ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่207 สุภาพบุรุษแก้แค้น ไม่ค้างคืน
บทที่207 สุภาพบุรุษแก้แค้น ไม่ค้างคืน
ถึงแม้เขาเป็นคนแรกที่ข้ามผ่านเส้นชัยมา แต่ในฝีมือการขับรถ เขากลับถูกเฉินเฟิงทิ้งห่างออกไปมากเหลือเกิน
ไม่ต้องพูดถึงว่าเฟอร์รารี่แคลิฟอร์เนียสี่ที่นั่งที่เฉินเฟิงขับนั้น แย่กว่าบูกัตติเวย์รอนของเขามากแค่ไหน
เติ้งซื่อชีสีหน้ามืดครึ้มระดับหนึ่ง เขาหยิ่งยโสโอหังแต่ไหนแต่ไร ตอนที่เข้าร่วมการแข่งรถในครั้งนี้ เดิมทีเขาไม่เคยพิจารณาถึงสถานการณ์ที่พ่ายแพ้
สำหรับเขา เขาน่าจะกวาดล้างทั้งสนาม
แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงไม่ได้กวาดล้างทั้งสนาม แต่ทว่าแพ้แล้ว!
เติ้งซื่อชีไม่มีทางยอมรับอยู่บ้าง
หลังจากนั้นหนึ่งนาที รถแข่งจำนวนมากก็ข้ามผ่านเส้นชัยแล้ว
แลมโบกินีของซูนแช่ปรากฏในลำดับทันที
ตอนที่ซูนแช่ลงจากรถ บรรยากาศทั้งสนามแตกต่างไปอย่างกะทันหัน
คนไม่น้อยต่างมองซูนแช่ด้วยสีหน้าแปลกประหลาด อยากมองปฏิกิริยาอะไรสักอย่างของซูนแช่
โดยเฉพาะก่อนหน้าที่จะเริ่มแข่งซูนแช่เป็นคนพูดขึ้นมาเองว่าจะพนันกับเฉินเฟิง
ใครแพ้คนนั้นคลานรอบถนนแข่งรอบหนึ่ง คลานไปด้วย ร้องเสียงหมาไปด้วย
ตอนนั้นท่าทางของซูนแช่มีแผนการอยู่ในใจ ทุกคนล้วนมองเห็นในสายตา
แน่นอนไม่มีใครคิดว่าท่าทางแบบซูนแช่นั้นจะมีปัญหาอะไร เพราะเห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงเป็นมือใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังขับรถเน่าๆ ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปคันหนึ่ง
แต่ผลสุดท้ายกลับเป็นเฉินเฟิงที่ไม่เพียงตบหน้าซูนแช่ได้ ยังตบหน้าคนดูเกือบทั้งสนามด้วย
จูกว่างฉวนดีใจเต็มใบหน้าวิ่งมาที่ตรงหน้าของเฉินเฟิง ตบไหล่เฉินเฟิงอย่างหนัก ตื่นเต้นจนพูดสับสนพอสมควร “เพื่อนเฉินเฟิง นายปิดบังฉันซะลำบากเลย”
หลอกเป็นหมูกินเสือ!
ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด เฉินเฟิงกำลังหลอกเป็นหมูที่กินเสือ!
ก่อนหน้าจะเริ่มแข่ง เดิมทีจูกว่างฉวนไม่เคยคิดว่าเฉินเฟิงจะชนะซูนแช่ แม้กระทั่งเขายังภาวนาให้เฉินเฟิงอย่าได้แพ้แบบอนาถเกินไป
แต่สุดท้ายเฉินเฟิงไม่เพียงชนะซูนแช่ได้ แม้กระทั่งเติ้งซื่อชี ก็เกือบจะกินควันไอเสียของเฉินเฟิงเข้า
ฝีมือขับรถของลูกคนรวยเหล่านี้ในสนาม เดิมทีไม่ใช่ระดับเดียวกับเฉินเฟิง
จูกว่างฉวนรู้สึกว่าสถานะที่แท้จริงของเฉินเฟิงคือเทพรถที่ปลดประจำการ มาที่นี่เพียงเพื่อมาทารุณ
“เหมือนว่าฉันพูดไปแล้วนะ ฉันมีความมั่นใจสิบคะแนนที่จะเอาชนะซูนแช่ให้ได้” เฉินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ทำไมจูกว่างฉวนถึงคิดว่าตนเองปิดบังเขาล่ะ
“หึๆ คำพูดตอนนั้นของนาย ฉันคิดว่าเป็นจริงได้ยังไงกัน” จูกว่างฉวนหัวเราะหึๆ อายอยู่บ้าง
จูเจียเหยียนที่อยู่ด้านข้าง ใบหน้างดงามแดงขึ้นเช่นกัน ตอนแรกเธอก็ไม่เชื่อเฉินเฟิง รู้สึกว่าเฉินเฟิงหลงระเริงอวดดี กำลังคุยโม้
แต่ความจริงได้พิสูจน์ว่าเฉินเฟิงไม่เพียงไม่ได้หลงระเริง กลับกันเฉินเฟิงยังอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
จากความสามารถของเฉินเฟิง ถ้าขับจริงจังตั้งแต่เริ่มต้น เขาสามารถแย่งตำแหน่งชนะเลิศในการแข่งขันซูเปอร์คาร์ครั้งนี้ไปได้แน่ แม้กระทั่งทำลายสถิติการแข่งอ่าวโป๋ไห่ได้ด้วย
แต่เฉินเฟิงไม่ได้ทำแบบนั้น
จูเจียเหยียนไม่ได้เจอมานานมาก คนที่ธรรมดาแบบเฉินเฟิงนี้
เฉินเฟิงกับคนหนุ่มที่รูปหล่อพวกนั้นที่เธอเคยเจอมาไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง คนรูปหล่อเหล่านั้นที่เธอเคยเจอมามีความสามารถน้อยนิด มาแสดงออกต่อคนอื่นมากมาย เดิมทีไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่าซ่อนปมเขื่อง
ส่วนเฉินเฟิงมีความสามารถมากมาย ทว่าเผยออกมาเพียงน้อยนิด เหมือนกลัวคนอื่นจะรู้ว่าเขาเก่งกาจ
“ไปเถอะ เพื่อนเฉินเฟิง พวกเราเข้าไปกัน ให้เจ้าหมาซูนแช่นั้นทำตามสัญญาที่พนันไว้” จูกว่างฉวนดึงเฉินเฟิงไว้อย่างฮึกเหิม รีบไปหาซูนแช่ตรงนั้น สู้กับซูนแช่มาตั้งนาน นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้ซูนแช่ถูกหักหน้ามากขขนาดนี้ โอกาสดีที่จะเห็นซูนแช่ขายหน้าขนาดนี้ เป็นธรรมดาที่จูกว่างฉวนจะพลาดไม่ได้
อีกด้านหนึ่ง ซูนแช่ลงมาจากแลมโบกินีอย่างไม่พูดไม่จา สีหน้าของเขามืดครึ้มจนจะมีน้ำหยดลงมาได้อยู่แล้ว
นางแบบเซ็กซี่หลายคนที่มาล้อมด้านข้างเขา เวลานี้ยิ่งห่างได้มากเท่าไรก็ห่างมากเท่านั้น ไม่กล้าขึ้นมาสัมผัสหัวคิ้วของซูนแช่กันเลย
“ซูนแช่!” เวลานี้จูกว่างฉวนเรียกตะโกนอย่างฮึกเหิม
สายตาของผู้คนล้วนส่องเข้ามาแล้ว
“ซูนแช่ ยังจำคำพูดที่ตัวเองเคยพูดก่อนแข่งได้มั้ย?” จูกว่างฉวนมองซูนแช่อย่างได้ในถามขึ้นมา
“จูกว่างฉวน เรื่องนี้เหมือนว่าจะไม่เกี่ยวอะไรกับนายมั้ง” ซูนแช่กดทับไฟโกรธก่อนจะบอกไป เขาพนันไว้กับเฉินเฟิง จูกว่างฉวนวิ่งมาร่วมสนุกอะไรด้วย
“ทำไมจะไม่เกี่ยวกับฉันล่ะ?” จูกว่างฉวนยักคิ้วขึ้น บอกว่า “เฉินเฟิงเป็นเพื่อนฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่เขาขับยังเป็นรถที่ฉันให้เขายืม เขาชนะนายแล้ว ก็เหมือนว่าฉันชนะนายด้วย นายว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับฉันรึเปล่า?”
ที่จูกว่างฉวนพูดตรงไหนเรียกว่ามีเหตุผลที่จะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เขายังไม่เคยรู้สึกภาคภูมิใจยามอยู่ต่อหน้าซูนแช่ขนาดนี้มาก่อน
“นายล่ะว่ายังไง?” ทันใดนั้นซูนแช่ย้ายสายตาไปทางเฉินเฟิง ในสายตาประกายแสงอันตรายที่ไม่พูดก็รู้ คนฉลาดล้วนมองออกกัน นี่คือซูนแช่กำลังข่มขู่เฉินเฟิง ขอเพียงเฉินเฟิงปล่อยไป อย่างนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำตามสัญญาที่พนันไว้ คลานบนพื้นร้องเสียงหมา
“ฉันว่ายังไงเหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มขบคิด ตอบว่า “ความหมายของฉันแน่นอนว่าให้นายคลานรอบสนามแข่งรอบหนึ่ง คลานไปด้วย ร้องเลียนเสียงหมาไปด้วย”
“เพื่อน อย่าให้มันเกินไปนะ! ทำอะไรอย่าโหดเกิน วันหลังมีเหตุผลที่ยังเจอกันอีก นายน่าจะเข้าใจ!” ซูนแช่กดเสียงต่ำข่มขู่ไป เขาไม่อยากโจ่งแจ้งเกินไป ทำเรื่องนี้โวยวายมาใหญ่โต ให้คนอื่นได้เห็นภาพลักษณ์ที่ซูนแช่อย่างเขาแพ้ไม่ลง
เฉินเฟิงส่ายหน้าแล้วเอ่ยปากนิ่งๆ “ฉันไม่เข้าใจว่าอะไรคืออย่าเป็นคนโหดเกิน วันหลังยังต้องเจอกันอีก ฉันรู้เพียงแต่สุภาพบุรุษแก้แค้น ไม่ค้างคืน! วันนี้นายทำฉันไม่สบายใจ งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องทำให้นายสบายใจ!”
“คุกเข่าลง ร้องแบบหมาซะ”
“นายแน่ใจว่าจะทำแบบนี้?” ซูนแช่กัดฟันแน่นจนเสียงดังกรอด ไฟโกรธในดวงตาแทบจะละลายเป็นธาตุแท้
ถ้าเขาคุกเข่าลงร้องเสียงแบบหมาต่อหน้าคนมากขนาดนี้จริงๆ นั้นชื่อเสียงของเขาคงจบเห่ถึงที่สุดแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งศักดิ์ศรีของตระกูลซูนจะถูกลบหายไปหมด
“ทำไม นายไม่ยินยอม?” เฉินเฟิงสีหน้าเย็นลงมาอีก ถ้าซูนแช่กล้าผิดสัญญาต่อหน้าสาธารณชน นั้นเขาจะไม่ถือสาทำให้ซูนแช่รู้สักหน่อยว่าอะไรเรียกว่าความเสียใจ!
“ซูนแช่” เวลานี้มีเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นในสนาม
ผู้คนค่อยๆ หันหน้าอย่างแปลกใจ กลับเห็นเติ้งซื่อชีที่ใส่ชุดแข่งรถสีแดงสลับขาวเดินเข้ามาด้วยหน้าตาไร้ความรู้สึก
ผู้คนหลบเพื่อเปิดทางเส้นหนึ่งให้โดยอัตโนมัติ เติ้งซื่อชีก้าวเดินเหมือนสบายๆ มาถึงตรงหน้าสองสามคนนี้
“คุณชายเติ้ง!” ซูนแช่สีหน้าดีใจ โค้งตัวเคารพนอบน้อม
“คุณชายเติ้ง” จูกว่างฉวนกับจูเจียเหยียนก็ก้มตัวเล็กน้อยเช่นกัน ทักทายกับเติ้งซื่อชีไป ศักดิ์ศรีของเติ้งซื่อชี พวกเขาไม่กล้าไม่ไว้หน้า
เพียงแค่เฉินเฟิง ไม่ได้แสดงออกแต่อย่างใด แม้กระทั่งมองเติ้งซื่อชียังไม่มองสักนิด
“นายชื่อเฉินเฟิง?” เติ้งซื่อชีพิจารณาเฉินเฟิงอย่างละเอียด เอ่ยปากอย่างสงบนิ่ง
เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ไม่มีการตอบสนอง เติ้งซื่อชีตรวจสอบเขาออกมาอย่างเร็วขนาดนี้ เขาย่อมไม่แปลกใจ เพราะเติ้งซื่อชีมีความสามารถนั้น
“เฉินเฟิง? มีใครรู้จักเจ้าหนูนี่มั้ย? เมืองชางโจวเหมือนจะไม่มีตระกูลเฉินตระกูลใหญ่มั้ง”
“หนานหนิงก็ไม่มี เจ้าหนูนี้เดาว่าคงเป็นตระกูลเล็กไม่มีชื่อเสียงที่ไหนโผล่ออกมา”
“ตระกูลเล็กโผล่ออกมาก็กล้าบ้าระห่ำขนาดนี้ คุณชายเติ้งถาม กล้าไม่ตอบเหรอ?”
ทุกคนถกเถียงกันเสียงต่ำ ล้วนไม่ได้สนใจเฉินเฟิงในสายตา