ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 111
ตอนที่ 111 เข้าขั้นเซียน!
หลี่เฉวียนยู่มีฐานะเช่นใด?
เขาไม่เพียงเป็นคุณชายแห่งตระกูลหลี่ แต่ยังเป็นถึงอัจฉริยะในหลายๆด้านที่หาได้ยากยิ่งในเมืองเจียงไฮวนี้ เขาเป็นหนึ่งในแทบทุกเรื่องซึ่งใครๆต่างก็รู้ดี..
การได้มีบุตรชายอย่างหลี่เฉวียนยู่ นับเป็นบุญของพ่อแม่!
นี่คือคําพูดที่หลายคนต่างก็ใช้ชื่นชมหลี่เฉวียนยู่จากใจจริง
ตรงข้ามกับหลินหนานเวลานี้ ในสายตาของทุกคนในห้อง หลินหนานเป็นเพียงคนโง่ๆคนหนึ่งซึ่งมีดีเพียงแค่ปาก!
มีเหตุผลอะไรที่หลินหนานจะไม่เชื่อคําพูดของหลี่เฉวียนยู่? และที่สําคัญคนอย่างหลินหนานมีคุณสมบัติอะไร ถึงจะไม่เชื่อคนอย่างหลี่เฉวียนยู่?
ถังจินซ่งถึงกับแสยะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน ในขณะที่ภายในใจนั้นกําลังมีความสุขเป็นอย่างมาก!
ถึงเวลาแล้วสินะ!
แกกล้าฉีกหน้าคุณชายหลี่ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ ก็เท่ากับหาเรื่องปรมาจารย์เฉินมู่เฉิง การมีเรื่องกับสุดยอดปรมาจารย์แบบนี้ แกคงคิดไม่ออกสินะว่าจะมีจุดจบยังไง? เจ้างั่งเอ๊ย!
พูดง่ายๆก็คือ หลินหนานตายแน่!
ต่อให้เป็นคนรักของหลิวหยิงหยิง ก็ใช่ว่าจะสามารถทําเรื่องยะโสโอหังแบบนี้ได้!
และเวลานี้ ผู้คนภายในห้องจัดเลี้ยง ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูอะไรสนุกๆ ที่กําลังจะเกิดขึ้นและสําหรับพวกเขาแล้ว ไม่ได้รู้สึกสนใจใยดีกับความเป็นความตายของหลินหนานเลยแม้แต่น้อย สิ่งสําคัญสําหรับพวกเขาคือการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับหลี่เฉวียนยู่ต่างหาก
หึ! ถ้าแม้แต่เสี้ยนหนามตรงหน้าฉันยังจัดการไม่ได้ จะสามารถโน้มน้าวให้คนอื่นๆ เช่อมั่นในตัวฉันได้อย่างไรกัน?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลี่เฉวียนยู่จึงจําเป็นต้องจัดการหลินหนานต่อหน้าคนอื่นๆ เพื่ออนาคตที่สดใสของตนเองในเมืองเจียงไฮว..
หลี่เฉวียนยู่หรี่ตาลงเล็กน้อย รอยยิ้มอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์บนใบหน้าของเขา ได้เลือนหายไปก่อนจะตอบหลินหนานกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คุณหลิน ผมรู้ว่าคงเป็นเรื่องยากสําหรับคุณ ที่จะยอมรับยาต้านมะเร็งนี้ได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่แปลก.. เพราะทุกครั้งที่เกิดสิ่งใหม่ๆขึ้นบนโลกใบนี้ ย่อมต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นธรรมดา”
เวลานี้ ฝ่ามือของหลี่เฉวียนยู่ได้กําแน่นจนซีดขาว หากไม่ใช่เพราะที่นี่มีผู้คนอยู่มากมายแล้วล่ะก็ เขาคงจะขอให้ปรมาจารย์เฉินจับไอ้หมอนโยนออกไปนอกห้องตั้งนานแล้ว!
“อ่อ… งั้นเหรอ?”
หลินหนานเอนกายพิงพนักเก้าอี้ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหลี่เฉวียนยู่ ก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“เมื่อครู่คุณบอกว่า คุณเคยเป็นมะเร็งมาก่อนใช่มั้ย?”
“ใช่!” หลี่เฉวียนยู่พยักหน้า
“ไม่ทราบว่าคุณเป็นมะเร็งชนิดไหน?” หลินหนานเอ่ยถามเสียงเนิบ
“มะเร็งตับ!”
“มะเร็งตับ?! โอ้ นับว่าคุณเป็นคนที่ดวงดีมาก เพราะมะเร็งตับไม่ใช่โรคที่จะสามารถรักษาให้หายได้ง่ายๆเลย…” สีหน้าของหลินหนานดูประหลาดใจมากในขณะที่พูด
“นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” หลี่เฉวียนยู่ดูเหมือนจะเริ่มโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว
ที่ผ่านมา หลี่เฉวียนยู่พยายามที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเองอย่างมาก แต่คําถามของหลินหนานครั้งนี้ บ่งบอกชัดเจนว่ากําลังประชดประชัน และดูถูกเขาอย่างมาก เช่นนี้แล้วเขาจะสามารถอดนทนต่อไปอีกได้อย่างไรกัน?
“ฉันก็ไม่ได้หมายความว่าอะไรนี่ ก็แค่รู้สึกว่านายนี่มันดวงดีมากจริงๆ! ไม่อย่างนั้น คนเป็นมะเร็งตับ คงจะไม่สามารถมายืนพูดแจ้วๆแบบนี้ได้แน่”
จากนั้นหลินหนานก็พูดต่อยิ้มๆ “น่าเสียดาย.. ฉันว่านายน่าจะไปลองเขียนนิยายขายดูบ้างนะ ดูท่านายคงจะแต่งนิยายเก่งมากด้วย!”
แววตาของหลี่เฉวียนยู่เปลี่ยนเป็นเย็นชายิ่งกว่าเดิม ในขณะที่หวูเฟิงและคนอื่นๆ ต่างก็ตบโต๊ะพร้อมกับลุกขึ้นยืนชี้หน้าหลินหนาน
“นี่เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน?”
“นั่นน่ะสิ! กล้าพูดจาแบบนี้กับคุณชายหลี่ได้ยังไง?”
“ไร้สาระ ไร้สาระที่สุด!”
“ไอ้คนปากไม่มีหรูด ออกไปจากที่นี่เลย ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างแก!”
หลินหนานได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะยกมือขึ้นชี้และกวาดไปรอบห้อง พร้อมกับพูดออกไปว่า
“ฉันไปก็ได้ เพราะฉันเองก็ทนดูละครลิงมาตั้งนานแล้ว ได้เวลาที่จะต้องกลับซะที!”
หลังจากพูดจบ หลินหนานก็ไม่สนใจใครอีก เขาก้าวเท้าเดินตรงไปที่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยงทันที แต่หลังจากก้าวออกไปได้เพียงแค่สองสามเก้า ฝ่ามือของใครบางคนก็เอื้อมออกมาจับไหล่ของหลินหนานไว้
หลินหนานรู้สึกได้ทันทีว่า แม้จะเป็นเพียงแค่การสัมผัสเบาๆ แต่กลับทําให้ร่างกายของเขาหนักอึ้งขึ้นมาอย่างมาก
“ถ้าฉันยังไม่อนุญาต เธอก็ยังไปไหนไม่ได้”
หลินหนานหันกลับไปมอง และพบเฉินมู่เฉิงกําลังยืนแสยะยิ้มอยู่
“เฮ้อ.. ตอนนี้ฉันกําลังอารมณ์ไม่ดี อย่ายุ่งกับฉันจะดีกว่า!” หลินหนานตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“โอ้.. ช่างบังเอิญจริงๆ! ฉันเองก็กําลังอารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน!”
ในระหว่างที่ตอบโต้หลินหนานกลับไปนั้น เฉินมู่เฉิงก็ได้ออกแรงกดฝามือลงบนไหล่ของหลินหนานแรงขึ้น
หลินหนานสัมผัสได้ทันทีว่า มีพลังรุนแรงบางอย่างกําลังแผ่ซ่านผ่านหัวไหล่ เข้าไปในร่างของตน พลังรุนแรงนี้เสมือนสายน้ำจากท้องทะเล ที่กําลังหลั่งไหลเข้าสู่แม่น้ำลําธารจนท่วมท้นในชั่วพริบตา
พลังนั้นหนักหน่วงราวกับขุนเขาที่กําลังบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่าง
มันมีความน่ากลัว สยดสยอง และดุดันซ่อนอยู่!
กร๊อบ กร๊อบ..
จากนั้น เสียงกระดูกภายในร่างกายของหลินหนานก็เริ่มลั่น ราวกับว่าจะสามารถแตกออกเป็นเสียงๆได้ทุกเมื่อ
อืมม. เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด กําลังภายในของผู้ชายคนนี้อยู่ในขั้นปรมาจารย์จริง!
ฝ่ามือของเฉินมู่เฉิงที่วางอยู่บนไหล่ของหลินหนานนั้น ดูเหมือนเพียงแค่วางลงเบาๆ แต่กลับมีพลังรุนแรงน่ากลัวบางอย่าง กําลังเคลื่อนผ่านฝามือของเขาเข้าสู่ร่างกายของหลินหนาน ประหนึ่งหมาป่าที่พุ่งเข้าไปในคอกแกะน้อย..
กรอบ.. กรอบ..
เสียงกระดูกทั่วร่างของหลินหนานยังคงดังลั่น และดูราวกับว่ากําลังจะแตกละเอียดเป็นผงในเวลาอีกไม่นานนัก!
เวลานี้ แววตาของเฉินมู่เฉิงเย็นชายิ่งกว่าเดิม รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า บ่งบอกถึงความมั่นอกมั่นใจเป็นอย่างมาก
กําลังภายในของยอดฝีมือขั้นสุดยอดปรมาจารย์นั้น สามารถบดขยี้ก้อนหินแข็งให้ละเอียดเป็นผงได้อย่างง่ายดาย จึงแทบไม่ต้องพูดถึงกระดูกอ่อนๆภายในร่างกายของชายหนุ่มผู้นี้!
เฉินมู่เฉิงยินดีที่จะสั่งสอนชายหนุ่มที่ยะโสโอหัง และไร้ซึ่งมารยาทอย่างหลินหนานต่อหน้าทุกคน เพราะศักดิ์ศรีของสุดยอดปรมาจารย์นั้น สูงส่งเกินกว่าที่จะปล่อยให้ใครมาเหยียบย่ำได้!
เวลานี้ ทุกคนภายในห้องจัดเลี้ยงต่างก็จ้องมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังชางหยางกับถังจินซ่ง ที่ดีอกดีใจจนออกนอกหน้า เมื่อได้เห็นเฉินมู่เฉิงตัดสินใจลงมือสั่งสอนหลินหนานในที่สุด!
ทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยเห็นหลินหนานตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน!
พ่อหนุ่มคนนี้ เธอรนหาที่ตายแท้ๆ!
หยานลู่เฟิงเองก็ถึงกับตาเป็นประกายขึ้นมาเช่นกัน เมื่อได้เห็นภาพที่กําลังเกิดขึ้นตรงหน้าและเวลานี้ เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ระหว่างเขากับสุดยอดปรมาจารย์ท่านนี้ จะมีช่องว่างที่ห่างไกลกันมากเพียงใด?
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้น แม้หลินหนานจะได้รับกําลังภายจากอีกฝ่ายเข้าไป แต่เขากลับยังคงยืนไม่ขยับ สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของเฉินมู่เฉิงแน่นิ่ง
แววตาของเขานั้น สงบนิ่ง ไม่มีคลื่นสั่นไหวปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่น้อย!
ไร้ซึ่งความหวาดกลัว!
ไร้ซึ่งความเจ็บปวด!
สิ่งเดียวที่ปรากฏในแววตาของหลินหนานก็คือ ความสงบเยือกเย็น!
แววตาของหลินหนานสงบเยือกเย็นอย่างมาก ราวกับว่าเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
และเวลานี้ แววตาที่เคยสงบนิ่งของเฉินมู่เฉิง ก็ได้เปลี่ยนเป็นสงสัยใคร่รู้แทน
ทําไมกระดูกของมันยังไม่หัก?
มันควรจะต้องกระดูกแตกละเอียด จนลงไปนอนคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่ที่พื้นแล้วนี่?
และในระหว่างที่เฉินมู่เฉิงกําลังครุ่นคิดด้วยความงุนงงสงสัยอยู่นั้น หลินหนานก็ได้เอ่ยถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“รออะไรอยู่ไม่ทราบ?”
สีหน้าของเฉินมู่เฉิงเปลี่ยนเป็นประหลาดใจระคนตกใจ..
ฉันก็กําลังรอให้แกลงไปนอนคร่ำครวญ แล้วก็ร้องขอความเมตตาจากฉันอยู่นะสิน
เฉินมู่เฉิงกําลังประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาถ่ายเทกําลังภายในที่แข็งแกร่งของตนเองลงไปในร่างของหลินหนาน แต่กลับกลายเป็นว่า กําลังภายในของเขาเป็นเพียงแค่สายน้ำเล็กๆ ที่ไหลลงสู่ท้องทะเลที่กว้างใหญ่ และไม่มีผลใดๆต่อท้องทะเลเลยแม้แต่น้อย
หลินหนานส่ายหน้าไปมาพร้อมกับถอนหายใจ..
พลังชี่ภายในจุดตันเถียนของเขาระเบิดพวยพุ่งออกมา เคลื่อนผ่านเส้นลมปราณทั่วร่าง กระจายเข้าสู่เส้นเลือด และมัดกล้ามเนื้อตามร่างกาย ก่อนจะแผ่ซ่านออกมาภายนอก
จากนั้น พลังปราณภายในร่างของหลินหนาน ก็ได้เคลื่อนไปรวมที่หัวไหล่ของเขา ก่อนจะเคลื่อนปะทะเข้ากับฝามือของเฉินมู่เฉิงในทันที
เฉินมู่เฉิงสัมผัสได้ถึงพลังที่รุนแรงน่ากลัว จึงรีบถอนฝ่ามือของตนเองออกจากไหล่ของหลินหนานอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว
หลังจากที่พลังปราณภายในร่างของหลินหนานเคลื่อนผ่านฝามือของเฉินมู่เฉิงไป พลังปราณนั้นก็ได้โลดแล่น และพวยพุ่งไปทั่วร่างของเขาอย่างรวดเร็ว
กรอบ..
ครั้งนี้เป็นเสียงกระดูกภายในร่างกายของเฉินมู่เฉิงที่ลั่น และเขารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นที่กระดูกแขนข้างนั้นทันที ราวกับว่า พลังปราณของหลินหนานได้กลืนกินกระดูกแขนของเขาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
นับว่าปฏิกิริยาของเฉินมู่เฉิงนั้นรวดเร็วไม่น้อย เขารีบกระตุกมือของตนเองออกจากไหล่ของหลินหนานในทันที
บูม!
เสียงโต๊ะตรงหน้าหลินหนานแตกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ และเวลานี้ ทุกคนที่อยู่ภายในห้องจัดเลี้ยง ก็ได้แต่ยืนอ้าปากหวอ และกลั้นลมหายใจไว้อย่างไม่รู้สึกตัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยานลู่เฟิง ที่เวลานี้ถึงกับแอบถอนหายใจออกมา พร้อมกับพึมพําเบาๆ “นี่สินะ…. กําลังภายในระดับปรมาจารย์อย่างแท้จริง? ช่างน่าสะพรึงกลัวมากจริงๆ!”
นับเป็นความโชคดีที่ฉันอยู่ในงานคืนนี้ด้วย!
หลังจากที่ทุกคนได้เห็นกําลังภายในที่แข็งแกร่งในขั้นปรมาจารย์อย่างแท้จริง พวกเขาจึงได้เข้าใจว่า เพราะเหตุใดหลายๆคน จึงได้สนใจที่จะศึกษา และฝึกฝนกําลังภายในอย่างจริงจัง!
นั่นเพราะผู้ที่มีกําลังภายในแข็งแกร่งเช่นนี้ คนทั่วไปคงแทบจะยกย่อให้เป็นเซียน!
***********
ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ
เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า
เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า
หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานพร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล
หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จําต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย
แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!
——-
เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทําให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลําดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..