ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่228 เย่ไห่ตง
บทที่228 เย่ไห่ตง
“วางใจ เขาจะปรากฏตัวออกมา ถ้าเขาไม่มา งั้นฉันจะฆ่าไอ้แกนี่ซธ!” ชายที่ถูกเรียกว่าประธานเย่ พูดด้วยสีหน้านิ่งขรึม เย่หมิงเหวินเป็นหัวหน้าพ่อบ้านของตระกูลเย่ เขาเป็นใบหน้าให้ตระกูลเย่มาโดยตลอด กิจการน้อยใหญ่ของตระกูลเย่ ล้วนมีเย่หมิงเหวินเป็นคนจัดการ 。
เรื่องการสร้างยู่ฉวนซานครั้งนี้ เขาก็ยังมอบให้เย่หมิงเหวิน
ในความคิดของเขา หากว่าตระกูลเสี้ยเข้าใจสถานการณ์ ก็ควรจะมอบโครงการยู่ฉวนซานนี้มาให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ไม่นึกว่า ตระกูลเสี้ยเข้าใจแล้ว เจ้าเขยแต่งเข้าที่ไม่มีอะไรดีไปกว่าหมาที่อยู่ในตระกูลเสี้ยนั่น กลับทำเชิดจมูกขึ้นมา!
มาจับตัวเย่หมิงเหวิน!
ไม่ได้เห็นตระกูลเย่อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
เย่ไห่ตงจะไม่โกรธได้ยังไง!
“หวังว่าเจ้าขยะนั่นจะอ่านสถานการณ์ออกนะ” คังยูนโปถอนหายใจ ตอนแรกที่ได้ยินข่าว เขาก็ไม่เชื่อเลยสักนิด แค่เขยแต่งเข้ากระจอกๆ จะไปใจกล้าก่อเรื่องขนาดนี้ขึ้นมาได้ยังไง แต่หลังจากนั้น เมื่อได้ยินคำโต้แย้งของตระกูลเสี้ย จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้ เฉินเฟิง ช่างเป็นลูกเขยแต่งเข้าที่ใจกล้าจริงๆ
แม้แต่เรื่องแยกตัวจากตระกูลเสี้ยก็กล้าพูดออกมา
แต่ครั้งนี้ คนที่เขาจะต้องเผชิญหน้าด้วย ไม่ใช่ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลเสี้ย!
“รออีกสิบนาที ถ้าพวกมันยังไม่มา ก็หักขาไอ้แก่นี่ข้างหนึ่ง!” เย่ไห่ตงมองเสี้ยเว่ยกั๋วที่ถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ ก่อนเอ่ยอย่างเย็นชา
“ครับ ประธานเย่!”
บอดี้การ์ดหลายคนพยักหน้า
เสี้ยเว้ยกั๋วในตอนนี้ น่าสังเวชอย่างที่สุด ตอนที่เขาถูกจับตัวมาจากโรงพยาบาลนั้น สวมเพียงเสื้อผ้าผู้ป่วยบางๆ เท่านั้น
เขายังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ หลังจากถูกแขวนอยู่บนต้นไม้เป็นเวลานาน บาดแผลย่อมปริแตก ดังนั้นบนชุดผู้ป่วยในตอนนี้ จึงเปรอะเปื้อนด้วยเลือดจำนวนไม่น้อยที่ไหลออกมา
เสี้ยเว่ยกั๋วริมฝีปากซีดเซียว ดวงตาอ่อนล้า
ความทรมานบนร่างกายนี้เป็นเพียงเรื่องเล็ก สิ่งที่ทำให้เสี้ยเว่ยกั๋วเจ็บปวดนั้นคือ คนรับใช้หลายคนที่ชี้มาที่เขาแล้วหัวเราะเยาะอยู่ใต้ต้นไม้ ถึงยังไงเขาก็อายุปูนนี้แล้ว ก็ควรจะได้อยู่อย่างสุขสงบที่บ้าน แต่วันนี้กลับต้องมาเป็นละครลิงให้อับอายขายหน้า
จากบทสนทนาของเย่ไห่ตงกับคังไห่โป ก็รู้ได้ไม่ยาก ว่าเหตุผลที่เขาถูกพามาที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นเฉินเฟิง
นั่นทำให้เสี้ยเมิ่งเหยางุนงงอย่างมาก ที่เขาหมดสติไปหลายวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทำไมลูกเขยที่ทำอาหารเก่งของตัวเอง ตอนนี้ถึงได้ใจกล้าขนาดนั้น แม้แต่คนของตระกูลเย่ก็กล้าลักตัวไปงั้นเหรอ?
ผ่านไปสิบนาทีอย่างรวดเร็ว ที่ประตูของตระกูลเย่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครมา
เย่ไห่ตงยิ้มกว้าง หยิบท่อนเหล็กขึ้นมา ก่อนฟาดเข้าที่ขาของเสี้ยเว่ยกั๋วอย่างแรง
“กร๊อบ”
เสียงกระดูกหักลั่นกร๊อบ เสี้ยเว่ยกั๋วสะกดกลั้น ใบหน้ายู่ยับซีดเผือด
ขาขวาของเขา ได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่ช่วงที่เป็นทหารแล้ว เดินเหินก็ไม่ถนัด ครั้งนี้ถูกเย่ไห่ตงทุบเข้าแบบนี้ น่ากลัวว่าคงจะต้องเสียมันไปแล้ว
“ไอ้แก่ ยังแข็งแรงอยู่เลยนี่” เย่ไห่ตงประหลาดใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยาของเสี้ยเว่ยกั๋ว ตั้งแต่เสี้ยเว่ยกั๋วถูกพาเข้าประตูมาก็ไม่ส่งเสียงอะไรเลย ไม่ถามว่าพวกเขาพามาที่นี่ทำไม และไม่ขอความเมตตาอีกด้วย ราวกับว่า ปล่อยวางชีวิตไปนานแล้ว
“ประธานเย่ คุณต้องมาข่มเหงคนตัวเล็กๆ อย่างฉันด้วยงั้นเหรอ?” เสี้ยเว่ยกั๋วยิ้มขื่น ความจริงตั้งแต่ตัวเขาถูกพาเข้ามา เขาก็รู้แล้วว่าคงไม่ตายก็พิการ เขารู้เรื่องพลังของตระกูลเย่ดี ไม่ใช่อะไรตระกูลเสี้ยจะต่อกรได้ ต่อให้ตระกูลเสี้ยจะต้านทานได้ ก็ไม่ยอมเข้าแลกกับสัตว์ร้ายอย่างตระกูลเย่เพื่อคนไร้ประโยชน์อย่างเขาหรอก
“ไอ้แก่ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ลูกเขยขยะนั่นของแกมันรนหาที่ แกคิดว่าฉันจะมาทะเลาะกับพวกต่ำกว่าอย่างแกรึไง?” เย่ไห่ตงหัวเราะอย่างเย็นชา เดิมทีเป้าหมายของเขาก็คือ หาตัวเฉินเฟิงมาทรมาน แต่สองวันนี้เฉินเฟิงหายไปราวกับอากาศ อย่างไร้ร่องรอย เสี้ยเมิ่งเหยาก็ไม่ได้อยู่ที่ตระกูลเสี้ย เมื่อไม่มีทางเลือก เขาจึงต้องจับคนพิการอย่างเสี้ยเว่ยกั๋วมา
“ประธานเย่ ขีดความสามรถของลูกเขยฉัน ฉันรู้ดี เขาเป็นแค่คนส่งอาหารคนหนึ่ง นอกจากส่งอาหารแล้ว เขาก็ทำอะไรอย่างอื่นไม่เป็นแล้ว เรื่องอย่างการลักพาตัว ก็ไม่กล้าพอจะทำได้หรอก ประธานเย่คุณถูกใครหลอกรึเปล่า?” เสี้ยเว่ยกั๋วถอนหายใจ เขาไม่รู้สึกเลยว่า เฉินเฟิงจะทำเรื่องอย่างการลักพาตัวได้ เขาอยู่ที่ตระกูลเสี้ยมาสามปี ท่าทีของเฉินเฟิง เขาเฝ้าดูอยู่กับตา นอกจากความไม่เอาไหนนิดหน่อยแล้วก็ไม่มีข้อเสียอะไรอย่างอื่นอีก
เป็นคนมีระเบียบและจิตใจดี เขาไม่เชื่อเลยสักนิดว่าเฉินเฟิงจะลักตัวคน เสี้ยเว่ยกั๋วรู้สึกว่าความเป็นไปได้ที่มากกว่าคือตระกูลเสี้ยให้ร้ายเฉินเฟิง
“ถูกใครหลอกรึเปล่า? ฉันรู้ของฉันดี!” เย่ไห่ตงตะคอกอย่างเย็นชา “จะว่าไป ถ้าไอ้ลูกเขยขยะของแกมันบริสุทธิ์จริง แล้วจะซ่อนทำไม เอาความจริงทั้งหมดมาอธิบายต่อหน้าฉันให้มันแล้วไปสิ”
เสี้ยเว่ยกั๋วถอนหายใจ ไม่พูดอะไรอีก เย่ไห่ตงฝังใจว่าเฉินเฟิงเป็นคนก่อเรื่องแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็หมดหนทาง
ในตอนนั้นเอง รถแท็กซี่สีฟ้าคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ตระกูลเย่ เสี้ยเมิ่งเหยารีบลงรถมาอย่างทุลักทุเล
“พ่อคะ!”
เมื่อเห็นเสี้ยเว่ยกั๋วถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ด้วยความน่าสังเวช ดวงตาสวยของเสี้ยเมิ่งเหยาก็เดือดแดง
“เมิ่งเหยา มาทำอะไรที่นี่?” เสี้ยเว่ยกั๋วตกใจเล็กน้อย ทำไมคนที่มาถึงไม่ใช่เฉินเฟิง แต่เป็นเสี้ยเมิ่งเหยา บางที เฉินเฟิงอาจจะทำเรื่องพวกนี้จริงๆ เขาถึงได้ไม่กล้ามา?
เสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้ตอบกลับเสี้ยเว่ยกั๋ว แต่ดวงตาของเธอเบิกโพลงจ้องเย่ไห่ตงด้วยความโกรธเกรี้ยว “ปล่อยพ่อฉันซะ!”
“ปล่อยพ่อเธองั้นเหรอ?” เย่ไห่ตงมองไปที่เสี้ยเมิ่งเหยาอย่างสนใจ ความต้องการฉายวาบในดวงตาของเขา เขาเคยได้ยินชื่อของเสี้ยเมิ่งเหยามาก่อน แต่ไม่เคยได้เห็นตัวเป็นๆ วันนี้ได้เจอ ช่างสมคำร่ำลือจริงๆ
ช่างเป็นหญิงที่งดงามนัก แม้แต่ในตอนโกรธก็ยังสวย
เย่ไห่ตงเลียริมฝีปาก “คุณหนูเสี้ย ถ้าคุณให้ผมปล่อยผมก็จะปล่อย ไม่งั้นผมคงไร้ยางอายมาก”
“เย่ไห่ตง นายต้องการอะไร ฉันก็ให้นายได้ทั้งนั้น รวมถึงโครงการสร้างยู่ฉวนซานด้วย ขอแค่นายปล่อยพ่อฉัน” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างร้อนรน ร่างกายขอเสี้ยเว่ยกั๋วอ่อนแออยู่แล้ว ยังมาถูกแขวนไว้บนต้นไม้อีก ไม่รู้ว่าอยู่อย่างนั้นมานานเท่าไหร่แล้ว ถ้าหากถูกแขวนไว้นานเกิน จนอาการหนัก เธอคงต้องเสียใจไปชั่วชีวิต
“โครงการยู่ฉวนซาน?” มุมปากของเย่ไห่ตงยกขึ้นก่อนพูดติดตลก “คุณหนูเสี้ย ยู่ฉวนซานน่ะเป็นของผมอยู่แล้วนะ”
“งั้นนายต้องการอะไร?!” เสี้ยเมิ่งเหยาถามอย่างกระวนกระวาย
“ผมต้องการ….” เย่ไห่ตงหยุดชั่วคราว สายตาหื่นกามจ้องไปยังเสี้ยเมิ่งเหยา “ผมอยากจะนอนกับคุณหนูเสี้ยสักคืน”
เสี้ยเมิ่งเหยากัดฟันกรอด แต่ก็ยังระงับความโกรธในทรวงอกแล้วเอ่ยตอบ “เย่ไห่ตง ฉันแต่งงานแล้ว เป็นภรรยาที่มีสามี….”
“ภรรยาที่มีสามี?” เสี้ยเมิ่งเหยายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเย่ไห่ตงขัดขึ้นด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา “คุณหนูเสี้ย ไม่ใช่ว่าอะไรสักอย่างก็เป็นสามีคนได้นะ ดูไปแล้ว เจ้าขยะเฉินเฟิง ไม่สมควรเป็นสามีของคุณเลยสักนิด”
“เกิดเรื่องขึ้นกับพ่อของคุณ เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังไม่มา แต่คุณที่เป็นผู้หญิงคนเดียวกลับมาเผชิญหน้าถึงนี่ ขยะแบบนี้ นับเป็นสามีอะไรกัน” เย่ไห่ตงหัวเราะเย้ยหยัน