ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 107
ตอนที่ 107 คนใหญ่คนโตอย่างฉัน!
หลิวหยิงหยิงอึ้งไปเล็กน้อย เพราะคาดไม่ถึงว่าหลี่เฉวียนยู่จะช่วยตนเองเช่นนี้
ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่คาดคิดว่า ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมประหนึ่งว่ามาจากสรวงสวรรค์นั้น จะเอ่ยปากช่วยหลิวหยิงหยิงเช่นกัน
ความจริงแล้ว คนที่อยู่ในสังคมชั้นสูง และเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสังคม ปกติจะไม่ตัดสินใจขัดแย้งกับกลุ่มใหญ่ เพียงเพื่อปกป้อง หรือช่วยเหลือคนเพียงคนเดียวเช่นนี้
แต่หลี่เฉวียนยู่กลับเลือกที่จะทําเช่นนั้น
หวู่เฟิงขมวดคิ้วเข้าหากัน พร้อมกับหันไปถามหลี่เฉวียนยู่ทันที “เฉวียนยู่ นี่เธอคิดยังไงกัน?”
หลี่เฉวียนยู่เพียงแค่ยิ้มน้อยๆ และตอบกลับไปว่า “อาวุโสหวู่ ใช่ว่าผมต้องการที่จะขัดแย้งกับคุณ แต่ผมคิดว่าบางสิ่งบางอย่างเมื่อถึงเวลา ก็ควรต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบกันบ้าง อีกอย่าง ตําแหน่งประธานสมาคมก็ไม่ได้สลักสําคัญอะไรมากมายไม่ใช่เหรอครับ..”
“งั้นรึ? ฉันอยากจะฟังเหตุผลของเธอหน่อย..” หวู่เฟิงเอ่ยถามเสียงเบา
หลังจากที่ทุกคนจ้องมองมาที่ตนเองเป็นจุดเดียว หลี่เฉวียนยู่ก็จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยพร้อมกับเอ่ยถามหวู่เฟิงกลับไปว่า
“อาวุโสหวู่ ผมของถามคุณที่เป็นประธานสมาคมเมิ่งหลานมาหลายปีติดต่อกัน คุณได้รับผลประโยชน์จากตําแหน่งนี้อย่างไรบ้าง?”
ใบหน้าของหวู่เฟิงกระตุกเล็กน้อย และตอบกลับไปตามตรง “ความจริงแล้ว ตําแหน่งประธานของสมาคมเมิ่งหลานก็ไม่ได้มีอํานาจ หรือยิ่งใหญ่อะไรนัก เว้นแต่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นคนที่หลายคนนับหน้าถือตา ผลประโยชน์ต่างๆจึงเป็นเรื่องที่คนอื่นเสนอ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องพูดอะไรมาก”
“อาวุโสหวู่ ขอบคุณที่พูดตรงๆ นับว่าคุณเป็นคนที่ซื่อสัตย์มากคนหนึ่ง!”
หลี่เฉวียนยู่พยักหน้าพร้อมกับหัวเราะออกมา รอยยิ้มกว้างที่มองเห็นฟันขาวเรียงรายงดงามนั้น ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหลงใหลต่อผู้พบเห็นยิ่งนัก
คณะกรรมการคนอื่นๆ ต่างก็พากันนั่งนิ่งเงียบ แม้จะรู้ดีว่าสิ่งที่หวู่เฟิงพูดนั้น ไม่ใช่ความจริงและเขาก็ไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์อะไรนัก
“ความจริงแล้ว.. ทุกอย่างบนโลกใบนี้ก็ล้วนแล้วแต่มีไว้เพื่อทําผลประโยชน์ให้กับตนเอง และการที่ทุกคนต้องการที่จะนั่งตําแหน่งประธานนี้ ก็เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ต้องการผลประโยชน์ นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์เรา ไม่จําเป็นที่จะต้องปฏิเสธ..”
หลี่เฉวียนยู่ไม่เพียงมีน้ำเสียง และจังหวะจะโคนในการพูดที่น่าฟังมาก แต่ท่วงท่าและอากัปกิริยาของเขา ก็ยังดูสบายตาชวนมองอีกด้วย
“และผมคิดว่าความเห็นของพี่หลิวก็ไม่ผิดเช่นกัน ในเมื่อทุกคนต่างก็คิดว่าตนเองมีความสามารถพอ ที่จะดํารงตําแหน่งประธานสมาคมได้ เพียงแต่หลายท่านอาจจะไม่พอใจกับวิธีการจับฉลาก เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ผมกลับคิดว่าเป็นวิธีที่แก้ปัญหาได้ดีที่สุด!”
หลี่เฉวียนยู่ยิ้มกว้างพร้อมกับพูดต่อว่า “นั่นเพราะนี่เป็นการเดิมพันด้วยโชค!”
“ด้วยวิธีการจับฉลากนี้ ทุกคนต่างก็มีโอกาสที่จะได้เป็นประธานเท่าๆกัน ฉะนั้น ไม่ว่าใครจะได้เป็น ก็สามารถตัดปัญหาเรื่องความยุติธรรม หรืออยุติธรรมออกไปได้”
“เพราะฉะนั้น ผมจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของพี่หลิว และคิดว่าเธอเฉลียวฉลาดมากด้วยซ้ำไป!”
หลี่เฉวียนยู่เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก พร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่ว ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ใช่หนึ่งในคณะกรรมการของสมาคมเมิ่งหลาน และเป็นเพียงแค่เด็กรุ่นลูกรุ่นหลานเท่านั้น พวกคุณไม่จําเป็นต้องสนใจกับความคิดเห็นของผมก็ได้ คิดซะว่าเป็นความคิดของเด็กบ้าๆคนหนึ่งก็แล้วกัน”
เวลานี้ทุกคนในห้องต่างก็เงียบกันหมด หลายคนถึงกับต้องหันไปมองหน้ากัน และแลกเปลี่ยนความเห็นผ่านทางสายตาว่า อีกฝ่ายกําลังคิดเช่นใดกันแน่?
และดูเหมือนหลี่เฉวียนยู่จะสามารถโน้มน้าวพวกเขาได้สําเร็จ และในฐานะเด็กหนุ่ม นับว่าหลี่เฉวียนยู่เป็นผู้ที่มีวาทศิลป์ที่ดีมากคนหนึ่ง
หลิวหยิงหยิงเองก็พยายามจับสังเกตหน้าตาของหลี่เฉวียนยู่ว่า จะมีความผิดปกติใดๆเกิดขึ้นบ้าง เพราะเธอเชื่อว่า ไม่มีใครช่วยเหลือใครโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน พูดง่ายๆก็คือไม่มีของฟรีบนโลกใบนี้
ที่ผ่านมา การที่หลี่เฉวียนยู่กับหลิวหยิงหยิงจะเวียนวนมาพบกันนั้น ก็ไม่ได้มีบ่อยๆ ฉะนั้นเมื่อครั้งที่หลี่เฉวียนยู่ไปเที่ยวโกลเดนพาเลซในครั้งนั้น เธอจึงได้มอบบัตรสมาชิกสีดําระดับซุปเปอร์วีไอพีให้ไป
หลิวหยิงหยิงเองก็ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับหลี่เฉวียนยู่ ผู้ที่มีความเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องนี้มาบ้างเช่นกัน
และเธอเองก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่หลี่เฉวียนยู่กําลังทําอยู่นี้ เป็นเพราะบัตรสีดําที่เธอมอบให้ในครั้งนั้นหรือไม่?
แต่ที่สําคัญคือ.. หลี่เฉวียนยู่คงจะไม่ทําเช่นนี้แน่ หากไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อน!
แต่หลิวหยิงหยิงก็ต้องผิดหวัง เพราะเธอไม่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ จากสีหน้าหรือแววตาของหลี่เฉวียนยู่เลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของเขานั้น ราวกับมีหน้ากากปกปิดไว้อีกชั้น ยากนักที่จะสามารถคาดเดาไปถึงเบื้องลึกจิตใจของเขาได้
หวู่เฟิงและอีกหลายๆคนถึงกับต้องไปปรึกษาหารือกันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดจึงเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อคุณชายหลี่เห็นด้วยกับวิธีนี้ พวกเราก็จะทําตาม”
“อะไรนะ?!”
หลิวหยิงหยิงถึงกับพึมพําออกมาด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอเองก็คิดไม่ถึงว่า ทุกอย่างจะราบเรียบ และง่ายดายถึงเพียงนี้
ทําไมจู่ๆ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์และละโมบโลภมาก ถึงเห็นด้วยง่ายๆแบบนี้นะ?
หลี่เฉวียนยู่ยิ้มกว้าง คล้ายกับว่าเป็นไปอย่างที่เขาคาดการไว้ตั้งแต่แรก เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นผสานกันไว้ข้างหน้า พร้อมกับโน้มศรีษะลงเล็กน้อย และเอ่ยออกไปว่า
“ขอบคุณทุกท่านที่เห็นแก่หน้าเฉวียนยู่ ผมจะไม่วันลืมเลย!”
จากนั้น หลี่เฉวียนยู่ก็หันไปบอกกับหลิวหยิงหยิง “พี่หลิวครับ เชิญคุณไปเตรียมการได้เลย”
และเมื่อได้ยินเสียงเรียกของหลี่เฉวียนยู่ หลิวหยิงหยิงจึงได้ตื่นจากภวังค์ พร้อมกับเอ่ยตอบยิ้มๆ
“คุณชายหลี่ ครั้งนี้คุณช่วยฉันได้มากทีเดียว!”
“ไม่จําเป็นต้องขอบคุณผม เรื่องนี้เป็นเพราะอาวุโสทุกท่านเข้าใจง่ายต่างหากล่ะ” หลี่เฉวียนยู่ส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะร่วน
ผู้ชายคนนี้นับว่าเป็นสุภาพบุรุษมากทีเดียว และดูเหมือนจะผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี
จากนั้น หลิวหยิงหยิงจึงรีบหันไปสั่งอาไห่ ให้ไปจัดเตรียมกล่องสําหรับทําการจับฉลากมาหลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลี่เฉวียนยู่ก็เป็นฝ่ายลุกขึ้น และเอ่ยขึ้นว่า
“อาวุโสหยาน อาวุโสเป็นคนที่ทุกคนในห้องนี้ต่างก็ให้ความเคารพนับถือมากที่สุด เพื่อให้การจับฉลากเป็นไปอย่างยุติธรรมไร้ข้อครหา ไม่ทราบว่าอาวุโสจะให้เกียรติมาเป็นพยานในการจับฉลากนี้จะได้หรือไม่?”
“ด้วยความยินดี!” หยานลู่เฟิงพยักหน้า
“อาวุโสหวู่ ไม่ทราบว่าคุณมีความเห็นอะไรหรือไม่?” หลี่เฉวียนยู่เอ่ยถาม
อาวุโสหวู่ที่กําลังคุยกับคนข้างๆ จึงรีบเงยหน้าขึ้นตอบกลับไปทันที “ไม่มี ไม่มี เธอจัดการได้เหมาะสมแล้ว!”
ส่วนคณะกรรมการคนอื่นๆ ต่างก็พากันพยักหน้า เป็นการส่งสัญญาณว่า พวกเขาเองก็ไม่ได้มีอะไรติดขัดเช่นกัน
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกท่านเห็นด้วย พวกเราก็เริ่มจับฉลากกันเลย!” หลี่เฉวียนยู่จัดการเขย่ากล่องจับฉลากที่อยู่ในมือ
และขั้นตอนการจับฉลากก็เป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่มีลับลมคมในแต่อย่างใด
หลังจากที่คณะกรรมการทั้งเก้าคนจับฉลากแล้ว หยานลู่เฟิงก็ประกาศว่า “ทุกท่าน ได้เวลาที่ทุกท่านต้องเปิดกระดาษในมือออกแล้ว ดูว่าใครได้อะไรบ้าง?”
จากนั้น คณะกรรมการทั้งเก้าคนก็เริ่มคลี่กระดาษในมือออกดู..
“ของผมเป็นคําว่า “ไม่ได้!”
ในขณะที่หนึ่งในคณะกรรมการที่ชื่อว่าพานเจียง กลับร้องตะโกนออกมาว่าของเขาเป็นคําว่า “ได้”
“หึ! โชคดีชะมัด!” จางเฉิงพึมพําออกมาเสียงเย็นด้วยความไม่พอใจ
ในขณะที่สีหน้าของหวู่เฟิงเองก็บ่งบอกว่าไม่พอใจเช่นกัน ส่วนหลิวจื่อหยานก็ยังคงนั่งดื่มชาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเช่นเคย
หลิวหยิงหยิงได้ยินเช่นนั้น ก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นับว่าเป็นความโชคดีของเธอ ในที่สุดเธอก็เป็นฝ่ายชนะในคืนนี้!
นั่นเพราะพานเจียงคือคนที่เธอได้หมายตาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว และเธอก็ได้ติดต่อพูดคุยกับเขาตั้งแต่ก่อนที่จะการประชุมของสมาคมในคืนนี้แล้ว
เวลานี้ พานเจียงได้ตําแหน่งประธาน เขาก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายเช่นกัน!
“ยินดีด้วยค่ะท่านประธานพาน!” หลิวหยิงหยิงรีบปรบมือ พร้อมกับเอ่ยแสดงความยินดีอย่างจริงใจ
แม้ว่าคนอื่นๆจะไม่เต็มใจที่จะแสดงความยินดีด้วยนัก แต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้ และจําต้องปรบมือตามด้วยสีหน้าที่ทิ้งตึง
“ขอบคุณ ขอบคุณมาก! ผมจะทําหน้าที่ในฐานะประธานของสมาคมอย่างสุดความสามารถ!” พานเจียงตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ
และในที่สุดการคัดเลือกประธานคนใหม่ก็จบลงด้วยดี!
ทั้งหยานลู่เฟิง และหลี่เฉวียนต่างก็เข้าไปแสดงความยินดีกับพานเจียง
ส่วนจางเฉียงนั้นกลับหน้าตาบูดบึงอย่างผู้พ่ายแพ้ และเมื่อหลิวหยิงหยิงได้เห็นสีหน้าของจางเฉิงเวลานี้ เธอก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก
ที่สําคัญ เป้าหมายในคืนนี้ของเธอได้บรรลุแล้ว!
หลิวหยิงหยิงยกแก้วในมือขึ้น พร้อมกับประกาศเสียงดังว่า “ต้องขออภัยทุกท่านที่ให้รอนาน ในเมื่อคัดเลือกประธานคนใหม่ได้แล้ว พวกเราก็เริ่มรับประทานอาหารกันเลยดีกว่าค่ะ!”
สิ้นเสียงประกาศของหลิวหยิงหยิง พนักงานทั้งชายและหญิง ต่างก็กุลีกุจอกันนําอาหารที่เตรียมไว้ ขึ้นมาเสริฟที่โต๊ะทันที
เวลานี้ ทุกคนต่างก็ชนแก้วกัน และเริ่มดื่มกินกันอย่างคึกคัก แต่หลินหนานกลับรู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มน่าเบื่อ เขาจึงตั้งใจว่าหลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุด ก็จะรีบกลับทันที..
เวลานี้ หลี่เฉวียนยู่ก็ได้เดินถือแก้วกลับมานั่งที่โต๊ะดังเดิม และได้หันไปพูดกับหลินหนานว่า “นี่น้องชาย นายดูแปลกๆ ดูเหมือนพวกเราสองคนยังไม่เคยพบกันมาก่อนสินะ?”
หลินหนานตอบกลับไปโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองหลี่เฉวียนยู่ด้วยซ้ำไป “ไม่เห็นแปลก..คนใหญ่คนโตอย่างฉัน ใช่ว่าใครจะสามารถพบเจอได้ง่ายๆ!”
ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ
เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า
เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและพื้นพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า
หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในพื้นพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล
หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จําต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย
แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!
—–
เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทําให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลําดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..