ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 189
ตอนที่ 189 ก้มลงเก็บ
หลี่เฉวียนยู่ดีอกดีใจและลิงโลดเป็นอย่างมาก..
เขาไม่กังวลเรื่องเงินที่จะต้องเสียเลยแม้แต่น้อย!
สิ่งที่เขาสนใจมีเพียงแค่ต้องการรู้ว่า หลินหนานสามารถเลียนแบบน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่นได้อย่างไร? และหากเขาสามารถทําการตลาดให้ยานี้กระจายไปทั่วทั้งประเทศได้ แน่นอนว่ารายได้ที่จะเข้ามาในล็อตแรกนั้นอย่างน้อยๆ ก็ต้องไม่ต่ํากว่าร้อยล้านหยวน
และหากเทียบกับเงินที่จะต้องเสียให้กับหลินหนาน นับว่ายังคุ้มค่ามาก!
“ขอเพียงแค่คุณชายหลินยอมร่วมมือ ทางเราก็ยินดีจะจ่าย เชิญคุณชายหลินบอกราคาที่ต้องการมาได้เลย!”เลี่เฉวียนยู่ตอบกลับยิ้มๆ
หลินหนานยื่นฝ่ามือของตนเองออกไป พร้อมกับกระซิบเสียงเบา “จ่ายมาเท่านี้ แล้วฉันจะยอมบอกความลับเรื่องนี้ให้ฟัง….”
“ห้าล้าน! แต่ก็ไม่ใช่จํานวนเงินที่มากมายอะไร ทางเราสามารถจ่ายให้คุณชายหลินได้อยู่แล้ว..” หลี่เฉวียนยู่ตอบกลับพร้อมกับกัดฟันกรอด
การที่จะให้เขาจ่ายเงินหลินหนานจํานวนห้าล้านหยวนนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่เสียเปรียบไม่น้อยแต่หากเทียบกับรายได้และกําไรมหาศาลที่จะได้จากการขายยามหัศจรรย์แล้วจํานวนเงินห้าล้านจึงเปรียบเสมือนหยดน้ำเล็กๆในมหาสมุทรเท่านั้น
แต่หลินหนานกลับส่ายหน้าไปมา พร้อมตอบกลับไปว่า “นายเข้าใจผิดแล้ว! ไม่ใช่ห้าล้าน แต่เป็นห้าสิบล้าน! นายตกเลขศูนย์ไป..”
“โอ้ว!!”
ทันทีที่หลินหนานพูดจบ ห้องทั้งห้องก็มีเสียงร้องฮือฮาด้วยความตกใจดังขึ้น ทุกคนในห้องต่างก็จ้องมองมาทางหลินหนานด้วยสีหน้าตกตะลึง และได้แต่คิดอยู่ในใจว่าผู้ชายคนนี้คงจะเสียสติไปแล้วกระมัง!
แม้ว่าทุกคนที่อยู่ภายในห้องสัมมนาแห่งนี้ จะเป็นถึงนักธุรกิจร่ํารวยที่มีเงินมากกว่าหนึ่งร้อยล้านแต่ราคาที่ หลินหนานเสนอมานั้น นับเป็นจํานวนเงินที่สูงจนน่าตกใจ!
“คุณชายหลิน.. แค่คําพูดไม่กี่คํา ก็จะขอเงินถึงห้าสิบล้าน มันไม่ดูตลกไปหน่อยเหรอ?”
หลังจากได้ยินจํานวนเงินที่หลินหนานเสนอมา แม้แต่หลี่เฉวียนยู่ที่เตรียมตัวเตรียมใจรอรับอย่างเต็มที่ยังถึงกับหน้าเปลี่ยนสีไปทันที นั่นเพราะเพียงแค่ห้าล้าน ก็นับว่าเกินเลยงบที่เขาตั้งไว้ในใจไปมากแล้วจึงแทบไม่ ต้องพูดถึงเงินจํานวนห้าสิบล้าน!
อีกอย่าง ตัวเขาเองก็มีสูตรการผลิตยามหัศจรรย์นั่นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาเพียงแค่ต้องการที่จะรู้ว่าหลินหนานสามารถเลียนแบบยาของตนเองได้อย่างไรเท่านั้นเอง ถึงไม่มีสูตรยาของหลินหนานเขาก็สามารถผลิตยามหัศจรรย์ขายได้อยู่ดี..
ไอ้หมอนี่มันหน้าด้านจริงๆ ทําแบบนี้มันปล้นกันชัดๆ!
“ห้าสิบล้านเชียวเหรอ? ถ้าแกจะขูดรีดขูดเนื้อกันขนาดนี้ แกก็ไปปล้นธนาคารเลยไม่ดีกว่าเหรอ?” ถึงจินซ่งอดรนทนไม่ได้จนต้องร้องตะโกนใส่หน้าหลินหนาน
หลินหนานได้แต่ตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้างให้ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน “แต่ฉันว่าหาเงินกับพวกนาย ง่ายกว่าปล้นธนาคารเยอะเลย นายเห็นด้วยมั้ย?!”
“คุณชายหลิน ผมพยายามที่จะสุภาพ และรักษามารยาทกับคุณมากแล้วนะ!”
ครั้งนี้หลี่เฉวียนยู่เองก็หมดความอดทนเช่นกัน จึงได้บอกกับหลินหนานไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
นี้ ฉันก็จะไม่เกรงใจนายเหมือนกัน และรับรองว่า ถ้าฉันลงมือ นายจะ
“แต่ถ้าขึ้นนายยังโยกโย้เล่นตัวอ ไม่มีโอกาสแม้แต่จะนึกเสียใจ!”
หลินหนานปรายตามองหลี่เฉวียนยู่ พร้อมตอบกลับไปอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“อะไรกันคุณชายหลี่! ขนาดหยกหักๆที่ขายกันตามท้องถนนชิ้นเดียว นายยังมีปัญญาประมูลมาตั้งสามล้านแต่พอฉันขอแค่ห้าสิบล้นบ้าง กลับหาว่าฉันเรียกร้องมาเกินไป!”
หลังจากที่ได้ยินหลินหนานล้อเลียนตนเองเรื่องนี้ หลี่เฉวียนยู่ก็ยิ่งโกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยวไปจากเดิมและเป็นเรื่องคาดเดาได้ไม่ยากนักว่า เดี๋ยวเรื่องที่เขาประมูลหยกหักๆไร้ค่าชิ้นหนึ่งด้วยเงินที่สูงถึงสามล้านหยวนก็จะต้องแพร่สะพรัดไปทั่วทั้งเมืองเจียงไฮวและเขาก็จะกลายเป็นตัวตลกในวงอาหารมื้อเย็นอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จึงนับเป็นความอับอายและแปดเปื้อน ที่ยากจะลบเลือนจากชื่อเสียงของเขาได้!
“แต่ฉันว่าคุณชายหลี่มีสายตาที่แหลมคมมากกว่า! ถึงแม้ดูภายนอกหยกนั่นจะไม่น่าสนใจและดูไม่มีราคาอะไร แต่ถ้ามาอยู่บนเนื้อตัวคุณชายหลี่เมื่อไหร่ หยกนั่นก็จะกลายเป็นของที่มีมูลค่านับสิบล้านเชียวล่ะ!”
เมื่อเห็นหลี่เฉวียนยู่กําลังโกรธจนตัวสั่น หวังชางหยางก็เริ่มทําหน้าที่เป็นกองหนุนตามแบบที่ตนเองถนัดทันที่และในระหว่างที่พูดเขาก็ได้ยื่นหยกเขียวน้ำหมึกให้กับหลี่เฉวียนยู่ด้วย
“ใช่แล้ว! ต่อให้จะเป็นเศษขยะไร้ค่าไร้ราคา แต่เมื่อมาอยู่บนตัวฉัน ทุกอย่างก็จะกลับกลายเป็นของล้ําค่าที่มีราคานับล้านเชียวล่ะ!”
หลี่เฉวียนยู่ถือหยกเขียวน้ำหมึกไว้ในมือ พร้อมกับก้าวเดินเข้าไปหาหลินหนาน สายตาทั้งคู่จ้องมองหลินหนานอย่างเย็นชาพร้อมกับกระซิบเสียงเบาพอที่จะสามารถได้ยินกันเพียงแค่สองคนเท่านั้น
“แค่ฉันบอกว่านั่นเป็นยามหัศจรรย์ ทุกคนในห้องนี้ก็พร้อมที่จะเชื่อฉันแล้ว! เพราะฉะนั้นถ้าฉันจะบอกว่าหยกหักๆนี้ แท้ที่จริงเป็นสมบัติล้ําค่า ทุกคนก็ต้องเชื่อฉันอยู่ดี!”
“แต่สําหรับแก.. ต่อให้แกมีปัญญาจ่ายเงินสามล้านหยวนประมูลหยกนี่มาได้ ก็คงไม่มีใครเชื่อว่านี่เป็นหยกล้ําค่าแต่จะมองว่าแกมันโง่แทน!”
“และนี่คือช่องว่าระหว่างแกกับฉัน ต่อให้คนอย่างแกจะพยายามใช้เงิน เพื่อถีบตัวเองขึ้นมาให้มีความน่าเชื่อถือมากขนาดไหน คนอย่างแกก็ไม่มีทางเทียบชั้นกับฉันได้แน่!”
หลี่เฉวียนยู่ทั้งก้าวร้าว และดูถูกหลินหนานอย่างมาก!
“เฮ้อ.. ฉันรู้ดีว่าคนอย่างฉันไม่สามารถเทียบกับคนอย่างนายได้ใ นายประมูลหยกล้ําค่าไปได้ด้วยเงินเพียงแค่สามล้านหยวนโดยที่ขนหน้าแข้งไม่ร่วงแบบนี้ ฉันคงทําได้แค่อิจฉานายเท่านั้นล่ะ..”
หลินหนานแสร้งทําเป็นถอนหายใจด้วยความรู้สึกท้อแท้ และในเรื่องประชดประชันแดกดัน และยั่วโมโหผู้อื่นนั้นคงจะไม่มีใครเก่งไปกว่าหลินหนานอีกแล้ว!
แต่ในขณะที่หลี่เฉวียนยู่กําลังจะตอบโต้กลับไปนั้น จู่ๆ ศาสตราจารย์เรย์มอนด์ก็เดินกลับเข้ามาในห้องจัดสัมมนาอีกครั้ง
ฮ่าๆๆๆ หลินหนาน คราวนี้ฉันมีวิธีจัดการกับคนอย่างแกแล้ว!
เมื่อเห็นศาสตราจารย์เรย์มอนด์เดินกลับเข้ามาในห้อง หลี่เฉวียนยู่ก็รีบเปลี่ยนแผนทันที เขาหันไปบอกกับหลินหนานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ในเมื่อนายอิจฉาฉันมาก ฉันก็จะยกหยกนี้ให้กับนาย!”
ท่ามกลางสีหน้าและสายตาประหลาดใจของทุกคนในห้อง จู่ๆ หลี่เฉวียนยู่ก็โยนหยกชิ้นนั้นลงไปกับพื้นพร้อมกับยกขาขึ้นเหยียบหยกชิ้นนั้นไว้ใต้ฝ่าเท้า แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองหลินหนานอย่างท้าทาย
“โอ๊ะ! ฉันเผลอทํามันหล่นพื้น ถ้านายอยากได้ ก็คงต้องก้มลงเก็บแล้วล่ะ!”
แม้หลี่เฉวียนยู่จะประมูลหยกเขียวน้ำหมึกนี้มาด้วยเงินถึงสามล้านหยวน แต่มันกลับไม่ได้มีค่ามีราคาในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อยเขาจึงสามารถโยนมันทิ้งได้โดยไม่รู้สึกเสียดายหรือเจ็บปวดใจอะไรนัก
“หลี่เฉวียนยู่จงใจยั่วโมโหหลินหนานแบบนี้ จุดจบต้องไม่สวยแน่!”
หลังจากที่เห็นได้เห็นการกระทําของหลี่เฉวียนยู่ หลิวหยิงหยิงก็ได้แต่รําพึงรําพันออกมาภายในใจของเธอเวลานี้มีลางสังหรณ์ว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
จงใจกลั่นแกล้งหลินหนานชัดๆ!
ท่ามกลางสายตาของนักธุรกิจ และคนใหญ่คนโตทั้งหมดที่อยู่ในห้องสัมมนา ทุกคนต่างก็คิดเช่นเดียวกับหลิวหยิ่งหยิง มีหรือที่พวกเขาจะดูไม่ออกว่าหลี่เฉวียนยู่จงใจยั่วโมโหหลินหนาน..
หลี่เฉวียนยู่จงใจยั่วยุหลินหนาน เพื่อให้เขาเป็นฝ่ายลงมือก่อน!
“โอ้โหคุณชายหลี่! ว้าว.. นายนี่มันสมกับเป็นทายาทเศรษฐีตระกูลใหญ่จริงๆ! ในเมื่อนายไม่อยากได้หยกมูลค่าสามล้านหยวนชิ้นนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะ!”
หลี่เฉวียนยู่ถึงกับมีสีหน้างุนงง ไม่เพียงหลินหนานไม่แสดงท่าที่โกรธเกรี้ยวออกมา แต่กลับเดินตรงเข้ามาหาตนเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอีกด้วย
นี่มันอะไรกัน?!
ไหนใครๆก็บอกว่า คนเป็นปรมาจารย์ ฆ่าได้หยามไม่ได้ยังไงล่ะ?
แล้วทําไมหมอนี่ถึงได้ยอมง่ายๆ แล้วก็ดูไม่โมโหเลยแม้แต่น้อย?
ระหว่างที่จ้องมองหลินหนานเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆนั้น คิ้วทั้งสองข้างของหลี่เฉวียนยู่ถึงกับขมวดเข้าหากัน
ช่างเถอะ! ยั่วให้มันโมโหไม่ได้ อย่างน้อยก็ทําให้มันต้องคุกเข่าต่อหน้าก็ยังดี!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลี่เฉวียนยู่จึงได้ออกแรงกดฝ่าเท้าลงกับพื้นมากขึ้น ในขณะที่ถังจินซ่งเองก็ถึงกับแอบกระซิบกับหวังชางหยางว่า
“หึ! คราวนี้หลินหนานมันเสร็จแน่! มันจะหยิบหยกนั่นไปได้ยังไง โดยไม่ต้องคุกเข่าก้มลงต่อหน้าคุณชาย
“เชอะ! คราวนี้ล่ะพวกเราจะได้เห็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์เสียหน้าบ้าง นี่เป็นการตอบโตโดยไม่ใช้กําลังแต่ใช้สมอง! มันคงคิดว่าทุกคนจะต้องหวาดกลัวมันหมดสินะ!”
หวังชางหยางตอบกลับ และรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเข้าโหมดถ่ายวีดีโอเตรียมรอไว้ทันทีเขาจะพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไปได้ยังไงกันล่ะ?
และเวลานี้ชายหนุ่มทั้งสองคน ก็กําลังจ้องมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“คุณชายหลี่ นี่นายจะเหยียบหยกนั่นไว้ตลอดเลยหรือยังไง?” หลินหนานเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลี่เฉวียนยู่พร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
หลี่เฉวียนยู่จ้องมองหลินหนานด้วยสายตาท้าทาย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับบอกหลินหนานด้วยท่าทางหยิ่งยะโส
“อย่าคิดว่าจะได้หยกชิ้นนี้ไปง่ายๆ ถ้านายอยากได้ ก็คงต้องก้มลงเก็บมันขึ้นมา!”
“หลี่เฉวียนยู่ อย่าให้มันเกินไปนัก! การที่คุณชายหลินไม่ถือสาการกระทําของคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะข่มเหงเขายังไงก็ได้!”
หลังจากที่เห็นว่าหลี่เฉวียนยู่จงใจกลั่นแกล้งให้หลินหนานต้องก้มลงเก็บหยกชิ้นนั้น หลิวหยิงหยิงที่นั่งมองอยู่ห่างๆ ก็ไม่อาจทนต่อไปได้อีก เธอจึงได้แต่ร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลี่เฉวียนยปรายตามองหลิวหยิ่งหยิง ก่อนจะตอบโต้กลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“พี่หลิว.. ผมไม่ได้ข่มเหงอะไรคุณชายหลินเลยอย่าลืมว่าผมต้องเสียเงินประมูลหยกนี่ไปถึงสามล้านหยวนในเมื่อคุณชายหลินอยากได้แต่ไม่มีเงิน ก็ต้องยอมจ่ายเป็นอย่างอื่นบ้าง..”
“นี่คุณ..”
หลิวหยิ่งหยิงโกรธจนพูดไม่ออก และได้แต่กระทืบเท้าระบายอารมณ์แทน
หลี่เฉวียนยู่คิดไม่ถึงว่า หยกหักๆชิ้นนี้ จะช่วยให้เขาสามารถ ทําให้หลินหนานต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลําบากใจถึงเพียงนี้ได้!
สีหน้าของหลี่เฉวียนยู่เวลานี้ บ่งบอกว่ากําลังมีความสุขอย่างมาก เพราะหลินหนานมีทางเลือกอยู่เพียงแค่สองทางเท่านั้น..
หากหลินหนานไม่ก้มลงเก็บหยกนั่นขึ้นมาด้วยตัวเองก็ต้องเป็นฝ่ายขอร้องเขา!
และไม่ว่าหลินหนานจะเลือกวิธีไหน หลี่เฉวียนยู่ก็พอใจไม่ต่างกัน..