ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่182 เสี้ยห้าวหนีหัวซุกหัวซุน
บทที่182 เสี้ยห้าวหนีหัวซุกหัวซุน
“พี่รอง เรื่องนี้พี่ไม่ต้องเป็นกังวลเกินไปหรอกครับ ผมคิดว่าเฉินเฟิงคนนั้น คงไม่ใช่คนใจแคบเหมือนไส้ไก่อะไรอย่างนั้นหรอก เขาคงไม่มาหาเรื่องตระกูลหลินของพวกเราหรอก อีกอย่างเขาก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับแม่ยายของเขามาโดยตลอด พี่สะใภ้ตบหน้าแม่ยายของเขา ก็นับว่าเป็นการแก้แค้นแทนเขากลายๆ ดังนั้นเขาก็คงไม่ถือสาอะไรหรอก”
“แต่ พี่รอง พี่ควรจะต้องกำชับพี่สะใภ้สักหน่อยนะ บอกว่าต่อไปเวลาพี่สะใภ้อยู่ข้างนอก ก็อย่ากร่างให้มากนัก เพราะไม่ใช่ว่าจะโชคดีไปเสียทุกครั้ง” หลินจ้าวหนานเอ่ยเสียงทุ้มต่ำออกมา หลินฟางใช้อิทธิพลของตระกูลหลิน แสดงความยโสอวดดีข้างนอกจนชินไปแล้ว ในวันปกติทั่วไป คนตระกูลหลินสามารถปิดหูปิดตาต่อเรื่องนี้ได้ แต่ถ้าหากหลินฟางทำให้ตระกูลหลินต้องตกอยู่ในวิกฤต เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วคนตระกูลหลินก็ไม่ควรเกรงใจต่อหลินฟางอีกต่อไป
“ได้ยินคำพูดของน้องสามแล้วหรือยัง? ยัยโง่!” หลินจ้าวจงอดไม่ได้ที่จะต่อว่าหลินฟางออกไปคำนึง
“ได้ยินแล้วๆ ต่อไปฉันไม่กล้าแล้ว” หลินฟางรีบพยักหน้าเพื่อเป็นการรับปากออกมาทันที วันนี้เธอเกือบจะได้เดินเข้าประตูปรโลกแล้ว ต่อไปก็หลาบจำไม่กล้าทำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ต่อไป? เธอยังคิดจะมีครั้งต่อไปอีก! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกไปซะ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!” หลินจ้าวจง พูดพร้อมกับติเตียนเธอออกไป
“ค่ะๆๆ ฉันจะไม่ออกไปไหนแล้ว” หลินหลันรีบพยักหน้ายินยอมออกมาทันที ในตอนนี้แม้แต่ตดก็ยังไม่กล้าตดออกมาเลย
เฉินเฟิงขับรถพาเสี้ยเมิ่งเหยาไปส่งที่บริษัทของตระกูลเสี้ย
ในตอนนั้นเอง เสี้ยห้าวกับหวังยุนน่าที่ทำงานเสร็จก็ได้เดินออกมาจากห้องทำงานพอดี
มีสีหน้าโล่งสบายประดับอยู่เต็มใบหน้าของเสี้ยห้าว แต่บนใบหน้าของหวังยุนน่ากลับมีความขุ่นเคืองเขียนไว้ทั่วทั้งใบหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับความสามารถในเรื่องนั้นของเสี้ยห้าว แต่หวังยุนน่าไม่ได้แสดงมันออกมา ทั้งยังโอบร่างเสี้ยห้าวอย่างสนิทสนมพร้อมทั้งเอ่ยออกมาว่า “พี่ห้าว ตอนนี้ฉันเป็นคนของพี่แล้ว ต่อไปพี่ก็ต้องรักเอ็นดูฉันให้มากหน่อยนะคะ”
“ฮิๆ เพียงแค่เธอว่าง่ายเชื่อฟัง พี่ก็จะ “รัก” เธออย่างดี” บนใบหน้าของเสี้ยห้าวปรากฏรอยยิ้มหื่นกามออกมา จงใจเน้นหนักตรงคำว่ารักออกมา เมื่อกี้นี้ตอนอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขาได้ใช้หวังยุนน่ามาแทนที่โยว่หลิง พบว่ามีรสชาติที่ถึงพริกถึงขิงไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ผู้หญิงอย่างหวังยุนน่าผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะสวยสู้โยว่หลิงไม่ได้ แต่ตัวคนกลับเชื่อฟังเขามากกว่าโยว่หลิง ไม่ว่าจะเป็นท่าไหนก็ล้วนแล้วแต่จะสนองให้เขาได้ทุกท่า ทำให้เขาได้เสพสุขอย่างพระราชาเลยทีเดียว
“พี่ห้าว ฉันจะเชื่อฟังพี่ค่ะ” บนใบหน้าของหวังยุนน่าประดับไปด้วยรอยยิ้มอย่างน่ารักน่าเอ็นดู แต่นัยน์ตาสวยกลับมีความรังเกียจพาดผ่านออกมาอย่างยากที่จะสังเกตเห็นได้ เฮอะ ไอ้โง่ ถ้าไม่ใช่เพราะแกให้ฉันเป็นรองประธานล่ะก็ แกคิดว่าฉันจะมองขยะอย่างแกงั้นหรอ? หวังยุนน่าคิดอย่างรังเกียจอยู่ในใจ
หลังจากออกจากลิฟต์ ทั้งสองก็ได้มุ่งหน้ากันไปยังลานจอดรถที่หน้าประตูบริษัท
และในตอนนั้นเอง รถKoenigseggสีดำคันหนึ่งก็ได้ขับผ่านประตูใหญ่เข้ามา
หวังยุนน่าที่ตาไวก็ได้สังเกตเห็นตั้งแต่นาทีแรกที่ขับเข้ามา จึงได้รีบดึงร่างของเสี้ยห้าวเอาไว้ แล้วชี้ออกไปยังรถKoenigseggคันนั้นพร้อมเอ่ยออกไปว่า “พี่ห้าว นั่นใช่รถคุณปู่พี่หรือเปล่า?”
รถคุณปู่? เสี้ยห้าวนิ่งอึ้งไปสักพัก จากนั้นก็มองไปทางทิศทางที่หวังยุนน่าชี้ออกไป ทันทีที่เห็น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างออกมาทันที วิญญาณแทบจะหลุดออกไปจากร่าง
เป็นรถKoenigseggคันนั้นไปได้ยังไง!
ถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะอยู่ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงไปแล้ว แต่บนหน้าผากของเสี้ยห้าวนั้น กลับยังอาบชื้นไปด้วยเหงื่อออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย เพราะรถKoenigseggคันตรงหน้านั้น คือคันที่เขาเกือบจะเฉี่ยวชนเข้าที่โรงแรมจุนเสิ้งคันนั้นนั่นเอง
ในตอนนั้น ระยะห่างจากรถออดี้ของเขากับรถKoenigseggคันนี้ ห่างกันไม่ถึงสิบเซนฯด้วยซ้ำ ถ้าโยว่หลิงไม่เอ่ยเตือนขึ้นมา เกรงว่าเขาคงจะชนเข้าไปแล้ว
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชนเข้าไป แต่เสี้ยห้าวในตอนนั้นได้ตกใจจนเหงื่อไหลท่วมออกมาทั่วทั้งร่าง จากนั้นก็เอารถออดี้ของตนเข้าไปหลบอยู่ในมุม กว่าจะค่อยๆเรียกสติกลับคืนมาได้
ในตอนนี้รถKoenigseggได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ความคิดแรกที่ก่อขึ้นมาในหัวของเสี้ยห้าวนั้นก็คือเจ้าของรถKoenigseggคันนั้นรู้เรื่องที่เขาเกือบเฉี่ยวโดนรถKoenigseggของเขา ก็เลยมาเอาเรื่องเขา!
“พี่ห้าว เป็นอะไรไปคะ?” หวังยุนน่าสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมสีหน้าของเสี้ยห้าวถึงได้ดูหวาดกลัวกระวนกระวายถึงขนาดนั้นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเสี้ยหยุนเสิ้งเดินทางมาจริงๆ เขาเองก็ไม่เห็นจะต้องเป็นถึงขนาดนี้เลยนี่
“หยุนน่า วันนี้ฉันไปส่งเธอไม่ได้แล้ว เธอเรียกรถกลับบ้านเองเถอะ” เสี้ยห้าวกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ หลังจากพูดจบแล้วก็รีบหันหลังเตรียมวิ่งหนีออกไป ความคิดแรกในตอนนี้ของเขานั้นก็คือวิ่งหนี!
หนีก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที!
เจ้าของรถKoenigseggก็คงไม่ใช่คนที่เขาจะล่วงเกินได้แน่!
ถ้าคนเขาจะมาเอาเรื่องเขา เสี้ยหยุนเสิ้งเองก็คงปกป้องเขาไม่ได้แน่!
เห็นเสี้ยห้าวหนีกระเจิดกระเจิงไม่หันหลังกลับมาอีก หวังยุนน่าก็ได้กระทืบเท้าอย่างไม่พอใจออกมาทันที ไอ้คนขี้ขลาดไร้น้ำยา ไม่ใช่แค่รถหรูคันนึงเองหรอ? มีความจำเป็นที่จะต้องกลัวขนาดนั้นด้วยหรอ?
สองมือของหวังยุนน่ายกขึ้นกอดอก เดินก้าวเข้าไปด้านหน้า เธอขอดูสักหน่อยว่าวันนี้คนที่ลงมาจากรถคันนั้น จะเป็นภูตผีปีศาจหรืออะไรกัน ถึงได้ทำให้เสี้ยห้าวกลัวจนกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้
หลังจากนั้นรถKoenigseggก็ได้จอดลง และประตูปีกผีเสื้อก็ได้เปิดขึ้น
เท้าสวยที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงคริสทัลคู่หนึ่งเหยียบลงบนพื้น จากนั้นก็มีเงาร่างเพรียวบางอรชรร่างหนึ่งปรากฏออกมา
ทำไมถึงเป็นนังแพศยาคนนี้ได้?!
หวังยุนน่าขมวดคิ้วออกมา คนที่เดินออกมาจากที่นั่งข้างคนขับ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเสี้ยเมิ่งเหยาไปได้
คาดว่าคนที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ก็คงจะเป็นเสี้ยหยุนเสิ้ง หวังยุนน่าคิดในใจ นอกจากเสี้ยหยุนเสิ้งแล้ว ตอนนี้เธอเองก็นึกถึงคนอื่นไม่ออกแล้วเหมือนกัน แต่เสี้ยห้าวจำเป็นต้องกลัวเสี้ยหยุนเสิ้งขนาดนั้นด้วยหรอ? หวังยุนน่าคิดออกมาอย่างสงสัย
จากนั้นเฉินเฟิงก็ได้ลงมาจากรถ
ไม่ใช่เสี้ยหยุนเสิ้ง? หวังยุนน่ามีอาการตื่นตะลึงขึ้นมาทันที
เธอไม่ได้รู้จักเฉินเฟิงเลย ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าคนนั้นก็คือลูกเขยเศษสวะที่ร่ำลือกันโด่งดังของตระกูลเสี้ยผู้นั้น
ทว่าถึงเธอจะไม่รู้จัก แต่เสี้ยห้าวที่กำลังหลบอยู่ที่หน้าประตูบริษัทกลับรู้จักเขาผู้นั้นเป็นอย่างดี
ในตอนที่เห็นเฉินเฟิงเดินลงมาจากรถ ดวงตาของเสี้ยห้าวได้ตื่นตกใจจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า
ให้ตายยังไงเขาก็คิดไม่ถึงเลยสักนิดว่า เจ้าของรถKoenigseggที่ทำให้เขากลัวจนตัวสั่นผู้นั้นจะเป็นเฉินเฟิงไปได้!
ไอ้เศษสวะคนนั้น มีปัญญาเอารถดีๆขนาดนี้มาจากไหนกัน? นี่เป็นสิ่งแรกที่เขาคิดออกมาได้ ตอนนี้เขาอิจฉามันจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
นี่มันรถKoenigseggเลยนะ สุดยอดรถที่ทั้งโลกมีเพียงแค่หกคันเท่านั้น!
ถ้าเป็นคนใหญ่คนโตที่รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมืองท่านใดท่านหนึ่งเป็นคนขับมาก็แล้วไป แต่นี่มันเป็นไอ้เศษสวะอย่างเฉินเฟิงผู้นั้น มันมีสิทธิ์อะไรคู่ควรกับสิ่งนั้นกัน!
มันมีสิทธิ์อะไรที่มาขับรถที่เยี่ยมยอดขนาดนี้กัน?!
เสี้ยห้าวรู้สึกอิจฉาขึ้นมาอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง พอคิดขึ้นมาอีกว่า เมื่อครั้งนั้นตอนที่อยู่โรงแรมจุนเสิ้ง เพราะรถของเฉินเฟิง จึงได้ทำให้ต้องเขาตกใจกลัวจนเกือบจะฉี่รดกางเกงออกมา เขาก็ยิ่งรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง
เสี้ยห้าวหอบหายใจฮึดฮัดออกมา ก้าวเดินไปมุ่งหน้าไปทางเฉินเฟิง
“แกเอารถKoenigseggมาจากไหน?” เสี้ยห้าวเอ่ยถามออกไปด้วยความไม่ใคร่พอใจนัก
“เกี่ยวกับนายด้วยหรอ?” เฉินเฟิงขมวดคิ้วสงสัยออกไปเล็กน้อย ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า นับวันเสี้ยห้าวนั้นยิ่งเหมือนคนที่เป็นโรคประสาทเข้าไปทุกวัน เอะอะก็เอาแต่โมโหโวยวายอยู่นั่น
“พี่ห้าว เขาเป็นใครกันคะ?” หวังยุนน่าอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป ทำไมเห็นท่าทางอย่างนั้นของเสี้ยห้าวแล้ว ดูเหมือนว่าเจ็บแค้นเด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้อย่างมาก
แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้หวังยุนน่ารู้สึกสงสัยมากกว่าก็คือเสี้ยห้าวที่ก่อนหน้านี้ที่ได้เห็นรถคันนี้แล้วก็ได้ตกใจกลัวจนตัวสั่นออกมา แต่หลังจากที่เห็นเด็กหนุ่มคนนี้ลงมาจากรถ เสี้ยห้าวกลับมีท่าทีที่อุกอาจออกมาอีกครั้ง เหมือนราวกับว่าท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่นเมื่อก่อนหน้านั้นเป็นเพียงแค่การแสดงออกมาเสียยังไงอย่างนั้น
“เธออย่ามายุ่ง!” เสี้ยห้าวตวาดหน้าดำหน้าแดงออกไป เขาไม่อาจบอกหวังยุนน่าได้เลย ว่าคนตรงนี้ก็คือไอ้เศษสวะเฉินเฟิงที่ถูกเขารังแกมาสามปี เนื่องจากเมื่อหนึ่งนาทีก่อนหน้านั้น เขาเพิ่งจะตกใจกลัวจนหนีกระเจิดกระเจิงไปเพราะรถคันหนึ่งของเฉินเฟิงออกไป
พูดออกไปในตอนนี้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน