ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่208 แพ้ไม่ลง
บทที่208 แพ้ไม่ลง
ในฝูงชน มีเพียงโยว่หลิง เวลานี้ตื่นตระหนกจนแม้แต่คำพูดยังพูดไม่ออก
คาดไม่ถึงว่าเป็นเฉินเฟิงจริง!
เมื่อสักครู่ตอนที่มองเห็นเฟอร์รารี่แคลิฟอร์เนียข้ามผ่านเส้นชัย หล่อนรู้ถึงความไม่ปกติ รู้สึกว่าคนในรถเหมือนเฉินเฟิงมาก
เดินมามองใกล้ๆ ชั่วขณะนั่นในใจลึกๆ ของหล่อนผุดคลื่นยักษ์ขึ้น
เป็นเฉินเฟิงจริง!
หล่อนไม่ได้มองผิด!
เวลานี้ความตะลึงภายในใจของโยว่หลิง ไม่มีทางใช้คำพูดมาอธิบายได้
สำหรับเฉินเฟิง หล่อนทั้วผวาทั้งกลัว ครั้งก่อนตอนอยู่ที่โรงแรม เฉินเฟิงสั่งสอนหล่อนไปดีๆ ครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้หล่อนรู้ว่าอะไรเรียกว่าเหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า
ครั้งนี้เฉินเฟิงมาการแข่งรถอีก ถึงแม้ไม่ใช่พุ่งมาที่หล่อน แต่หล่อนก็สงสัยมาก เฉินเฟิงทำแผนการอะไรออกมากันแน่
เห็นได้ชัดมากว่าภายในสนามนอกจากหล่อนแล้ว ไม่มีใครรู้สถานะของเฉินเฟิง แม้กระทั่งทุกคนต่างคิดว่าเฉินเฟิงเป็นคนที่มาจากตระกูลเล็กไม่มีชื่อเสียงที่ไหน
แต่โยว่หลิงกลับรู้ดี เดิมทีเป็นไปไม่ได้!
ถึงแม้หล่อนจะไม่รู้เช่นกันว่าสถานะแท้จริงของเฉินเฟิงคืออะไร แต่สามารถทำให้กู้ตงเชินและหานหลงก้มหัวให้พร้อมกันได้ ย่อมไม่ใช่ผู้สืบทอดตระกูลเล็กอะไรอย่างเด็ดขาด
อย่างมากที่สุดคือระดับเดียวกับเติ้งซื่อชี!
โยว่หลิงอยากรู้อยากเห็นมาก มังกรแกร่งอย่างเติ้งซื่อชีนี้ จะสามารถกดงูท้องถิ่นอย่างตัวนี้ไว้ได้หรือไม่
“จูกว่างฉวน ไว้หน้าฉันสักหน่อย เป็นยังไง?” เติ้งซื่อชีย้ายสายตาไปทางจูกว่างฉวนยิ้มเอ่ยปาก
“คุณชายเติ้ง ท่านพูดแบบนี้……หมายความว่าอะไร?” จูกว่างฉวนฝืนยิ้มเอ่ยปากถาม ความจริงเขาชัดเจนมาก ความหมายในคำพูดนี้ของเติ้งซื่อชี
คืออยากออกหน้าแทนซูนแช่ ไม่ให้ซูนแช่ขายขี้หน้า!
การที่เติ้งซื่อชีไม่ได้ถามเฉินเฟิง แต่ถามเขา เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเติ้งซื่อชีไม่มีความมั่นใจจะทำให้เฉินเฟิงก้มหัวให้ได้
แต่สำหรับเขา เติ้งซื่อชีกลับมีความมั่นใจ!
“ความหมายของฉัน นายน่าจะเข้าใจ” เติ้งซื่อชีมองจูกว่างฉวนทีหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะบอกไป เขาประเมินตำแหน่งของเฉินเฟิงในใจของจูกว่างฉวนต่ำเกินไป เดิมคิดว่าหลังจากเขาบอกให้ไว้หน้าเขาหน่อย จูกว่างฉวนน่าจะรีบรับปากอย่างใจฝ่อมาก
แต่จูกว่างฉวนอยู่ที่นี่ กลับสอดแทรกบทตลกกับเขา มุ่งหมายให้ผ่านไปอย่างหลอกลวง
เห็นได้ชัดมาก จูกว่างฉวนกลัวจะทำลายศักดิ์ศรีของเฉินเฟิง โดยเฉพาะสัญญาเป็นเฉินเฟิงกับซูนแช่ที่พนันกันไว้ ถ้าเขารับปากแทนเฉินเฟิงโดยตรง นั่นคือไม่ได้เห็นเฉินเฟิงอยู่ในสายตา
“คุณชายเติ้ง เรื่องนี้ยังต้องดูความเห็นของเพื่อนเฉินเฟิง!” จูกว่างฉวนกัดฟันแล้วบอกไป เขาเข้าใจดี คำพูดนี้พูดออกมา ไม่ต่างกับผิดใจเติ้งซื่อชีแล้ว แต่เขาไม่มีวิธีอื่น เทียบกับเติ้งซื่อชี เขายังให้ความสำคัญกับเฉินเฟิงยิ่งกว่า
ถึงแม้จะรู้จักกับเฉินเฟิงเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งวัน แต่ในใจในสายตาของจูกว่างฉวน ยังเห็นเฉินเฟิงเป็นเพื่อน จะให้เขาหักหน้าของเฉินเฟิงท่ามกลางผู้คน เขาทำไม่ได้!
“นายแน่ใจ?” เสียงของเติ้งซื่อชีเย็นลงระดับหนึ่ง จูกว่างฉวนทำแบบนี้ หลีกเลี่ยงการไม่รู้จักให้เกียรติเท่าไร
“แน่ใจ!” จูกว่างฉวนพูดอย่างเฉียบขาด
จูเจียเหยียนที่อยู่ด้านข้างถอนหายใจอย่างรู้สึกไม่ดีเท่าไรทีหนึ่ง พี่ชายช่างไม่ฉลาดเอาเสียเลย เพื่อคนที่พึ่งรู้จักกันไม่ถึงวันคนหนึ่ง กลับผิดใจเติ้งซื่อชีเข้า
เวลานี้ตระกูลจูอยากไม่ล้มละลายก็คงยากแล้ว
“ดีมาก” เติ้งซื่อชียิ้มเล็กน้อย และฟื้นกลับไปยังท่าทางสง่างามแบบก่อนหน้า
แต่ทว่าคนฉลาดต่างดูกันออก ครั้งนี้เติ้งซื่อชีโมโหจริง แต่การอบรมที่ดีของเขา ทำให้เขาไม่ได้แสดงออกมา
“จูกว่างฉวนเจ้าหมูงั่ง น้ำเข้าสมองแล้วรึไง? มาผิดใจเติ้งซื่อชีเพื่อคนบ้านนอกคอกนาคนหนึ่ง”
“จริงด้วย อยู่จนเบื่อแล้วล่ะมั้ง คุณชายเติ้งไว้หน้าเขากับคนบ้านนอกคอกนามากๆ หน่อย เจ้าโง่สองคนนี้คงยังไม่รู้จักพอ”
“เวลานี้ก็รอดูตระกูลจูล้มละลายเถอะ”
เสียงกระซิบของผู้คนเสียดสี จูกว่างฉวนเป็นธรรมดาที่ได้ยินเข้าหู แต่เขายังคงไม่เปลี่ยนสีหน้า ในเมื่อทำการเลือกเรียบร้อยแล้ว นั้นเขาจะไม่เสียใจ การโจมตีแก้แค้นของตระกูลเติ้ง เขารับไว้ก็พอ
บนหน้าเฉินเฟิงไม่ได้มีท่าทีอะไร ในใจกลับมีความอบอุ่นระดับหนึ่ง เขาสามารถมองออกได้ว่าการแสดงออกของจูกว่างฉวนไม่ได้แกล้งทำ ล้วนเป็นการเผยนิสัยที่แท้จริง
ไม่พูดไม่ได้ คนนิสัยจริงใจแบบจูกว่างฉวนนี้มีไม่มากแล้ว ในเมืองชางโจวสองสามปีนี้ เฉินเฟิงยังเจอเป็นครั้งแรก
บางทีสำหรับคนนอกมองมา คนแบบจูกว่างฉวนนี้โง่มาก ไม่คุ้มค่าให้คบค้าสมาคม
แต่สำหรับเฉินเฟิงแล้ว คนที่ซื่อสัตย์สุจริตแบบจูกว่างฉวนเป็นคนที่สามารถฝากฝังความเป็นเพื่อนได้ตลอดชีวิตอย่างแท้จริง คุณสามารถวางใจมอบลูกหลานให้เขา เขาจะไม่หักหลังคุณไปตลอดกาล
ไม่นานเติ้งซื่อชีก็ออกไปจากในสนาม เหลือเพียงซูนแช่ไว้ที่เดิมคนเดียว
เห็นได้ชัดมากว่าเขาไม่คิดจะออกหน้าแทนซูนแช่อีก
ซูนแช่ไม่กล้าบ่นเช่นกัน เติ้งซื่อชีสามารถแสดงท่าทีนี้ออกมาได้ ทำให้เขาประหม่าอย่างยิ่ง
เรื่องราวต่อไปยังต้องเป็นเขาจัดการเอง
“ฉันจะให้โอกาสสุดท้ายกับเขาอีกครั้ง เรื่องนี้จบลงตรงนี้! ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเราต่างไม่ล้ำเส้นกัน!” ซูนแช่พูดเย็นชา ไม่ถึงที่สุดจำใจต้องทำ เขาไม่อยากฉีกหนังหน้าจนพังกับเฉินเฟิง แต่จะให้เขาคุกเข่าลงร้องแบบหมา เดิมทีนั้นเป็นไปไม่ได้!
“ฉันจะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับนาย ตอนนี้รีบคุกเข่าลง แล้วร้องแบบหมา” เฉินเฟิงพูดเรียบๆ
“แก! หา! ที่! ตาย!” ซูนแช่กัดฟันไว้ ส่งเสียงแต่ละคำออกมา สายตาหนาวเย็นน่ากลัว เฉินเฟิงไม่รู้จักให้เกียรติเช่นนี้ นั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดเหตุผลกับเฉินเฟิงแล้ว
“หาที่ตาย?” เฉินเฟิงหัวเราะยั่วเย้า บอกว่า “ไม่แน่มั้ง”
“ไม่แน่?” ซูนแช่แสยะยิ้ม เดี๋ยวนายก็รู้เอง แน่หรือไม่แน่กัน!
เห็นซูนแช่หยิบมือถือออกมาทันที เริ่มเรียกคนมา ชั่วขณะนั้นจูกว่างฉวนสีหน้าเปลี่ยนไป “ซูนแช่ นายจะทำอะไร?”
“เจ้าหมูตอน ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วเหรอ?” ซูนแช่ยิ้มเยาะ จูกว่างฉวนเจ้าโง่คนนี้ ไม่รู้ไร้เดียงสาหรือว่าแกล้งไร้เดียงสา คิดว่าเขาจะคุกเข่าลงร้องเสียงหมาจริงๆ
“ซูนแช่ นายแพ้ไม่ลง?” จูกว่างฉวนโมโหเดือดดาลอยู่บ้าง เขานึกไม่ถึงว่าซูนแช่จะกล้าทำลายสัญญาลงต่อหน้าคนมากขนาดนี้ ไม่รู้จักอายเลยสักนิด
“ฉันแพ้ไม่ลง นายจะทำอะไรฉันได้?” ซูนแช่ยั่วยุอย่างอวดดีมาก ในเมื่อฉีกหนังหน้ากันจนพัง นั้นเขาก็ขี้เกียจจะเสแสร้งกับจูกว่างฉวนอีก
“แก……เชี้ย!” จูกว่างฉวนโมโหจนระเบิดคำสบถโดยตรง กับซูนแช่คนเล่นแง่แบบนี้ ยังไม่มีวิธีพูดด้วยเหตุผลจริงๆ
“เพื่อนเฉินเฟิง ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราไปเถอะ” จูกว่างฉวนมองหน้าเฉินเฟิงทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ พลางบอกไป เรื่องมาถึงตอนนี้ จึงทำได้เพียงจากไป โดยเฉพาะคนฉลาดย่อมรู้ว่าสู้ไม่ได้จะไม่สู้ ซูนแช่เรียกคนมา กำลังสู้รบต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่ ถึงแม้เขาจะฝึกการต่อสู้มา แต่ก่อนที่ยังไม่ได้กลายเป็นจอมยุทธ์หมิงจิ้ง ก็คือคนคนหนึ่งที่มีกำลังจำกัด สู้ศัตรูไม่ได้
พูดถึงเรื่องที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ถึงแม้เขาจะสามารถสู้คนที่ซูนแช่เรียกมาได้ แต่เฉินเฟิงก็รับไม่ไหว
“ไปงั้นเหรอ?” เฉินเฟิงยกมุมปากขึ้น บอกว่า “ทำไมต้องไป? ยังไม่ได้ยินเสียงหมาร้องเลย”
จูกว่างฉวนตกใจอย่างยิ่ง เสียงหมาร้อง? ถึงเวลานี้แล้ว นายยังคิดถึงเสียงหมาร้องอยู่ตลอดเวลา นายไม่กลัวตายเหรอ?
“เจ้าคนบ้านนอกคอกนาคนนี้……โง่เขลาเหรอ? นายคิดว่าคุณชายซูนจะพูดง่ายเหมือนคุณชายเติ้งรึไง?”
“เดาว่าอยากเจอดีสินะ อยากถูกคนของคุณชายซูนคลายกระดูกให้ล่ะสิ”
“ไม่ ฉันคิดว่าเขาเป็นพวกสมองพังต่างหาก เลยอยากให้คนของคุณชายซูนซ้อมสมองให้เขาหน่อย”
ทุกคนถากถางอย่างกำเริบเสิบสาน