ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่227 เสี้ยเว่ยกั๋วหายไปแล้ว
บทที่227 เสี้ยเว่ยกั๋วหายไปแล้ว
“พี่เฉินเฟิงจะไม่ได้สนเงินห้าร้อยล้านก็เป็นเรื่องของเขา แต่จะคืนไม่คืน มันเป็นเรื่องของผม” จูกว่างฉวนยิ้มเย็นชา คนพวกนี้นี่แสดงให้เห็นถึงคำว่าประจบสอพลอกลับกลอกได้ดีจริงๆ เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาเพิ่งกลับมาถึงยังแทบจะรุมทึ้งเฉินเฟิงซะให้ได้ ยังจะให้เฉินเฟิงไปขอขมาตระกูลซูนอยู่เลย
แต่ตอนนี้พอรู้ว่าเฉินเฟิงไม่ธรรมดา คนพวกนี้ก็เปลี่ยนท่าทีทันที
“ไม่ต้องพูดแล้ว!” ในตอนนั้นเอง จูเฝิงชุนก็พูดขึ้นอย่างน่าเกรงขาม “เรื่องนี้กว่างฉวนทำถูกต้องแล้ว ฉันสนับสนุนการตัดสินใจของเขา!”
“คนตระกูลจูของฉัน ไม่ใช่คนโลภไม่รู้จักพอ สิ่งที่เราควรได้รับ ก็เอาไว้ไม่ให้ขาด สิ่งที่ไม่ควรได้ ต่อให้ยื่นมา พวกเราก็จะต้องการไม่ได้!”
ทุกคนในตระกูลจูอึกอัก ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามกับการตัดสินใจของจูเฝิงชุน
แต่จูกว่างฉวนนี่ก็สมองหมูจริงๆ เงินสดห้าร้อยล้าน ไม่นึกว่าบอกจะคืนก็คืน หัวโดนรถทับมารึไง
มีเพียงจูเฝิงชุนที่มองจูกว่างฉวนด้วยความกังวล ตอนเริ่มแรกเขาไม่เข้าใจว่าจูกว่างฉวนไปเป็นเพื่อนกับคนใหญ่คนโตอย่างเฉินเฟิงได้ยังไง ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้ว
อาศัยใจแลกใจล้วนๆ !
ใจอันบริสุทธิ์ที่มีค่าดั่งทองพันชั่ง!
“กว่างฉวน พี่เฉินเฟิงของเธอน่ะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือใครกัน?” เมื่อเห็นว่าไม่ได้เงิน อาสะใภ้ที่สองของ จูกว่างฉวน หวังชุนฮัวจึงหันมาโจมตีเฉินเฟิงแทน
จูกว่างฉวนขมวดคิ้ว “ผมไม่รู้”
เขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเฉินเฟิง แน่นอนว่า เขาจะไม่เข้าไปถามแน่ หากเป็นไปได้ เขาก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับเฉินเฟิงถดถอยลง
“ไม่รู้?” หวังชุนฮัวประหลาดใจ “จะไม่รู้ได้ยังไงกัน? นั่นมันขาใหญ่ที่สุดยอดมากเลยนะ กว่างฉวน เธอต้องไปสืบมาดีๆ ว่าอีกฝ่ายเป็นคุณชายของตระกูลไหนกันแน่….”
“อาสะใภ้รอง พี่เฉินเฟิงเป็นคุณชายของตระกูลไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณเหรอครับ?” จูกว่างฉวนพูดขัดด้วยความรำคาญนิดๆ ในบรรดาคนในตระกูลจู อาสะใภ้หวังชุนฮัวคือคนที่ขี้ประจบสอพลอที่สุด
“กว่างฉวน พูดอย่างนี้ได้ยังไงกัน?” หวังชุนฮัวไม่ยอมคล้อยตาม “เฉินเฟิงคนนั้นเป็นคุณชายตระกูลไหน จะไม่เกี่ยวกับฉันได้ยังไง?”
“ครั้งนี้เขาช่วยเหลือตระกูลจูของเราเอาไว้ งั้นเขาก็เป็นผู้มีพระคุณของตระกูลจูเรา ผู้มีพระคุณของตระกูลจูก็คือผู้มีพระคุณของฉันหวังชุนฮัว แล้วมันจะไม่เกี่ยวข้องกับฉันได้ยังไง?”
จูกว่างฉวนยิ้มเยาะ หวังชุนฮัวก็ถือว่าทำให้เขาให้รู้จักว่า อะไรที่เรียกว่าหน้าหนากว่ากำแพง เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นสองบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน หล่อนก็ยังจะโยงเข้ามาหากันได้อีก
“อาสะใภ้รอง อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณอะไรอยู่! พี่เฉินเฟิงก็คือพี่เฉินเฟิง ตระกูลจูก็คือตระกูลจู ระหว่างสองฝ่ายนี้ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น อย่าคิดจะเอาพี่เฉินเฟิงมาเชื่อมโยงกับตระกูลจูเรา” จูกว่างฉวนมองหวังชุนฮัวด้วยสายตาเย็นชา หลังพูดจบ เขาก็หันเดินออกจากห้องโถงโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของคนอื่นอีก
“หนอย แก….” หวังชุนฮัวกระทืบเท้าด้วยความโมโห ไอ้คนหน้าไม่อาย สำคัญตัวไว้สูงนักนะ!
ความจริงเห็นผลที่เธอสนใจในตัวตนของเฉินเฟิง ก็เพื่อเห็นแก่ตัวเอง
ตามข่าวที่เธอได้ยินมา เฉินเฟิงอยู่ที่ตระกูลเสี้ย ไม่เป็นที่ชอบใจกันอย่างมาก ถึงขนาดที่สามารถจะดูถูกถากถางเฉินเฟิงได้เลยทีเดียว ถึงเธอจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมเฉินเฟิงต้องอดทนถึงขนาดนั้น แต่เธอก็รู้สึกว่า ไม่ช้าก็เร็วเฉินเฟิงจะต้องแตกหักกับตระกูลเสี้ยแน่
ในตอนนั้น ก็เป็นไปได้ว่าเฉินเฟิงจะกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง เมื่อเฉินเฟิงเป็นโสด ถึงตอนนั้น หญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานของตระกูลจูก็จะพอมีหวัง โดยเฉพาะเหล่าลูกสาวของเธอ จะต้องได้แต่งงาน
ถ้ามีใครสักคนที่โชคดีไปต้องตาเฉินเฟิงเข้า แล้วได้กลายเป็นภรรยาของเฉินเฟิง งั้นตระกูลจู ก็คงจะได้เป็นตระกูลระดับหน้าได้ในไม่ช้า หรือแม้แต่ตระกูลหลี่ตระกูลเสิ่นก็อาจเทียบไม่ติดเลยก็ได้!
ถึงตอนนั้น เธอหวังชุนฮัว ก็จะกลายเป็นวีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลจู ได้รับความภาคภูมิอย่างแท้จริง
ถึงเธอเองก็รู้ว่า โอกาสที่จะสำเร็จนั้นน้อยมาก แต่ไม่ลองจะรู้ได้ไง?
เฉินเฟิงในขณะนั้นก็ได้กลับไปถึงยู่ฉวนซานแล้ว ตอนขึ้นเขาไม่ได้นำสายชาร์จมาด้วย แถมเมื่อคืนแบตมือถือก็หมดแล้วด้วย
หลังจากชาร์จแบตแล้ว เฉินเฟิงก็เปิดเครื่องทันที
ทันใดนั้นก็เห็นว่ามีเจ็ดแปดสายที่ไม่ได้รับ
หลายสายในนั้นเป็นคนคนเดียวกันโทรมา ซึ่งเป็นหมายเลขที่เขาไม่คุ้นเคย
และยังมีสามสาย เป็นของเสี้ยเมิ่งเหยา
แน่นอนว่าเฉินเฟิงจะต้องโทรหาเสี้ยเมิ่งเหยาในทันที
“เมิ่งเหยา เธออยู่….”
“เฉินเฟิง พ่อหายไปแล้ว!”
เฉินเฟิงยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเสี้ยเมิ่งเหยาขัดขึ้นอย่างกระวนกระวาย
“พ่อหายไปเหรอ?”เฉินเฟิงเคร่งขรึมลง เสี้ยเว่ยกั๋วอยู่ดีๆ จะหายไปได้ยังไง?
“ตอนบ่าย พยาบาลที่โรงพยาบาลโทรมาหาฉัน บอกว่าพ่อหายไป พยาบาลพวกนั้นบอกว่า คนที่พาพ่อไป ดูเหมือนจะเป็นคนของตระกูลเย่” เสี้ยเมิ่งเหยาน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ไม่กี่วันมานี้ เธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องในบ้านจนละเลยการดูแลเสี้ยเว่ยกั๋ว ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้เข้าไปบ่อยนักอยู่แล้ว
รนหาที่ตายนักนะ!
เฉินเฟิงทั้งตกใจและโมโห เขาไม่นึกว่า ตระกูลเย่จะถึงกับใช่เล่ห์เหลี้ยมแบบนี้มีคุกคามเขากับเสี้ยเมิ่งเหยาผ่านเสี้ยเว่ยกั๋ว
“เมิ่งเหยา เธออยู่ที่ไหน? ฉันไปหาเดี๋ยวนี้” หลังหายใจเข้าลึกๆ เฉินเฟิงก็ถามอย่างใจเย็น ตระกูลเย่ที่พาเสี้ยเว่ยกั๋วไป ไม่ใช่ตระกูลเย่ของเย่ไห่ถัง แต่เป็นตระกูลเย่ที่พี่ชายสองคนของเย่ไห่ถังก่อตั้งขึ้น สองคนนั้นที่ก่อเรื่องขึ้นแบบนี้ เทียบกับเย่ไห่ถังแล้ว มันไร้ยางอายเสียยิ่งกว่า ดังนั้นเฉินเฟิงจึงกังวลว่า พวกเขาจะไม่รอให้ตัวเองถึง แล้วชิงลงมือกับเสี้ยเว่ยกั๋วซะก่อน
“ตอนนี้ฉันอยู่ระหว่างทางไปตระกูลเย่” เสี้ยเมิ่งเหยาตอบ
“โอเค เธอไม่ต้องกังวล ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!” เฉินเฟิงตอบเสียงนิ่ง หลังพูดจบก็วางสาย
เมื่อมาถึงโรงรถ เขาขึ้นรถโคนิกเซ็กก์ เหยียบคันเร่งพุ่งออกไปทันที
ในขณะเดียวกัน ภายในคฤหาสน์ตระกูลเย่ ก็ได้มีคนมารวมตัวกันไม่น้อยแล้ว
มีทั้งคนรับใช้และบอดี้การ์ดของตระกูลเย่ ทั้งยังมีสมาชิกในตระกูลของคังไห่โป และหวังฉีซาน ทั้งสองคนนั้นมาร่วมงานเลี้ยงกับเย่หมิงเหวิน หลังจากนั้น เจ้าตัวก็หายไปด้วยเช่น
ดังนั้นหลังจากคนทั้งสองตระกูลที่ได้ยินว่าตระกูลเย่มีวิธีที่จะตามหาได้ ก็พากันมายังตระกูลเย่
“ประธานเย่ เจ้าขยะนั่น มันจะปรากฏตัวออกมาจริงๆ เหรอ?” พี่ชายของคังไห่โป คังยูนโปถามอย่างสงสัย ตอนแรก เสี้ยห้าวบอกว่า เรื่องที่เย่หมิงเหวิน คังไห่โป หวังฉีซานทั้งสามคนหายตัวไป ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเสี้ย เป็นฝีมือของเฉินเฟิงเพียงคนเดียว
พวกเขาไม่เชื่อ แต่ต่อมา เมื่อเห็นเสี้ยห้าวคุกเข่าสาบานต่อหน้าพวกเขา พวกเขาก็เชื่อแล้ว ว่าเจ้าขยะนั่นอาจจะออกจากตระกูลเสี้ยแล้วจริงๆ
พวกเขาจึงฟังคำแนะนำจากเสี้ยห้าว ให้ใช้เสี้ยเว่ยกั๋วมาเป็นตัวต่อรองให้เฉินเฟิงปล่อยคนออกมา
แต่คังยูนโปกลับรู้สึกว่า อาจจะไม่กล้ามาก็ได้ ยังไงเสียครั้งนี้ คนที่เขาจะหาเรื่องด้วยนั้นคือตระกูลเย่!
ทั้งยังมีพวกเขาตระกูลคังกับตระกูลหวังอีกด้วย!
เฉินเฟิงแค่เขยแต่งเข้ากระจอกแค่คนเดียว จะเอาอะไรมาสู้ตระกูลชั้นหนึ่งกับตระกูลชั้นรองทั้งสองตระกูลกัน?