ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 176
ตอนที่ 176 ผู้เชี่ยวชาญการบ่มเพาะกาย
“นี่เถ้าแก่หลิว.. ผมว่าให้ผมเป็นแค่เพื่อนสนิทต่างเพศของคุณจะดีกว่า!”
หลินหนานบอกกับหลิวหยิงหยิงไปตามตรง และต่อหน้าจิ้งจอกสาวเจ้าเล่ห์อย่างเธอ หลินหนานได้แต่ยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน
“ฉันล้อคุณเล่นเท่านั้นเองคุณชายหลิน! เอาล่ะ พวกเราสองคนมาคุยเรื่องจริงจังกันเสียที ครั้งที่แล้วฉันติดหนี้คุณยังไม่ได้ตอบแทนเลย คุณชายหลินเพียงแค่บอกฉันมาว่าต้องการสิ่งใด ฉันยินดีที่จะตอบแทนทั้งนั้น เว้นเพียงเรื่องเดียวที่ฉันให้คุณไม่ได้ คือร่างกายของฉัน!” หลิวหยิงหยิงจ้องมองหลินหนาน พร้อมพูดกับเขาอย่างเปิดอก
แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะดูใจกล้า และมีท่าที่เย้ายวนอยู่ตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วเธอกลับไม่ใช่หญิงสาวที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ออกจะค่อนข้างหัวโบราณด้วยซ้ําไป
ด้วยเหตุนี้ เมื่อมาเจอกับหลินหนานที่พูดจาตรงไปตรงมาอย่างไร้มารยาท ต่อให้เธอจะทันคนสักแค่ไหน ก็ย่อมพ่ายแพ้ให้แก่คนพาลฝีปากกล้าอย่างหลินหนานอยู่ดี!
“อะไรกัน?! อย่าบอกนะว่าคุณกลัวผม? เมื่อครู่ต่อหน้าอาวุโสกู่ คุณยังแสดงเนื้อแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมอยู่เลย..” หลินหนานตอบกลับยิ้มๆ
แม้ว่าหลิวหยิงหยิงจะเป็นหญิงสาวเจ้าเล่ห์ และช่างวางแผน แต่หลินหนานกลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจเธอเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกชื่นชมเธอมากกว่า เพราะในจุดที่เธอยืนอยู่เวลานี้ หากไร้ซึ่งความสามารถก็คงต้องต้องตายไปนานแล้ว!
“คุณสุภาพบุรุษ และคุณสุภาพสตรีทุกท่านคะ กรุณาอยู่ในความสงบก่อน เวลานี้เหลืออีกเพียงแค่สิบนาทีการประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนด้านการแพทย์ก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ครั้งนี้อาจจะแตกต่างจากครั้งก่อนๆ การประมูลสมุนไพรและยาจะถูกเลื่อนขึ้นมาก่อนเวลาที่ระบุไว้ในตารางนะคะ”
“ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน นําบัตรเชิญไปรับป้ายสําหรับทําการประมูลได้เลยค่ะ!”
ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่นี้ เจ้าภาพผู้จัดงานกําลังยืนถือไมโครโฟน ประกาศให้กับผู้เข้าร่วมประชุมในห้องรับทราบถึงขั้นตอนของงาน
“ปีก่อนๆที่ผ่านมา การประมูลสมุนไพรและยา จะเริ่มขึ้นหลังงานประชุมเสร็จสิ้นนี่นา แต่ทําไมปีนี้ ถึงได้ประมูลก่อนประชุมนะ?”
“ใครจะไปรู้? แต่ประมูลก่อนประชุมก็ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าบริษัทอื่นมีจุดแข็งอะไรบ้าง?”
หลังจากที่เจ้าภาพผู้จัดงานประกาศว่า การประมูลจะถูกเลื่อนขึ้นมานั้น หลายคนในงานต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กัน
“ฉันไม่มีบัตรเชิญด้วยสิ แล้วคุณล่ะคุณชายหลิน?”หลิวหยิงหยิงหันไปถามหลินหนานทันทีที่ได้ยินเสียงประกาศ
เดี๋ยวผมให้อาวุโสหลินหนานเองก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ผมเองก็ไม่มีบัตรเชิญเหมือนกัน ผมมากับอาวุโสจัดการเรื่องนี้ให้ผมน่าจะดีกว่า!”
“เวลาเลื่อนมากระชั้นชิดแบบนี้ ฉันเกรงว่าอาวุโสกเองก็จะไม่ทันได้เตรียมการน่ะสิ! รอฉันเดี๋ยวนะคุณชายหลิน ฉันจะลองมองๆหาคนรู้จักแถวนี้หน่อย ดูว่าจะพอมีใครให้ป้ายประมูลกับฉันได้บ้าง?” หลิวหยิงหยิงกระซิบบอกหลินหนาน ก่อนจะแยกตัวเดินตรงเข้าไปในกลุ่มคนด้านใน
หลินหนานไม่ได้รู้สึกว่าป้ายประมูลจะจําเป็นอะไรกับเขามากนัก เพราะถึงแม้เขาจะไม่มี เขาก็สามารถประมูลภายใต้ชื่อของผู้เฒ่ากู่ได้อยู่ดี
เพียงแค่สิบนาทีก่อนที่งานประมูลจะเริ่มต้นขึ้น รถซุปเปอร์คาร์สองคันมูลค่านับสิบล้าน ก็ได้แล่นมาจอดอยู่หน้าโรงแรมไคเหยียน และทันทีที่ประตูรถเปิดออก หวังชางหยางและถังจินซ่งก็ก้าวเดินลงมาจากรถหรูทั้งสองคัน พร้อมกับหันมองไปทางรถโรลลอยซ์ที่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอด
ประตูรถโรลลอยซ์ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ แล้วชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง ก็ก้าวเท้าเดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย เขาก็คือหลี่เฉวียนยู่ คุณชายแห่งตระกูลหลีนั่นเอง และด้านหลังของเขาก็มีชาวต่างชาติ ผมทอง ดวงตาสีฟ้าคนหนึ่งยืนอยู่
จากนั้น ทั้งหมดก็เดินตรงเข้าไปภายในห้องที่จัดประชุมสัมมนาของทางโรงแรม ระหว่างทางที่เดินเข้าไปนั้น ถังจินซ่งก็ได้บอกเล่ารายละเอียดของงานครั้งนี้ให้ทั้งสองคนฟังคร่าวๆ
“คุณชายหลี่ โปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์ งานประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนทางการแพทย์นี้ นับเป็นโอกาสดีในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเราเลยล่ะ! ผมได้สอบถามเจ้าภาพที่จัดงานมาก่อนแล้วจึงได้รู้ว่า ในงานนี้มีทั้งหมอที่มีชื่อเสียง แล้วก็คนร่ํารวยในเมืองเจียงไฮวมาร่วมกว่างานครึ่งเลยล่ะครับ..”
นอกเหนือจากหลี่เฉวียนยู่ที่เพียงแค่พยักหน้าแล้ว โปรเฟสเซอร์ชาวต่างชาติที่ชื่อเรย์มอนด์ ก็เอาแต่พยักหน้าหงิกๆตลอดทาง สีหน้าที่ห่างเหินของเขานั้น ราวกับมีอักษรตัวใหญ่ที่มีความหมายว่า “อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า” แปะอยู่
“พวกนายสองคนขึ้นไปก่อน ฉันกับโปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์มีเรื่องต้องปรึกษากัน จําไว้ให้ดีว่า ในการประชุมครั้งนี้ พวกนายสองคนมีหน้าที่ ที่จะต้องคว้าสมุนไพรที่หลายคนหมายปองมาครอบครองให้ได้!” หลี่เฉวียนยู่กําชับถังจินซ่งกับหวังชางหยางเสียงเข้ม
ถังจินซ่งพยักหน้าหงิกๆ พร้อมตอบกลับไปว่า “เรื่องนั้นคุณชายหลี่ไม่ต้องห่วง ผมได้จัดเตรียมคนมาทําการประมูลเรียบร้อยแล้ว รับรองได้ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนแน่นอน!”
หลังจากนั้นทั้งถังจินซ่ง และหวังชางหยางก็เดินขึ้นลิฟท์ไปทันที และเมื่อชายหนุ่มทั้งสองคนแยกไปแล้ว หลี่เฉวียนยู่จึงได้หันไปพูดกับโปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์ว่า
“มิสเตอร์เรย์มอนด์ ครั้งนี้ผมได้เตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี รับรองได้ว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดเหมือน ครั้งก่อนแน่ๆ คุณสบายใจได้!”
ในงานเลี้ยงของสมาคมเมิ่งหลานนั้น แผนการของเขาควรจะต้อจบลงด้วยดี หากไม่มีไอ้บ้าที่ชื่อหลินหนานอะไรนั่น มาทําให้ทุกอย่างวุ่นวายป่นปี้ไปหมด! และครั้งนี้ เขาก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นซ้ําอีกแน่!
“คุณชายหลี่! ครั้งนี้คุณจะทําพลาดเหมือนครั้งก่อนไม่ได้เด็ดขาด! ไม่อย่างนั้น ผมก็คงต้องให้ทางบริษัทใช้แผนที่แทน เพราะพวกเรามีเวลาไม่มากนัก!” มิสเตอร์เรย์มอนด์พูดภาษาจีนกับหลี่เฉวียนยู่ได้อย่างคล่องแคล่ว
หลี่เฉวียนยู่ตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง! ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหน มาทําลายแผนของผมฟังได้อีกแน่!”
มิสเตอร์เรย์มอนด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เย็นยะเยือกจนน่าขนลุก “ถ้าไอ้สวะนั่นโผล่มาอีก ผมจะเป็นคนจัดการกับมันเอง ส่วนคุณมีหน้าที่รับผิดชอบแค่เรื่องการโปรโมทสรรพคุณของยาก็พอ! และถ้าจําเป็นจริงๆ ผมจะออกหน้าช่วยคุณเอง!”
“ตกลง! พวกเรารีบขึ้นไปดีกว่า อีกไม่นานการประมูลก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”
หลี่เฉวียนยู่ตอบกลับ พร้อมกับเดินนํามิสเตอร์เรย์มอนด์ ขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนสุดของโรงแรมทันที
“คุณชายถัง.. คุณว่าโปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์เป็นใครกันแน่? เขาเป็นคนที่คิดค้นยาที่มีสรรพคุณล้ําเลิศนั่นจ ริงๆน่ะเหรอ? แล้วทําไมคุณชายหลี่ถึงได้ดูเกรงอกเกรงใจเขานัก?”
ระหว่างที่เดินเข้าไปในห้องจัดสัมมนานั้น หวังชางหยางก็ได้กระซิบถามถึงจินซ่ง ถึงฐานะที่แท้จริงของโปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์ แต่ถึงจินซ่งกลับกลอกตามองบน พร้อมกับตอบไปด้วยน้ําเสียงที่ห้วน
“นี่! นายถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใคร? แต่ถ้าให้ฉันเดา ฉันเองก็รู้สึกว่าโปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์อะไรนี่ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ เพราะหลังจากที่ท่านอาจารย์มู่เฉิงแพ้ให้กับไอ้หมอนั่นแล้ว โปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์ก็บินมาที่นี่ทันที แล้วฉันก็รู้มาว่า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบ่มเพาะร่างกายมาด้วยนะ และดูเหมือนว่าจะเก่งกว่าท่านอาจารย์เฉิงซะอีก!”
“ฝึกบ่มเพาะร่างกายงั้นเหรอ?! ว่าแต่มันคืออะไร?! ฝึกโยคะงั้นเหรอ?!” หวังชางหยางถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
ถังจินซ่งได้แต่ปรายตามองหวังชางหยาง พร้อมกับส่ายหน้าไปมา “นี่.. ถ้านายไม่ชอบอ่านหนังสือหาความรู้ก็ต้องรู้จักฟังบ้าง! เท่าที่ฉันรู้ มันก็จะคล้ายๆกับการฝึกวรยุทธของชาวจีนอย่างเรานี่ล่ะ เพียงแต่ฝรั่งจะเน้นเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกายภายนอกมากกว่า ส่วนวรยุทธของคนจีนก็จะเน้นเรื่องกําลังภายใน!”
“แต่โปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์น่าจะฝึกมาทั้งสองอย่าง เขาถึงได้เหนือกว่าท่านอาจารย์ม่เฉิงเล็กน้อย แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะหลินหนานได้มั้ย?”
“มิน่าล่ะ! คุณชายหลี่ถึงได้ดูให้เกียรติ แล้วก็เคารพโปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์มาก แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไอ้หมอนั่นไม่อยู่ที่นี่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงมีอะไรสนุกๆให้ดูแน่ๆ!”
และทุกครั้งที่พูดถึงหลินหนาน ทั้งถังจินซ่งและหวังชางหยาง ต่างก็ยังรู้สึกโกรธแค้นจนต้องกัดฟันกรอด นั่นเพราะความอัปยศ และอับอายที่หลินสร้างไว้ให้กับพวกเขาสองคนนั้น มันยากที่จะลืมเลือนได้!
“เวลาดีๆแบบนี้อย่าพูดชื่ออัปมงคลแบบนั้นออกมาอีกจะดีกว่า ตอนนี้พวกเรามาช่วยกัน ทําให้แผนการของคุณชายหลี่สําเร็จลุล่วงไปด้วยดีจะดีกว่า เพราะนั่นหมายถึงส่วนแบ่งที่พวกเราสองคนจะได้รับในทุกๆปี..”
ถังจินซ่งกระซิบบอกกับหวังชางหยางด้วยสีหน้าตื่นเต้น ในขณะที่เดินเข้าไปหาเจ้าภาพจัดงาน ที่ได้เตรียมป้ายประมูลไว้ให้พวกเขาล่วงหน้าแล้ว
แต่ในระหว่างที่ถังจินซ่ง และหวังชางหยางนั่งรอเวลาการประมูลที่กําลังจะเริ่มอยู่นั้น น้ําเสียงมีเสน่ห์เย้ายวนของหญิงสาว ก็ดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขาทั้งคู่
“ไม่ทราบว่าคุณชายทั้งสองคน พอจะแบ่งป้ายประมูลให้ฉันหน่อยจะได้มั้ยคะ? หรือถ้าจะให้จ่ายในราคาที่สมเหตุสมผล ฉันก็ยินดี!”