ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 314 การหย่าร้าง
บทที่ 314 การหย่าร้าง
แต่สีหน้าของหลินหลันมืดลงทันที เธอชี้ตรงไปที่จมูกของเฉินเฟิงและด่าว่า “คุณทุบรถของน้าคุณเพื่อนางนี่เนี่ยนะ!
“ คุณยังกล้ามาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ!”
ใบหน้าของเฉินเฟิงเริ่มเย็นชา “ผมทุบรถของหลินเย่นเพราะรถของเธอควรจะถูกทุบ!”
หลินหลันโกรธจนจะระเบิด “ตาเสี้ย คุณฟังซิ คุณลองฟังว่าไอ้ขยะนี้พูดว่ายังไง
“ อะไรคือรถของพี่เย่นสมควรทุบ? พี่เย่นเป็นน้าของเขา น้าแท้ๆ!
“เขาทุบรถของน้าตนเองเพื่อนางจิ้งจอกนี่ ยังกล้ามาบอกว่ารถของป้าตนเองสมควรทุบ!”
“ นี่มันอะไรกัน!”
“ วันนี้เขากล้าทุบรถพี่เย่นเพื่อนางจิ้งจอกคนนี้ พรุ่งนี้เขาจะกล้าฆ่าครอบครัวของเราสามคนเพื่อนางจิ้งจอกคนนี้เช่นกัน!”
“หลันหลัน พอแล้ว มีอะไรก็กลับไปคุยกันที่บ้าน” ใบหน้าของเสี้ยเว่ยกั๋วมืดจนน่ากลัว
อย่างที่ว่ากันว่าเรื่องไม่ดีในครอบครัว ไม่ควรแพร่งพรายออกนอกบ้าน แม้ว่าเฉินเฟิงจะทำไม่ถูก ก็ควรกลับไปเคลียร์กันในบ้าน ไม่ใช่มาโวยวายเสียงดังในโรงพยาบาลที่มีผู้คนมากมายเช่นนี้
“ ไม่ได้!”
“ ถ้าในวันนี้คุณไม่ชี้แจงเรื่องนี้ให้มันจบ ไม่ว่าใครก็ห้ามกลับ!” หลินหลันไม่ยอม ตั้งใจที่จะทำให้เฉินเฟิงอับอายต่อหน้าสาธารณชน
“ แม่ กลับไปเถอะ”
ในเวลานี้ เสี้ยเมิ่งเหยากล่าว เสียงของเธอเย็นชาและไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าที่สะอาดของเธอ
“ กลับไม่ได้!” หลินหลันพูดออกไปโดยไม่คิดเลย
“วันนี้ต้องพูดให้เข้าใจที่นี่”
“ ถ้าไม่คุยให้รู้เรื่องในตอนนี้ ไอ้ขยะกลับไปยังสวมเขาให้คุณเหมือนเดิมจะทำยังไง?” “ คุณต้องการให้ผมพูดยังไง?” เฉินเฟิงหายใจเข้าลึก ๆ และถาม
หลินหลันยิ้มเยาะ “จะพูดยังไงละ?บอกมาตามตรงเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับเย่ไห่ถังและนางจิ้งจอกคนนี้ จากนั้นก็คุกเข่าลงและขอโทษเมิ่งเหยาและสัญญาว่าจะไม่นอกใจในอนาคต”
“เมื่อทำสิ่งเหล่านี้ได้ พวกเราค่อยกลับไปคุยกัน”
“หลินหลัน คุณอย่ามาได้คืบจะเอาศอกนะ! ผมกับเย่ไห่ถังและหลินหวั่นชีวเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่เหมือนที่คุณพูดสักนิด” เฉินเฟิงกัดฟันและพูดทีละคำ“ ได้คืบจะเอาศอก?”
“ไอ้ขยะที่มีชู้ไปสามครั้ง ยังมีหน้ามาบอกว่าฉันได้คืบจะเอาศอก?”
“ ใครให้ความกล้าแก่คุณ?!”
“ฉันจะบอกคุณนะ เฉินเฟิง เมิ่งเหยาของเรารังแกง่าย แต่ฉันกับตาเสี้ย ไม่ได้รังแกง่ายๆ!” “ ถ้าครั้งนี้คุณไม่คุกเข่าให้เมิ่งเหยา งั้นต่อไป คุณก็อย่าได้ก้าวเข้าไปในตระกูลเสี้ยของเราเลย!”
“ พรุ่งนี้ คุณไปที่อำเภอ ไปดำเนินเรื่องหย่ากับเมิ่งเหยาเลย!”
“ได้”
เสียงเย็นชาดังขึ้น
จากนั้น ทุกคนก็ตะลึง
“เมิ่ง … เมิ่งเหยา คุณกำลังพูดอะไร?” หลินหลันไม่อยากจะเชื่อคำว่าได้นี้ถูกพ่นออกมาจากปากของเสี้ยเมิ่งเหยา
“ฉันตอบตกลง” เสี้ยเมิ่งเหยาเหลือบมองหลินหลันด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก”พรุ่งนี้ฉันจะไปอำเภอ ดำเนินเรื่องหย่ากับเฉินเฟิง คุณพอใจหรือยัง?”
รอยยิ้มมุมปากของหลินหลันแข็งอยู่ที่นั่น เอ่ยพูดอย่างงงๆ “เมิ่ง … เมิ่งเหยา คุณล้อเล่นใช่ไหม?”
เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัว:”ฉันไม่ได้ล้อเล่น”
“เมิ่งเหยา อย่าพูดเรื่องไร้สาระ!” ใบหน้าของเสี้ยเว่ยกั๋วเคร่งขรึม
เสี้ยเมิ่งเหยายังคงส่ายหัว:”ฉันไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ”
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็หันไปหาเฉินเฟิง “เฉินเฟิง เราหย่ากันเถอะ”
….. หย่า?
เฉินเฟิงเงยหน้าขึ้น ราวกับว่าเขาไม่อยากจะเชื่อคำสองคำนี้จะออกมาจากปากของเสี้ยเมิ่งเหยา
“ทำไม?”
หายใจเข้าลึก ๆ น้ำเสียงของเฉินเฟิงก็สงบลง
“ไม่ทำไม ฉันแค่เหนื่อย” ใบหน้าเสี้ยเมิ่งเหยายังคงดูสงบ
แต่หัวใจของเฉินเฟิงกลับบีบแน่น ราวกับว่าเขาถูกจับด้วยมือใหญ่อย่างกะทันหันและแม้แต่หายใจก็ลำบาก
เขาเห็นได้ว่าครั้งนี้เสี้ยเมิ่งเหยาจริงจัง
เธออยากหย่าจริงๆ
แค่……
“พวกเรากลับบ้านกันแล้วค่อยคุยหัน” เฉินเฟิงหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งและบังคับตัวเองให้สงบ
“ไม่ต้องแล้ว ครั้งนี้ฉันจริงจัง” เสี้ยเมิ่งเหยามองตรงไปที่เฉินเฟิงโดยไม่มีความผันผวนใด ๆ ในดวงตาที่สวยงามของเธอ
“เมิ่งเหยา! อย่าใช้แต่อารมณ์!” เสี้ยเว่ยกั๋วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “สามปีที่ยากที่สุด คุณและเฉินเฟิงก็อดทนมาได้ ตอนนี้หย่าอะไรของคุณ?”
“นั่นสิ เมิ่งเหยา แม่แค่ล้อเล่น” หลินหลันพูด ดวงตาของเธอหมุนและพูดว่า “ถึงแม้ว่าไอ้ขยะนี้จะทำผิดไปก็ตาม แต่ก็ยังให้อภัยได้เรื่องหย่า … ก็ไม่ต้องหย่าแล้ว ”
“พ่อ แม่ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันคิดดีแล้ว เฉินเฟิงกับฉันไม่เหมาะสมกัน”
“ สามปีก่อนเราไม่ควรคบกัน”
“ มาถึงวันนี้ ความสัมพันธ์นี้ควรจะจบลงแล้ว” เสี้ยเมิ่งเหยายังคงดูนิ่งสงบและนิ่งจนน่ากลัว
แต่สีหน้าของเฉินเฟิงซีดกว่าที่เคย
“ ขอโทษนะ เฉินเฟิง ฉันไม่ใช่ภรรยาที่มีคุณสมบัติเหมาะสม” เสี้ยเมิ่งเหยาสูดหายใจเข้าลึกๆและกลั้นเสียงที่สั่น หลังจากพูดเสร็จ เธอก็หันกลับไปโดยไม่หันกลับมามองเลย
“เมิ่งเหยา!” เสี้ยเว่ยกั๋วรู้สึกกังวลใจ
หลินหลันก็กังวลใจเช่นกัน
เธอจ้องไปที่เฉินเฟิง “ไอ้ขยะ คุณยังยืนทื่ออะไรอยู่ที่นี่?รีบไปตามสิ”
“ พี่เฉินเฟิง พี่รีบตามพี่เขาไป แล้วอธิบายให้เธอฟังอย่างชัดเจน … ” หลินหวั่นชีวก็รีบร้อนใจจนเกือบจะร้องไห้
“ไม่จำเป็น” เฉินเฟิงส่ายหัว ไม่มีใครรู้จักเสี้ยเมิ่งเหยาดีไปกว่าเขาแล้ว แม้ว่าเธอจะดูอ่อนแอ แต่นิสัยที่แท้จริงของเธอก็แข็งแกร่งกว่าใครๆ
เมื่อตัดสินใจแล้วไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้
แม้ว่าเขา ก็ไม่มีประโยชน์
สำหรับการหย่าร้างในครั้งนี้ เฉินเฟิงสามารถพูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่ก็เป็นเรื่องที่คิดไว้แล้ว
“ เฉินเฟิง คุณจะหย่ากับเมิ่งเหยาจริงๆหรือ?!” เสียงของเสี้ยเว่ยกั๋วเริ่มเย็นชา
“ใช่” เฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย ริมฝีปากของเขาขยับและพูดว่า “พ่อ ผมขอโทษ”
“ เห้อ … ” เสี้ยเว่ยกั๋วถอนหายใจแรงๆ ไม่รู้จะพูดอะไร เขาสามารถเห็นได้ว่ามีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เสี้ยเมิ่งเหยามีความเด็ดขาดในครั้งนี้
ไม่ใช่แค่เรื่องเย่ไห่ถังและหลินหวั่นชีวแน่นอน
“ไอ้ขยะไร้ประโยชน์” หลินหลันดุอย่างขมขื่น แม้ว่าเธอจะสนับสนุนให้พวกเขาหย่าร้างในช่วงสามปีที่ผ่านมาแต่เมื่อเสี้ยเมิ่งเหยาได้ตัดสินใจ เธอก็ไม่รู้จะทำยังไงดีและไม่สามารถยอมรับมันได้
“ เพราะคุณคนเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณชอบยุ่งเรื่องคนอื่น เมิ่งเหยาจะเป็นแบบนี้เหรอ!” เสี้ยเว่ยกั๋วโยนความโกรธใส่หลินหลัน
“เอ๋?ทำไมคุณถึงมาโทษฉัน?ทั้งๆที่เขาแอบกินข้างนอก เมิ่งเหยาจับได้ เมิ่งเหยาจึงหย่ากับเขา เสี้ยเว่ยกั๋ว คุณมีสิทธิ์อะไรมาโยนความผิดใส่ฉัน… ”
“ ถ้าคุณไม่พูดถึงเรื่องหย่า เมิ่งเหยาจะคิดได้ไหม?”
เฉินเฟิงออกจากโรงพยาบาลด้วยสีหน้าสิ้นหวัง เขาไม่ได้ยินว่าเสี้ยเว่ยกั๋วและหลินหลันเทลาะอะไรไปบ้าง
หลินหวั่นชีวไล่ขึ้นไป ร้องไห้และอธิบาย “พี่เฉินเฟิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นเพราะฉัน … ”
เฉินเฟิงโบกมือและรอยยิ้มที่ดูฝืนปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา:”ไม่โทษคุณ หวั่นชีว เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณเลย ผมกับเมิ่งเหยาหย่ากันเพราะเหตุผลอื่น”
“แต่……”
“ไม่ต้องแต่ละ คุณกลับไปก่อน ผมอยากอยู่คนเดียว”