ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่203 นายมีเมียแล้ว
บทที่203 นายมีเมียแล้ว
“ได้ ทำให้ได้ ต้องทำให้ได้!” เฉินเฟิงจำใจมาก ตนเองเหมือนคนที่จะไปหาเรื่องใครแบบนี้เหรอ
“ซูนแช่เจ้าหมานั้น ชัดเจนว่าอยากเกาะขาใหญ่ของเติ้งซื่อชี” จูกว่างฉวนมองซูนแช่อย่างเดือดดาลไม่สงบพลางด่าว่า หลังจากที่เติ้งซื่อชีปรากฏตัว ซูนแช่ยิ่งเหมือนเป็นหมาปั๊กตัวหนึ่ง วนรอบเติ้งซื่อชีอยู่ เกือบจะเลียพื้นรองเท้าให้เติ้งซื่อชีแล้ว
“ให้เขาเกาะไปเถอะ ใครขาใหญ่จริงก็ไม่แน่ล่ะ” เฉินเฟิงยิ้มอย่างขบคิด บอกไป
“จะให้เขาเกาะได้ยังไงล่ะ? ถ้าเจ้าหมานี้เกาะขาใหญ่เติ้งซื่อชีไว้ได้ จัดการนายก็ไม่ใช่เหมือนกับเล่นสนุกเลยเหรอ” จูกว่างฉวนพูด
เฉินเฟิงยิ้มครุ่นคิด เหมือนเล่นสนุก? ต่อให้เป็นเติ้งซื่อชี? เขายังไม่สนใจเติ้งซื่อชีในสายตาจริงๆ
“จะว่าไปเติ้งซื่อชีคนนี้มีเงินจริงๆ ได้ยินว่าตอนแรกเพื่อเตรียมทีมรถแข่งมังกรดำนั้น เขาใช้เงินไปเกือบพันห้าร้อยล้าน หลังจากจัดตั้งทีมรถขึ้นมา รักษาทีมทุกปี ยังต้องใช้สองสามร้อยล้านอีกด้วย”
“แน่นอน ทีมรถแข่งมังกรดำที่เขาใช้เงินจำนวนมากขนาดนี้ฝึกฝนขึ้นมา ความสามารถยิ่งไม่ต้องพูดถึง งานแข่งรถใหญ่ๆ ในประเทศเหมือนคว้ารางวัลมาได้หมด”
“รางวัลชนะเลิศของการแข่งรถในครั้งนี้ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน” จูกว่างฉวนพูดชมเชย
“เขาสนใจเย่ไห่ถัง?” เฉินเฟิงถามขึ้น เห็นได้ชัดมากว่าเติ้งซื่อชีไม่ได้มาเพื่อเงินรางวัลหนึ่งร้อยล้านนั้น บางทีเงินรางวัลหนึ่งร้อยล้านนั้น สำหรับคนธรรมดาแล้วมีพลังดึงดูดมาก แต่มาถึงระดับแบบเขานี้ หนึ่งร้อยล้านไม่มีอะไรต่างกับหนึ่งหมื่น ดังนั้นก็เป็นได้เพียงเพื่อเย่ไห่ถังแล้ว
“อืม เติ้งซื่อชีชอบเย่ไห่ถัง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับของวงใน” จูกว่างฉวนพยักหน้าแล้วบอกว่า “ว่ากันว่าเมื่อหลายปีก่อน เพื่อตามจีบเย่ไห่ถังเติ้งซื่อชีอยู่หน้าประตูบ้านของเย่ไห่ถัง วางดอกกุหลาบไว้เก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก ทำเป็นทะเลกุหลาบเลย”
“จากนั้นล่ะ?”
“จากนั้นเย่ไห่ถังจุดไฟทีหนึ่ง ไหม้หมดเลย”
“หา?” เฉินเฟิงตกตะลึง ดูไม่ออกว่าเย่ไห่ถังยังนิสัยดุด้วย
“เพื่อนเฉินเฟิง ฉันคิดว่าเย่ไห่ถังคงไม่ชอบเติ้งซื่อชี ดังนั้นนายยังมีโอกาส” จูกว่างฉวนตบๆ ไหล่ของเฉินเฟิง พูดหยอกล้อ
“ฉันก็มีเมียแล้ว” เฉินเฟิงยิ้มขมขื่นตอบ แน่นอนว่าถึงแม้ไม่มี จะไม่เกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับเย่ไห่ถังกุหลาบซ่อนหนามแบบนี้
“นายมีเมียแล้ว?” จูกว่างฉวนอ้าปากกว้าง เหมือนสามารถยัดไข่ไก่ฟองหนึ่งได้
แม้แต่จูเจียเหยียนที่เรียบนิ่งมาตลอดก็อดมองเฉินเฟิงอย่างแปลกใจไม่ได้ มีเมียแล้ว แต่ยังมาดูเย่ไห่ถังที่นี่อีก เฉินเฟิงคงไม่ใช่ชายเลวหรอกมั้ง
“อืม พวกเราแต่งงานกันมาสามปีแล้ว ความสัมพันธ์ดีมาก” เฉินเฟิงพยักหน้า
“งั้นนายยังมาที่นี่ ไม่กลัวกลับไปคุกเข่าที่กระดานซักผ้าเหรอ?” จูกว่างฉวนถามขึ้น
เฉินเฟิงยิ้มขมขื่น “ฉันมาที่นี่ความจริงเพื่อเย่ไห่ถัง แต่ก็ไม่ใช่อย่างที่นายคิด”
“ไม่ใช่แบบที่ฉันคิด?” จูกว่างฉวนสงสัยอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพื่อตัวของเย่ไห่ถัง นั้นยังเป็นอะไรได้?
“วันหลังนายจะเข้าใจเอง” เฉินเฟิงถอนหายใจทีหนึ่ง บอกไป
เวลานี้ ซูนแช่พาสองสามคนเดินเข้ามาทางนี้
จูกว่างฉวนยืนอยู่ตรงหน้าของเฉินเฟิงโดยจิตใต้สำนึก
“หลบไป!” ซูนแช่มองจูกว่างฉวนอย่างเย็นเฉียบทีหนึ่ง
“นายจะทำอะไร?” จูกว่างฉวนมองหน้ากับซูนแช่อย่างไม่ยอมอ่อนข้อสักนิด ไม่ได้ขยับฝีเท้าเลย
“หลบไป! ฉันมาหาเขามีธุระ!” ซูนแช่ชี้ไปทางเฉินเฟิง ตะคอกเสียงดุ
“ธุระอะไร?” จูกว่างฉวนไม่หลบสักก้าว
“จูกว่างฉวน! ฉันไว้หน้านาย นายอย่าไม่ไว้หน้าฉันนะ!” ซูนแช่กุมหมัดไว้ มีแนวโน้มจะอารมณ์เสีย
เวลานี้เฉินเฟิงยืนออกมาแล้ว “จูกว่างฉวน นายหลบไปเถอะ เขามาหาฉัน”
“เพื่อนเฉินเฟิง……” จูกว่างฉวนมองเฉินเฟิงด้วยความกังวล
เฉินเฟิงส่ายหน้าแล้ว ส่งสายตาให้วางใจ จากนั้นย้ายสายตาไปทางซูนแช่ ตอบอย่างเรียบนิ่ง “ธุระอะไร?”
“เดี๋ยวการแข่งซูเปอร์คาร์ ฉันอยากแข่งกับนายสักตา” ซูนแช่หน้ามืดครึ้มพูด สำหรับเขา การแข่งขันซูเปอร์คาร์เป็นโอกาสแก้แค้นที่ดีมาก เพราะทุกปีในสนามแข่งจะมีคนตายหลายคนขนาดนั้น ปีนี้ เฉินเฟิงก็สามารถเป็นหนึ่งในรายชื่อคนที่ตาย
“ฉันขับรถไม่เป็น” เฉินเฟิงส่ายหน้าแล้ว เขาย่อมรู้ความคิดของซูนแช่ แต่เวลาของเขาล้ำค่ามาก ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาบนตัวซูนแช่
“นายกลัว?” ซูนแช่ส่งเสียงหัวเราะ มีความหมายที่ยั่วยุระดับหนึ่ง
“อืม ฉันกลัวแล้ว” เฉินเฟิงพยักหน้า ยอมรับไปตามตรง
“นาย……” คำพูดซูนแช่ ตั้งนานถึงด่าสองคำออกมา “ของเสีย”
“เขาไม่แข่งกับฉัน นายก็มาแข่งกับฉัน” ซูนแช่ย้ายสายตามืดครึ้มไปทางจูกว่างฉวน
“ทำไมฉันต้องแข่งกับนายด้วย?” จูกว่างฉวนเบ้ๆ ปาก ฝีมือขับรถของซูนแช่ ถึงแม้จะเป็นนักแข่งมือสมัครเล่นขั้นนั้น แต่จะเทียบกับเขาแล้วยังแกร่งกว่าไม่น้อย หากเขากับซูนแช่แข่งกัน อัตราการชนะก็เกือบเป็นศูนย์!
“นายไม่แข่งกับฉัน เชื่อมั้ยว่าตอนนี้ฉันจะให้พวกนายตระกูลจูล้มละลาย?” ซูนแช่ยิ้มเยาะ พูดพลางหยิบมือถือออกมา
ที่เขาพูดขึ้นมาว่าจะแข่งกับจูกว่างฉวนไม่ใช่อยากเหยียบย่ำจูกว่างฉวน แต่อยากใช้จูกว่างฉวน ดึงเฉินเฟิงออกมา ถ้าความสัมพันธ์ของเฉินเฟิงกับจูกว่างฉวนลึกมากพอ อย่างนั้นเฉินเฟิงจะต้องไม่มองดูอยู่เฉยๆ แน่
“ซูนแช่ นายอย่าเกินไปหน่อยเลย!” จูกว่างฉวนสีหน้าแดงขึ้น ที่จริงซูนแช่กุมจุดอ่อนของเขาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดของซูนแช่นี้ก็ไม่ใช่ข่มขู่เขา ซูนแช่มีวิธีที่ทำให้ตระกูลจูล้มละลายในตอนนี้จริง
“ฉันจะเกินไปแบบนี้ นายจะกัดฉันเหรอ” ซูนแช่หยิ่งทะนง ก้าวร้าวอย่างมาก
“ได้ ฉันจะแข่งกับนาย!” จูกว่างฉวนกัดฟันแล้ว เรื่องมาถึงปัจจุบันนี้ เขาทำได้เพียงดันทุรังให้คนอื่นทำในสิ่งที่เขาไม่สามารถจะทำได้ ไม่แข่งรถกับซูนแช่ ตระกูลจูก็คงล้มละลาย แข่งรถกับซูนแช่ ถ้าแพ้แล้ว อย่างมากก็แข่งความอับอายกับซูนแช่สักยก เขาไม่ใช่ยอมรับไม่ได้
“พี่ชาย……” จูเจียเหยียนร้อนใจอยู่บ้าง จูกว่างฉวนเดิมทีไม่ใช่คู่แข่งของซูนแช่ ถ้าฝืนแข่งจริง แพ้แล้วคงเป็นเรื่องเล็ก กลัวแต่ซูนแช่จะเล่นไม่ซื่อระหว่างทาง ใช้ลูกไม้สกปรก จูกว่างฉวนจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดบนสนามแข่ง
“อย่ากังวลเลย ใครแพ้ใครชนะก็ยังไม่แน่” จูกว่างฉวนปัดๆ มือ พูดเสียงทุ้ม
“ช่างเถอะ ฉันจะแข่งกับเขาเอง”เวลานี้เฉินเฟิงลุกออกมาแล้ว เดิมทีเขาไม่อยากสนใจซูนแช่ แต่ซูนแช่กลับใช้วิธีชั่วร้ายนี้ล่อเขาออกมา ไม่พูดไม่ได้ ซูนแช่สายตาไม่เลว มองความสัมพันธ์ของเขากับจูกว่างฉวนว่าไม่ตื้นเขินออก
เขาไม่สามารถมองจูกว่างฉวนโดนเหยียบย่ำไปต่อหน้าต่อหน้าได้
“ไม่ได้! เพื่อนเฉินเฟิง เดิมทีนายไม่เคยลงสนามแข่ง ซูเปอร์คาร์กับรถที่นายขับปกติไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนสนามแข่งเปลี่ยนแปลงได้ร้อยแปดพันเก้า ข้อเรียกร้องการตอบสนองสูงมาก เกิดความผิดพลาดนิดเดียว อาจจะเกิดอุบัติเหตุถึงชีวิต……” จูกว่างฉวนรีบทันที ถึงแม้จะแค่สัมผัสกับเฉินเฟิงช่วงสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งวัน แต่เขาเห็นเฉินเฟิงเป็นเพื่อนจริง ดังนั้นจึงไม่อยากให้เฉินเฟิงเกิดเรื่องจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นสำคัญคือเฉินเฟิงไม่เคยขับซูเปอร์คาร์ ไม่คุ้นเคยสมรรถนะของซูเปอร์คาร์ หากเข้าสนามแข่งจริง อัตราเกิดอุบัติเหตุขึ้นมีสูงถึงร้อยเปอร์เซ็นต์!
“วางใจได้ ไม่เคยกินเนื้อหมู ยังไม่เคยเห็นหมูวิ่งด้วยเหรอ? ซูเปอร์คาร์ฉันเคยขับไม่ได้จริง อย่างนั้นเข้าสนามแข่ง ฉันก็แค่ขับช้าหน่อย” เฉินเฟิงยิ้มพูดขัด ความจริงเขาไม่กังวลว่าจะเกิดปัญหาใดๆ ในฐานะจอมยุทธ์หั้วจิ้ง ไม่ว่าในสนามเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เขาล้วนมีความเชื่อมั่นพอว่ารับมือได้