ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่199 คุณชายหมู
บทที่199 คุณชายหมู
เฉินเฟิงควบคุมการกระทำที่จะลงมือไว้ คิดจะมองดูสถานการณ์ที่จะดำเนินไปก่อน
“เจ้าอ้วน แกอยากมายุ่งมาไม่เข้าเรื่องงั้นเหรอ?” ชายสูงใหญ่ที่น่าเกรงขามยืนตรงหน้าผู้ชายเชิ้ตลายดอกพูดเสียงทุ้ม ไม่เหมือนกับเฉินเฟิง รถที่ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกคนนี้ขับเป็นรถเฟอร์รารี่ พอดูเบื้องหลังแล้วน่าจะไม่ธรรมดา แต่ทว่าสถานที่มืดมิดเปล่าเปลี่ยวแห่งนี้ เขาก็ไม่กลัวอยู่แล้ว
ถ้าโวยวายแย่จริง ฆ่าสักคนก็ฆ่า ฆ่าสองคนก็ฆ่าเหมือนกัน
“เจ้าอ้วน?” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกยกหัวคิ้วขึ้น ชี้มาที่จมูกของตนเองแล้วพูดว่า “แกเรียกข้าว่าเจ้าอ้วน?”
“ทำไม? มีปัญหาเหรอ?” ชายสูงใหญ่ที่น่าเกรงขามหดๆ ปาก เหยดแม่งใกล้จะหนักร้อยห้าสิบโลแล้ว ไม่เรียกแกเจ้าอ้วนหรือว่าจะให้เรียกแกเจ้าผอม
“ฉันไม่ชอบมากที่สุดก็คือคนอื่นมาเรียกฉันว่าเจ้าอ้วน!” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกเหมือนโกรธอยู่บ้าง
“งั้นฉันก็จะเรียกแกว่าเจ้าอ้วน เจ้าอ้วน เจ้าอ้วน ไอ้อ้วน!” ชายสูงใหญ่หัวเราะเยาะตะโกนว่าเจ้าอ้วนไปติดๆ กัน
“หึ แกเชื่อรึเปล่าว่าฉันจะอัดแก?” ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกยักหัวคิ้ว พูดอยู่ก็ม้วนแขนเสื้อขึ้น เตรียมลงมือ
“พี่” เวลานี้หญิงสาวอ่อนหวานด้านข้างกลับถลึงตาใส่ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะบอกว่า “ก่อนพี่ออกมารับรองกับแม่แล้วใช่มั้ย ว่าจะไม่ทะเลาะ?”
“แต่เจ้าหนูนี่มันด่าพี่ว่าไอ้อ้วน ถ้าพี่ไม่สั่งสอนมันสักยก พี่จะเอาหน้าไว้ไปไว้ตรงไหน?” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกพูดอย่างไม่พอใจ
“ฉันไม่สน พี่ชาย ถ้าพี่กล้าหาเรื่องทะเลาะ ฉันจะเอาเรื่องที่พี่ชกต่อยไปบอกแม่ ให้แม่จัดการพี่” หญิงสาวอ่อนหวานจมูกหยกสวยงามยกขึ้น แล้วบอกไป
ได้ยินคำพูดนี้ ชั่วขณะนั้นผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกก็ประหม่าอยู่บ้าง
“เห็นแก่หน้าของน้องสาวฉัน วันนี้ฉันก็ไม่จัดการพวกแกหลายคนนี้แล้ว ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!” ผู้ชายเชิ้ตลายดอกกวาดตามองผู้ชายที่ปิดหน้าไว้เหล่านี้ พลางพูดขึ้น
“ฉันจะบอกนะไอ้อ้วน สมองแกโดนลาเตะแล้วรึไง? แกมองไม่เห็นเหรอว่าฉันทางนี้มีกี่คน?” ชายสูงใหญ่ที่น่าเกรงขามส่งเสียงหัวเราะ เจ้าอ้วนคนนี้ โง่จริงหรือว่าแกล้งโง่กันแน่ สถานการณ์ตรงหน้าก็เห็นได้อย่างชัดเจน ตนเองทางนี้กำลังต่อสู้แกร่งกว่า เจ้าอ้วนนี้ ตนเองไม่ไสหัวไป ยังกล้าให้พวกเขาไสหัวไปอีก
“คนมาก? คนมากแล้วเก่งกาจกว่าเหรอ? เชื่อมั้ยว่าข้าใช้มือเดียวล้มพวกแกได้?” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกหัวเราะเยาะ
“มือข้างเดียว? ถ้าแกใช้มือเดียวล้มพวกเราได้ ข้าจะเรียกแกว่าพ่อเลย!” ผู้ชายสูงใหญ่ที่น่าเกรงขามบอก
“ฝันไปเถอะ! ข้าไม่มีลูกชายแบบแก” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกพึมพำบอกไป
“ดี! ดีมาก!” ผู้ชายสูงใหญ่หัวเราะเยาะต่อกัน ก่อนจะบอกว่า “ไอ้เจ้าอ้วน ในเมื่อแกไม่เจียมตัว งั้นวันนี้ฉันจะสั่งสอนแกหน่อย ว่าเป็นคนทำยังไง!”
“ลุย! ตีเจ้าอ้วนนี้ให้ขาหักสองท่อน แล้ววนขืนใจสาวคนนี้!” ผู้ชายสูงใหญ่โบกมือ พูดขึ้น
พูดจบ ดวงตาแดงของผู้ชายสูงใหญ่สองสามคนด้านหลังเขาก็พุ่งออกมาแล้ว
“น้องสาว? น้องเห็นมั้ย?” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกมองหญิงสาวอ่อนหวานทีหนึ่ง มีความหมายขอร้องไปทางหญิงสาวผู้อ่อนหวาน
หญิงสาวเปิดฟันขาวเบาๆ ถอนใจเอ่ยขึ้น “ชกต่อยได้ แต่ห้ามถึงชีวิต”
“ได้เลย!” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกสีหน้าดีใจ ชั่วขณะนั้นพุ่งเข้าไปแล้ว
เฉินเฟิงอยู่ด้านข้างมองอย่างสมาธิแน่วแน่ ถึงแม้จะมีเรื่องวุ่นมากมายก็ตาม ในสายตามีความหมายที่ขบคิดระดับหนึ่ง
ตั้งแต่ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกลงรถมา เขาก็มองออกแล้วว่าผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม่ธรรมดา บนตัวมีร่องรอยของจอมยุทธ์ระดับหนึ่ง ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ใช่จอมยุทธ์ แต่เดี๋ยวจะก้าวเข้าสู่แนวโน้มประตูใหญ่จอมยุทธ์
ต่อมา การกระทำของชายเสื้อเชิ้ตลายดอกก็พิสูจน์ยืนยันการคาดเดาของเฉินเฟิงแล้ว
เพียงแค่ใช้มือข้างเดียว ไม่ถึงสิบวินาที ก็จัดการล้มผู้ชายสูงใหญ่ปิดหน้าเหล่านี้จนหมด
หลังจากจัดการชายสูงใหญ่ที่ปิดหน้าเสร็จ ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกถึงส่งสายตามาทางเฉินเฟิง “เพื่อน ไม่เป็นไรนะ?”
เฉินเฟิงส่ายหน้าแล้ว ยิ้มตอบ “ไม่เป็นไร ขอบใจนะ”
ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกปัดๆ มือ ตอบ “ขอบใจอะไร ปกติเรื่องที่ไม่เข้าตาฉันมากที่สุดก็คือเรื่องที่สกปรกแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกงั่งนี้ มาโรยตะปูบนถนน ถ้าไม่ใช่เพื่อนผ่านมาก่อน ไม่แน่ว่าคนที่เจอหายนะก็คือฉันแล้ว”
“ถ้าบอกว่าขอบใจ ฉันยังต้องขอบใจนายสิเพื่อน มาเจอเรื่องวุ่นวายก่อนฉันแล้ว” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกยิ้มตอบ
เฉินเฟิงหัวเราะแล้วไม่ได้พูดอะไร ดูออกว่าเจ้าอ้วนเสื้อลายดอกคนนี้เป็นคนที่ไม่เลวมาก ถึงแม้จะเป็นลูกคนรวยรุ่นสอง แต่กลับไม่ได้วางท่าอะไร
“ใช่แล้วเพื่อน นายก็ขึ้นเขามาเข้าร่วมการแข่งรถสินะ?” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกถามขึ้น
“อืม” เฉินเฟิงพยักหน้าแล้ว
“งั้นพอดีเลย ฉันถือโอกาสพานายไปด้วยแล้วกัน ดูล้อรถนายนั้น น่าจะโดนพวกงั่งนี้ทำพังแล้ว รถคงขับไม่ได้” ผู้ชายเสื้อลายดอกกระตือรือร้นมาก
“งั้น……รบกวนนายแล้วนะ” เฉินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ถ้าผู้ชายเสื้อลายดอกไม่พูด เขาคงยังไม่ได้สังเกตว่าเมื่อสักครู่ตอนที่เหยียบเบรก ล้อรถตำตะปูยาวเข้าพอดี
แน่นอนว่าเขาสามารถเอารถไว้ที่นี่ได้ ส่วนคนวิ่งขึ้นเขาไป แต่ถ้าถูกคนมองเห็นเข้าคงจะไม่ดีเอา
“ไม่รบกวน มีอะไรรบกวนกัน แต่ว่ารถนายนี้ อาจจะต้องรอพรุ่งนี้นายค่อยหาคนมายกไปเอง” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกมองรถอาวดี้ของเฉินเฟิงทีหนึ่ง ก่อนจะบอกไป
“รถฉันจะหาทางเอาเอง” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อยตอบ
จากนั้นเฉินเฟิงก็นั่งเข้าไปในรถ
รถเฟอร์รารี่คันนี้ของผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม่เหมือนกับเฟอร์รารี่สองที่นั่งทั่วไป เป็นเฟอร์รารี่แคลิฟอร์เนียสี่ที่นั่ง ดังนั้นเฉินเฟิงจึงสามารถนั่งด้านหลังได้พอดี
“ใช่แล้ว เพื่อน ยังไม่รู้ว่านายชื่ออะไรเลยล่ะ?” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกหันหน้าถามขึ้น
“เฉินเฟิง”
“เฉินเฟิง?” ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกขมวดหัวคิ้ว สงสัยอยู่บ้าง “ชื่อนี้ฉันเหมือนเคยได้ยินที่ไหน”
ถึงแม้จะคุ้นชิน แต่คิดตั้งนานผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกก็คิดไม่ออกว่าเป็นใคร แต่เขาไม่ได้เป็นคนที่สืบสาวราวเรื่องแบบนั้น ในเมื่อคิดไม่ออก นั่นย่อมไม่ไปคิดอีก
“เพื่อน ฉันชื่อจูกว่างฉวน ด้านข้างคนนี้คือน้องสาวฉัน เธอชื่อจูเจียเหยียน”
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวอ่อนหวานหันหน้า ยิ้มให้เฉินเฟิงอย่างสุภาพ
“สวัสดีครับ” เฉินเฟิงตอบกลับอย่างมีมารยาท ในใจพอเดาออกถึงที่มาของพี่น้องสองคนนี้
คนของตระกูลจูเมืองชางโจว
ตระกูลจูเป็นตระกูลทำธุรกิจอาหารเครื่องดื่ม ทรัพย์สินของตระกูลอยู่ที่สองพันล้าน ถือว่าเป็นตระกูลลำดับสองครึ่ง เฉินเฟิงเคยอ่านข้อมูลที่หานหลงให้มา
ไม่นานจูกว่างฉวนก็ขับรถมาถึงหน้าประตูโรงแรมหรูหราแห่งหนึ่งบนยอดเขา
โรงแรมโป๋ไห่
ด้านหน้าโรงแรม ตั้งหินยักษ์ที่สูงใกล้เก้าเมตร ด้านบนหินยักษ์เขียนอักษรสี่ตัวโรงแรมโป๋ไห่อย่างกระฉับกระเฉงมีพลัง
ถึงแม้จะเป็นยามค่ำ แต่หน้าประตูโรงแรมยังคงคนต้อนรับแขกอยู่
หลังจากจูกว่างฉวนจอดรถเรียบร้อย ทั้งสามคนก็เข้ามาที่ประตูใหญ่โรงแรม
แล่นตรงไปที่ประชาสัมพันธ์
“เฮ้ นี่ไม่ใช่คุณชายหมู(ตัวหนังสือจีนจู ออกเสียงเหมือนหมู)ของพวกเราเหรอ? คุณชายหมูไม่อยู่บ้านกินอาหารหมูดีๆ ทำไมวิ่งมากระโดดโลดเต้นที่อ่าวโป๋ไห่ของพวกเราล่ะ” เสียงที่วิตถารดังขึ้นด้านหลังของสามคน
ได้ยินเสียงนี้ ชั่วพริบตาเดียวสีหน้าของจูกว่างฉวนมืดครึ้มน่ากลัว บนหน้างดงามของจูเจียเหยียน ก็แต้มสีหน้าที่สะอิดสะเอียนขึ้น