ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 148
ตอนที่ 148 ฉันจะฆ่าแก!
นี่มันเกิดบ้าอะไรกันวะ?
หวังเฉิงหยวนได้แต่ยืนงุนงงเป็นไก่ตาแตก!
พี่อีกาดํา.. ทําไมพี่จะต้องพูดจานอบน้อมกับไอ้หมอนั่นด้วย?
เป็นไปได้มั้ยว่าสองคนนี้รู้จักกันมาก่อน?
และเวลานี้ หวังเฉิงหยวนก็ไม่รู้ว่า พี่อีกาดําของเขานั้น หวาดกลัวหลินหนาน จนแทบจะปัสสาวะรดกางเกงอยู่แล้ว!
“ผม.. ผมเกรงว่าน่าจะเกิดการเข้าใจผิดกัน!”
อีกาดํายืนเก็บไม้เก็บมือทั้งสองข้าง พร้อมกับโน้มตัวลงตอบหลินหนานอย่างนอบน้อมแต่น้ำเสียงกลับอู๋อี้ฟังไม่ค่อยชัดเจนนัก ในใจก็เฝ้าภาวนาว่า ขออย่าให้เด็กสาวคนนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับหลินหนานเลย ไม่เช่นนั้น เท่ากับว่าเขาเป็นฝ่ายเดินเข้ามาสะดุดตอท่อนใหญ่นี้เอง
“เข้าใจผิดเหรอ? ฉันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตาตัวเอง นายตบหน้าเพื่อนฉันเมื่อครู่นี้ ถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันจริง ฉันก็ขอตบหน้านายคืนก็แล้วกัน..” หลินหนานตอบกลับเสียงเรียบ
เมื่อได้ยินคําพูดของหลินหนาน อีกาดําถึงกับตกใจจนหน้าซีด และเหงื่อพลันไหลออกมาท่วมตัวทันที
สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดกําลังจะเกิดขึ้นแล้วสินะ?
ทั้งสองคนรู้จักกันจริงๆเหรอนี่?!
หากปล่อยให้หลินหนานลงมือเอง ครั้งนี้ชีวิตของฉันต้องเป็นอันจบสิ้นแน่!
ยิ่งคิด อีกาดําก็ยิ่งขนหัวลุก และจิตใจสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก จึงรีบระส่ำระลักตอบหลินหนานกลับไปว่า
“เรื่องนี้ไม่ต้องถึงมือคุณชายหลิน ผมจะจัดการลงโทษตัวเอง!”
หลังจากพูดจบ อีกาดําก็รีบยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองต่อหน้าทุกคนในห้องอย่างรวดเร็ว และเสียงฝ่ามือที่กระทบกับใบหน้าอย่างรุนแรงนั้น ก็ดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องจนได้ยินกันอย่างทั่วถึงทุกคน
และเวลานี้ ใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นของอีกาดํา ก็เริ่มมีเลือดสีแดงไหลกลบปาก เขารีบอธิบายให้หลินหนานฟังต่อในทันที
“คุณชายหลิน เป็นเพื่อนของผมเองที่มีตาแต่กลับไร้แวว บังอาจไปมีเรื่องกับคุณชายหลินได้การตบหน้าตัวเองเมื่อครู่นี้ ถือเป็นการขอโทษและขอขมาคุณชายหลิน เพื่อที่ว่าวันหน้าคุณชายหลินจะไม่ถือสาเอาเรื่องผมอีก….”
ท่าทางการแสดงออกของอีกาดําเวลานี้นั้น ไม่ต่างจากการทิ้งระเบิดตูมลงกลางห้อง บรรดานักเรียนทั้งชายและหญิง ต่างก็ตกอยู่ในอาการแน่นิ่งด้วยความตกตะลึง
หวังเฉิงหยวนที่เคยอวดดี และพูดจายะโส สีหน้าในตอนนี้กลับเหยเกไม่ต่างจากคนที่เดินเหยียบมูลสุนัข
อีกาดําที่เป็นถึงนักสู้ผู้เก่งกาจ ที่ได้ทั้งเหรียญและฉายานักสู้ดอกไม้แดง แต่กลับนอบน้อมมีมารยาทอย่างมากเมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหนาน
นักสู้อันดับหนึ่ง จู่ๆก็กลับกลายเป็นเพียงสุนัขเชื่องๆตัวหนึ่ง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!!
หวังเฉิงหยวนพยายามครุ่นคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่า เหตุใดทุกอย่างจึงกลับตาลปัตเป็นเช่นนี้ไปได้?
“คุณชายหวัง ไหนคุณบอกว่าพี่อีกาดําเก่งกาจแล้วก็น่ากลัวมาไม่ใช่เหรอ? ฉันว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ลองเข้าไปถามดูสิ” เจิ้นเยื่วยกระซิบบอกเสียงสั่นด้วยความตกใจ
“ไม่ต้องมาสอนฉัน! ฉันไม่ได้ตาบอด…”
หวังเฉิงหยวนหันไปสบถค่าเฉินเวย ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาหลินหนาน และหันไปบอกกับอีกาดําว่า
“พี่อีกาดํา นี่พี่ทําอะไรกัน? หลินหนานมันก็แค่พวกชนชั้นล่างที่อาศัยอยู่ในสลัมแถวถนนหลงหวู่ ไม่ได้มีฐานะสูงส่งอะไรเลย ฉันว่าพี่อีกาดําน่าจะจําคนผิด หรือไม่ก็เข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะ!”
หวังเฉิงหยวนไม่อยากจะเชื่อว่า อีกาดําถึงกับเรียกหลินหนานว่า “คุณชายหลิน” อย่างให้เกียรติ ทําให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่า อีกาดําน่าจะจําคนผิด หรือไม่ก็เข้าใจอะไรผิดสักอย่าง!
“คุณชายหวัง ผมขอแนะนําให้คุณคิดทบทวนดูอีกครั้ง เพราะถ้าคุณไปท้าทายคนอย่างคุณชายหลินเข้า ย่อมเท่ากับขุดหลุมฝังตัวเอง คุณยังมีเวลาที่จะขอให้ชายหลินยกโทษให้!”
อีกาดําเหลือบมองหวังเฉิงหยวน พร้อมกับร้องเตือนด้วยความหวังดี
หลังจากได้ยินคําเตือนของอีกาดํา หวังเฉิงหยวนถึงกับตกตะลึงไปเล็กน้อย แต่แล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา และตอบกลับไปว่า
“พี่อีกาดํา นี่พี่ล้อฉันเล่นหรือเปล่า? จะให้ชนชั้นสูงอย่างฉัน ลดตัวไปขอโทษชนชั้นต่ำอย่างมันนี่นะ? ไม่มีทาง!”
“เฮ้อ..” อีกาดําถึงกับแอบส่ายหน้าไปมาด้วยความผิดหวัง
เจ้าหนูเอ๊ย! นายมันรนหาที่ตายเองแท้ๆ คงยากที่ฉันจะช่วยนายได้อีกแล้ว!
อีกาดํากําลังจะอ้าปากบอกเล่าฐานะที่แท้จริงของหลินหนานให้หวังเฉิงหยวนฟัง แต่กลับถูกหลินหนานขยิบตาส่งสัญญาณห้ามไว้เสียก่อน
“ฉันยอมรับคําขอโทษของนาย นายไปได้แล้ว!” หลินหนานหันไปบอกอีกาดําด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก
“ขอบคุณคุณชายหลิน ลาก่อน!”
หลังจากที่ได้รับการให้อภัยแล้ว อีกาดําก็รีบขอตัว และเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าหลินหนานนั้นจงใจที่จะปิดบังฐานะที่แท้จริงของตนเอง และไม่ต้องการเปิดเผยให้ทุกคนในที่นี้รู้
ในเมื่อหลินหนานต้องการเช่นนี้ เขาเองก็ไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวเช่นกัน!
หลังจากที่ได้เห็นท่าทางที่อีกาดําแสดงออกมา ทําให้หวังเฉิงหยวนรู้สึกรังเกียจ และเหยียดหยามเป็นอย่างมาก เดิมที่เขาตั้งใจว่าจะให้อีกาดํามาสร้างบารมีให้กับตนเอง แต่กลับกลายเป็นว่าอีกาดําทําให้เขาเสียหน้ามากยิ่งกว่าเดิม
“เชอะ! ที่แท้เหรียญทองกับฉายานักสู้ดอกไม้แดง ก็แค่ราคาคุยสินะ? ไอ้สวะขี้ขลาดตาขาว!”
หวังเฉิงหยวนบ่นพึมพํา สีหน้าทิ้งตึงเคร่งเครียด แต่ก็ไม่มีใครในห้องเลยสักคน ที่จะกล้าช่วยสนับสนุนคําพูดของเขา แม้แต่เจิ้นเวยและเฉินเผิง ยังถึงกับนั่งนิ่งไม่กล้าพูดกล้าจา และเวลานี้ทั้งคู่ก็ยังไม่หายตกอกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องราวเวลานี้ใหญ่โตเกินกว่าที่จิตใจดวงเล็กๆ ของพวกเขาจะรับได้ไหว
“นี่แกอย่าได้ผยองคิดว่าตนเองจะเป็นฝ่ายชนะนะ?”
หวังเฉิงหยวนจ้องมองหลินหนานด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว เพราะคนที่เขาเรียกมาเพื่อช่วยสั่งสอนหลินหนาน กลับคุกเข่าเลียหลินหนานแทนซะนี่!
และยังไม่ทันที่หลินหนานจะได้ทําอะไร เขาก็สามารถไล่คนของหวังเฉิงหยวนกลับไปได้อย่างง่ายดาย นี่ไม่เพียงแค่เป็นการตบหน้าหวังเฉิงหยวน แต่ยังทําให้เขาเสียหน้าจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนด้วย!
และเขาก็ไม่อาจยอมรับความอับอายครั้งนี้ได้!
“คุณชายหวัง ฉันไม่อยากดื่มเหล้าต่อแล้ว และตอนนี้ก็อยากจะพาซินเย่วกลับบ้าน!”
หลินหนานเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจอีก และไม่คิดที่จะสั่งสอนหวังเฉิงหยวนด้วย จึงตั้งใจที่จะพาเฉิงซินเย่วกลับไป
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า หวังเฉิงหยวนจะร้องตะโกนห้ามไว้ “นี่แกคิดว่ามีเรื่องกับคนอย่างฉันแล้วจะสามารถกลับไปได้ง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? อย่านึกว่าอีกาดําพูดจาเยินยอไม่กี่คํา ก็จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจใหญ่โตมากมายล่ะ ตอนนี้แกทําให้ฉันโมโหมาก ฉันจะฆ่าแกเมื่อไหร่ก็ได้”
“นายนี่มันไม่ต่างจากคําโบราณพูดไว้จริง! เฮ้อ..” หลินหนานถึงกับต้องถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“แกหมายความว่ายังไง?!” หวังเฉิงหยวนตวาดหลินหนานเสียงดัง
“หมาเห่ามักไม่กัดยังไงล่ะ!”
พูดจบ.. หลินหนานก็หันไปบอกกับเฉิงซินเย่วว่า “พวกเราไปกันได้แล้ว!”
“ไอ้สารเลว! นี่แกกล้าด่าฉันเป็นหมาเชียวเหรอ?”
หวังเฉิงหยวนหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ และเวลานี้เขาก็เลือดขึ้นหน้าจนไม่อาจควบคุมอารมณ์ไว้ได้อีก จึงรีบคว้าขวดเหล้าเปล่าขึ้นมาหนึ่งขวด พร้อมกับฟาดไปข้างหน้า
ขวดเปล่าในมือของหวังเฉิงหยวน ตรงเข้าใส่หลังศรีษะของหลินหนานอย่างรวดเร็ว!
“ระวัง!!”
โม่อวี๋ชิงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รีบร้องตะโกนบอกหลินหนานเสียงดัง ในขณะที่เฉิงซินเย่วได้แต่ยืนปิดตาด้วยความหวาดกลัว
หลินหนานสัมผัสได้ถึงแรงลมเบาๆที่ด้านหลังของตนเอง จึงรีบเบียงลําตัวเล็กน้อย เพื่อหลบขวดเหล้าในมือของหวังเฉิงหยวน ก่อนจะหันหลังกลับพร้อมกับเตะออกไปอย่างรวดเร็ว!
“โอ๊ย!!!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้อง!
“พี่หลินหนาน พี่เป็นอะไรมั้ย?”
เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดนั้น เฉิงซินเย่วจึงรีบเอามือที่ปิดตาออก และร้องตะโกนถามออกไปด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องประหลาดใจแทนเมื่อพบว่า หลินหนานยังคงยืนอยู่ข้างกายเธอในสภาพที่ปกติดี
แต่หวังเฉิงหยวนที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินหนานนั้น กลับหงายหลังล้มลงไปนอนกองกับพื้น ในท่าที่สองมือกําลังกุมเป้ากางเกงอยู่ พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“หลินหนาน ถ้า.. ถ้าน้องชายของฉันใช้งานไม่ได้อีก ฉันฆ่าแกแน่!”
ระหว่างที่ข่มขู่หลินหนานนั้น ใบหน้าของหวังเฉิงหยวนก็เปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ สลับกับซีดขาวบ่งบอกว่าเขากําลังได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก
“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะรีบไปโรงพยาบาลตรวจเช็คตอนนี้ทันที เพราะหากมีอะไรผิดพลาด นายจะไม่ได้เป็นชายชาตรีอีกต่อไป!”
จากนั้น หลินหนานก็ได้ดึงมือเฉิงซินเย่วออกไปจากห้องหมายเลข 88 ทันที
“ซินเย่ว รอฉันด้วย ฉันไปด้วยคน!” โม่อวี๋ชิงที่เพิ่งหายจากอาการตกใจ รีบวิ่งตามทั้งสองคนออกไปทันที
“คุณชายหวัง! จะ.. จะให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย?”
เจิ้นเยี่วยเห็นหวังเฉิงหยวนนอนกุมเป้าด้วยความเจ็บปวดอยู่กับพื้น เธอจึงรีบร้องถามออกมาด้วยความตกใจ
“เร็วเข้า! รีบโทรบอกพ่อของฉันให้ส่งคนมาที่นี่ด่วน ฉันจะไม่ปล่อยให้ไอ้หมอนั่นออกไปจากที่นี้ได้ทั้งที่ยังมีชีวิตแน่!” หวังเฉิงหยวนร้องคํารามออกมาด้วยความเคียดแค้น
แกกล้าทําร้ายฉัน แกต้องตาย!
ฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ!
เวลานี้ หวังเฉิงหยวนอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งสุดขีด เขาจึงไม่สนใจคําเตือนของอีกาดําเลยแม้แต่น้อย!