ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่225 ลูกเขยแต่งเข้านั่น
บทที่225 ลูกเขยแต่งเข้านั่น
เติ้งหยูเจอตกใจเป็นการใหญ่ รีบร้อนเข้าไปช่วยพยุง “คุณชายจู อย่าเลย อย่าเลย รีบลุกขึ้นเถอะ”
“หา?”
ทุกคนในตระกูลจูต่างมองตาค้าง ปากอ้าเหมือนจะกินไข่เข้าไปได้สองฟอง เติ้งหยูเจอไม่ได้มาถามหาความผิดหรอกเหรอ? ทำไมถึงพูดว่าอย่าเลยล่ะ?
จูกว่างฉวนก็ดูตกตะลึงเช่นกัน ชายชราตรงหน้านี้ ใช่คนของตระกูลเติ้งจริงๆ เหรอ?
แม้เขาจะสับสน แต่เขาก็ไม่กล้าลุกขึ้น เพราะจูเฝิงชุนยังไม่ได้สั่ง
“กว่างฉวน ลุกขึ้นมาก่อนเถอะ”ในตอนนั้น จูเฝิงชุนก็เอ่ยขึ้น เขาสามารถมองออกว่าท่าทีของเติ้งหยูเจอไม่ใช่การเสแสร้ง เป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้มาถือสาหาความอะไรกับจูกว่างฉวนจริงๆ
“ครับ ท่านปู่” จูกว่างฉวนขานรับเสียงอู้อี้ ก่อนลุกขึ้น
เติ้งหยูเจอจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในใจคิดว่าเติ้งซื่อชีกำชับให้เขาสุภาพกับจูกว่างฉวนให้มาก แต่เขาแค่มาถึง จูกว่างฉวนก็คุกเข่าต่อหน้าเขาแล้ว อีกนิดก็เกือบจะเสียเรื่องแล้ว
“คุณชายจู นายน้อยให้กระผมมาที่นี่” หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เติ้งหยูเจอก็ค่อยๆ พูดช้าๆ
“ท่านเติ้งมีเรื่องอะไร ก็มาหาผมเถอะครับ ความผิดนั้นผมเป็นคนก่อคนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลจู” จูกว่างฉวนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม คิดจะรับผิดชอบทั้งหมดเพียงคนเดียว
เติ้งหยูเจอส่ายหัวเบาๆ ก่อนยิ้มบาง “คุณชายเข้าใจผิดแล้ว กระผมมาในครั้งนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะมาทำให้ตระกูลจูขุ่นเคือง”
ทุกคนในตระกูลจูต่างตกตะลึง ไม่เอาความแล้ว?
“งั้นท่านเติ้ง…..?” จูกว่างฉวนมองไปยังเติ้งหยูเจอด้วยความสงสัย
“มันเป็นอย่างนี้ครับ นายน้อยของกระผม ตอนนี้ที่อยู่บนภูเขา มีความบาดหมางเล็กน้อยกับคุณชายจู และคุณเฉิน หลังจากนั้น นายน้อยของเราก็เสียใจอย่างมาก เขารู้สึกว่าตอนนั้นบุ่มบ่ามไปสักหน่อย”
“ดังนั้นที่กระผมเดินทางมาในครั้งนี้ ก็เพื่อขออภัยกับคุณชายจูในนามของนายน้อยครับ” เติ้งหยูเจอโค้งคำนับเล็กน้อยด้วยความจริงใจ
ทุกคนในตระกูลจูนิ่งอึ้งจนตัวแข็งเป็นรูปสลักหิน
ขออภัย?
คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเติ้ง เติ้งซื่อชี ถึงกับต้องขออภัยกับจูกว่างฉวน!!
นี่มันเป็นไปได้ยังไง!
ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่ห่างออกไป มีความรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝัน
เติ้งหยูเจอส่ายหัว เขาเองก็รู้ ถึงปากจะพูดไปดูน่าฟังเท่าไหร่ คนในตระกูลจูก็คงจะไม่เชื่อเขา
แต่ก็โชคดีที่เขาเตรียมของขวัญมาด้วย
เติ้งหยูเจอโบกมือ กลุ่มบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำและชุดหูฟังก็กรูเข้ามา
ตระกูลจูทุกคนแตกตื่น แล้วก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว
แต่หลังจากนั้นจึงเห็นว่า ในมือของกลุ่มบอดีการ์ดชุดดำนั้นถือตู้เซฟสีเงินเอาไว้
“ปึง”
“ปึง”
……
ตู้เซฟแต่ละอันถูกวางลงบนพื้น ป้อนรหัสผ่าน ก่อนเปิดออก
ว้าว!
ธนบัตรสีแดงเป็นฟ่อนถูกวางนิ่งอยู่ในตู้เซฟ สีแดงของแบงค์ร้อยหยวนกระทบต้องแสงอาทิตย์
กล่องใส่รหัสเกือบร้อยกล่องถูกวางไว้ด้วยกัน แสงสีแดงสดเปล่งเรื่อเป็นประกายออกมาพร้อมอย่างน่าตื่นตา!
ตระกูลจูทุกคนที่อยู่ที่ตรงนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออก
ช็อก!
ช็อกเกินไปแล้ว!
นอกจากช็อกแล้ว พวกเขาก็นึกคำอื่นที่จะบรรยายสถานการณ์นี้ไม่ออกจริงๆ
ธนบัตรที่มูลค่ารวมไม่ชัดเจน กองไว้แทบเท่าภูเขา!
ตระกูลจูทุกคน ไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน
ไม่ ถ้าจะพูดให้ชัดก็คือ พวกเขาไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน!
เอื๊อก
จากนั้นไม่นาน เสียงกลืนน้ำลายในลำคอของใครบางคนก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ
อายุปูนนี้ จูเฝิงชุนที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ในขณะนั้นก็เกิดคอแห้งขึ้นมา เอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ท่านเติ้ง ท่าน….นี่มันหมายความยังไง?”
“ของขวัญแทนคำขอโทษครับ” เติ้งหยูเจอยิ้มเล็กน้อย ถึงแม้สีหน้าจะเย็นดั่งผิวน้ำ แต่ในใจหนักอึ้ง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเฉินเฟิงที่เติ้งซื่อชีไปล่วงเกินเข้านั้น เบื้องหลังคือใครกันแน่ ถึงกับทำให้เติ้งซื่อชีผวา จนต้องเตรียมของขวัญแทนขอโทษมามากมายขนาดนี้
“ของ…ของขวัญแทนคำขอโทษ?”
คนตระกูลจูไม่น้อยลิ้นพันกันจนพูดไม่ออก เงินตรงหน้าพวกนี้ อย่างน้อยที่สุดก็หลายร้อยล้านแล้วล่ะ ของขวัญแทนคำขอโทษหลายร้อยล้าน หน้าตาของจูกว่างฉวนใหญ่โตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“อืม ของขวัญแทนคำขอโทษ” เติ้งหยูเจอพยักหน้าเล็กน้อยๆ “นี่คือเงินห้าร้อยล้าน”
“ห้าร้อยล้าน!”
ทุกคนในที่นั้นตะโกนร้องออกมา แม้แต่สมาชิกที่ขี้ขลาดที่สุดของตระกูลจูยังยืนไม่อยู่ ตกใจจนล้มลงไปนั่งที่พื้น
ถึงพวกเขาจะทายกันไว้ในใจแล้วก็ตาม แต่ก็คาดไม่ถึงว่า เงินที่กองอยู่ตรงหน้าจะมากถึงห้าร้อยล้าน!
มีเงินสดห้าร้อยล้าน มาวางอยู่ตรงหน้าจะรู้สึกยังไงกันล่ะ!
แบงค์ร้อยหยวนนั่นหนึ่งกอง น่าจะประมาณแปดแสน เงินตรงหน้านี้ ถ้าหากมีห้าร้อยล้านล่ะก็คงมีกว่าหกกอง!
ตระกูลจูทุกคนต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก
ในเวลานั้น เติ้งหยูเจอกลับยิ้มออกมา แล้วพูดอีกครั้ง “นี่ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ”
นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดเหรอ!!
ทุกคนในตระกูลจูรูม่านตาหดเล็ก เติ้งหยูเจออาจจะเอาเงินออกมาทั้งธนาคารเลยก็ได้
“ตระกูลจูเป็นหนี้ธนาคารอยู่ห้าร้อยล้านไม่ใช่เหรอ? งั้นห้าร้อยล้านนั้น นายน้อยของเราก็ช่วยพวกคุณคืนให้ก็แล้วกันครับ” เติ้งหยูเจอยิ้มบาง พันล้าน
นี่คือความจริงใจทั้งหมดของเติ้งซื่อชีในครั้งนี้!
หรือที่เรียกว่าของขวัญแทนคำขอโทษ!
ต่อให้เป็นตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเติ้ง การควักเงินออกมาทีเดียวพันล้าน มันก็ไม่ง่าย
แต่หลังจากที่เติ้งซื่อชีกลับบ้านไป กลับบอกว่าถ้าไม่ให้เงินไปจะมีคนมาถล่มตระกูลเติ้ง เติ้งเฟิงเหนียนแทบไม่อยากเชื่อ
แน่นอน สุดท้ายเติ้งเฟิงเหนียนก็ยอมเชื่อใจคำพูดหนึ่งของเติ้งซื่อชี
อู๋จิ่วโย ถูกคนฆ่าด้วยใบหนึ่งใบ
ด้วยคำพูดนั้น ทำให้เติ้งเฟิงเหนียนแทบยืนไม่อยู่ เพียงชั่วข้ามคืนเขาใช้เส้นสายของตระกูลเติ้งติดต่อเบิกเงินห้าร้อยล้านจากธนาคารน้อยใหญ่ในหนานหนิง มาให้กับตระกูลจู
เติ้งหยูเจอไม่ได้เข้าใจโลกของศิลปะการต่อสู้ แต่เขารู้ว่าอู๋จิ่วโยนั้นแข็งแกร่งกว่าเติ้งเฟิงเหนียน อีกฝ่ายใช้เพียงใบไม้ใบเดียวฆ่าอู๋จิ่วโย ถ้าอย่างนั้นการฆ่าเติ้งเฟิงเหนียน น่ากลัวว่าใบไม้แค่ใบเดียวก็คงไม่ต้องใช้
“ท่านเติ้ง…..ช่วยบอกเหตุผลที่แท้จริงกับเฝิงชุนได้ไหม” จูเฝิงชุนกล่าวเสียงแหบแห้ง คำพูดไม่กี่คำของเติ้งหยูเจอ กลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ปั่นป่วนในใจของเขา มันส่งผลกระทบให้ใจของเขาระส่ำไปหมด ตอนนี้เขาต้องการรู้ว่า ทำไมตระกูลเติ้งถึงทำแบบนี้คำพูด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่ใช่เพราะจูกว่างฉวน!
จูเฝิงชุนรู้ดียิ่งกว่าใคร ความสามารถของลูกชายตัวเอง ข้อดีของเขาคือเป็นคนซื่อสัตย์ คุณธรรมน้ำมิตร ไม่มีจิตคิดร้าย แม้ในบางครั้งจะขาดหัวคิดไปสักหน่อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ล่วงเกินตระกูลเติ้งที่เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของหนานหนิงเพื่อลูกเขยแต่งเข้าแค่คนเดียวหรอก
แต่ว่าตอนนี้เติ้งหยูเจอกลับบอกเขาว่าตระกูลเติ้งจ่ายเงินหนึ่งพันล้าน เพื่อชดใช้หลานชายของเขา!
นี่มันไม่ธรรมดาเหมือนเนื้อที่ตกลงมาจากท้องฟ้าอีกต่อไป แต่เป็นแท่งทองที่ตกลงมาต่างหาก!
“เหตุผลที่แท้จริง?” เติ้งหยูเจอยิ้มอย่างมีเลศนัยและหันไปมองจูกว่างฉวน “บางทีคุณชายจู็คงรู้”
คำพูดของ เติ้งหยูเจอนั้นทำให้จูกว่างฉวนตื่นจากสภาพที่เฉื่อยชา
เมื่อเห็นจูเฝิงชุนมองมา จูกว่างฉวนก็กลืนน้ำลาย “พี่เฉินเฟิงสินะครับ?”
พี่เฉินเฟิงงั้นเหรอ?
ทุกคนในตระกูลจูมองหน้ากันจูกว่างฉวนกำลังพูดถึง …… ลูกเขยแต่งเข้านั่น