ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่181 ใครจะคิดได้
บทที่181 ใครจะคิดได้
“ไม่ใช่นะคะ นี่มันไม่เกี่ยวกับเฉินเฟิงนะคะ” เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหน้าพร้อมทั้งเอ่ยออกไป
“เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่?” เฉินเฟิงขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถามออกไป เขารู้ดี เรื่องการยักยอกเงินกองกลางที่หลินหลันกล่าวหาออกมานั้นแท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่กล่าวออกมาโดยไม่มีมูลความจริงเลยแม้แต่น้อย เสี้ยหยุนเสิ้งเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเตะเสี้ยเมิ่งเหยาออกจากตำแหน่งผู้รับผิดชอบโปรเจคยู่ฉวนซาน จึงทำได้เพียงแค่ให้เสี้ยเมิ่งเหยาออกไปด้วยตัวเอง
หรือเมิ่งเหยายังเคืองเขาอยู่? เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่คิดอย่างนั้นออกมา แต่เขาก็ไม่ได้คิดล้ำลึกมากมายเหมือนอย่างเสี้ยเมิ่งเหยา เขาคิดเพียงว่าเสี้ยเมิ่งเหยาเคืองโกรธเขาเพราะเขาปิดบังสถานะของตัวเอง
“วันนี้” เสี้ยเมิ่งเหยาชะงักไปเล็กน้อยจากนั้นก็เอ่ยออกมาสั้นๆ ความจริงนั้น เธอยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเสี้ยหยุนเสิ้ง เนื่องจากโดนหลินหลันถ่วงเวลาทำให้ล่าช้าออกไป แต่ตอนนี้เรื่องหลินหลันเองก็ได้จัดการแก้ปัญหาไปแล้ว เธอจึงเตรียมที่จะรีบไปบ้านเสี้ยหยุนเสิ้งในทันที
“ถ้าไม่เกี่ยวกับไอ้เศษสวะคนนี้ แล้วมันเกี่ยวกับใคร?” หลินหลันเหมือนจะมีแนวโน้มที่จะซักไซ้ถึงรากถึงโคนออกมา
“แม่ แม่อย่าถามอีกเลย เรื่องนี้หนูเป็นการตัดสินใจของหนูเอง ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น” เสี้ยเมิ่งเหยามองหลินหลันไปอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยออกไป “เอาล่ะ แม่กลับไปเถอะ หนูต้องไปบริษัทแล้ว”
“แก…” หลินหลันที่จากเดิมคิดจะถามเสี้ยเมิ่งเหยาอีกว่าทำไมเมื่อคืนถึงไปพักที่บ้านพักบนภูเขาได้ แต่เมื่อเห็นท่าทางอย่างนี้ของเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว ก็ถามอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง จำต้องล้มเลิกความคิดนั้นไป
เฉินเฟิงทอดถอนหายใจออกมา เดินตรงไปยังเสี้ยเมิ่งเหยา “ผมไปส่งคุณเอง”
เสี้ยเมิ่งเหยาลังเลอยู่แวบนึง จากนั้นก็พยักหน้าออกไปเบาๆ
หลังจากทั้งสองคนออกไปแล้ว หวางเหมยก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินหลัน พร้อมทั้งเอ่ยออกไปว่า “หลินหลัน รถลูกเขยของเธอคันนั้น ดูเหมือนจะไม่ใช่รถเช่าเลยนะ”
หลินหลันกลอกตาออกมา “ไม่ใช่รถเช่า แล้วจะซื้อไหวรึไง? นั่นมันตั้งยี่สิบหกล้านเลยนะ อย่าว่าแต่มันที่เป็นคนขับรถส่งของเลย แม้แต่คนตระกูลเสี้ยอย่างพวกเรา ก็ยังควักเงินมากมายขนาดนั้นออกมาได้ในเวลาอันรวดเร็วอย่างนั้นไม่ไหวหรอก”
หวางเหมยชะงักไปสักพักนึง และก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เธอมีลางสังหรณ์ใจแปลกๆขึ้นมา ไม่เพียงแค่รถคันนั้นที่เฉินเฟิงไม่ได้เช่ามาแล้ว ถึงขนาดที่แม้แต่คนที่เธอเคยเข้าใจว่าเป็น”แฟนหนุ่ม”ของเสี้ยเมิ่งเหยาคนนั้น ก็เป็นตัวเฉินเฟิงเองเช่นเดียวกัน
เฉินเฟิงมีโอกาสสูงมาก ที่จะเป็นคนซื้อบ้านพักตากอากาศบนภูเขา!
ความคิดนี้ได้ถูกหวางเหมยปัดออกไปจากหัวจนหายวับไปในทันที เนื่องจากมันฟังดูเหลวไหลเกินไป
ทางอีกฝั่งหนึ่ง หลินจ้าวจงและหลินฟางเองก็ได้กลับมายังตระกูลหลินเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่เดินทางมาถึงบ้านแล้วนั้น สิ่งที่หลินจ้าวจงทำเป็นอย่างแรกนั่นก็คือโทรหาน้องสามหลินจ้าวหนานที่กำลังดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการตำรวจอยู่ในตอนนี้
“น้องสาม ช่วยพี่หาคนคนนึงให้หน่อย รถที่เขาขับเป็นรถKoenigsegg ป้ายทะเบียนหมายเลข ช0000…” หลินจ้าวจงเอ่ยข้อมูลที่ได้เห็นมาออกไปอย่างรวดเร็ว
“พี่รอง รถKoenigseggทั้งในชางโจวของเรามีแค่คันเดียว เป็นรถของเสิ่นหงชัง ไม่จำเป็นต้องสืบหาเลยครับ” หลินจ้าวหนานนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆหลินจ้าวจงถึงได้ให้สืบหาเรื่องเสิ่นหงชัง
หลินจ้าวจงไม่รู้เลยว่าข้อมูลรถทุกคันของคนใหญ่คนโตอย่างเสิ่นหงชัง หลี่จุ้นเฉิงพวกนั้นล้วนแล้วแต่ได้ฝังลึกอยู่ในหัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายในของหน่วยงานกำกับการดูแลอย่างพวกเขา เพื่อเป็นการป้องกัน ว่าถ้าหากวันไหนไปเจอโดยที่ไม่รู้จักหน้าตาที่แท้จริงของพวกเขาแล้วเกิดไปชนเข้ากับคนใหญ่คนโตพวกนี้
“เสิ่นหงชัง?!” หลินจ้าวจงร้องตกใจออกมา นึกไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับเสิ่นหงชัง!
“พี่รอง พี่คงจะไม่…ไปล่วงเกินเสิ่นหงชังเข้าใช่มั้ย?” ใจของหลินจ้าวหนานหล่นวูบไปแวบนึง ทำไมฟังจากน้ำเสียงอย่างนั้นของหลินจ้าวจงแล้ว ดูเหมือนกับได้ไปมีเรื่องบาดหมางอะไรกับเสิ่นหงชัง ถ้าหลินจ้าวจงไปล่วงเกินเสิ่นหงชังมาจริงๆล่ะก็ ฝันหวานของคนตระกูลหลินที่จะได้เข้าร่วมกองทัพอันรำไรนั้น ก็คงจะพังทลายหมดแน่
ถึงขนาดที่ถ้าหากเสิ่นหงชังใช้วิธีการบางอย่างมาเล่นงานขึ้นมา เกรงว่าตระกูลหลินนั้นแม้แต่ตำแหน่งตระกูลลำดับสองตอนนี้ก็คงรักษามันเอาไว้ไม่ได้
“ก็คง…ไม่นับว่าเป็นการล่วงเกินหรอกมั้ง” หลินจ้าวจงปาดเช็ดเหงื่อบนศีรษะเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยออกไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก ตอนนี้เขารู้สึกยินดีอย่างมาก ที่ตอนนั้นเขาได้ขวางหลินฟางเอาไว้ อีกทั้งยังยอมอ่อนข้อต่อเฉินเฟิง ไม่อย่างนั้น ตอนนี้ก็คงจะไม่ใช่แค่ก็คง แต่จะเป็นการล่วงเกินไปแล้วแน่ๆ
แต่แม้ว่าจะโอนอ่อนให้ไปแล้วบ้าง ได้ให้หลินหลันไปห้าแสน ภายในใจของเขาตอนนี้ก็เกิดอาการกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย ตกลงแล้วเฉินเฟิงจะเป็นเหมือนที่เขารู้จักหรือไม่กันแน่
“พี่รอง ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่?” หลินจ้าวหนานเอ่ยถามเสียงนิ่งขรึมออกไป ถ้าหลินจ้าวจงไปล่วงเกินเสิ่นหงชังเข้าจริงๆ อย่างนั้นตระกูลหลินก็จำต้องเตรียมตัวกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถขอโทษได้ก็จะได้ขอโทษไป และธุรกิจในเครือต่างๆก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมต่อการถูกโจมตีจากตระกูลเสิ่น
“เป็นอย่างนี้…” หลินจ้าวจงเองก็ไม่กล้าปิดบังออกไป เล่าเหตุการณ์ที่ได้ไปดูบ้านที่ยู่ฉวนซาน และเรื่องที่เกิดการปะทะกันกับหลินหลัน จนถึงเรื่องการปรากฏตัวออกมาของเฉินเฟิงอย่างละเอียดไปรอบนึง
หลังจากที่ฟังจบ หลินจ้าวหนานก็ได้เลิกคิ้วออกมาเล็กน้อย “พี่รอง พี่กำลังจะบอกว่า คนที่ขับรถคันนั้นไม่ใช่เสิ่นหงชังตัวจริง แต่เป็นเด็กหนุ่มคนนึง?”
“อืม น้องสาม เด็กคนนั้นจะใช่หลานชายของเสิ่นหงชัง เสิ่นจุนเหวินหรือเปล่า?” หลินจ้าวจงเอ่ยถามออกไป เรื่องที่ว่าเสิ่นหงชังมีหลานชายคนนึงเขาก็พอจะรู้อยู่บ้าง
“เป็นไปไม่ได้ เสิ่นจุนเหวินยังไม่ได้แต่งงาน อีกทั้งเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาเปียว” หลินจ้าวหนานปฏิเสธเสียงนิ่งขรึมออกมา จากนั้นก็เอ่ยมาอีกว่า “แต่ที่พี่บอกมาว่าอีกฝ่ายเป็นลูกเขยที่แต่งเข้ามา ผมกลับนึกถึงคนคนนึงขึ้นมา”
“ใคร?”
“เฉินเฟิง! ลูกเขยที่แต่งเข้ามาของตระกูลเสี้ย!” หลินจ้าวหนานเอ่ยออกมา
“ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเสี้ย?” หลินจ้าวจงรู้สึกสงสัยออกมาเล็กน้อย นึกไม่ออกจริงๆ ว่าที่หลินจ้าวหนานพูดมาหมายถึงตระกูลเสี้ยไหนกันแน่
จะโทษหลินจ้าวจงก็ไม่ได้ที่จะนึกไม่ออก เพราะตระกูลเสี้ยในชางโจวนั้นเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ ไม่ได้มีชื่อเสียง จึงไม่ได้อยู่ในความคิดของหลินจ้าวจงไปโดยปริยาย
“ช่วงก่อนหน้านี้ เขาเคยปรากฏตัวในการถ่ายทอดสดของเสิ่นจุนเหวิน…”หลินจ้าวหนานได้มีความทรงจำต่อเฉินเฟิงฝังลึกอยู่ในหัวของเขา เขาเห็นภาพการถ่ายทอดสดที่ฮือฮากันไปทั่วทั้งเมืองครั้งที่แล้วของเสิ่นจุนเหวินนั้น ในครั้งนั้น เขาได้สังเกตเห็นเฉินเฟิง พบว่าตัวเฉินเฟิงนั้นไม่ได้ง่ายเลย
โดยเฉพาะความสามารถของเฉินเฟิง ได้ฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเขาเป็นอย่างยิ่ง หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาถึงขนาดที่เอาวิดีโอการต่อสู้กันระหว่างเฉินเฟิงกับบอดี้การ์ดสิบกว่าคนของเสิ่นจุนเหวินมาทำเป็นสื่อการเรียนการสอน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในหน่วยได้ศึกษาท่าทางการต่อสู้ของเฉินเฟิงเลยทีเดียว
หลังจากหานหลงปรากฏตัวออกมา การถ่ายทอดสดก็ได้ตัดไปกลางคัน เดิมคิดว่าเฉินเฟิงจะถูกหานหลงเก็บหายจากชางโจวไปแล้ว
แต่ไม่นึกเลยว่า วันนี้เฉินเฟิงจะปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับเสิ่นหงชังอีก
ชัดเจนมากว่าตัวของเฉินเฟิงนั้นมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน รถKoenigseggคันนั้น จะต้องเป็นเสิ่นหงชังให้กับเฉินเฟิงแน่
หลินจ้าวหนานพูดการวิเคราะห์ของตัวเองออกไป
หลินจ้าวจงได้ยินอย่างนั้นก็เหงื่อตกขึ้นมาทันที ใครจะไปคิดได้ว่า ไอ้เศษสวะที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงที่เขารู้จักกันทั่วคนหนึ่ง จะมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่เทียมฟ้าอย่างนี้กัน
สามารถตีสนิทกับราชาแห่งวงการใต้ดินกับเศรษฐีอันดับต้นๆแห่งชางโจวไปพร้อมๆกันได้ ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงอย่างนี้ ตระกูลหลินจะเอาอะไรไปยั่วโมโหเขาได้?
ทางฝั่งของหลินฟางที่อยู่ข้างกัน ก็ได้ตกใจกลัวจนแข้งขาอ่อนเป็นอัมพาตไปทันที หลังจากที่หลินจ้าวจงตบหน้าเธอไป เธอก็คาดเดาได้ทันทีว่าเบื้องหลังของเฉินเฟิงนั้นไม่ธรรมดา แต่ก็นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะไม่ธรรมดาขนาดนี้
ถ้าจะให้พูดกันอย่างไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย ถ้าวันนี้เฉินเฟิงทำร้ายเธอตายอยู่ที่นั่น ตระกูลหลินก็คงไม่ว่ากล่าวเฉินเป่ยแม้นเพียงครึ่งคำแน่นอน ถึงขั้นที่อาจจะตามเช็ดล้างให้เฉินเฟิงอีกด้วยต่างหาก
“น้องสาม ตอนนี้ควรจะต้องทำยังไง?” หลินจ้าวจงปาดเหงื่อบนหน้าผากตนเล็กน้อย เอ่ยถามออกไป ถ้าหากตอนนั้นไม่ได้ขวางเข้าหลินฟางเอาไว้ แล้วปล่อยให้หลินฟางโทรหาหลินจ้าวหนาน คาดว่าทั้งตระกูลหลินในตอนนี้คงถูกฝังกันไปจนหมดแล้ว
แต่ก็โชคดีที่สายตาของเขาไม่เลวนัก มองออกว่ารถKoenigseggนั้นไม่ธรรมดา เลยได้ขวางหลินฟางออกไป