ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 53 สมองกลวงเหรอ
บทที่ 53 สมองกลวงเหรอ
“คืออย่างนี้ หลังจากที่คุณนายหลินแต่งงานกับคุณเสี้ย แต่ก็ยังคงมีความสัมพันธ์กับชายที่ชื่อหวังเมิ่งหลงอยู่ หวังเมิ่งหลงเนี่ย เป็นคนรักของคุณนายหลินสมัยเรียน เขาไปด้วยกันได้ดี แต่หลังจากเรียนจบ คุณนายหลินกลับต้องมาแต่งงานกับคุณเสี้ย”
“หวังเมิ่งหลงตกอยู่ในความเศร้าและแค้นใจ จึงใช้การพนันเป็นยาย้อมใจ สุดท้ายก็กลายเป็นผีพนัน สมบัติในบ้านทุกอย่างก็ถูกขายไปหมด หลังจากที่คุณนายหลินคลอดคุณเสี้ยออกมาแล้ว มีโอกาสได้เจอหวังเมิ่งหลงอยู่ครั้งหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะยังมีความรู้สึกผิดต่อหวังเมิ่งหลงอยู่ คุณนายหลินเลยแอบนายเสี้ยเพื่อกลับไปหาหวังเมิ่งหลง”
“ตอนนั้น หวังเมิ่งหลงยังไปขอยืมเงินคุณนายหลินตั้งหลายครั้ง คุณนายหลินเองก็ให้ยืมแล้ว สุดท้ายเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าไปมาอย่างไร ซุนกุ้ยฟางดันรู้เข้า ซุนกุ้ยฟางเลยเริ่มเอาเรื่องนี้มาขู่คุณนายหลิน……”
จางตงเฉินพูดเพียงไม่กี่คำ ก็อธิบายเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ได้ฟังจบ คิ้วของเฉินเฟิงก็ขมวดมาชนกัน เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับเสี้ยเมิ่งเหยา เลยทำอะไรได้ไม่สะดวก
ถึงอย่างไรหลินหลันก็เป็นแม่ของเสี้ยเมิ่งเหยา ถ้าเสี้ยเมิ่งเหยารู้เข้า ว่าแม่ของตัวเองมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ก็ไม่รู้ว่าจะรับเรื่องนี้ได้ไหม
“เรื่องนี้ให้ฉันเป็นคนคิดวิธีเอง คุณหาคนไปจับตามองหวังเมิ่งหลง อย่าให้เขาได้มารบกวนเมิ่งเหยา” เฉินเฟิงกำชับ เรื่องในบ้านแบบนี้มันจัดการยากที่สุดเลย เขาอยากจะปกป้องเสี้ยเมิ่งเหยา ก็ไม่สามารถทำอะไรโหดร้ายกับหลินหลันมากเกินไปได้ อีกอย่างคือต้องคิดหาวิธีก่อน ตอนนี้เลยต้องเก็บเป็นความลับ
“รับทราบ นายน้อย” จางตงเฉินพยักหน้าด้วยความเคารพ
เมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น เฉินเฟิงก็รีบวางสาย เพราะเป็นเสี้ยเมิ่งเหยาที่กลับมา ช่วงนี้เธอมักจะไปอยู่ที่ยู่ฉวนซาน ดังนั้นเลยไม่รู้ว่าโลกภายนอกมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
แต่หลังจากที่เธอกลับมาวันนี้ ดวงตาของเธอ กลับแดงเล็กน้อย มันชัดเจนเลยว่า เธอรู้เรื่องที่หลินหลันทำแล้ว
“อยากกินอะไร ฉันจะไปทำให้กิน” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อยพลางพูด
“เฉินเฟิง……” เสี้ยเมิ่งเหยาตาสวยๆ ของเธอเริ่มแดงขึ้น
เฉินเฟิงลุกขึ้น ก่อนจะกอดเสี้ยเมิ่งเหยาเอาไว้ในอ้อมกอด พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า: “ฉันรู้ว่าคุณอยากจะพูดอะไร แต่คุณก็รู้ ว่าฉันไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น”
“แต่ว่า คนข้างนอกเอาแต่พูดว่าคุณ……” เสี้ยเมิ่งเหยาอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เพราะบนโลกใบนี้ มีเพียงเธอที่เข้าใจได้ดี ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า มีดีแค่ไหน เขาไม่ใช่แค่พวกไร้ประโยชน์
“ปากของพวกเขา พวกเขาจะพูดอะไรก็ได้ ขอเพียงแค่คุณไม่ได้คิดแบบนั้นก็พอแล้ว” เฉินเฟิงยิ้มพลางพูด ไม่ใช่ว่าเฉินเฟิงใจกว้างมากมาย แต่เขาคิดว่า ไม่มีความจำเป็นจะต้องมาใส่ใจกับแมลงหวี่แมลงวันแบบนี้
“อือ” เสี้ยเมิ่งเหยาซบลงบนไหล่ของเฉินเฟิงเบาๆ ก่อนจะพูดว่า: “เฉินเฟิง ทำไมคุณถึงดีกับฉันขนาดนี้?”
“เพราะว่าคุณคือนางฟ้าที่ฟ้าส่งลงมาช่วยฉัน……” ในแววตาของเฉินเฟิงมีแต่ความคิดถึง สามปีก่อน เขาถูกตระกูลเฉินตามฆ่า หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ก็ถูกเสี้ยเว่ยกั๋วพากลับมาที่ตระกูลเสี้ย ในตอนนั้นหลินหลันเกือบจะไล่เขาออกไป เพราะว่าถ้าเขาอยู่ในตระกูลเสี้ยจะโชคร้ายมาก
ตอนนั้น เสี้ยเว่ยกั๋วเองก็ลังเลอยู่ไม่น้อย จากนั้นก็เริ่มรู้สึกผิดหวังที่พาเฉินเฟิงเข้าบ้าน ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉินเฟิง ความกลัวน่าจะเกิดขึ้นกับเขาไม่น้อยเลย
มีเพียงแค่เสี้ยเมิ่งเหยาเท่านั้น ที่พยายามจะให้เขาอยู่ต่อไป
ถ้าเกิดว่าเสี้ยเมิ่งเหยาชอบเฉินเฟิง ก็คงเป็นเพราะไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น
เพราะว่าถ้าไล่เฉินเฟิงที่ได้รับบาดเจ็บหนักออกไป ก็ไม่ต่างอะไรจากการฆ่าเฉินเฟิง
เลยให้เฉินเฟิงอยู่ต่อแบบนี้ เขาบาดเจ็บอยู่ครึ่งเดือน เสี้ยเมิ่งเหยากลายเป็นพี่เลี้ยงเขาไปแล้ว เพราะเอาดูแลเขา จนกระทั่งหายดี
พูดได้ว่า ชีวิตของเฉินเฟิง ถูกช่วยโดยเสี้ยเมิ่งเหยา
เฉินเฟิงก็ตกหลุมรักคนที่ภายนอกดูเย็นชาแต่จริงๆ จิตใจดีอย่างเสี้ยเมิ่งเหยาเข้าให้แล้ว เพื่อเสี้ยเมิ่งเหยา เขาจึงตัดสินใจอยู่ที่ตระกูลเสี้ยต่อ แถมตอนแรกที่พยายามจะวิธีแก้แค้นตระกูลเฉินนั้น ก็ค่อยๆ จางหายไปอีกด้วย
“จริงสิ คุณไม่ยอมบอกฉันสักที ว่าสามปีก่อนหน้า ทำไมคุณถึงได้เจ็บหนักขนาดนั้น……”
เสี้ยเมิ่งเหยาถาม นี่เป็นสิ่งที่เธอสงสัยมาตลอดสามปี โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมานี้ เมื่อได้เห็นท่าทีของที่มักจะดูเก่งเกินใคร เธอก็ยิ่งสงสัย ว่าสามปีก่อนเฉินเฟิงผ่านอะไรมาบ้าง ถึงได้เจ็บหนักขนาดนี้ อีกอย่าง เฉินเฟิงเป็นลูกกำพร้าจริงๆ เหรอ?
เฉินเฟิงถอนหายใจ เขารู้ว่าจะช้าหรือเร็วเสี้ยเมิ่งเหยาก็ต้องถาม เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้มันจะมาถึงเร็วขนาดนี้ แต่ว่าตัวเองควรจะบอกเธออย่างไรดีนะ?
จะบอกว่าตัวเองเป็นลูกลับๆ ของตระกูลเฉินเหรอ?หรือว่าจะบอกว่าเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเฉินดีนะ?
ขณะที่เฉินเฟิงกำลังลำบากใจ โทรศัพท์ของเสี้ยเมิ่งเหยาก็ดังขึ้น หน้าจอขึ้นว่าเป็นหลินหลัน
เสี้ยเมิ่งเหยารับสายอย่างเย็นชา
เสียงปลายสายนั้นเป็นเสียงของหลินหลันด้วยความตื่นเต้น: “ลูก แม่มีข่าวดีจะบอก!”
“ข่าวดีอะไร?”
เสี้ยเมิ่งเหยาขบปากแน่นพลางถามอย่างเยือกเย็น
“แม่หาผู้ชายใหม่ให้คุณแล้ว ผู้ชายคนนี้ ดีกว่าไอคนไร้ประโยชน์อย่างเฉินเฟิงไม่รู้กี่เท่า……”
“แม่ พอได้แล้ว!” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดตัดบทอย่างเยือกเย็น “ฉันเคยบอกคุณไปแล้ว ฉันไม่มีทางทิ้งเฉินเฟิงไปหรอก”
“เสี้ยเมิ่งเหยา!” หลินหลันตะโกนออกมา พลางพูดด้วยความโกรธ: “ไอคนจนไร้ประโยชน์อย่างนั้นจะเอาไปทำอะไร มันมีอะไรดีเหรอ?ไม่สามารถทำให้คุณสุขใจได้ แถมยังไม่สามารถซื้อของแพงๆ ให้คุณได้อีก ทำไมคุณถึงจะต้องไปแขวนคอตายอยู่กับเขาด้วย!”
“เพราะว่าเขารักฉัน ฉันเองก็รักเขา เหตุผลนี้ คุณพอใจไหม?” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างนิ่งๆ
“รักเหรอ?ความรักมันกินได้เหรอไง!รักสามารถทำให้คุณได้ขับรถแพงๆ หรืออยู่บ้านดีๆ ไหม!” หลินหลันพูดด้วยความเกลียด: “คุณรู้ไหมว่าชายที่แม่หามาให้เนี่ยเป็นใคร?”
“ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย!” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างเย็นชา
หลินหลันโกรธจนกัดฟันกรอด พลางพูดว่า: “เขาชื่อเสิ่นจุนเหวิน คุณลองไปสืบดูก็ได้ ว่าเขามีอยู่ในฐานะอะไร เขาเป็นหลานของคนที่รวยที่สุดในชางโจวอย่างเสิ่นหงชัง และจะได้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลเสิ่นต่อไปในอนาคต!ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน เสิ่นจุนเหวินก็ดีกว่าไอคนไร้ประโยชน์อย่างเฉินเฟิงตั้งเยอะ!”
“ถ้าเกิดว่าคุณแต่งงานกับเสิ่นจุนเหวิน ไม่ต้องพูดถึงทั้งชีวิตนี้ ชาติหน้า คุณก็ยังมีกินใช้แบบไม่ต้องกังวลเลย” หลินหลันพูดอย่างตื่นเต้น สำหรับเธอ คงจะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะปฏิเสธคนที่ดีและผู้สืบทอดที่ร่ำรวยขนาดนี้ได้ มีผู้หญิงอีกมากมายที่ไม่มีทางได้รับโอกาสแบบนี้
“พูดจบหรือยัง?ถ้าจบแล้วฉันจะวางสายแล้วนะ”
“เสี้ยเมิ่งเหยา คุณหมายความว่าอย่างไร!” หลินหลันโกรธเป็นอย่างมาก เธอพูดมามากมายขนาดนี้ เสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้ฟังเลยแม้แต่น้อย “คุณรู้ไหมว่าฉันเปลืองแรงหาเสิ่นจุนเหวินมาให้คุณมากขนาดไหนไหม?”
“มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดเสียงเย็นชา จากนั้นก็ตัดสายไป
“ตู๊ดๆ”
หลินหลันโกรธจนเกือบจะปาโทรศัพท์ลงกับพื้น สีหน้าของซุนกุ้ยฟางที่อยู่ข้างๆ ช่างหนักใจเหลือเกิน
“คนเลวขนาดนี้ สมองกลวงเหรอ!ไม่ยอมแต่งงานกับคนรวยอย่างเสิ่นจุนเหวิน แต่กลับอยู่กับคนไร้ประโยชน์อย่างเฉินเฟิง!” ซุนกุ้ยฟางด่า สำหรับเธอ ถ้าเกิดเป็นผู้หญิงที่ฉลาดหน่อย ก็คงจะต้องเลือกเสิ่นจุนเหวินทั้งนั้น ไม่ใช่เฉินเฟิง