ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่127 แต่งเข้าบ้านผู้หญิง
บทที่127 แต่งเข้าบ้านผู้หญิง
ตอนนี้โจวเซ่าฟึงรู้สึกโชคดีมาก ที่ตอนนั้นตนเอง เลือกตู้จื่อเยว่ ไม่ใช่เสี้ยเมิ่งเหยา เสี้ยเมิ่งเหยาไม่สามารถทำให้เขามีฐานะและตำแหน่งเหมือนตอนนี้ได้
“ทุกคนจัดเตรียมให้พร้อม พี่ฟึงจะพาพวกเราไปที่สวนล่าสัตว์ คนที่ชอบล่าสัตว์สามารถเตรียมตัวได้แล้ว สนามล่าสัตว์ของที่หนึ่ง เป็นสนามล่าสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในจินหลิง สามารถเห็นสัตว์ทุกชนิดในสนามล่าสัตว์นั้นไม่ว่าจะเป็นนกเขา กระต่ายป่า ไก่ฟีนิก ละมั่งแบล็กบัคซึ่งสัตว์พวกนี้ที่สนามล่าสัตว์ด้านนอกมี ที่นี่ก็มี และแน่นอน ยังมีสัตว์ที่ไม่มีให้เห็นในสนามล่าสัตว์ด้านนอกด้วย อย่างเช่นกวาง หมาป่าดำต่างๆ ที่นี่ล้วนมีทั้งหมด วันนี้ทุกคนสามารถเปิดโลกกว้างแล้ว” สวีตงเหลียงร้องตะโกน
“หมาป่าดำเป็นสัตว์สงวนไม่ใช่หรอ?” มีคนประหลาดใจ อยู่ด้านนอก การล่าหมาป่าหิมะนั้น ต้องได้รับการลงโทษจากกฎหมาย
“ชิ แกก็ไม่ดูหน่อยว่าที่นี่คือที่ไหน” หลี่เสว่พูดเย้ยหยันด้วยความดูถูก “ขอบอกกับแกตามความเป็นจริงนะ ขอแค่แกมีเงิน ที่นี่แม้แต่เสือหรือสิงโตก็สามารถเอาเข้ามาให้แกได้ แน่นอน ว่าแกจะมีความสามารถทำให้เสือกับสิงโตเป็นเหยื่อหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง”
โจวเซ่าฟึงคลายยิ้มบางๆ ไม่ได้พูดอะไร ในสวนล่าสัตว์ มีสัตว์มากมายที่เป็นสัตว์สงวนของด้านนอก แม้แต่เสือที่หลี่เสว่พูดนั้น เมื่อหลายปีก่อนก็มี แต่หน่วยงานพิทักษ์สัตว์ป่าไม่เคยมาตรวจเลยสักครั้ง
ในระดับของพวกเขานั้น กฎหมายมากมายที่อยู่ด้านนอก สำหรับพวกเขาก็เป็นแค่กระดาษเท่านั้น
ถ้าหากว่าสวนล่าสัตว์ของคฤหาสน์พวกเขา ไม่แตกต่างอะไรกับสวนล่าสัตว์ด้านนอก มีแค่กระต่ายป่ากับไก่ป่าให้ล่านั้น แล้วจะมีอะไรดึงดูดพวกคนรวยในจินหลิง?
มีเพียงแค่เสือโคร่งและพวกสุนัขจิ้งจอกเหล่านี้ที่ด้านนอกไม่มีให้ล่าเท่านั้น ถึงจะสามารถดึงดูดความตื่นเต้นของพวกคนรวยได้
“เดี๋ยวตอนเข้าไปในสวนล่าสัตว์ กำชับกับเพื่อนๆของนาย เมื่อเข้าไปถึงด้านในนั้น ห้ามถ่ายรูปและคลิปวิดีโอ” โจวเซ่าฟึงพูดออกคำสั่งเสียงเรียบ
“ครับ พี่ฟึง”สวีตงเหลียงพยักหน้า ภายในสวนล่าสัตว์ห้ามถ่ายรูป นี่คือกฎที่เขียนเอาไว้ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สมควรให้คนนอกรู้
เมื่อเห็นโจวเซ่าฟึงเดินไป หวังเจียเมิงและหลี่เสว่จึงเดินเข้ามา
“คนเมื่อกี้คือโจวเซ่าฟึง?” ถึงแม้ว่าภายในใจจะคาดเดาเอาไว้แล้ว แต่หลี่เสว่อยากจะถามให้มั่นใจ เพราะเมื่อเทียบกับโจวเซ่าฟึงในอดีตแล้วนั้น เขาเปลี่ยนไปมาก
สวีตงเหลียงพยักหน้า แล้วพูดขึ้น:“คราวหน้าเวลาเจอกัน อย่าเรียกแค่ชื่อเฉยๆ ให้เรียกว่าพี่ฟึง ตอนนี้เขาเป็นสามีของพี่เยว่”
“เขากับพี่เยว่แต่งงานกันแล้ว?!”หลี่เสว่แปลกใจ
สวีตงเหลียงส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น:“ไม่ได้แต่งงาน เขาย้ายไปอยู่ที่บ้านตระกูลตู้ ตอนนี้ถือว่าเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง
“ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้เขาเป็นถึงผู้จัดการของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง” หลี่เสว่พูดด้วยความอิจฉา
ดี? ดีตายห่า!
สวีตงเหลียงลอบหัวเราะในใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้มองจากภายนอกแล้วโจวเซ่าฟึงดูเป็นผู้เป็นคน แต่เขากลับรู้ดีว่า โจวเซ่าฟึงเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดของตระกูลตู้ ภรรยาของเขาตู้จื่อเยว่ ไม่เห็นเขาเป็นสามีด้วยซ้ำไป ต่อให้แต่งงานกันแล้ว ก็มักจะพาผู้ชายข้างนอกกลับบ้าน แล้วไปทำเรื่องอย่างว่าต่อหน้าโจวเซ่าฟึง หัวของโจวเซ่าฟึง มีเขาขึ้นนานแล้ว
แต่โจวเซ่าฟึงดันไม่กล้าพูดอะไร ถึงขั้นยังยิ้มต้อนรับตู้จื่อเยว่
ดังนั้นสวีตงเหลียง จึงดูถูกโจวเซ่าฟึงอย่างมาก แต่ก็อยู่ในฐานะที่ดีกว่าคนอื่น แม้ว่าโจวเซ่าฟึงจะเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ก็เป็นคนไร้ประโยชน์ที่ตู้จื่อเยว่ปั้นออกมา เขา ไม่กล้ามีเรื่องด้วย!
“จริงด้วย พี่เยว่ล้ะ?” หลี่เสว่ยังคงถามต่อ
“วันนี้หุ้นส่วนใหญ่ของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงจะมาที่นี่ พี่เยว่ออกไปต้อนรับหุ้นส่วนแล้ว” สวีตงเหลียงพูดขึ้น
หุ้นส่วนใหญ่ของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง? ลูกตาของหวังเจียเมิงกลิ้งไปมา ระหว่างทางที่มานั้น เธอได้สืบเรียบร้อยแล้ว หุ้นส่วนหลายท่านของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง ไม่มีคนไหนที่ไม่ใช่อภิมหาเศรษฐีของจินหลิง สวีตงเหลียงที่มีสินทรัพย์แค่ไม่กี่สิบล้านหยวน ไม่มีสิทธิ์เป็นคนร่ำรวยพวกนั้น ตนเองต้องคิดหาวิธีให้พวกคนรวยเหล่านั้นเห็นหน้าตนเอง ถ้าสามารถจับพวกอภิมหาเศรษฐีพวกนั้นได้ ชีวิตที่เหลือก็ไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว หวังเจียเมิงพูดในใจ
คนจำนวนหนึ่งที่ต่างมีความคิดเจ้าเล่ห์ในใจ ในที่สุดก็ไปถึงสวนล่าสัตว์
บอกว่าเป็นสวนล่าสัตว์ ความเป็นจริงก็คือป่าขนาดใหญ่ มองจากพื้นที่แล้วนั้นมีประมาณหนึ่งหมื่นเอเคอร์ มองไปแล้วไม่สามารถเห็นจุดสิ้นสุดของป่าได้ ด้านในป่าลึก คล้ายว่าจะมีภูเขาลึกกั้นเป็นชายแดน
ต่อหน้าทุกคน สามารถเห็นกระต่ายป่าและไก่ป่าวิ่งไปมาในป่าตรงหน้าอยู่บ่อยครั้ง
คนส่วนมากล้วนรู้สึกแปลกใหม่ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขามาในสวนล่าสัตว์ เป็นการล่าสัตว์ครั้งแรก
โจวเซ่าฟึงเป็นคนนำขบวน ตลอดการเดินชมนั้นเขาจะพูดกับสวีตงเหลียงเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับคนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าการพูดคุยกับคนอื่นนั้น จะเป็นการลดระดับของตนเอง
แต่ทุกคนก็ไม่มีใครกล้าโมโห เพราะถึงอย่างไรตำแหน่งของโจวเซ่าฟึงก็เห็นชัดอยู่แล้ว เขาเป็นผู้จัดการของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง นี่คือตำแหน่งที่คนทั่วไปหวังมาตลอดทั้งชีวิต
เฉินเฟิงและเสี้ยเมิ่งเหยาเดินด้วยกัน อาจเป็นเพราะเสี้ยเมิ่งเหยาพึ่งเคยมาเป็นครั้งแรก เธอจึงรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ใบหน้างดงามนั้นมีรอยยิ้มอีกครั้ง สำหรับความกลัวที่มีต่อตู้จื่อเยว่ ก็ค่อยๆน้อยลง เพราะถึงอย่างไรจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้เจอตู้จื่อเยว่
เพราะว่าตอนที่เขาอายุสิบกว่า ถูกโยนเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยอันตรายร้อยเท่าพันเท่าเพื่อเอาชีวิตรอด เวลานั้น เขาต้องเผชิญหน้ากับฝูงเสือและหมาป่าเพียงลำพัง บางครั้งถึงขั้นพบเจอกับสัตว์ที่ดุร้ายที่สุดในป่าอย่างเช่นหมีควาย อีกทั้งด้านหลังของเขายังไม่มีใครคอยปกป้อง
ไม่เหมือนกับตอนนี้ ที่รอบเดินเต็มไปด้วยหน่วยมืออาชีพ ที่สามารถรับประกันได้ว่าทุกคนจะปลอดภัย
ว่ากันว่าให้ทุกคนเข้ามาล่าสัตว์ แต่ความเป็นจริงเหมือนมาเที่ยวเล่นมากกว่า ธนูที่เอาให้ทุกคนนั้น ไม่สามารถนำไปฆ่าหรือทำให้สัตว์บาดเจ็บจริงๆ สามารถล่าสัตว์ได้ก็เห็นผีแล้ว
เวลานี้ โทรศัพท์ของเฉินเฟิงดังขึ้น
“คุณชายเฉิน ผมคือหยางไท่ ตอนนี้คุณอยู่ในคฤหาสน์หรอครับ?”
“หืม?” เฉินเฟิงเลิกคิ้วขึ้น หยางไท่รู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่ที่นี่ หรือว่าเขาส่งคนสะกดรอยตามตน?
ทางด้านหยางไท่พอจะเดาได้ว่าเฉินเฟิงคิดอะไร จึงรีบพูดอธิบาย:“คุณชายเฉิน คือน้องชายของผมเห็นคุณออกมาจากคฤหาสน์หัวฉี และมุ่งหน้ามาทางนี้ครับ”
“ผมก็เลยอยากจะถือโอกาสในครั้งนี้ ให้หุ้นส่วนคนอื่นๆได้เจอคุณ” หยางไท่พูดอย่างเคารพ เดิมทีคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงมีหุ้นส่วนเก้าคน ไป๋กว่างยี่ถูกเตะออกไปแล้ว เฉินเฟิงเข้ามา อีกทั้งยังกลายเป็นหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงอีกด้วย จึงต้องให้หุ้นส่วนคนอื่นๆรู้จักกับเฉินเฟิง
“พวกคุณอยู่ที่ไหน?” เฉินเฟิงถาม
“พวกเราอยู่ที่ห้องประชุมครับ คุณชายเฉิน เดี๋ยวคุณยุ่งเสร็จแล้วค่อยมาก็ได้ครับ พวกเราไม่รีบ”
“ไม่เป็นไร ผมไปตอนนี้แหละ” เฉินเฟิงพูด หุ้นส่วนพวกนี้ ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องได้เจอ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปในแบบที่ควรจะเป็น วันนี้มีโอกาสแล้ว ก็วันนี้ วันข้างหน้าเขาไม่อยากมาที่นี่เพื่อคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงโดยเฉพาะ
หลังจากตัดสาย เฉินเฟิงเดินไปใกล้ๆเสี้ยเมิ่งเหยา
“เมิ่งเหยา ผมต้องไปหาเพื่อนของผม คุณจะไปด้วยกันไหม?” เฉินเฟิงถาม ตอนนี้เขายังไม่ได้เตรียมใจที่จะให้เสี้ยเมิ่งเหยารู้ว่าตนเองเป็นใคร แต่ถ้าหากว่าเสี้ยเมิ่งเหยาต้องการละก็ เขาก็จะไม่ห้าม ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก สามารถให้เสี้ยเมิ่งเหยารู้จักพวกหยางไท่ก่อน