเหยาซะดี ๆ อย่ามาทำลายเมิ่งเหยาอีก”
“คุณแม่ คุณแม่วางใจได้เลยครับ เพื่อนผมเขารับปากผมแล้ว” เฉินเฟิงพูดยิ้ม ๆ
“จบมาจากมหาลัยเดียวกัน ทำไมพวกนายถึงได้ต่างกันมากขนาดนี้ เขาเป็นถึงผู้จัดการแล้ว แต่นายกลับยังส่งอาหารอยู่อย่างนี้” หลินหลันพร่ำบ่นอย่างไม่พอใจอีก ในใจคิด ถ้าหากเมื่อสามปีก่อนตัวเองหาลูกเขยได้คนอย่างหลินจงเหว่ยก็ดีนะซิ
เฉินเฟิงยิ้ม ๆ แต่ไม่พูดอะไร
เช้าวันที่สอง ก็มีข่าวที่น่าตกใจแพร่สะพัดออกมาคนวงในของตระกูลเสี้ย
เสี้ยหยุนเสิ้งจะไปบ้านเสี้ยเมิ่งเหยา เพื่อจะไปขอโทษเสี้ยเมิ่งเหยาด้วยตัวเอง!
ข่าวนี้ ไม่เพียงทำให้คนตกใจ สมาชิกทั้งหมดของตระกูลเสี้ย ยังตะลึงจนตาโตปากค้างอีกด้วย
อยู่ในตระกูลเสี้ยนั้น เสี้ยหยุนเสิ้งจะเป็นสวรรค์ก็จะได้เป็น จะเป็นเทพเจ้าก็จะได้เป็น!
แต่เสี้ยเมิ่งเหยากลับเป็นแค่บุคคลข้างเคียง ตั้งแต่สามปีก่อนที่แต่งงานกับเฉินเฟิงแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องตลกที่คอยวนเวียนอยู่ของคนทั้งตระกูลเสี้ย
แต่วันนี้ เทพเจ้าของ ตระกูลเสี้ย กลับจะไปขอโทษคนที่เป็นเรื่องตลกคนนั้น
สมาชิกทั้งหมดของตระกูลเสี้ยต่างก็ยอมรับความจริงนี้ไม่ได้
แม้แต่หลินหลันและเสี้ยเมิ่งเหยาก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังฝันอยู่
คำพูดของเฉินเฟิงคิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นจริงแล้ว! คุณปู่จะมาขอโทษเธอด้วยตัวเองเหรอ?
เสี้ยเมิ่งเหยารู้สึกมึน ๆ งง ๆ จนกระทั่งเสี้ยหยุนเสิ้งมาเคาะประตูแล้ว เธอถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่า เสี้ยหยุนเสิ้งมาแล้วจริง ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เสี้ยหยุนเสิ้งมาบ้านของเสี้ยเมิ่งเหยา! ข้างหลังเขายังมีสองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวตามมา และกระทั่งสองพ่อลูกเสี้ยเจิ้งหยู และบุคคลที่มีความสำคัญของตระกูลเสี้ยเกือบทั้งหมดก็มาด้วย!
หลินหลันและเสี้ยเมิ่งเหยาโดนคณะคนที่เยอะแยะมากมายขนาดนี้ทำให้รู้สึกว่าทำอะไรไม่ถูก
มีเพียงเฉินเฟิงเท่านั้นที่ยังคงสงบนิ่ง
เพราะเขาคาดคิดไว้อยู่แล้วว่าเสี้ยหยุนเสิ้งจะต้องยอมก้มหัวลง
บางทีอยู่ในสายตาคนตระกูลเสี้ยคนอื่น ๆ เสี้ยหยุนเสิ้งอาจจะดูเป็นคนสูงส่ง แตะต้องไม่ได้ แต่สำหรับเฉินเฟิงดูแล้ว ก็คือคนเฒ่าคนแก่ทั่วไปคนหนึ่ง พอเจอปัญหาก็ต้องก้มหัว ต้องอ่อนข้อให้ และที่สำคัญเขาอยู่มาค่อนชีวิต ผ่านช่วงอายุที่ศักดิ์ศรีสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้นมานานแล้ว
เพราะฉะนั้น ที่เสี้ยหยุนเสิ้งมาถึงที่นี่นั้น จากที่เฉินเฟิงดูมา มันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว
พอเสี้ยหยุนเสิ้งเข้าประตูมา ก็เริ่มสังเกตปฏิกิริยาของคนในบ้านทั้งสามคน
สำหรับท่าทางตกใจของหลินหลันและเสี้ยเมิ่งเหยานั้น เขาคาดคิดไว้อยู่ก่อนแล้ว
จากนั้นเขาก็มองไปทางเฉินเฟิงตอนที่เห็นสีหน้าของเฉินเฟิงไม่มีแม้เศษเสี้ยวความแปลกใจ แถมมุมปากก็ยังแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มอย่างได้ใจนั้น ในใจของเสี้ยหยุนเสิ้งก็เกิดเสียงตุ๋มขึ้นมา เขาเข้าใจแล้ว ครั้งนี้เขามองพลาดไปแล้วจริง ๆ นี่เป็นการมองพลาดครั้งที่รุนแรงที่สุดในค่อนชีวิตของเขาเลย