ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 43 ต้องเพิ่มเงิน
บทที่ 43 ต้องเพิ่มเงิน
หลินหลันไม่ลังเลและหันไปจ้องมองเฉินเฟิง “ได้ยินแล้วหรือยัง หันไปขอโทษป้าแกและลูกพี่ลูกน้องแก ขอโทษสิ!”
“หลังจากขอโทษแล้ว เรื่องที่แกเรียกร้องให้เมิ่งเหยาซื้อรถให้แกฉันก็จะปล่อยไป” ราวกับกังวลว่าเฉินเฟิงจะขัดขืนตัวเอง หลินหลันจึงกล่าวประโยคเพิ่มเติม ในความคิดของเธอ เธอเองก็ได้เผชิญหน้ากับเฉินเฟิงมาสักพักแล้วและเชื่อว่าเฉินเฟิงจะไม่มีทางขัดขืน
“แม่ คุณจะมากเกินไปแล้ว!” ใบหน้าที่งดงามของ เสี้ยเมิ่งเหยานั้นเย็นชาและน่ากลัว
เมื่อพูดจบ เธอก็ตรงไปคว้ามือของเฉินเฟิงและกล่าว “เฉินเฟิง เราไปกันเถอะ”
“ไป? พวกคุณจะไปไหน!” หลินหลันในตอนนั้นโกรธเคือง “เสี้ยเมิ่งเหยา ถ้าวันนี้เธอกล้าจะก้าวออกไปจากประตู หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกลับมาอีก”
“แล้วก็แกเฉินเฟิง ถ้ากล้าที่จะพาเสี้ยเมิ่งเหยาออกไป พรุ่งนี้ก็ย้ายออกไปจากตระกูลเสี้ยได้เลย!” หลินหลันขู่ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เธอยังไม่เชื่อว่าเธอจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์นี้ได้
สีหน้าของเฉินเฟิงนั้นสงบนิ่ง เขาค่อยๆปล่อยมือของเสี้ยเมิ่งเหยาจากนั้นก็ตรงไปยังซุนกุ้ยฟางแม่ลูก
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลินหลันก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไอ้คนไร้ค่าก็ยังคงไม่กล้าขัดคำสั่งของเธอ
“เฉินเฟิง คุณจะทำอะไร?!” เสี้ยเมิ่งเหยารู้สึกโกรธเล็กน้อย เธอคาดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะไม่ต่อสู้ และยอมคุกเข่าขอโทษซุนกุ้ยฟางแม่ลูก
“ยังยืนนิ่งเป็นสากอยู่อีก? ยังไม่รีบเข้ามาก้มหัวขอโทษอีกหรือไง!” หลินต้าจูนกล่าวอย่างหยิ่งผยอง ในเวลานี้เขาเชื่อในความสามารถของซุนกุ้ยฟางว่าเธอมีวิธีที่ทำให้หลินหลันบังคับให้เฉินเฟิงให้มาคุกเข่าขอโทษ
“คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าต้องการให้ฉันคุกเข่าก้มหัวขอโทษคุณ?” เฉินเฟิงถามเบาๆ
“แน่นอน! ไอ้ขยะ เมื่อกี้ตอนทุบตีฉันไม่ใช่ว่าเก่งมากหรือไง ตอนนี้ยังจะเก่งอีกไหม? รีบคลานเข้ามาขอโทษสิ เคาะหัวกับพื้นสิบครั้งด้วยล่ะ ให้ฉันตบด้วยแล้วฉันจะยกโทษให้” หลินต้าจูนกล่าวอย่างยืดอกและทุกคำพูดไม่ได้อยู่ในสายตาของเฉินเฟิงเลย
เฉินเฟิงยิ้มเบาๆและเดินตรงไปที่หลินต้าจูน
“ฉันจะบอกให้ อย่าทำให้เรื่องวุ่นวาย” ไม่รู้ทำไมหลินต้าจูนรู้สึกหนาวสั่นเพราะรอยยิ้มของเฉินเฟิงดังนั้นเขาจึงกล่าวเตือน
เฉินเฟิงหยุดก้าวเดินและมองไปที่ซุนกุ้ยฟางพร้อมรอยยิ้ม “คุณป้า ไม่ต้องกังวล ฉันจะสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตอนนี้ฉันอยากขอโทษลูกพี่ลูกน้องของฉันแทบแย่”
พูดจบเฉินเฟิงก็เดินมาตรงหน้าหลินต้าจูน
หลินต้าจูนยิ้มอย่างร้ายกาจและมองไปที่เฉินเฟิงจากนั้นกล่าว “ยังไม่คุก…”
คำถัดไปยังไม่ทันกล่าวออกมา มือใหญ่ก็คว้าผมของเขาเอาไว้
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินต้าจูนก็แข็งในทันที จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงมหาศาลที่มาจากหนังศีรษะของเขาทันใดนั้นศีรษะของเขาก็กระแทกพื้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
“ปัง”
เสียงดังขึ้น
ศีรษะของหลินต้าจูนกระแทกเข้ากับพื้นไม้อย่างรุนแรง
ทันใดนั้นดวงตาของ ซุนกุ้ยฟางก็ตื่นตะลึงด้วยความโกรธ
หลินหลันและเสี้ยเมิ่งเหยาตื่นตระหนก
“ขอโทษด้วยพี่ เมื่อกี้ฉันไม่น่าต่อยตีคุณเลย” รอยยิ้มของเฉินเฟิงราวกับปีศาจ
ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็จับศีรษะหลินต้าจูนแล้วยกมันขึ้นมาจากนั้นก็กระแทกลงไปอีกครั้ง!
“ปัง”
เสียงดังขึ้นอีกครั้ง ศีรษะของหลินต้าจูนนั้นมีเลือดซึมออกมา
“พี่ชาย ศีรษะคุณแตกแล้วล่ะ” เฉินเฟิงยังคงยิ้มอยู่เช่นนั้น
“อ๊าก! แม่ฆ่ามัน!” สีหน้าของซุนกุ้ยฟางนั้นโกรธเคืองมาก เธอหยิบกรรไกรจากบนโต๊ะแล้วพุ่งเข้าไปที่เฉินเฟิง
เฉินเฟิงไม่ได้หันกลับไปมอง เขาเพียงเตะซุนกุ้ยฟางให้ออกไป
“ปัง”
ศีรษะของหลินต้าจูนกระแทกพื้นอีกครั้ง
“พี่ชาย ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” เฉินเฟิงถามอย่าง เป็นห่วง
ใบหน้าของหลินหลันเต็มไปด้วยความกลัว หลินต้าจูนนั้นอาการย่ำแย่จะพูดได้อย่างไร
“เฉินเฟิง!” เสี้ยเมิ่งเหยารีบเข้ามาคว้าร่างกายเฉินเฟิงไว้ ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย เธอกลัวว่าหากเฉินเฟิงกระแทกอีกครั้งหลินต้าจูนอาจตายได้
เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยาเข้ามา เฉินเฟิงก็หรี่สายตามองและลุกขึ้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่ากลัวเสี้ยเมิ่งเหยาจะตกใจเขาจะต้องทิ้งบทเรียนที่น่าจดจำให้กับหลินต้าจูน
“แม่ ยังอยากให้ฉันขอโทษอีกไหม?” เฉินเฟิงมองหลินหลันและถามด้วยรอยยิ้ม
“แก…แกในสายตาแกไม่มีกฎหมายบ้านเมืองหรือไง แกทำขนาดนี้ก็ฆ่าฉันตายได้เหมือนกัน!” หลินหลันชี้ไปที่จมูกของเฉินเฟิงและเธอสั่นด้วยความโกรธ
“แม่ ฉันจะไม่ทำร้ายคุณ เพราะคุณเป็นแม่ของเมิ่งเหยา” เฉินเฟิงกล่าว
“แต่ฉันหวังว่าคุณจะจำได้ว่าฉันเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ย และฉันก็ไม่ใช่หมา!” สีหน้าของเฉินเฟิงนั้นเย็นชา “เรื่องบางเรื่องก็อย่าให้มันมากเกินไป!”
“แก แก..กล้าขู่ฉันเหรอ?!” หลินหลันโกรธเคือง
“ไม่ได้ขู่แต่แค่แนะนำ” เฉินเฟิงนั้นท่าทางสงบ
“ดี! ดี! คำแนะนำ!” หลินหลันกล่าวคำเหล่านี้จากการกัดฟัน จากนั้นเธอก็มองไปที่เฉินเฟิงและตะโกน “ถ้าเช่นนั้นวันนี้ฉันก็จะให้คำแนะนำแกหมือนกัน ตอนนี้ ในตอนนี้ ฉันไล่แกออกจากตระกูลเสี้ย!”
“โอเค”
เฉินเฟิงนั้นตอบอย่างตรงไปตรงมา หลังจากพูดจบเขาก็ผลักประตูและจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
“แม่ ทำไมคุณทำไมแบบนี้ได้อย่างไร!” ใบหน้าสวยของเสี้ยเมิ่งเหยาเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ฉันทำไม? ฉันไม่ได้ทำเพื่อแกอยู่หรอกหรือไง ไอ้ขยะแบบนั้นไปได้ก็ดีแล้ว แม่จะหาคนดีๆให้แก ดีกว่าเขาสิบเท่าร้อยเท่า” หลินหลันคิดว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นถูก เนื่องจากเสี้ยเมิ่งเหยากลายเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ยู่ฉวนซาน มีผู้ชายที่เพอร์เฟคจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาหาเธอ ความพยายามของพวกเขาชัดเจน ตราบใดที่หลินหลันหาวิธีไล่เฉินเฟิงออกจากตระกูลเสี้ยได้ พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะสามารถครอบครองเสี้ยเมิ่งเหยาได้
“แม่ คุณทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงจริงๆ” เสี้ยเมิ่งเหยาเช็ดน้ำตาของเธอและพูดอย่างเย็นชา
“แกบอกว่าฉันน่าขยะแขยง?!” ทันใดนั้นหลินหลันก็ระเบิดอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน “แกยังมีจิตสำนึกหรือเปล่า ฉันทำงานหนักหนาสาหัสเพื่อเลี้ยงดูแกมันไม่ง่ายเลย แล้วจู่ๆแกมาบอกว่าฉัน…”
“ปัง!”
เสี้ยเมิ่งเหยากระแทกประตูและจากไป
“แกจะไปไหน?! เสี้ยเมิ่งเหยา! กลับมา!”
หลินหลันกรีดร้องและรีบไปที่ประตูแต่กลับพบว่าเสี้ยเมิ่งเหยานั้นได้หายไปแล้ว
“หลินหลัน ครั้งนี้ลูกชายของฉันเจอกับการกระทำที่ไม่สามารถรับได้ ฉันไม่สามารถอดทนได้แล้ว!” ใบหน้าของซุนกุ้ยฟางเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง หลินต้าจูนนั้นนอนอยู่บนพื้นพร้อมกับรอยเลือดที่ศีรษะ น่าสังเวชมาก
“พี่สะใภ้ คุณใจเย็นๆก่อน ต้าจูนเขาจะไม่เป็นอะไร” หลินหลันรีบโทรหา120 ในตอนนี้นั้นเธอกลัวกว่าซุนกุ้ยฟางอีกกลัวว่าหลินต้าจูนจะเป็นอะไรไป หากว่าหลินต้าจูนเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ซุนกุ้ยฟางจะต้องประกาศเรื่องทั้งหมดออกมาแน่ ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอแทบจะไม่สามารถรอดพ้นจากชะตากรรมแห่งความพินาศได้
“หลินหลัน เรื่องราวน่าอับอายทั้งหมดที่คุณเคยทำมา ฉันรู้หมดทุกอย่างแล้ว ถ้าคราวนี้คุณไม่สามารถทำให้เราพอใจได้ หึหึ ฉันรับรองว่าคุณจะได้เจอดี!” ซุนกุ้ยฟางขู่อีกครั้ง เนื่องจากไม่มีทางที่จะทำให้เฉินเฟิงกลับมายังที่นี่ได้ เช่นนั้นก็ต้องรับความพึงพอใจจากหลินหลัน
ความขุ่นเคืองเล็กน้อยปรากฏขึ้นในดวงตาของหลินหลัน แต่ใบหน้าเธอประดับไปด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ วางใจเถอะ รอเมิ่งเหยากลับมา ฉันจะให้พี่เลย 500,000”
“500,000?!” ซุนกุ้ยฟางตะคอกอย่างเย็นชาและหัวเราะเยาะ “หลินหลัน 500,000 ในตอนนี้นั้นไม่สามารถแก้ปัญหาในตอนนี้ได้หรอก ลูกชายของฉันถูกลูกเขยขยะของคุณทุบตีเช่นนี้ 500,000 มันไม่เพียงพอ”
“เพิ่มจำนวนเงิน!” ซุนกุ้ยฟางกล่าวอย่างมั่นใจ