ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่230 ฆ่าหวังอาน
บทที่230 ฆ่าหวังอาน
นักฆ่าที่อดีตศัตรูของเย่ตงเสี้ยวส่งมา เมื่อมาถึงตระกูลเย่ ไม่มีใครที่อยู่รอดในมือเขาได้ถึงสามกระบวนท่า
อยู่ที่ชางโจวหลายปีมานี้ เขารู้สึกว่าตัวเองก็ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ในชางโจวแล้ว
นั่นเพราะชางโจวไม่มีจอมยุทธ์!
แต่วันนี้ พอเห็นเฉินเฟิงแล้ว เขาถึงได้เข้าใจ ว่าอะไรที่เรียกว่ากบในกะลา!
แม้เฉินเฟิงจะไม่แสดงฝีมือ แต่แค่สัมผัสจิตสังหารที่มหึมาของเฉินเฟิง เขาก็เข้าใจแล้วว่าตัวเองไม่ใช่คู่มือของเฉินเฟิง แค่นิ้วเดียวของเฉินเฟิงก็ฆ่าเขาได้แล้ว!
“ลุงหวัง คุณพูดอะไรน่ะ?!”
“คุณเป็นจอมยุทธ์นะ จอมยุทธ์!” เย่ไห่ตงคำรามด้วยความโมโห ไม้ตายสุดท้ายของเขาก็คือหวังอานที่เป็นจอมยุทธ์ระดับกลางหมิงจิ้งคนนี้ ยี่สิบปีก่อน เย่ตงเสี้ยวถล่มโลกแห่งการต่อสู้ของชางโจวจนกลายเป็นทะเลเลือด นำไปสู่ความผิดพลาดในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ในชางโจว ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ชางโจวก็มีจอมยุทธ์น้อยมาก นานๆ ทีถึงจะมีสักคน ที่เข้าสู่ระดับหมิงจิ้งหรือระดับต้นของหมิงจิ้ง
ระดับกลางของหมิงจิ้งอย่างหวังอาน จึงสามารถบดขยี้ได้อย่างสมบูรณ์
มีหวังอานอยู่ เขาก็ไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น!
แต่ตอนนี้ หวังอานไม่กล้าแม้แต่จะประมือกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ พูดออกมาว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย!
อีกฝ่ายเป็นใครกันแน่!
“ได้! มาลองดู!” คำพูดของเย่ไห่ตง ยิ่งกระตุ้นความทะเยอทะยานของหวังอาน เฉินเฟิงตรงหน้า แม้ว่าจิตที่รุนแรงนั้นจะน่าหวาดหวั่น แต่พลังที่แท้จริง ก็ไม่แน่ว่าจะแกร่งมากเท่าไหร่ ยังไงเสียเขาก็อายุเท่านี้ มากสุดก็คง25-26ปี ต่อให้จะเริ่มฝึกตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ตอนนี้ก็ไม่มีทางเกินกว่าระดับสูงของหมิงจิ้งไปได้หรอก
เขาเป็นระดับกลางของหมิงจิ้ง ไม่มีทางที่จะสู้ไม่ได้!
หวังอานคิดอย่างนั้น และก็ทำเช่นนั้น
แต่เมื่อเขามาประจันหน้ากับเฉินเฟิงแล้ว ถึงได้พบว่า ตัวเองนั้นช่างไร้เดียงสา!
จิตที่น่ากลัวขนาดนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ระดับหมิงจิ้งจะมีได้เลย แม้แต่อ้านจิ้งก็ยังไม่ได้!
“นายจะฆ่าฉันเหรอ?”เฉินเฟิงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
หวังอานแววตาตื่นกลัว ส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว
แต่เขาต้องตกใจเมื่อพบว่า เขาไม่สามารถขยับตัวได้เลย!
เฉินเฟิงค่อยๆ เหยียดนิ้วออกโดยเว้นช่องว่างเล็กน้อย
พลังที่มองไม่เห็นเข้าใกล้หว่างคิ้วของหวังอาน
หวังอานสัมผัสได้ในทันที
ปราณที่แผ่ออกมา ปรมาจารย์แห่งศิลปะการต่อสู้!
พลังนั้นใกล้เข้ามาเรื่อง หวังอานกระตุกยิ้มขื่น ให้ตายเขาก็ไม่คาดคิด ว่าเฉินเฟิงจะเป็น ปรมาจารย์แห่งศิลปะการต่อสู้ระดับหั้วจิ้ง!
ซึบ!
ลมปราณแทรกผ่านหัวของหวังอาน ก่อนหวังอานจะล้มลงกับพื้น
ผู้คุ้มครองแห่งตระกูลเย่ หวังอาน
แค่นิ้วเดียวก็ตาย!
เย็นเยือก!
เย็นเข้ากระดูกดำ!
การล้มลงของหวังอาน ทำให้ตระกูลเย่ทุกคนหนาวสั่นด้วยความเย็นเยือก
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าผู้ที่คุ้มครองตระกูลเย่มาเกือบยี่สิบปี ชายที่กวาดล้างศัตรูของตระกูลเย่มานับไม่ถ้วน จะมาตายแบบนี้
แถมยังถูกฆ่าด้วยเพียงนิ้วเดียวเท่านั้น!
เย่ไห่ตงแววตาหวั่นกลัว ร่างสั่นสะท้าน เมื่อเห็นเฉินเฟิงก้าวเข้ามาทีละก้าว วิญญาณของเขาก็เริ่มสั่นไปด้วย
ทุกย่างก้าวของเฉินเฟิง เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่แผ่ซ่าน
ดั่งแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว
อีกทีก็ราวดินถล่มทะเลคลั่ง
เมื่อมายืนอยู่ต่อหน้าเย่ไห่ตง ฟ้าดินก็ตาลปัตร!
แรงกดดันที่ท่วมท้น เหมือนคลื่นลมรุนแรงที่ซัดเข้าใส่เย่ไห่ตง
“ตึกตัก”
เย่ไห่ตงคุกเข่าทรุดลงกับพื้น ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ
“ไว้…ไว้ชีวิต…” ปากแห้งผากของเย่ไห่ตงร้องขอความเมตตา น้ำเสียงสั่นปนสะอื้น เขาไม่รู้ว่าตัวเองไปล่วงเกินคนใหญ่โตแบบนี้ไว้ตอนไหน เขารู้เพียงว่า ชีวิตเล็กๆ ของตัวเอง ตอนนี้อยู่ในกำมือของอีกฝ่าย
“ทำไมนายถึงตีเมิ่งเหยา?” เฉินเฟิงพูดนิ่งๆ
เมิ่งเหยา?
ชื่อนั้นทำให้เย่ไห่ตงตกตะลึงไปชั่วขณะ ทันใดนั้นรูม่านตาก็หดเล็ก ในสมองผุดความคิดหนึ่งออกมา หรือชายที่ฆ่าหวังอานตรงหน้านี้จะเป็น สามีขยะนั่นของเสี้ยเมิ่งเหยา?!
ไม่! เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
สามีขยะนั่นของเสี้ยเมิ่งเหยา จะไปมีความเกี่ยวข้องกับเทพสังหารตรงหน้าเขาได้ยังไง!
เย่ไห่ตงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งในใจ แม้ในใจจะไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด แต่ปากก็ถามออกไปอย่างอดไม่ได้ “คุณ…คุณคือสามีของคุณหนูเสี้ยใช่มั้ย?”
“ฉันถามนายว่า ทำไมถึงตีเมิ่งเหยา?” เฉินเฟิงไม่ได้ตอบกลับ แต่มองถามเย่ไห่ตงนิ่งๆ
สีหน้าของเย่ไห่ตงซีดเผือด ใช่จริงๆ ด้วย! ไม่นึกว่าจะใช่จริงๆ ! ฮ่าฮ่า!
“คุณเฉิน ประธานเย่เขา…เขาไม่ได้ตั้งใจ” ในตอนนั้นเอง คังไห่โปที่ อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้น เพื่อแก้ตัวแทนเย่ไห่ตง ความจริง เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อ ชายที่น่าเกรงขามราวกับราชาตรงหน้านี้จะเป็นเจ้าขยะตระกูลเสี้ย แต่ความจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้
“ฉันให้นายพูดแล้วเหรอ?” เฉินเฟิงพูดขณะเหลือบมองคังไห่โปเล็กน้อย
ในสายตานั้น เพียงชั่วขณะก็ทำให้คังไห่โปกลัวจนท้องไส้บิดเบี้ยว
“คุณเฉิน ขอ…ขออภัย….” คังไห่โปรีบขอโทษพัลวัน น่ากลัวมาก เฉินเฟิงน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ตอนที่เฉินเฟิงมองเขาเมื่อกี้เขารู้สึกได้ ราวกับถูกยมทูตจ้องมอง อาจตายได้ทุกเมื่อ!
เฉินเฟิงเบนสายตามาที่เย่ไห่ตงอีกครั้ง
เย่ไห่ตงข่มความกลัวเงยหน้าขึ้น เผชิญหน้ากับเฉินเฟิง เขารู้ว่า ความที่จะมีชีวิตของตัวเองในวันนี้นั้นช่างน้อยนิด แต่ก็อยากจะลองดูสักหน่อย
“คุณ…คุณเฉิน ผมเต็มใจที่จะมอบทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเย่ เพื่อชดใช้ให้กับคุณผู้หญิง”
เงียบกริบ!
ทั้งหมดล้วนเงียบกริบ!
บอดี้การ์ดและคนรับใช้ของตระกูลเย่ นิ่งอึ้งจนแข็งเป็นรูปสลักหิน
ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเย่ กว่าหลายหมื่นล้านนั่นน่ะเหรอ?
คำพูดในตอนนี้ของเย่ไห่ตง จะเอาสมบัติทั้งหมดชดใช้ให้กับผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ?!
เย่ไห่ตงบ้าไปแล้วเหรอ!
“ไม่พอ”เฉินเฟิงส่ายหน้าเบาๆ
ทั้งหมดเงียบกริบอีกครั้ง ไร้ซึ่งซุ้มเสียงใดๆ เย่ไห่ตงทำขนาดนั้นแล้ว ชายหนุ่มคนนี้ก็ยังบอกว่าไม่พออีก
“งั้นคุณเฉิน….ต้องการอะไรหรือครับ?” เย่ไห่ตงถามด้วยริมฝีปากแห้งผาก
“ชีวิตของนาย”
เฉินเฟิงเอ่ยง่ายๆ สำหรับคนที่มาทำร้ายเสี้ยเมิ่งเหยา เขาไม่เคยอ่อนข้อให้
“คุณเฉิน! ผมเป็นลูกชายของเย่ตงเสี้ยว คุณพ่อของผมยังไม่ตายเลย! คุณฆ่าผมไม่ได้นะ!” ราวกับรู้สึกถึงเจตนาอันน่าสะพรึงกลัวภายใต้ท่าทีเรียบนิ่งของเฉินเฟิง เย่ไห่ตงตื่นตระหนก เขาตื่นตระหนกโดยสมบูรณ์
ขณะเดียวกันสิ่งที่เปิดเผยออกมานั้น ก็ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกตะลึง
เย่ตงเสี้ยว ยังไม่ตายหรอกเหรอ!
เฉินเฟิงยังคงเฉยเมย เย่ตงเสี้ยวยังไม่ตาย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา?
ต่อให้เย่ตงเสี้ยวยังไม่ตาย ถ้าเขากล้ามาหาเรื่องกับตัวเอง งั้นก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้เขาตายอีกสักรอบ!
เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดอะไร ทันใดนั้นหัวใจของเย่ไห่ตงก็มีความหวังขึ้นมา เขาคิดไปว่าตัวเองทำให้เฉินเฟิงตกใจแล้ว จึงพยายามเกลี้ยกล่อมต่อไป “คุณเฉิน พูดตามจริง พ่อของผมยี่สิบปีก่อน ก็เป็นจอมยุทธ์ระดับกลางของอ้านจิ้ง ตอนนี้ผ่านไปยี่สิบปีแล้ว ถ้าเขาข้ามมาอีกขึ้น เป็นไปได้มากว่าเขาจะข้ามขีดจำกัดของอ้านจิ้ง กลายเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้”
“คุณเฉิน คุณเองก็เป็นจอมยุทธ์ คุณน่าจะรู้ดี ว่าคำว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ หมายความว่าอะไรกันแน่”
“ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างผมกับคุณ ไม่มีความบาดหมางอะไรที่แก้ไขไม่ได้ แม้ผมจะทำให้คุณผู้หญิงขุ่นเคืองไป แต่ผมก็แสดงความจริงใจออกมาแล้ว ดังนั้นคุณเฉิน จริงๆ แล้วคุณไม่จำเป็นต้อง ล่วงเกินปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้พ่อของผมเพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว….”