ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่264 บนที่สูงร้อยเมตร
บทที่264 บนที่สูงร้อยเมตร
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจได้” เย่ไห่ถังใจเย็นลงมาแล้ว ตอนนี้ไม่เจอเสี้ยเมิ่งเหยา เฉินเฟิงร้อนใจก็ปกติมาก เพียงแต่ ไม่รู้ทำไมเมื่อสักครู่ท่าทีแบบนั้นของเฉินเฟิงถึงทำให้ในใจเธอไม่สบายเอามากๆ
“คุณสงสัยว่าคนที่ลักพาตัวภรรยาคุณไปเป็นพวกเดียวกันกับโจรเถื่อนนอกเขตกลุ่มนั้น?” เย่ไห่ถังถามขึ้น คนที่ลักพาตัวเสี้ยเมิ่งเหยาไป เห็นได้ชัดว่าเป็นจอมยุทธ์กลุ่มหนึ่ง และในข่าวที่เธอรู้มา หวังเมิ่งหลงมีความสัมพันธ์อันดีกับโจรเถื่อนนอกเขตหลายคนนั้น เดิมทีไม่มีความเกี่ยวข้องกับจอมยุทธ์ นี่เป็นเพราะเฉินเฟิงรับมือกับเหตุการณ์ฉุกละหุกแบบไม่ทันคิดให้อย่างรอบคอบอย่างชัดเจน
“มีความเป็นไปได้” เฉินเฟิงตอบ
“ตำแหน่งของโจรเถื่อนนอกเขตหลายคนนั้น ฉันก็ไม่ค่อยรู้ดีนัก ฉันรู้แค่ว่าพวกเขาอยากลงมือกับภรรยาของนาย ข่าวนี้เจ้าหนี้ของหวังเมิ่งหลงเป็นคนรายงาน ตอนที่เขาบอกว่าเขาทวงหนี้กับหวังเมิ่งหลง หวังเมิ่งหลงแอบบอกเขามาว่ารู้จักโจรเถื่อนนอกเขตหลายคน เตรียมให้พวกเขาช่วยลักพาตัวเสี้ยเมิ่งเหยา” เย่ไห่ถังพูดนิ่งๆ บ่อนพนันหลายแห่งใหญ่ที่สุดของเมืองชางโจวล้วนเป็นตระกูลเย่เปิด ดังนั้นตระกูลเย่จึงมีพลังควบคุมข่าวทุกที่ของเมืองชางโจวอย่างเด็ดขาด ตีหวังเมิ่งหลงให้ตายก็คาดไม่ถึงว่าเจ้าหนี้คนนั้นของเขาจะเป็นคนของตระกูลเย่
“ตอนนี้หาหวังเมิ่งหลงเจอรึยัง?” เฉินเฟิงถามเสียงทุ้ม
“ไม่เจอ หวังเมิ่งหลงปิดเครื่องไปแล้ว”
“ใช่ ผมรู้แล้ว” เฉินเฟิงล็อกคิ้วแน่น ตอนนี้ดูแล้วความน่าสงสัยของหวังเมิ่งหลงใหญ่มาก เขารู้จักโจรเถื่อนนอกเขตหลายคนนั้น ยังมีความเป็นไปได้ว่าคือจอมยุทธ์ด้วย
“ฉันจะให้คนของตระกูลเย่ช่วยคุณหาเสี้ยเมิ่งเหยา” เย่ไห่ถังพูดเรียบๆ
เฉินเฟิงตะลึง ก่อนจะบอกว่า “ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร นี่คือการตอบแทนที่เมื่อวานคุณดื่มเหล้าเป็นเพื่อนฉัน” น้ำเสียงของเย่ไห่ถังยังคงสงบนิ่ง ราวกับพูดเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่เกี่ยวกับตนเอง
เฉินเฟิงหมดคำจะพูดอยู่บ้าง
ขณะเดียวกันหลังจากที่วางสายโทรศัพท์ของเย่ไห่ถัง ทั้งเมืองชางโจวก็เริ่มแอบเคลื่อนไหวลับๆ
คนนับร้อยๆ เดิมออกมาจากถิ่นฐานของแต่ละคน ใช้ใจกลางเมืองเป็นจุดเริ่มต้น เริ่มส่งกำลังค้นหาทางด้านนอกขึ้นมา
กู้ตงเชิน หานหลง ตระกูลจาง ตระกูลเสิ่น ตระกูลเย่……
ลูกน้องภายใต้เฉินเฟิง กำลังเกือบทั้งหมดที่สามารถใช้ได้ล้วนเริ่มใช้การ
ค่ำคืนนี้ ทั้งเมืองชางโจวล้วนถูกพลิกหงายขึ้นแล้ว
เช้าวันต่อมา
เฉินจื๋อหลี่ได้รับข่าวแล้ว
“พี่ใหญ่ ครั้งนี้เกรงว่าพวกเราหาเรื่องวุ่นเข้าจริงๆ คนเบื้องหลังแม่คนนี้ไม่ธรรมดามากจริง……” เฉินจื๋อหลี่นำเรื่องที่กู้ตงเชิน หานหลง ตระกูลเย่ ตระกูลจาง ตระกูลเสิ่นหลายตระกูลนี้ร่วมมือออกค้นหาเล่ามารอบหนึ่ง
หลังฟังจบ สีหน้าของเฉินจื๋อเหวินเคร่งขรึมขึ้นมา
เขาอาจจะประเมินอำนาจของเบื้องหลังเสี้ยเมิ่งเหยาสูงไป กลับคาดไม่ถึงว่ายังประเมินต่ำไปอีก สามารถระดมกำลังตระกูลเย่ ตระกูลเสิ่น ตระกูลจางตระกูลเก่าแก่แบบนี้ ทั้งยังมีหลงหาน กู้ตงเชินขาใหญ่โลกมืดแบบนี้ด้วย
นี่ไม่ใช่กำลังที่ตระกูลชั้นนำครอบครองอยู่เด็ดขาด
“พี่ใหญ่ อีกฝ่ายใกล้จะส่งคนมาหาพวกเราที่นี่เจอแล้ว กลัวว่าพวกเราอยู่ต่อไม่ได้อีก” เฉินจื๋อหลี่พูดเสียงทุ้ม คนที่เขาพามาครั้งนี้ล้วนเป็นทหารเกรียงไกรที่ปลดประจำการ ครอบครองความสามารถการสืบสวนอันโดดเด่นที่สุด แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คงแบกรับการเรียงแถวค้นหาที่เจาะลึกของตระกูลเย่ตระกูลจางเหล่านี้ไม่ได้
เฉินจื๋อเหวินขมวดคิ้วขึ้น “ได้ ให้คนของนายรีบเก็บของเถอะ อีกครึ่งชั่วโมงพวกเราออกเดินทาง”
“พี่ใหญ่ ทำยังไงกับแม่คนนี้ดี? หรือว่าต้องพาไปด้วยตลอด?” เฉินจื๋อหลี่อดมองทางเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้ ตอนนี้เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นตัวยุ่งยากจริงๆ
“พาไปก่อนเถอะ” เฉินจื๋อเหวินปวดหัวอยู่บ้าง เห็นได้ชัดมากว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของเสี้ยเมิ่งเหยา ถ้าเขากล้าแตะต้องเสี้ยเมิ่งเหยา ไม่โดนจับได้ยังดี ถ้าถูกค้นหาเจอ คงเผชิญกับฉากสู้กันจนตายไปข้างแน่
“รู้แบบนี้แต่แรก ตอนนั้นไม่ให้พี่เจียวลักพาตัวหล่อนเข้ามาแล้ว” เฉินจื๋อหลี่พูดอย่างหงุดหงิดพอสมควร คำพูดเขาเป็นธรรมดามีความหมายไม่ทันกาลเท่าไร ตอนหวังเมิ่งหลงให้ลักพาตัวเสี้ยเมิ่งเหยา ใครๆ ต่างคาดไม่ถึงว่าเบื้องหลังเสี้ยเหมิงเหยาจะผูกโยงกับผู้มีอำนาจมากขนาดนี้
เพราะคนเดียว ทั้งเมืองชางโจวต่างเข้าสู่ความไม่สงบ
“คนหาเจอแล้ว อยู่ที่เขตโรงงานทางตอนเหนือของเมือง” เย่ไห่ถังโทรศัพท์เข้ามา
“ดี เดี๋ยวผมเข้าไป” เฉินเฟิงรีบลุกขึ้น
“ดีที่สุดเร็วหน่อย อีกฝ่ายสังเกตถึงความไม่ปกติแล้ว กำลังเก็บข้าวของ ถ้าคุณไปสาย เกรงว่าจะไม่เจออะไรทั้งนั้น” เย่ไห่ถังพูดเรียบนิ่ง
“อืม” เฉินเฟิงพยักหน้า ออกไปข้างนอกทันที แล้วมาถึงที่สนามหญ้าหน้าประตู
ที่นี่มีเฮลิคอปเตอร์AH-64 อาพาชีลำหนึ่งจอดอยู่ เป็นเฮลิคอปเตอร์ของเสิ่นหงชัง เพียงแค่หลังจากเมื่อคืนที่ได้ยินว่าเสี้ยเมิ่งเหยาโดยคนลักพาตัว เสิ่นหงชังก็ให้คนนำเฮลิคอปเตอร์ขับเข้ามากลางดึกทันที จอดไว้ที่นี่ของเฉินเฟิง เตรียมพร้อมใช้งานทุกเวลา
คาดไม่ถึงยังส่งมาใช้ได้จริง
หลังนั่งบนเฮลิคอปเตอร์ เฉินเฟิงตรงไปที่เขตโรงงานทางตอนเหนือของเมืองทันที
ทหารจ้างลูกน้องของเฉินจื๋อเหวินมีความรู้ความสามารถขั้นสุดจริง ถึงแม้เฉินจื๋อเหวินจะให้เวลาครึ่งชั่วโมง แต่พวกเขาใช้เพียงยี่สิบนาทีก็เก็บของทุกอย่างเรียบร้อย โดยเฉพาะเช็ดร่องรอยทุกอย่างบนพื้นสะอาดหมดจด
รถตู้ห้าคันจอดอยู่หน้าประตู สี่พี่น้องตระกูลเฉินกำลังเตรียมขึ้นรถ
เวลานี้ ท้องฟ้าบนศีรษะมีเสียงดังสนั่นลอยมา
เฉินจื๋อเหวินสีหน้าเปลี่ยนแปลงก่อน
เขาเป็นคนหนึ่งที่ฝึกมาสูงสุดในบรรดาสี่คน เป็นหนึ่งที่โสตประสาทอ่อนไหวที่สุด ดังนั้นวินาทีแรกก็ได้ยินเสียงดังสนั่นของเฮลิคอปเตอร์แล้ว
“พี่ใหญ่ เหมือนจะคนมาแล้ว” เฉินจื๋อหลี่เป็นคนที่สองที่พบเข้า
หลังจากสิบวินาที อาพาชีสีดำก็วนเวียนอยู่บนอากาศเหนือทุกคนราวกับนกอินทรีตัวผู้
ทหารจ้างสิบกว่านายลูกน้องของเฉินจื๋อหลี่สูงใหญ่และมีความรู้ความสามารถด้านการรบมาก พวกเขาไม่กระสับกระส่าย ไม่นานก็จัดแถวเรียบร้อย
“เฮลิคอปเตอร์คันนี้วนอยู่ด้านบนตลอดหมายความว่าอะไร? ทำไม่ลงมา?” เฉินจื๋อหลี่อดถามไม่ได้
เกือบจะตอนที่เขาพูดคำนี้จบ ประตูของเฮลิคอปเตอร์ถูกเปิดออก
ภาพคนที่หน้าตาไร้ความรู้สึกปรากฏตัวที่ประตู ก้มมองสี่พี่น้องตระกูลเฉินที่พื้นลงมาจากที่สูงกว่า
“เจ้าหมอนี้เปิดประตูออกตอนนี้หมายความว่าอะไร? หรือว่าเขาอยากกระโดดลงมาจากที่สูงร้อยเมตรโดยตรง?” เฉินจื๋อหลี่ส่งเสียงหัวเราะ ไม่สนใจไยดีเท่าไร
ความคิดของเขาพึ่งจบลง เฉินเฟิงที่หน้าประตู กระโดดลงมาจากที่สูงร้อยเมตรโดยตรง!
ไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือใดๆ
ทั้งหมดฮือฮา!
ทหารจ้างสิบกว่านายลูกน้องของเฉินจื๋อหลี่ตกใจจนลูกตาใกล้จะหลุดลงมา
ตีพวกเขาให้ตาย พวกเขาต่างก็นึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้ากระโดดลงจากกลางอากาศร้อยเมตรโดยตรง
ไม่กลัวตนเองตกลงมากลายเป็นเศษเนื้อเหรอ?
“หลบไป รีบหลบไป!”
มีคนใช้ภาษาอังกฤษห่วยๆ ตกใจตะโกนดัง เจ้าหนุ่มคนนี้กระโดดลงมาจากที่สูงร้อยเมตร ตนเองอยากตาย แต่พวกเขาไม่อยากด้วย
ท่าทางของเฉินจื๋อหลี่ในเวลานี้ นั่นเรียกว่ายอดเยี่ยม เขานึกไม่ถึงเช่นกัน ตนเองเพียงแต่คิดเรื่อยเปื่อยแบบนั้น แล้วจะมีคนกระโดดจริงๆ
ถึงหาที่ตายก็ไม่เอาแบบนี้มั้ง?
เฉินจื๋อเหวินที่นิ่งสงบมาแต่ไหนแต่ไร เวลานี้ไม่สงบเท่าไรแล้ว
ฉากตรงหน้านี้นำการโจมตีมาให้เขา ความจริงมากมายเหลือเกิน
นั่นเป็นความสูงบนอากาศร้อยเมตร เทียบเท่ากับขนาดตึกสามสิบสามชั้น!