ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 60 《ถึงอลิซ》2
บทที่ 60 《ถึงอลิซ》2
“คุณบอกว่าคุณเล่นเปียโนเป็น งั้นดีเลย คุณบอกมาสิว่าฉันเล่นผิดตรงไหน?” เสิ่นจุนเหวินถาม เฉินเฟิงเสียงเย็นชา กล้ามาทำเป็นเก่งต่อหน้า ไม่ใช่ว่าไม่รู้พื้นเพของคุณสักหน่อย เป็นแค่คนส่งอาหาร เปียโนที่มีแต่คนชนชั้นสูงเล่น คุณจะไปเคยสัมผัสได้อย่างไร
เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว เธอคิดว่าเฉินเฟิงอาจจะถูกเสิ่นจุนเหวินทำให้โกรธมาก เธอกับเฉินเฟิงคบกันมาสามปี ดังนั้นเธอรู้จักดีกว่าเสิ่นจุนเหวิน ว่าเฉินเฟิงไม่เคยแตะเปียโนด้วยซ้ำ
ถึงเฉินเฟิงจะเล่นเป็น เกรงว่าจะไม่ได้เก่งขนาดนั้น แต่เสิ่นจุนเหวินนั้นอยู่ระดับสูงมาก คนปกติไม่มีทางฟังออก ว่าเสิ่นจุนเหวินเล่นผิดตรงไหน
เฉินเฟิงพูดออกมาแบบนี้ มันจะเป็นการทำร้ายตัวเองเสียเปล่าๆ
“จะให้ฉันพูดจริงเหรอ?” เฉินเฟิงถามพลางหรี่ตาลง
“พูดมา!”
เฉินเฟิงถอนหายใจ คุณบังคับฉันเองนะ ฉันไม่ได้อยากจะพูดเองนะ
“อย่าทำอวดเก่งหน่อยเลย คุณเล่นไม่เป็นด้วยซ้ำ……”
เสิ่นจุนเหวินคิดถึงประโยคที่พูดเย้ยหยัน ก็มีเสียงของเฉินเฟิงลอยมา: “ทำนองท่อนแรก คุณเล่นช้าเกินไป ส่วนโน้ตตัวที่เจ็ดกับตัวที่เก้าตรงกลาง มันเยอะไป คุณบังคับนิ้วได้ไม่ดีพอ จึงเล่นผิดไป……”
เฉินเฟิงเพิ่งจะเปิดปาก สีหน้าของเสิ่นจุนเหวินก็เริ่มเปลี่ยนไป เขารู้ดี ว่าสิ่งที่เฉินเฟิงพูดนั้นมันไม่ผิดเลย!
ทำนองช่วงแรก เขาเล่นผิดไปจริงๆ !
แต่สิ่งที่ทำให้เสิ่นจุนเหวินรับแทบไม่ได้เลยก็คือ ปากของเฉินเฟิงนั้นคมราวกับมีด พูดแต่ละคำออกมาที ก็มีความผิดพลาดของเขามากกว่าสิบแล้ว!
เขาเล่นผิดจริงๆ มันยังมีอีกหลายจุดที่ผิด โดยที่เขาไม่ได้รู้เลย!
สีหน้าของเสิ่นจุนเหวินซีดเผือด บนหน้าผากมีเหงื่อออกเต็มไปหมด คนไร้ประโยชน์อย่างนี้ จะไปดูออกได้อย่างไร หรือว่าเขาเล่นเป็นจริงๆ แต่ถึงเขาจะเล่นเป็นก็คงไม่เก่งขนาดนี้สิ
ต้องรู้ด้วย ว่าแม้แต่อาจารย์ของเขา ได้มาฟังการเล่นของเขา ก็ยังฟังความผิดพลาดไม่ออกขนาดนั้น
หรือว่าการเล่นเปียโนของเฉินเฟิงจะดีกว่าอาจารย์สอนเปียโนชาวจีนของเขาอีกเหรอ?
ในหัวของเสิ่นจุนเหวินจู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งออกมา เพียงแต่ว่า ขนาดตัวเขาเองยังรับแทบไม่ได้
“อยากให้ฉันพูดต่อไหม?” เฉินเฟิงถามด้วยความแดกดัน เขาพูดถึงความผิดพลาดหลายสิบจุดของเสิ่นจุนเหวิน จริงๆ ยังมีอีกยี่สิบกว่าจุด แต่เขาขี้เกียจพูดต่อ
“คุณ……คุณฟังออกได้อย่างไร?” เสิ่นจุนเหวินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ความสามารถคุณแย่ขนาดนั้น แค่คนเล่นเปียโนก็ฟังออกแล้ว” เฉินเฟิงพูดพลางยิ้มอย่างไม่ปรานี
“บ้าที่สุด!ความสามารถฉันมันแย่ตรงไหน!” เสิ่นจุนเหวินหน้าแดงด้วยความโกรธ ความสามารถที่เขาภูมิใจที่สุด มีคนมาบอกว่าแย่ต่อหน้า ใครมันจะไปทนได้
เฉินเฟิงส่ายหัวพลางพูดว่า: “คุณไม่อยากจะยอมรับ ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ในสายตาฉัน ความสามารถของคุณ มันแย่มากจริงๆ”
เสี้ยเมิ่งเหยาอ้าปากแดงๆ ขึ้นมาหน่อย ก่อนที่แววตาจะมีความตะลึงซ่อนอยู่ เฉินเฟิงเล่น……เปียโนเป็นจริงๆ !
อีกอย่างเมื่อเห็นท่าทีที่ดูมั่นใจของเขา มันชัดเจนเลยว่าไม่ใช่แค่เข้าใจแบบปกติ แต่ความสามารถของเขา มันดีกว่าเสิ่นจุนเหวินหลายสิบเท่า!
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เป็นแค่คนส่งอาหารจริงๆ เหรอ?
การถ่ายทอดสดมันระเบิดขึ้นอีกครั้ง
“ไอคนไร้ประโยชน์ กล้ามาบอกว่าความสามารถของคุณชายเสิ่นนั้นแย่ เขาไปเอาความกล้ามาจากไหนกันนะ?”
“เป็นแค่คนส่งอาหาร เกรงว่าจะไม่เคยแตะเปียโนด้วยซ้ำ เขากล้ามาสงสัยคุณชายเสิ่นได้อย่างไร”
“แต่ว่า พวกคุณดูท่าทีของคุณชายเสิ่น ราวกับว่าข้อผิดพลาดที่คนไร้ประโยชน์คนนั้นพูด มันมีอยู่จริงๆ”
แน่นอน ว่ามีบางคนช่วยพูดให้เฉินเฟิง แต่ว่าเพิ่งจะพิมพ์ไป ก็ถูกคอมเม้นต์ของคนอื่นที่ว่าเฉินเฟิงนั้นกลบหมด
“คุณบอกว่าความสามารถของฉันแย่มากเลย แล้วคุณล่ะ?คุณมีความสามารถอะไร?” เสิ่นจุนเหวินถามด้วยความโกรธเกลียด
“ความสามารถระดับฉัน ดีกว่าคุณสิบกว่าเท่า” เฉินเฟิงพูดด้วยความสบายใจ
“บ้าบอ!” เสิ่นจุนเหวินรู้สึกถูกดูถูกแล้ว
“ทำเป็นเก่งไปได้ ยังกล้ามาพูดว่าสิบกว่าเท่าอีก ทำไมคุณไม่พูดว่าร้อยเท่าไปเลยล่ะ”
“คุณชายเสิ่น ให้ไอนี่มันโชว์สักหน่อยสิ พวกเราอยากจะเห็น ว่าความสามารถในการเล่นเปียโนของเขา มันจะเหมือนกับที่เขาโม้ไหม”
เสิ่นจุนเหวินมีสีหน้าหนักใจ “ถ้าบอกว่าเก่งกว่าฉันมากนักล่ะก็ กล้าขึ้นไปเล่นให้ทุกคนดูไหมล่ะ”
การเข้าใจการเล่นเปียโนกับการเล่นเป็นมันต่างกันมาก เสิ่นจุนเหวินคิดว่า เฉินเฟิงอาจจะมีพรสวรรค์ด้านดนตรี เลยฟังในสิ่งที่คนอื่นฟังไม่ออก แต่การเล่นเปียโน พรสวรรค์คงไม่มีทางใช้ได้แล้ว
ถ้าเกิดจะเล่นเปียโนให้ดี ไม่ใช่แค่รู้ทฤษฎีก็จะเล่นได้แล้ว การใช้นิ้วมือ และด้านจังหวะทำนอง ก็ไม่สามารถขาดตกบกพร่องได้!
“คุณอยากจะให้ฉันเล่นจริงๆ เหรอ?” เฉินเฟิงถามด้วยความยิ้มเยาะ ดูๆ ไปแล้วเสิ่นจุนเหวินยังไม่ถูกตัวเองทำลายอย่างมากพอ
“เอาสิ!” เสิ่นจุนเหวินกัดฟันพูด เขายังคงไม่เชื่อ ว่าการที่เขาเรียนเปียโนมาสิบกว่าปี มันจะเทียบกับคนส่งอาหารไม่ได้
“ได้ งั้นคุณตั้งใจฟังให้ดี วันนี้จะสอนให้ว่า《ถึงอลิซ》มันควรเล่นอย่างไร!” เฉินเฟิงยิ้มด้วยความมั่นใจ เขาจะทำให้เสิ่นจุนเหวินต้องน้ำตาตกเลยล่ะ!
“คุณจะให้ฉันเล่นเพลงเดียวกับคุณเหรอ?” เสิ่นจุนเหวินมีสีหน้าที่ไม่น่าดู เฉินเฟิงดูมันใจถึงจุดสูงสุด ต้องรู้ด้วย ว่าสำหรับคนที่ไม่เข้าใจในการเล่นเปียโน มักจะแยกความแตกต่างไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
ถ้าแสดงออกมาอย่างถูกต้อง มันสามารถทำให้คนจมอยู่กับเสียงเพลงอย่างโงหัวไม่ขึ้น
แต่คนที่สามารถเก่งระดับนี้ได้ ถ้าเกิดว่าไม่ใช่นักดนตรีระดับชาติ การเล่นเปียโน คงจะต้องเรียนอย่างน้อยห้าหกสิบปี เสิ่นจุนเหวินเลยไม่เชื่อ ว่าเฉินเฟิงจะมีความสามารถระดับนั้นด้วย
เฉินเฟิงพยักหน้า พลางพูดเบาๆ ว่า: “ถ้าไม่เล่นเพลงเดียวกัน จะให้คุณรู้ได้อย่างไร ว่าความสามารถของคุณมันแย่ขนาดไหน!”
บ้า!
บ้าเกินเยียวยาจริงๆ !
สีหน้าเสิ่นจุนเหวินแดงระเรื่อ คนไร้ประโยชน์แบบนี้ ไปเอาความกล้ามาจากไหน?
“เมิ่งเหยา เราแต่งงานกันมาสามปี ฉันแทบจะไม่ได้ให้ของขวัญอะไรคุณเลย เพลง《ถึงอลิซ》ในวันนี้ ฉันเล่นให้คุณนะ ถ้าเกิดว่าเล่นได้ไม่ดี คุณก็อย่าว่ากันนะ” เฉินเฟิงมองเสี้ยเมิ่งเหยา พลางพูดด้วยความอ่อนโยน แต่เขาเองก็มีผู้หญิงที่ตัวเองชอบ งั้นถือว่าเขาก็คือเจ้าของเพลงนี้ และเป็นนักเรียนผู้หญิงของเขา
ดังนั้น 《ถึงอลิซ》 ไม่ใช่แค่เพลง แต่บางทียังใช้ในการสารภาพรักอีกด้วย
“ไม่หรอก ขอแค่คุณเล่น ไม่ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ฉันก็ชอบหมด” เสี้ยเมิ่งเหยาหน้าแดง แค่ได้ฟังเฉินเฟิงพูด ใจของเธอก็ฟูขึ้น
เพราะว่าคำพูดของเฉินเฟิง มันมีแต่ความรักที่มีต่อเธอ ว่าเธอเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ
แววตาของเสิ่นจุนเหวินที่อยู่ข้างๆ โกรธขึ้นมา ในตอนนั้นเอง เขาเข้าใจ ไม่ว่าเฉินเฟิงจะเล่นเป็นแบบไหน เขาก็แพ้อยู่ดี เพราะว่าในแววตาของเสี้ยเมิ่งเหยามีแต่เฉินเฟิง!
ถึงแม้ว่าเฉินเฟิงจะเล่นออกมาไม่ดี เสี้ยเมิ่งเหยาก็ยังชอบอยู่ดี!