ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 160
ตอนที่ 160 ไม่กล้ารับ!
หลินหนานพุ่งปราดไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า และเพียงแค่ชั่วพริบตา เขาก็สามารถคว้าลำคอของเสี่ยวจือฉีไว้ได้ พร้อมกับยกร่างของเขาลอยขึ้นจากพื้นทันที
ร่างที่ผอมบางของเสี่ยวจือฉีนั้น ไม่ได้มีน้ำหนักเบาอย่างที่เห็น แต่หลิงหนานก็สามารถยกร่างของเขาให้ลอยขึ้นได้อย่างง่ายดาย ผู้คนที่เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ต่างก็พากันหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจกลัว!
ผู้ชายคนนี้นอกจากจะว่องไวมากแล้ว ยังแข็งแรงอย่างกับอะไรดี!
“นี่แกจะทำอะไรฉัน? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เสียวจือฉีเริ่มรู้สึกหายใจไม่สะดวก และใบ หน้าก็เริ่มแดง
“ในเมื่อนายเป็นพวกความจำสั้น ฉันก็จะช่วยรื้อฟื้นความทรงจำให้นายยังไงล่ะ!” หลินหนานแสยะยิ้มในขณะตอบ พร้อมกับออกแรงบีบที่มือให้มากขึ้น
ภายใต้ฝ่ามือที่แข็งแกร่งของหลินหนาน เสี่ยวจือฉีดิ้นรนไปมาไม่ต่างจากไก่ที่กำลังจะขาดอ๊อกซิเจน และใบหน้าที่แดงก่ำเมื่อครู่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำขึ้นในทันที
เวลานี้ เสี่ยวจือฉีกำลังหายใจไม่ออก และดวงตาทั้งสองข้างก็เริ่มเบิกโพลง..
นี่หลินหนานคิดจะฆ่าเสี่ยวจือฉีจริงๆเหรอ?!
เสี่ยวจือหลงเห็นเช่นนั้นจึงรีบขอร้องหลินหนานทันที “หลินหนาน ได้โปรดเห็นแก่หน้าฉันปล่อยเขาไปจะได้มั้ย?”
แม้ว่าเธอจะไม่พอใจผู้ชายคนนี้จนถึงขั้นเกลียดชัง แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่ชายร่วมสายเลือดของเธอ และเป็นคนในตระกูลเสี่ยวเช่นกัน!
หากวันนี้เสียวจือฉียอมคุกเข่าให้หลินหนานจริงๆ ไม่เพียงชื่อเสียงของเขาเท่านั้นที่จะเสื่อมเสีย แต่ยังจะเสื่อมเสียมาถึงตระกูลเสี่ยวด้วย และนี่เป็นสิ่งที่เสี่ยวจือหลงไม่ต้องการให้เกิดขึ้น!
“ได้สิ! เห็นแก่หน้าคุณ ผมจะยอมปล่อยเขาสักครั้ง”
หลินหนานยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะจับร่างของเสี่ยวจือฉีโยนลงกับพื้น ไม่ต่างจากโยนเศษขยะชิ้นหนึ่ง
หลังจากที่ล้มลงนอนกลิ้งกับพื้น เสี่ยวจือฉีก็รีบสูดลมหายใจเข้าไปอย่างรุนแรง เขารู้สึกว่าเวลานี้เขายอมปอดฉีกระเบิด ดีกว่าที่จะขาดอากาศหายใจ และนี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวจือนี่รู้สึกว่า อากาศที่ไม่เคยมีมูลค่าอะไรเลย กลับกลายเป็นสิ่งที่หอมหวาน และน่าปรารถนายิ่งนัก
หลังจากที่จ้องมองเสี่ยวจือฉีอย่างสมเพชเวทนา เสี่ยวจือหลงก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับถอนหายใจ ก่อนจะหันไปขอบคุณหลินหนานอีกครั้ง
“ขอบคุณนายมากนะหลินหนาน! ครั้งนี้ตระกูลเสี่ยวเป็นหนี้บุญคุณนายแล้ว บอกฉันมาว่านายต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทน!”
หญิงสาวคนนี้นับว่าเฉลียวฉลาดเป็นกรดที่เดียว!
“ผมไม่ต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทน นอกจากเงินรางวัลที่ควรจะได้! ในเมื่อคุณชายใหญ่ประกาศไว้ว่า จะให้เงินรางวัลจำนวนสิบล้านหยวนกับผู้ที่สามารถรักษาอาวุโสเสี่ยวให้หายได้ คุณให้ผมมาแล้วสามล้าน ส่วนที่เหลืออีกเจ็ดล้านควรต้องเป็นหน้าที่ของคุณชายใหญ่”
หลินหนานโบกมือปฏิเสธไม่รับสิ่งตอบแทนเพิ่มเติม นอกจากเงินรางวัลที่เสี่ยวจือฉีได้ประกาศไว้ก่อนหน้า
“เชอะ”
“โธ่เอ๊ย ทำเป็นหยิ่งทะนงไม่รับสิ่งตอบแทน แต่ปากกลับเรียกร้องค่ารักษาจากตระกูลเสี่ยวถึงสิบล้าน!”
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ! ในเมื่อหลินหนานสามารถรักษาอาวุโสเสี่ยวให้หายได้ เขาก็สมควรได้รับเงินรางวัลจำนวนสิบล้านสิ! ฉันว่า ยังไงคุณชายใหญ่ก็ต้องจ่ายเงินเจ็ดล้านให้กับหลินหนานแน่ ไม่อย่างนั้นเขาคงเสียหน้าแย่!”
“แต่พ่อหนุ่มคนนี้ก็ทำเกินไป ถ้าฉันเป็นคุณชายใหญ่ ฉันไม่ปล่อยเขาไว้แน่!”
บรรดาหมอมีชื่อต่างก็พากันซุบซิบ และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ทั้งหมดเห็นตรงกันก็คือ คุณชายใหญ่เจ้าอารมณ์แห่งตระกูลเสี่ยว ได้เดินสะดุดตอเข้าไปเต็มๆ
“ได้! ฉันจะยอมจ่ายเงินเจ็ดล้านให้กับแก สำหรับฉัน เงินแค่นี้ยังซื้อรถคันหนึ่งไม่ได้เลย แต่แกจำไว้ให้ดีนะไอ้คนแซ่หลิน แกบังอาจมีเรื่องกับฉันที่เป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเสี่ยว เพราะฉะนั้น นับจากนี้ไปแกเตรียมตัวพบเจอกับหายนะในชีวิตได้เลย!”
เสี่ยวจือฉีขู่คำรามก้อง สายตาที่จ้องมองหลินหนานนั้น อัดแน่นไปด้วยความอาฆาตแค้น!
เวลานี้เสียวจือฉีตระหนักดีแล้วว่า เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินหนาน แต่ในวันข้างหน้า เขาจะต้องหาทางแก้แค้นหลินหนานคืนแน่!
“งั้นเหรอ? ก็ถ้านายมีเงินเหลือใช้มากขนาดนั้น จะให้ฉันช่วยใช้ก็ได้นะ ขอให้บอกมาได้เลยฉันยินดีที่จะช่วยอย่างยิ่ง!”
สำหรับหนุ่มเจ้าสำอางอย่างเสี่ยวจือฉีนั้น ในสายตาของหลินหนาน เขาก็เป็นได้เพียงแค่เทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเท่านั้นล่ะ
เฮ้อ.. ดูเหมือนคนตระกูลเสี่ยวจะรู้จักแต่ใช้เงินในเรื่องโง่ๆ!
หากวันหน้า เสี่ยวจือฉีคิดจะเล่นงานหลินหนาน เขาก็ยินดีที่จะสละเวลาเล่นด้วยเช่นกัน..
“จือฉี.. แกหุบปากชั่วๆของแกได้แล้ว! นี่ถ้าไม่ใช่เพราะหมอเทวดาหนุ่มคนนี้ ฉันจะมีโอกาสรอดชีวิตหรือเปล่าก็ไม่รู้! ท่านหมอเป็นผู้มีบุญคุณต่อตระกูลเดี่ยวของเราขนาดนี้ ถ้าแกยังขึ้นพูดจาหรือแสดงกิริยาท่าทางไม่เคารพท่านหมออีกล่ะก็ ฉันจะหักขาของแกทิ้งซะ!”
หลังจากที่เสี่ยวจือฉีพูดจาดูถูกและข่มขู่หลินหนานจบแล้ว เสียงก่นด่าก็ดังตามขึ้นมาทันทีและเจ้าของเสียงนั้นก็คือเสี่ยวเฉิงกงผู้เป็นพ่อของเขานั่นเอง!
เสี่ยวเฉิงกงไม่อาจทนมองการกระทำของเสี่ยวจือฉีได้อีก..
“ พ่อครับ! หมอนี่มันก็แค่ฟลุคเท่านั้นเอง อีกอย่าง มันก็ได้รับเงินเป็นค่ารักษา แล้วแบบนี้จะเรียกว่ามีบุญคุณต่อตระกูลเสี่ยวได้ยังไงกัน?” เสี่ยวจือฉีตอบโต้กลับอย่างไม่เห็นด้วย
แต่ทันทีที่ได้ยินคำตอบโต้ของลูกชาย ใบหน้าของเสี่ยวเฉิงกงก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำด้วยความโกรธ และร้องตะโกนด่าเสียวจือฉีด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน
“ไอ้ลูกเลว! แกออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้ นี่แกยังไม่สำนึกผิดอีกงั้นรึ? แกรู้ตัวมั้ยว่าได้ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลเสี่ยวเสื่อมเสียมากขนาดไหน?”
“พ่อ! นี่พ่อกำลังถูกคนพวกนี้หลอก ถ้าผมไม่กลับมา ปานนี้พ่อคงถูกใครบางคนฆ่าตายด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งไปแล้วแน่ๆ”
เสี่ยวจือฉีพูดจบ ก็ปรายตามองไปทางเสี่ยวจือหลงที่กำลังเข้าไปดูอาการของเสี่ยวเฉิงกง และการที่เสี่ยวจือฉีจงใจส่งสายตาไปเช่นนั้น ก็เพราะเกรงว่าเสี่ยวเฉิงกงผู้เป็นพ่อ จะไม่เข้าใจว่าตนเองกำลังหมายถึงใคร
“เสี่ยวจือฉี! นายจะหยุดบ้าได้หรือยัง? ถึงแม้ว่านายจะไม่ต้องคุกเข่าให้หลินหนานแล้ว แต่อย่าลืมว่าข้อเดิมพันอีกหนึ่งข้อไม่ได้ถูกยกเลิกไปด้วย!” เสี่ยวจือหลงตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามกลับไปเช่นกัน
ในเวลาเช่นนี้ หากเธอแสดงความอ่อนแอให้กับเสี่ยวจือฉีเห็น หรือแม้แต่ยอมอ่อนข้อให้กับเขา เขาก็จะยิ่งไม่เห็นเธออยู่ในสายตามากขึ้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เสี่ยวจือหลงยิ่งมั่นใจว่า หากเธอไม่แกร่งพอ ในวันที่พ่อของเธอเป็นอะไรไป เสี่ยวจือฉีจะต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อขับไล่เธอออกจากบ้านตระกูลเสี่ยวอย่างแน่นอน!
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตั้งใจว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะต้องแสดงอำนาจบารมีให้เสี่ยวจือฉีต้องยำเกรงบ้าง
“ผมไปก็ได้ครับพ่อ! เพราะผมเองก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ กับคนเลวๆพวกนี้นักหรอก ไม่มีผมอยู่คอยคุ้มครองพ่อแล้ว พ่อต้องระมัดระวังตัวให้มากล่ะ!”
เมื่อได้ยินเสี่ยวจือหลงทวงคำสัญญาที่เขาได้รับปากไว้ก่อนหน้านี้ เสี่ยวจือฉีผู้หยิ่งจองหองก็รีบเดินเลี่ยงออกไปจากห้องทันที
“นี่นับเป็นความอัปยศอดสูของตระกูลเสี่ยวจริงๆ!”
หลังจากที่เห็นเสี่ยวจือฉีเดินออกไป ผู้เฒ่าเสียวก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกท้อแท้ ก่อนจะหันไปพูดกับหลินหนานว่า
“คำพูดชั่วๆออกจากปากสุนัขแบบนั้น ท่านหมออย่าได้เก็บไปใส่ใจเลยนะ!”
หลินหนานโบกไม้โบกมือ พร้อมกับตอบไปว่า “อาวุโสอย่างได้กังวลใจไปเลย ผมไม่ถือสาคำพูดพวกนั้นหรอกครับ เพียงแต่ คุณชายใหญ่หนีไปแบบนี้ ผมคงอดได้เงินที่เหลืออีกเจ็ดล้านสินะ?”
“เรื่องนั้นท่านหมอไม่ต้องเป็นห่วง ตระกูลเดี่ยวของเรารักษาคำพูดเสมอ มิหนำซ้ำท่านหมอยังเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตของฉันไว้ หลังจากเรื่องวุ่นวายนี้จบลง ฉันจะสั่งให้คนไปจัดการโอนเงินให้ท่านหมอทันที”
จากนั้น ผู้เฒ่าเสี่ยวก็ได้หันมองไปทางกลุ่มของหมอสองสามคน ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่ต้น จนจบ พร้อมกับร้องตะโกนสั่งพวกเขาว่า
“เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถ้าใครกล้านำไปแพร่งพรายข้างนอก หรือนำไปซุบซิบนินทาให้ตระกูลเสี่ยวเสียชื่อแล้วล่ะก็ ฉันจะไม่ปล่อยไว้แน่!”
ในฐานะหัวหน้าตระกูลเสี่ยว แม้จะยังคงอยู่ในอาการปวยหนัก แต่ทั้งน้ำเสียงและท่าทางของ เสี่ยวเฉิงกง ก็ยังคงน่าเกรงขามไม่น้อยลงจากเดิมเลย
และเมื่อบรรดาหมอมีชื่อทั้งหมดได้ยิน พวกเขาต่างก็พากันพยักหน้าหมึกๆ ไม่มีใครกล้าโต้แย้งเลยแม้แต่คนเดียว
หลังจากนั้น เสี่ยวจือหลงก็จัดการจ่ายเงินค่าเสียเวลาให้กับหมอเหล่านั้นตามคำสั่งของเสี่ยวเฉิงกง เมื่อได้รับเงินแล้ว ทุกคนก็กลับออกไปอย่างมีความสุข
ไม่ถึงสิบนาที หลินหนาน เสี่ยวเฉิงกง และเสี่ยวจือหลง ก็ได้อยู่ภายในบ้านตามลำพังกันสามคน โดยไม่มีผู้ใดอยู่รบกวนอีก
ทำไมถึงได้รู้สึกว่าหมอสามคนที่อยู่ข้างล่างดูแปลกๆนะ? น่าเสียดายที่จือหลงให้พวกเขากลับไปหมดแล้ว เลยไม่มีโอกาสสืบหาความจริง
จู่ๆ หลินหนานที่เดินลงมานั่งบนโซฟาภายในห้องรับแขกด้านล่าง ก็อดนึกถึงหมอทั้งสามคนที่เขาพบเห็น และพูดคุยด้วยก่อนหน้านี้ไม่ได้!
แววตาของหลินหนานเป็นประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะดับลงในทันที่ ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่า ชายท่าทางแปลกๆทั้งสามคนนั้น ต้องไม่ได้มาดีแน่!
“ท่านหมอหลิน ฉันต้องขอขอบคุณท่านหมออีกครั้ง ที่ได้ช่วยชีวิตของฉันไว้เ ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะตอบแทนบุญคุณท่านหมอหมดได้ยังไง?”
ในระหว่างที่หลินหนานกำลังครุ่นคิดเรื่องชายทั้งสามคนอยู่นั้น เสียวจือหลงก็ได้ประคองร่างของเสี่ยวเฉิงกงลงมา และประคองเขามานั่งบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับหลินหนาน
หลินหนานส่ายหน้า และตอบกลับไปทันที “อย่าถือเป็นบุญคุณอะไรเลยครับ ในเมื่อผมรับเงินค่ารักษา ผมก็ต้องทำหน้าที่ของผมอย่างเต็มที่ แต่เรื่องเงินนั้น ผมยังไม่ขอรับในตอนนี้!”
เสี่ยวจือหลงถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ แววตาของหลินหนานบ่งบอกชัดเจนว่ากระหายเงิน เธอจึงไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดหลินหนานจึงได้ปฏิเสธ..
“อะไรนะ?! อย่าบอกนะว่านายเกรงใจฉัน? เงินจำนวนเจ็ดล้านนี้สมควรต้องเป็นของนายรับรองว่าฉันให้นายไปแล้ว ไม่ขอคืนแน่!” เสี่ยวจือหลงหยอกเย้าหลินหนาน
“ผมได้กลัวว่าคุณจะขอคืน เพียงแต่.. ผมยังไม่กล้ารับ!” หลินหนานตอบกลับพร้อมกับยิ้มขึ้น