ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 30
ตอนที่ 30 แฟนฉันเอง!
“อืมม.. เอาร้านนี้ก็แล้วกัน!”
หลินหนานเงยหน้าขึ้นมองป้ายภัตตาคารที่เขียนไว้ว่า ‘ภัตตาคารเซียงยี่’ และตัดสินใจว่าจะพาฉินเสี่ยวยู่มากินอาหารที่นี่
ภายในเมืองใหญ่เช่นนี้ มีภัตตาคารอยู่เต็มไปหมด แต่ภัตตาคารก็คือภัตตาคาร จะร้านไหนๆก็มีอาหารคล้ายๆกันหมด เขาจึงตัดสินใจเลือกมาสักร้าน
หลังจากเลือกร้านอาหารได้แล้ว หลินหนานก็โทรบอกฉินเสี่ยวยู่ และตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งรอด้านใน
หลินหนานเดินตามพนักงานเสริฟเข้าไปด้านใน และเลือกนั่งลงที่โต๊ะข้างหน้าต่าง..
ภายในภัตตาคารแห่งนี้ตกแต่งได้ไม่เลวนัก มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โต๊ะที่หลินหนานเลือกนั่งนั้นก็หลบมุมไม่เป็นที่สะดุดตา แต่สามารถมองเห็นเมืองด้านนอกในยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน
หลินหนานนั่งรอไม่นานนัก ฉินเสี่ยวยู่ก็มาถึงที่ร้าน..
เธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และแต่งเนื้อแต่งตัวมาใหม่นั่นเอง ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มไว้ด้วยเครื่องสำอางบางเบา
แต่เพียงแค่นั้น ก็ทำให้หลินหนานถึงกับตกตะลึงไปครู่ใหญ่!
ฉินเสี่ยวยู่สวมเสื้อคอเต่าสีขาว มีเสื้อขนแกะคลุมปิดไหล่อีกที เสื้อที่รัดรูปนั้นยิ่งเน้นให้เนินอกทั้งสองของเธอโดดเด่น และดึงดูดสายตาผู้คนมากขึ้น
ฉินเสี่ยวยู่ไม่ได้สวมใส่แว่นตากรอบดำอันใหญ่มาด้วย หลินหนานจึงพบว่า ฉินเสี่ยวยู่มีใบหน้าที่งดงามไม่น้อยเลยทีเดียว และผมที่ถูกม้วนเป็นรอนนั้น ก็สะบัดไปมาในระหว่างที่ก้าวเดิน
ส่วนกางเกงขาบานสีเทาอ่อนนั้น ก็ยิ่งเสริมให้ฉินเสี่ยวยู่ดูราวมีสง่าราศี ราวกับคนในแวดวงสังคมชั้นสูง
หลินหนานให้คะแนน 85 เต็มร้อย สำหรับการแต่งกายในคืนนี้ของฉินเสี่ยวยู่ และคะแนน 85 คะแนนนี้ก็นับว่าสูงมากแล้วสำหรับหลินหนาน เพราะแม้แต่เย่จิงเฉิง ภรรยาผู้เย็นชาประหนึ่งภูเขาน้ำแข็งของเขา ยังได้คะแนนจากเขาเพียงแค่ 90 คะแนนเท่านั้น
แต่แน่นอนว่า หากเย่จิงเฉิงไม่เอาแต่ทำหน้าบึ้งตึงเย็นชาใส่เขาเช่นนี้ เธออาจจะได้คะแนนจากเขาสูงกว่านี้ก็เป็นได้
“นี่นายคิดอะไรอยู่?”
ฉินเสี่ยวยู่จ้องมองหลินหนานที่นั่งนิ่งด้วยความตกตะลึง พร้อมกับกระตุกชายเสื้อของเขาให้รู้ตัว
“ไม่มีอะไร.. ผมตกตะลึงในความสวยของคุณอยู่น่ะสิ! คิดไม่ถึงว่าคุณจะสวยขนาดนี้ นับเป็นการเปิดหูเปิดตาของผมจริงๆ!” หลินหนานตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มกว้าง
หลังจากที่ได้ตะลอนออกไปข้างนอกด้วยกันตลอดทั้งวัน เวลานี้ฉินเสี่ยวยู่ก็เริ่มคุ้นเคยกับความปากหวานของชายหนุ่มคนนี้แล้ว
เธอจึงแค่ยิ้มกว้าง และนั่งลง..
“ผมไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไร ก็เลยไม่ได้สั่งไว้ให้ เอาเป็นว่าคุณอยากกินอะไรก็สั่งได้เลย ตามสบาย!”
หลินหนานเอ่ยบอกฉินเสี่ยวยู่พร้อมกับยื่นเมนูให้กับเธอ “ไม่ต้องเกรงใจผมล่ะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าผมจะหมดตัว!”
“ไม่ต้องห่วง.. ฉันไม่เกรงใจนายแน่!”
ฉินเสี่ยวยู่พยักหน้า จากนั้นจึงหันไปสั่งอาหารสองสามอย่างกับบริกร หลินหนานเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่หัวเราะ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“คุณสั่งอาหารน้อยจัง มาผมสั่งเอง..”
จากนั้น หลินหนานก็ดึงเมนูกลับคืนมา และหันไปสั่งอาหารกับบริกรเพิ่มอีกสองสามอย่าง
ระหว่างที่รออาหารนั้น ฉินเสี่ยวยู่ก็เอ่ยถามหลินหนานว่า “หลินหนาน นายมาทำงานที่บริษัทนี้ได้ยังไงเหรอ?”
หลินหนานถึงกับนิ่งอึ้งไป..
เขาคงไม่อาจตอบไปตามตรงได้ว่า บริษัทนี้เป็นของภรรยาเขา และเขาก็ถูกพ่อตาบังคับให้มาทำงานที่นี่สินะ?
หลินหนานจึงได้แต่ต้องโกหกไปว่า “ผมก็แค่อยากหาอะไรที่ท้าทายทำ แล้วจิงเฉิงกรุ๊ปก็เป็นบริษัทที่เหมาะกับความท้าทายไม่ใช่เหรอ?”
“แล้วก่อนหน้านี้นายทำอะไรมาก่อนงั้นเหรอ?” ฉินเสี่ยวยู่เชิดหน้าขึ้นรอคำตอบอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลินหนานถึงกับอึ้งไปอีกครั้ง..
หลินหนานคงบอกไม่ได้อีกตามเคยว่า ก่อนหน้านี้เขาเป็นทหารรับจ้าง และใช้ชีวิตอยู่บนความเป็นความตายในทุกๆวัน..
“ก่อนหน้านี้ผมทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ แล้วก็อีกมากมายหลายอย่างเลยล่ะ..” หลินหนานเอ่ยตอบพร้อมกับหัวเราะแหะๆ
“ดูท่าก่อนหน้านี้นายคงจะใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนร่ำรวยสินะ? น่าอิจฉาชะมัด! ไม่เหมือนฉัน.. หลังจากจบมหาวิทยาลัย ฉันก็ต้องรีบหางานทำทันที!” ฉินเสี่ยวยู่เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย
“แล้วไม่ดีเหรอ?” หลินหนานเอ่ยถาม
“ดีสิ! อีกอย่าง ผู้อำนวยการเย่ก็เป็นไอดอลของฉันเลยล่ะ เธอเป็นตัวอย่างที่ฉันอยากจะเจริญรอยตาม..”
ฉินเสี่ยวยู่เอ่ยตอบหลินหนาน “ผู้อำนวยการเย่เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา รูปร่างหน้าตา ฉลาดทั้งไอคิว แล้วก็อีคิว เธอเปรียบเสมือนเทพธิดาในสายตาของผู้ชายทุกคนเลยล่ะ..”
“ช่างน่าสงสารผู้ชายพวกนั้นจริงๆที่ต้องผิดหวัง เพราะเธอเป็นภรรยาของผม!” หลิงหนานพึมพำเสียงเบา
“ห๊ะ.. เมื่อครู่นายพูดอะไรนะ?!” ฉินเสี่ยวยู่ได้ยินไม่ชัดเจนนัก
“เอ่อ.. ผมถามว่าเธอเพียงพร้อมขนาดนั้นจริงๆน่ะเหรอ?” หลินหนานเอ่ยถามเป็นการปกปิด
“จริงสิ!! ในสายตาของฉัน คุณเย่คือคำตอบของคำว่าสมบูรณ์แบบ และเพียงพร้อมเลยล่ะ ฉันชื่นชอบเธอมาก แล้วถ้าฉันเป็นผู้ชาย ฉันก็คงตกหลุมรักเธอเหมือนกัน..” ฉินเสี่ยวยู่ตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้นอย่างมาก
หลินหนานแทบอยากยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกรูปลักษณ์ภายนอกหลอกลวง..
คุณลองมาอยู่กับยายผู้หญิงเย็นชาเป็นน้ำแข็งคนนี้ทุกวันดูสิ แค่ได้เห็นใบหน้านิ่งๆไร้อารมณ์ปราศจากรอยยิ้มสักสองสามวัน ผมว่าคุณคงจะเปลี่ยนความคิดในทันทีเลยล่ะ..
บริกรเริ่มนำอาหารที่ทั้งคู่สั่งมาเสริฟให้ในทันที หลินหนานจึงถามฉินเสี่ยวยู่ว่า “คุณอยากได้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ้างมั๊ย?”
“ฉันขอน้ำเปล่าก็พอ..” ฉินเสี่ยวยู่โบกมือปฏิเสธ
ระหว่างนั้น ทั้งคู่ก็กินอาหารไป สนทนากันไปอย่างสนุกสนาน บรรยากาศเป็นไปอย่างสงบสุข
แต่แล้วไม่นานนัก บรรยากาศที่สงบสุขก็ได้สิ้นสุดลง เมื่อใครบางคนที่ไม่คาดคิดปรากฏตัวขึ้น
“ฉินเสี่ยวยู่.. คิดไม่ถึงว่าจะเจอกันที่นี่!”
หลินหนานเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงใหญ่ที่มีใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายคนหนึ่ง ข้างๆของผู้ชายคนนั้นคือหญิงสาวแต่งหน้าแต่งตาสวยงามยืนอยู่
“จางผิง..” ฉินเสี่ยวยู่ตาเป็นประกายขณะที่ร้องอุทานออกมา
“ว่ายังไงเพื่อนเก่า ไม่ได้เจอกันนานหลายปี เป็นยังไงบ้าง? สบายดีมั๊ย?” จางผิงเอ่ยถามยิ้มๆ
“ก็.. ก็เรื่อยๆ” ฉินเสี่ยวยู่เอ่ยตอบตะกุกตะกัก สายตาของเธอบ่งบอกว่ากำลังรู้สึกอึดอัด
“นี่อ้ายเฉวี่ย.. แฟนผมเอง!” จางผิงเอ่ยแนะนำ
หญิงสาวข้างกายจางผิงที่กำลังเคี้ยวหมากฝรั่ง ยื่นมือออกมาให้ฉินเสี่ยวยู่ พร้อมกับทักทาย “ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เช่นกัน!” ฉินเสี่ยวยู่ลุกขึ้นยืนจับมืออีกฝ่าย
หญิงสาวคนนี้มีรอยสักเป็นรูปแมงมุมดูแปลกประหลาดมากที่ข้อมือ..
“อ่อ.. ที่แท้ก็ฉินเสี่ยวยู่แฟนเก่าจางผิงนี่เอง!” อ้ายเฉวี่ยพ่นควันบุหรี่พร้อมกับขยิบตาให้
ฉินเสี่ยวยู่ถึงกับนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด..
เฮอะ.. แฟนเก่า.. แฟนใหม่.. แฟนปัจจุบัน อะไรกันวะเนี่ย?
“เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้ว คุณจะพูดถึงทำไมกัน?” จางผิงหันไปบอกแฟนสาว
อ้ายเฉี่วยแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็นิ่งเงียบไปไม่กล้าพูดอะไรอีก..
“เสี่ยวยู่.. นี่ใครเหรอ?” จางผิงเอ่ยถามพร้อมกับเหลือบมองไปทางหลินหนาน
หลินหนานที่กำลังนั่งหันข้าง รีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย..
“เอ่อ.. นี่..”
ระหว่างที่ฉินเสี่ยวยู่กำลังจะแนะนำหลินหนานนั้น จางผิงก็พูดขัดขึ้นเสียก่อน..
“แต่ถ้าให้ฉันเดา.. เขาน่าจะเป็นพ่อของเธอสินะ.. ใช่มั๊ย?”
หลังจากที่เงี่ยหูฟังอยู่นาน หลินหนานก็ถึงบ่นพึมพำอยู่ในใจเมื่อได้ยินคำตอบ
ใครบอกฉันเป็นพ่อของเธอกันเล่า?
ฉันเป็นพ่อของแกต่างหาก!
หนุ่มๆหน้าตาหล่อเหลาอย่างฉัน เพียงแค่มองแวบเดียวก็น่าจะรู้แล้วว่า เป็นหนุ่มหล่อมีชื่อเสียงโด่งดัง!
นับว่าแกตาต่ำนัก!
“ไม่ใช่.. เขาไม่ใช่พ่อของฉัน!” ฉินเสี่ยวยู่รีบส่ายหน้าและปฏิเสธทันที
“งั้นเหรอ?! ถ้างั้นก็น่าจะเป็นลุงของเธอสินะ?” จางผิงแกล้งเดาพร้อมกับหัวเราะ
“ไม่ใช่!”
“เอ.. หรือจะเป็นพวกเจ้าพ่อ!”
หลินหนานเข้าใจแล้วว่า ชายหนุ่มคนนี้จงใจยั่วโมโหเขา!
นั่นเพราะคำว่า ‘เจ้าพ่อ’ ในยุคสมัยนี้หมายถึง พวกพ่อค้าร่ำรวยที่ชอบเลี้ยงดูสาวๆ
น่าสนใจดีนี่!
หลินหนานกำลังอารมณ์ดี และต้องการดูว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีน้ำยาอะไรบ้าง?
ฉินเสี่ยวยู่เม้มริมฝีปากแน่น และดวงตาทั้งสองข้างก็เริ่มแดงก่ำ เธอถามจางผิงด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก
“จางผิง นี่นายหมายความว่ายังไง?”
“อย่าเพิ่งโมโหไปสิ! ผมไม่ได้หมายความอะไรที่ไม่ดีสักหน่อย..”
จางผิงเอื้อมมือไปโอบไหล่อ้ายเฉวี่ยพร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ “ผมก็แค่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คุ้นหน้ามากก็เท่านั้นเอง!”
ฉินเสี่ยวยู่สูดลมหายใจลึก คล้ายกับว่าเธอได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วที่จะทำอะไรบางอย่างลงไป
“ในเมื่อนายอยากจะรู้นัก ฉันก็จะบอกให้ เขาเป็นแฟนของฉันเอง!”
หลังจากพูดจบ ฉินเสี่ยวยู่ก็เอื้อมมือทั้งสองข้างไปโอบไหล่หลินหนานไว้อย่างสนิทสนม และดูเหมือนระดับความสนิทสนมที่แสดงออกมานั้น ก็บ่งบอกถึงระดับความหวานที่ไม่น้อยเลย