ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 80 ผู้รับเหมา
บทที่ 80 ผู้รับเหมา
รถไฟเคลื่อนตัวออกไปอีกพักหนึ่ง คล้ายว่ารู้สึกน่าเบื่อ จวงเห่าหยินจึงหันไปมองเฉินเฟิงและอาเหา
เสียหน้าไปกับหลิ่วอีอีแล้ว เขาต้องคิดหาวิธีเอาศักดิ์ศรีของตนเองกลับมาจากเฉินเฟิงและอาเหา
สองคนนี้แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคนธรรมดา ไม่มีภูมิฐานอะไร อีกทั้งยังหลอกง่ายอีกด้วย
“พวกนายสองคน ไปทำงานที่จินหลิงใช่ไหม” จวงเห่าหยินพูดด้วยน้ำเสียงที่เคล้าไปด้วยความเหนือกว่า
อาเหาหลับตา ไม่ส่งเสียง คล้ายว่านอนหลับไปแล้ว
ในทางกลับกันเฉินเฟิงกลับรู้สึกตลก เขาพูดขึ้นเสียงเรียบ:“อืม กำลังคิดว่าจะไปหางานไซต์ก่อสร้างทำที่จินหลิงไม่กี่วาน”
“คนอย่างคุณ ทำงานได้แค่ในไซต์ก่อสร้างเท่านั้น” หลิ่วอีอีมองไปทางเฉินเฟิงด้วยสายตาดูถูก แล้วพูดขึ้น
เฉินเฟิงยิ้มแล้วส่ายหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรอีก
“ที่จินหลิงมีผู้รับเหมาจำนวนไม่น้อย ฉันรู้จักหมดเลย นายไปแล้วบอกชื่อของฉันจวงเห่าหยิน ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะให้ทำงานที่สบายหน่อย” จวงเห่าหยินพูดเสียงเรียบ น้ำเสียงของเขานั้นเหมือนคนกำลังทำบุญ
“ขอบคุณ ผมจะลองดู” เฉินเฟิงยิ้ม แล้วพูดขึ้น
“อืม” จวงเห่าหยินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นพูด:“บอกชื่อฉันได้อยู่ แต่ถ้าให้ฉันรู้ว่า พวกแกเอาชื่อของฉันไปทำอะไรไม่ดี ไปทำอย่างอื่น ฉันไม่ปล่อยแกเอาไว้แน่!ฉันอยู่ที่จินหลิง คนที่ฉันรู้จัก ไม่ได้มีแค่ผู้รับเหมา”
ถึงขั้นข่มขู่ตนเอง? เฉินเฟิงยิ้มเศร้า แต่ก็ยังคงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น :“วางใจได้ ไม่ทำแบบนั้นหรอก”
ท่าทีตอบกลับของเฉินเฟิงทำให้จวงเห่าหยินรู้สึกน่าเบื่อ สิ่งที่เขาอยากจะเห็นก็คือ ตอนที่เขาเปิดเผยว่าตนเองไม่ใช่คนธรรมดาแล้วนั้น เฉินเฟิงคลานเข่ามาหาเขา ทำความเคารพเขา ขอร้องให้เขาให้ข้าวกิน
แต่เฉินเฟิงกลับเป็นเหมือนท่อนไม้ ทำไม่เป็นแม้แต่ประจบ
สมน้ำหน้าที่มึงจนไปทั้งชีวิต ทำงานไปทั้งชีวิต!จวงเห่าหยินหัวเราะในลำคอ แล้วพูดขึ้นในใจ
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถกู้คืนศักดิ์ศรีของตนเองมาจากอาเหาได้ จวงเห่าหยินเองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาหลับตาลง เตรียมที่จะนอนหลับ
แต่กลับกลายเป็นหลิ่วอีอีที่อยู่ด้านข้าง เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา คล้ายจะโทรไปบอกให้คนขับรถของที่บ้านมารับตนเอง
รถไฟขับไปอีกสองชั่วโมง จนไปถึงสถานีเป่ยโจว ที่นี่อยู่ห่างจากจินหลิง อีกเพียงแค่หนึ่งสถานี
การจอดรถไฟในครั้งนี้ มีคนเดินเข้ามาในรถไฟจำนวนไม่น้อย เหตุเพราะตั๋วนั่งขายหมด ทำให้คนที่เข้ามานั้น ส่วนมากล้วนต้องยืน
ชั่วขณะหนึ่ง ตู้รถไฟที่เฉินเฟิงนั่งนั้น ก็เต็มไปด้วยคน
พอคนมากขึ้น ก็เริ่มมีกลิ่นต่างๆลอยฟุ้ง
มีกลิ่นเหม็นที่ไม่ได้อาบน้ำมานาน มีกลิ่นตด มีกลิ่นปากและกลิ่นตัว…..
เฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยโดยไม่รู้สึกตัว กลิ่นนี้ ขึ้นหัวแล้วจริงๆ
เฉินเฟิงที่มีความอดทนสูงยังเป็นแบบนี้ แค่คิดก็รู้แล้ว หลิ่วอีอีที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดี ตอนนี้จะเป็นยังไง
ใบหน้าของเธอถูกกลิ่นพวกนั้นลอยคลุ้งจนหน้าซีดขาว คล้ายกับว่าอยากจะอ้วกออกมา
ตายดีไม่ตาย ในเวลานี้เอง คนแก่ที่แต่งตัวเป็นชาวนาถูกกลุ่มคนดันตัวออกมา มาอยู่ด้านข้างหลิ่วอีอี
วินาทีนั้น กลิ่นเหม็นเปรี้ยวของเหงื่อและบวกกับกลิ่นเหม็นพุ่งมาที่จมูก
“แอวะ”
หลิ่วอีอีไม่สามารถทนได้แล้ว จับปากเอาไว้แล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำ
เมื่อหลิ่วอีอีเดินไปนั้น จวงเห่าหยินก็กลายเป็นคนที่ถูกทำร้าย
“ไอ้แก่ ไสหัวไปที่อื่น เหม็นจริงๆ!”จวงเห่าหยินปิดจมูก แล้วด่ากราดออกไป
ชาวนาที่แก่ชราทำสีหน้าลำบากใจ เขารีบบอกขอโทษจวงเห่าหยินด้วยสำเนียงบ้านเกิด แต่จวงเห่าหยินกลับไม่ฟัง ด่ากราดแล้วพูดขึ้น:“ชาวนาชั้นต่ำอย่างแก ไม่คู่ควรที่จะมานั่งบนรถไฟ ช่างน่ารังเกียจ!”
“ไสหัวออกไป!ไสหัวไปให้ไกล!อย่ามายืนรกหูรกตากู!”
สีหน้าของเฉินเฟิงเย็นยะเยือกเล็กน้อย จวงเห่าหยินคนนี้ ทำเกินไปแล้ว!
หน้าของชาวนาแก่ชราแดงก่ำ เขาเองก็รู้ตัวว่าตนเองมีกลิ่นเหม็น แต่ตู้รถไฟก็กว้างแค่นี้ ตอนนี้คนก็ยืนจนเต็มแล้ว เขาจะขยับไปสักก้าวยังเป็นเรื่องยาก
“ให้ตายสิ!ไอ้คนน่ารังเกียจ มึงจะไปไม่ไป ถ้ายังไม่ไปกูเอามึงตายแน่!” เห็นชาวนาแก่ชราเอาแต่พูดขอโทษไม่หยุด ทว่ายังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน จวงเห่าหยินพูดข่มขู่ เมื่อกี้เขาก็โมโหเพราะหลิ่วอีอีไปไม่น้อย กำลังหาที่ระบายความโมโห ชาวนาซื่อๆคนนี้ เป็นที่ระบายที่ไม่เลวจริงๆ
“ขอโทษด้วย ขอโทษด้วย อาเฮียคนนี้ ผมจะไปตอนนี้เลย” ชาวนาแก่ชราพูดสำเนียงบ้านเกิด โค้งตัวลงแล้วพูด
จากนั้นชาวนาแก่ชราจึงหมุนตัว แล้วพยายามเบียดเสียดเข้าไป ทว่าจวงเห่าหยินกลับยืนขึ้น แล้วเตะไปที่สะโพกของชาวนาแก่ชรา พร้อมกับพูดต่อว่า:“กูช่วยมึงเอง!”
“หยุด!”
เฉินเฟิงยังไม่ทันได้ลงมือ อาเหาก็ยืนขึ้น จากนั้นคว้าจับตัวจวงเห่าหยินเอาไว้
สีหน้าของอาเหา เย็นยะเยือกจนน่ากลัว นัยน์ตาคู่นั้นมีความเย็นยะเยือกแผ่ออกมา
“มึงทำอะไรของมึง? ไอ้คนสกปรก เอามือสกปรกของมึงออกไป!”เมื่อเห็นว่าคนที่คว้าจับตนเองเอาไว้นั้น คือแรงงานที่เมื่อกี้ตนเองดูถูก จวงเห่าหยินโมโหขึ้นมาในทันที อยากจะให้อาเหาเอามือออกไปจากเสื้อผ้าของตน
ทว่าจวงเห่าหยินที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาหลายปี ขาดการฝึกฝน แล้วจะสู้แรงอาเหาได้ยังไง เขาออกแรงที่เหมือนกินนม มือของอาเหายังคงนิ่งงันไม่ขยับ
“ให้ตายสิ ปล่อย!”จวงเห่าหยินหน้าแดงระเรื่อ เขาอยากจะต่อยอาเหาสักหมัด แต่มองดูอาเหาแล้วนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถมีเรื่องด้วยได้ เขากลัวว่าถ้าต่อยอาเหาขึ้นมา จะยิ่งน่าอนาถมากกว่าเดิม
อาเหาหัวเราะในลำคอ แล้วสะบัดทิ้ง จวงเห่าหยินสะบัดทิ้งเหมือนสุนัขเคี้ยวโคลน หน้าของเขากระแทกกับโต๊ะ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีเฉินเฟิงอยู่ข้างๆ กลัวว่าจะมีปัญหาต่อเรื่องของเฉินเฟิง เขาจะต่อยจวงเห่าหยินให้เกือบตาย
“ให้ตายสิ!”จวงเห่าหยินพยายามคลานขึ้นมา แล้วด่ากราด :“มึงรอดูกูเอาไว้ ลงจากรถไฟ กูเอามึงตายแน่!”
อาเหามองดูจวงเห่าหยินด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร
เวลานี้ หลิ่วอีอีกลับมาแล้ว หลังจากที่อ้วกเสร็จ สีหน้าของเธอก็ดีขึ้นมาก
เมื่อเห็นจวงเห่าหยินกับอาเหามีเรื่องกัน สีหน้าของหลิ่วอีอีก็แปลกใจขึ้นมาในทันที
เกิดอะไรขึ้น?
“วันนี้กูไม่เอามึงให้ตาย กูก็จะนามสกุลตามมึง!”จวงเห่าหยินถ่มน้ำลายทิ้ง แล้วพูดข่มขู่อย่างโหดเหี้ยม
“อาเฮียคนนี้ พ่อหนุ่มคนนี้ยังเด็กไม่ค่อยรู้เรื่อง…….” เมื่อเห็นอาเหามีความแค้นกับจวงเห่าหยินเพราะตนเป็นต้นเหตุ ชาวนาแก่ชราจึงเกรงใจ อยากจะพูดขอร้องแทนอาเหา
ทว่าใครจะไปรู้จวงเห่าหยินกลับถ่มน้ำลายไปตรงหน้าชาวนาแก่ชรา แล้วด่ากราด:“เกี่ยวอะไรกับไอ้แก่อย่างมึงด้วย ถ้ายังไม่ไสหัวออกไป เดี๋ยวลงจากรถไฟ กูจะจัดการมึงด้วยอีกคน!”
อาเหากำหมัดแน่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินเฟิงอยู่ข้างๆ เขาฉีกปากจวงเห่าหยินแล้วแน่ๆ!
“ผม……ผมไสหัวออกไปตอนนี้เลยครับ” ชาวนาแก่ชรามองดูอาเหาด้วยสายตารู้สึกผิด เตรียมตัวที่จะออกไป เขากลัวว่าถ้าตนเองยังคงยืนอยู่ตรงนี้ จะทำให้จวงเห่าหยินเกลียดอาเหามากกว่าเดิม
“ยืนอยู่ตรงนั้น”
เวลานี้ เสียงเรียบเฉยดังขึ้น ฝีเท้าของชาวนาแก่ชราหยุดลง คนที่พูดนั้น คือคนที่เมื่อกี้นั่งอยู่ตรงริมหน้าต่าง คนหนุ่มที่ไม่พูดอะไร
“อาเหา ลุกขึ้น ให้คุณลุงคนนี้นั่งที่ของนาย” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ จวงเห่าหยินไม่ให้ชาวนาแก่ชรานั่งที่นี่ เขาก็จะให้ชาวนาแก่ชราคนนี้ นั่งที่นี่!