ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 344 ตัวไร้ประโยชน์เข็นไม่ขึ้น
บทที่ 344 ตัวไร้ประโยชน์เข็นไม่ขึ้น
ดินแดนในมาเลย์ไม่ใหญ่มาก นอกจากแก๊งต้าหม่าและสำนักไฟแล้ว ที่เหลือมีแต่พวกลูกกระจ๊อก ถ้าลู่ตุงโสงกับข่าจ้านตาย เขาเจ้าสามหวงก็จะกลายเป็นหัวหน้าใหญ่คุมมาเลย์ทันที
เฉินเฟิงมองบน: “ต่อให้นายเอามาเลย์มายกให้ฉันทั้งหมด ฉันก็ขี้เกียจรับ”
“นี่ ฉันล้อเล่นกับแก แกคิดเป็นจริงหรือไง” เจ้าสามหวงเบ้ปาก เฉินเฟิงมีความสามารถแอบแฝงเท่าไหร่เขาไม่รู้ แต่ไม่ใช่อะไรที่มาเลย์จะเอาเขาอยู่แน่
ต่อให้เป็นหวาเซี่ย ก็รั้งเจ้ามังกรตัวนี้ไว้ไม่อยู่
“เอาล่ะ ไม่คุยละ” เฉินเฟิงจู่ๆก็ลุกขึ้น มองหน้าเจ้าสามหวงหนึ่งที: “ช่วงนี้พยายามฝึกฝนเข้าไว้ ให้สามารถบรรลุหั้วจิ้งให้ได้เร็วๆ นายบรรลุหั้วจิ้งเมื่อไหร่ ฉันก็ไปมาเลย์ตัดหัวหมาของลู่ตุงโสงกับข่าจ้านเมื่อนั้น”
“ไม่ต้องหรอก หัวเจ้าหมาสองตัวนั่นฉันจะหาทางตัดเอง” เจ้าสามหวงพูดอย่างเกียจคร้าน
เฉินเฟิงยิ้มส่ายหน้า ไม่ได้ว่าอะไร
วันถัดมา
เฉินเฟิงไปที่บ้านหวางตั้งแต่เช้า เมื่อวานตอนออกจากบ้านหวาง เขารับปากหวางหงอี้เอาไว้ว่า วันนี้จะไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปกับหวางซือหยวน ไปตามธรรมเนียม
พอมาถึงบ้านหวาง หวางหงอี้กับเพิ้งเย้นฟางไม่อยู่บ้าน มีหวางซือหยวนอยู่คนเดียว
หวางซือหยวนวันนี้ใส่ชุดกระโปรงรัดรูปสีดำ เผยให้เห็นรูปร่างเป็นเคิร์ฟเอสของตัวเอง บั้นท้ายงามงอน เอวคอดเป็นรูปทรง…และยังมีเรียวขางามสองข้างที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงน่องซีทรูสีดำ ทั้งหมดนี้เปล่งประกายออร่าความสวยไม่ปิดบัง
เฉินเฟิงเหล่หนึ่งที ก่อนดึงสายตากลับ ไม่ได้ค้างที่ตัวหวางซือหยวนนานนัก
แต่ท่าทีเขาในสายตาหวางซือหยวนกลับกลายเป็นหลบตา
เจ้าหนอนเน่าบ้านนอก กล้าเหล่ชื่นชมความงามของฉัน โดนฉันจับได้ กลับทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรออกมา! หวางซือหยวนยิ้มเย็นในใจ สายตารังเกียจปิดไม่มิด
จะอ๊วก!
เธอสบถในใจอีกที หวางซือหยวนเดินกอดอกมายืนหน้าเฉินเฟิง เธอมองเขาอย่างเย็นชาหนึ่งที: “นายจะใส่ชุดนี้ไปสัมภาษณ์งาน?”
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว ก้มหน้ามองชุดตัวเอง เป็นชุดเสื้อวอร์มสีเทา เสี้ยเมิ่งเหยาซื้อที่ร้านเมื่อปีก่อน ถึงจะไม่แพง แต่เฉินเฟิงซักสะอาดมากมาตลอด
“ทำไมหรอ มีปัญหาอะไรหรอ?” เฉินเฟิงอดถามขึ้นมาไม่ได้
“นายบอกว่าทำไมหรอ?!” หวางซือหยวนเริ่มเดือด: “วันนี้พวกเราจะไปสัมภาษณ์งานนะ ไม่ได้ไปเที่ยว นายใส่ชุดวอร์มแบบนี้แปลว่าอะไร? ชุดสูทล่ะ?!”
“ผมไม่มีสูท” เฉินเฟิงพูดเนิบๆ ตอนอยู่บ้านเสี้ย เขาส่งของเดลิเวอร์รี่ตลอด ไม่จำเป็นต้องใส่สูท แถมตัวเขาเองก็ไม่ชอบด้วย
ท่าทีเอื่อยเฉื่อยของเฉินเฟิงทำให้หวางซือหยวนโกรธมาก: “ไม่มีสูท ไปซื้อไม่ได้หรือไง? นายเห็นบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปของเราเป็นอะไรหะ? เป็นบริษัทบ้านนอกแบบแถวบ้านนายหรือไง?”
“คุณพูดมากไปแล้ว” เฉินเฟิงยังคงมีท่าทีนิ่งเฉย อย่างหวางซือหยวนน่ะมองก็รู้แล้วว่าโตมาแบบคุณหนูเอาแต่ใจ โดนเอาอกเอาใจตั้งแต่เด็ก พอโดนตามใจจนเคยตัวจะมีนิสัยเสียอย่างว่า ตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก คนอื่นต้องยอมลงให้เธอหมด
เฉินเฟิงขี้เกียจถือสาคนแบบนี้ น่าขายหน้าจะตาย
“มันน่าโมโหนัก! มันน่านัก!”
“อ๊า..เจ้าขยะ นายมันขยะชัดๆ!”
หวางซือหยวนโกรธจนกรี๊ดออกมา เธอไม่เข้าใจว่า ทำไมเฉินเฟิงถึงหน้าด้านขนาดนี้ บ้านหวางอุตส่าห์ยื่นโอกาสดีแบบนี้มาวางตรงหน้าเขา ให้เขาทำตามธรรมเนียมก็สามารถเข้าไปทำงานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปได้ เขายังไม่รู้จักขอบคุณอีก
ในสถานการณ์ที่สำคัญอย่างสัมภาษณ์งาน เขากลับใส่ชุดวอร์มมา นี่ไม่ใช่กะทำให้บ้านหวางเสียหน้า ทำให้หลี่สื้อผิงเสียหน้าหรือไงกัน!
“ซือหยวน ทำไมหรอ?” ตอนนี้เองเสียงร่าเริงดังขึ้นที่นอกประตู จากนั้นหลี่สื้อผิงที่หล่อเหลาสูงใหญ่ในชุดสูทสีน้ำเงินเดินเข้ามา
“ฮือๆ สื้อผิง เจ้าหนอนเน่านี่รังแกฉัน” พอเห็นหลี่สื้อผิง หวางซือหยวนก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าน่าสงสาร
“เขารังแกคุณ?!”
สีหน้าหลี่สื้อผิงขรึมลงทันที มองเฉินเฟิงอย่างเย็นชา: “ไอ้บ้านนอก ยังไงกัน? นายลวนลามซือหยวนหรือไง?”
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว: “เปล่า”
“เปล่า?”
“เปล่าแล้วทำไมซือหยวนบอกว่านายรังแกเธอ!” หลี่สื้อผิงดูโกรธๆ เขารู้สึกว่า เฉินเฟิงต้องลวนลามหวางซือหยวนแน่ เพราะเฉินเฟิงพึ่งหย่ามา หวางซือหยวนทั้งสวยน่ารัก ชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เฉินเฟิงอาจจะคิดไม่ซื่อขึ้นมาก็ได้
พอเห็นหลี่สื้อผิงท่าจะใช้กำลัง หวางซือหยวนร้อนใจทันที เธอไม่ได้กังวลหรอกว่าหลี่สื้อผิงจะชกเฉินเฟิงหรืออะไร แต่กังวลว่าหลี่สื้อผิงจะคิดว่าเธอโดนเฉินเฟิงทำอะไร แล้วเลิกจีบเธอ
“สื้อผิง ที่ฉันบอกว่ารังแกไม่ใช่แบบนั้น” หวางซือหยวนรีบอธิบาย “ ที่ฉันบอกว่ารังแกหมายถึง เจ้าหนอนเน่านี่เถียงฉัน”
“เถียง?” หลี่สื้อผิงมองหวางซือหยวนอย่างสงสัย
“อืม เถียง” หวางซือหยวนพยักหน้า จากนั้นก็ชี้ไปที่เฉินเฟิงพลางฟ้องว่า: “สื้อผิง คุณดูไอ้ขยะนี่ใส่เสื้อผ้าสิ หยั่งกับขอทานแน่ะ ฉันให้เขาไปซื้อสูทชุดหนึ่ง เขายังไม่ซื้อเลย
“ท่าทางแบบนี้เนี่ยนะ จะไปสัมภาษณ์ยังไงล่ะเนี่ย?”
“เพื่อนร่วมงานที่บริษัทคุณเจอคุณรับคนแบบนี้เข้าทำงาน พวกเขาต้องไม่พอใจคุณแน่ๆ”
หวางซือหยวนร่ายยาว กลิ่นหวานหอมจากปากเธอพ่นใส่หน้าหลี่สื้อผิงไม่หยุด ทำให้เขาใจเต้นรัวและหวาดหวั่น
มือใหญ่เลยโอบเอวบางเธอไว้ตามธรรมชาติ หลี่สื้อผิงปลอบอย่างรักใคร่ว่า: “ที่รัก คุณพูดมีเหตุผลมาก แต่คุณไม่ต้องกังวลนะ ตำแหน่งผมในบริษัทใหญ่มากนะ ต่อให้ผมเอาขยะยัดเข้าบริษัท พวกเขาก็ไม่ว่าอะไรผมหรอก”
“ก็ได้” หวางซือหยวนเบ้ปากอย่างจำยอม ที่จริงเธออยากให้หลี่สื้อผิงยกเลิกความคิดที่จะยัดเฉินเฟิงเข้าบริษัท เพราะเธอก็ทำงานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ต่อไปถ้าคนอื่นรู้ว่า เธอรู้จักกับเจ้าหนอนเน่านี่ เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
แต่ว่าหลี่สื้อผิงพูดถึงขนาดนี้แล้ว เธอต้องเห็นแก่หน้าเขาหน่อย ยังไงซะตอนนี้เขาก็เท่ากับเป็นแฟนเธอไปครึ่งหนึ่งแล้ว
“เฉินเฟิง ไปสัมภาษณ์เข้าบริษัทครั้งนี้ ถึงจะเป็นตามธรรมเนียม แต่ฉันเตือนนายไว้อย่างนะ ให้ความสำคัญซะหน่อยก็ดี อย่าทำให้มันแย่มาก ถ้าแย่เกินไป นายจะอยู่ที่บริษัทไม่ได้นานหรอก” หลี่สื้อผิงมองเฉินเฟิงพลางยิ้มเย็น
ในสายตาเขาแล้ว เฉินเฟิงคงขยะที่เข็นไม่ขึ้น คนอื่นเจอโอกาสดีขนาดนี้ คงรีบเอาชุดที่แพงที่สุดของตัวเองและแสดงออกให้ดีที่สุด แต่ขยะอย่างเฉินเฟิงกลับใส่ชุดวอร์มมา
หมดหนทางเยียวยาละ!
ถ้าไม่ใช่เพราะรับปากหวางหงอี้แล้ว เขาอยากจะหนีไปให้พ้นๆเลย